Ch.24 – การดวล I
Translator : Koel / Author
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 22
[คลาส] ดยุค, ราชันของกลุ่ม
[ทักษะ] <<บัญชาการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<โลภะที่ไม่สิ้นสุด>><< การจ้องมองจากปีศาจ >> << จิตวิญญาณของราชัน >><<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>><<การเต้นรำแห่งความตาย>><< ดวงตาของงูสีชาด >><<นักรบคลั่ง>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[คุณลักษณะ] ความมืด, ความตาย
[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9)
[สถานะผิดปกติ] เสน่ห์ของนักบุญ
◇◆◇
การเดินทางของเราดำเนินไปอย่างราบรื่น
หลังจากผ่านไปครึ่งวันเราเดินไปถึงตอนเหนือของทะเลสาบ ระหว่างทางเราไม่พบมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง
ตอนแรกผมยังไม่ได้ตระหนักถึงเรเชียมากนัก
แม้จะมีคนคอยนำทาง แต่แต่การเดินป่าแบบนี้ค่อนข้างจะยากเกินไปสำหรับมนุษย์ การเดินของเธอจึงค่อนข้างช้า
ถ้าเป็นเช่นนี้เราจะใช้เวลามากเกินไป ดังนั้นผมจึงอุ้มเธอไปแทน
เธอบ่นทันที แต่ผมเพิกเฉยและเร่งความเร็วของกองทัพ
“เราจะพักกันตอนเที่ยง” ผมประกาศ
ลมหนาวพัดผ่านทั่วดินแดนที่รกร้าง
ลมเหล่านี้อาจจะได้รับการเสริมพลังจากเวทมนตร์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าดรูอิดปกครองดินแดนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องเดินทางต่อไป
จากนี้ไปเราต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
ภายใต้คำแนะนำของก็อบลินอาวุโส ผมวางเรเชียลงและออกคำสั่งกลุ่มที่จะเข้าไปอย่างระมัดระวัง
“ นี่คือที่ที่ดรูอิดอยู่หรือเปล่า” ฉันถามก็อบลินอาวุโส
“ใช่ ข้างหน้าเป็นต้นไม้ยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของดินแดน นี่คือ … ต้นไม้สวรรค์ซึ่งเป็นบ้านของดรูอิด ”
ตามคำพูดของก็อบลินอาวุโส ดรูอิดขุดถ้ำไว้ใต้รากของต้นยักษ์และสร้างฐานของมัน
“แสดงว่านี่คือที่ที่พวกเขาอยู่” ผมพึมพำ
มองจากระยะไกลต้นไม้ใหญ่สวรรค์ยืนตระหง่านอยู่เหนือทุกสิ่งรอบๆ เมื่อเราค่อยๆเข้าใกล้ต้นไม้และสภาพแวดล้อมของมันก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ ป่าเขียวชอุ่มสามารถมองเห็นได้กระจายไปทั่ว ในขณะที่รากงอกขึ้นมากอดหินใกล้เคียง มีต้นไม้ขนาดเล็กถูกเพาะปลูกในดินแดนนั้น ราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะสร้างป่าใหม่จากพื้นที่ที่ไม่มีอะไร พวกต้นไม้แผ่ยาวกว่า 30 เมตรรอบๆ
ออกจากป่าเล็กๆสิ่งที่เราเจอกลับเป็น ก็อบลินตัวหนึ่ง
มันมองมาที่เราอย่างตื่นตระหนกก่อนจะวิ่งกลับไปวิ่งไปเรียกพรรคพวกของมัน
“ดี มันทำให้งานง่ายขึ้น “ผมตั้งข้อสังเกต
เพื่อที่จะทำให้พวกเขาจำนนผมจึงสั่งให้กองพลออกมาจัดขบวน…ไม่มีอะไรเร็วไปกว่าการทำให้ศัตรูของคุณหวาดกลัว
กองทัพของกิโกไปทางขวา กองทัพสัตว์ของกิกิเดินไปทางด้านซ้ายและกองทัพของกีก้าที่อยู่ทางด้านหลังของต้นไม้ เช่นนี้เราจะล้อมต้นไม้ยักษ์ของป่าเล็กๆนี่
ผมยืนรอเงียบๆให้อีกฝ่ายออกมา แต่กลายเป็นก็อบลินอาวุโสเสนอตัวออกมาแทน
“องค์ราชัน ข้ามีเรื่องจะขอร้อง” เขากล่าว
“อะไร?” ผมตอบอย่างห้วนๆ สายตาของผมยังคงอยู่บนต้นไม้ยักษ์
“เป็นเรื่องยากที่จะพูด แต่ดรูอิดที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มนี้เป็นลูกของข้า” เป็นคำพูดที่ลังเลในน้ำเสียงของเขา
“เจ้าจะต้องการให้เขายอมจำนนเพราะ เขาจเป็นสายเลือดของเจ้า? ”
ผมไม่เคยได้ยินเรื่องก็อบลินที่มีความรู้สึกหรืออารมณ์ในฐานะพ่อ
การที่ก็อบลินมีอารมณ์ความเป็นพ่อ ? เมื่อพวกก็อบลินเมื่อมีลูกหลาน พวกมันจะปล่อยให้ลูกล่าสัตว์ทันทีที่เกิด ดังนั้นอารมณ์ดังกล่าวไม่ควรจะเป็นไปได้
สำหรับมนุษย์พวกเขาพัฒนาอารมณ์ดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะปกป้องเด็กของตัวเองหลังคลอด แต่สำหรับพวกก็อบลิน แม้ใจะเป็นเด็กแรกเกิดอารมณ์ดังกล่าวไม่ควรมีอยู่จริง ทำไมล่ะ?
“… มันไม่สามารถช่วยได้ ถ้ามีใครบางคนต้องออกไป “ก็อบลินอาวุโสตอบ
ก็อบลินอาวุโสไม่ได้ถ่อมตัวจากได้ยินเสียงที่ดุร้ายของผม กลับกันเขาเผชิญหน้ากับผมอย่างแน่วแน่
บางสิ่งบางอย่างดึงสติผม สิ่งที่ทำให้ผมไม่พอใจในข้อเสนอของก็อบลินอาวุโส อะไรบางอย่างที่ผมไม่รู้ ดังนั้นผมจึงจ้องที่เขาอย่างเย็นชาในขณะใช้ความคิด
“ได้!” ผมพูด
ผมมองเห็นความเด็ดเดี่ยวบนแผ่นหลังของก็อบลินอาวุโสในขณะเขาเดินเข้าไปในต้นไม้ขนาดใหญ่ด้วยตัวเอง
—มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
มันเหมือนกับว่ามีหมอกดำอยู่ในหัวควบคุมความคิดของผม
หรือจะเป็นอัลทีเซีย!?
[ทักษะ] << กบฏ>> ใช้งาน
“เจ้าไม่คิดว่าก็อบลินเฒ่านั่นจะทรยศเจ้าบ้างหรือ? เจ้าเด็กน้อย “เสียงในหัวของผมพูด
สั่นศีรษะ ผมยักไหล่และมองไปที่ก็อบลินอาวุโสที่แยกออกไป
“ทำตามที่เจ้าต้องการซะ!” ผมตะโกนเพื่อขัดอัลทีเซีย
ก็อบลินอาวุโสหันกลับมามองผมก่อนจะเข้าไปในต้นไม้ยักษ์คนเดียว
◇◆◆
หลังจากนั้นสักครู่ก็อบลินอาวุโสก็ออกมาพร้อมก็อบลินอีกตัวหนึ่ง
“โอ้ มีจำนวนไม่น้อยเลยนี่ “ก็อบลินตัวนั้นกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
แต่ผมรู้ดีว่าตรงกันข้ามกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มีความมั่นใจ ด้วยเสื้อคลุมที่ห่อรอบตัวและไม้เท้าในมือทำให้เขาดูน่ากลัวมากขึ้น ก็อบลินตัวนี้ … ลักษณะของเขาดูใกล้เคียงกับมนุษย์มาก
กับผิวสีแดงของเขา…เขาน่าจะเป็นก็อบลินแรร์
แต่บรรยากาศที่ผมรู้สึกได้
ความรู้สึกนี้บอกว่า…เขาแข็งแกร่ง
“เจ้าคือหัวหน้า?” ผมถาม
ก็อบลินตัวนั้นยืนอยู่ตรงหน้าผมอย่างกล้าหาญ ชัดเจนว่ามันจะไม่ก้มศีรษะให้กับผม
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคงให้คำแนะนำแก่เขาเหมือนเดิม
“ถูกต้อง ข้าเป็นหัวหน้าของเหล่าดรูอิด ” เขาตอบ
ระยะห่างระหว่างพวกเรามีประมาณ 20 ก้าว มันแย่มาก…เพราะมันไม่ใช่ระยะที่ผมจะเข้าประชิดได้อย่างรวดเร็ว
“ยอมจำนนและคำนับแก่ข้าซะ ” ผมประกาศ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า … เจ้าก็รู้ว่ามันไม่มีความหมาย แล้วยังไงล่ะ?”
หัวหน้าดรูอิดตอบขณะที่เขาหัวเราะ
“แต่ก็ดี … ถ้าเจ้าสามารถทำให้ข้าพ่ายแพ้ ข้าจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้”
การต่อสู้ระหว่างราชา เช่นเดียวกับในหนังสือประวัติศาสตร์ ถ้าการต่อสู่ของราชาตัดสินและจบลง ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะมีน้อยมาก
“ถ้าข้าชนะเจ้ามอบทุกอย่าง แล้วถ้าเจ้าชนะ? ”
เมื่อผมกล่าวจบเพียงชั่วครู่ หัวหน้าของดรูอิดมองที่ผมอย่างไร้ศีลธรรม จากนั้นก็หัวเราะและพูดว่า
“ช่างเป็นคนที่น่าขบขัน …เจ้าอยากที่จะตาย!?”
รอยยิ้มเหมือนสัตว์ร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า มันเหมือนกับว่าเหยื่อที่น่าอร่อยอยู่ตรงหน้า ผมตอบกลับไปว่า
“การพนันจะเกิดขึ้นได้ ถ้ามีสองสิ่งที่เท่าเทียมกัน”
ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงพูดแบบนี้ อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ของก็อบลินนี้ใกล้เคียงกับกับมนุษย์?
“ข้าเข้าใจแล้ว … ในกรณีนี้ ”
ขณะที่หัวหน้าของดรูอิดกำลังคิดอยู่ เรเชียก็เดินออกมา
“นี่! ขอทางหน่อย ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย! ”
เสียงของเรเชียดูกระปรี้กระเปร่าตลอดเวลาแม้ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดนี้
ข้างหน้าผมเหมือนจะหยุดคิด
“… โอ้ นั่นอะไรน่ะ?” หัวหน้าของดรูอิดถามกับก็อบลินอาวุโสที่อยู่ข้างหลังเขา
“ผู้หญิงคนนี้เป็นเชลยของราชา” ก็อบลินอาวุโสตอบ
“ของเล่น? หรืออีกนัยหนึ่ง ?”
“ราชาไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว … แต่ท่านดูเหมือนท่านจะชอบพูดคุยกับเธอมาก”
“โอ้?”
เหมือนแสงแหลมคมออกมาจากดวงตาของหัวหน้าดรูอิด
“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าต้องการผู้หญิงคนนั้น! ”
เรเชียแข็งค้าง
ผมมองเธออย่างนุ่มนวลและและพูดกลับไปว่า
“ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าได้รับการร้องขอเป็นการส่วนตัว เจ้าน่าจะยินดีนะ ”
“ห-ห-ห้ะ พวกคุณกำลังพูดถึงอะไร!?” เรเชียถาม
“รางวัลสำหรับการต่อสู้ของเรา ถ้าข้าชนะ ข้าจะจะยึดกองกำลังของเขา แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าจะมอบเจ้าให้กับเขา ”
” ท- ทำไม!! คุณตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง!”
ผู้หญิงคนนี้ตระหนักดีว่าเธอเป็นนักโทษ แต่ผมแทบไม่เคยทำอะไรที่เหมือนกับเธอเป็นนักโทษเลย ดังนั้นผมจึงบอกไปว่า
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้คิดที่จะพ่ายแพ้และข้าไม่มีเจตนาที่จะมอบเจ้าให้กับกับใครทั้งนั้น ” ผมพูดปลอบเธอ
“อึก!?” เรเชียยังคงตกใจ
เขาคงไม่ได้ยินเสียงพึมพำของเรเชีย
จับไปที่ดาบใหญ่ ผมจ้องมองศัตรูที่อยู่ข้างหน้า…หัวใจของผมร้อนขึ้น
จากนั้นเพ่งสมาธิถึงขีดสุด ผมเน้นความแรงทั้งหมดเพื่อเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า
“มา!”
เมื่อเสียงก้องกังวาน การต่อสู้ภายใต้บรรยากาศที่ตึงเครียดก็เริ่มขึ้น