[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 60
[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์เลี้ยง] โคโบล (เลเวล 9) เกรย์วูล์ฟ (เลเวล 1) x 2
[สถานะผิดปกติ] เสน่ห์ของนักบุญ
◇◆◇
[ก็อบลิน] กิก้า
ก็อบลินที่อาศัยอยู่กับผู้นำคนก่อนและพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก
[ก็อบลิน] กิกูว
อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาด เมื่อเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป
[ก็อบลิน] กิกิ
เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถของเขาค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน
[ก็อบลิน] กิโก
ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์
[ก็อบลิน] กิซาร์
ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลมที่เพิ่งเข้ากลุ่ม
◇◆◇
ลิลลี่กลายเป็นคู่ฝึกของก็อบลินมา 5 วันแล้ว
ตามที่คาดไว้ กลุ่มแรกที่เอาชนะเธอได้คือกลุ่มของกิซาร์
เวทมนตร์นั้นเป็นสิ่งผิดปกติ แต่ดรูอิดเป็นคลาสพิเศษที่สามารถใช้มันได้ ด้วยการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่าจุดอ่อนของเธอคือเวทมนตร์
กลุ่มอื่น ๆ พยายามจะเลียนแบบการกระทำของกิซาร์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะลิลลี่ได้
มันคงดีที่สุดหากจัดให้ดรูอิดอยู่ตรงกลาง แต่ยังมีปัญหาบางอย่าง พวกเขาอาจมองเพื่อนร่วมทีมเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง
เมื่อตอนท้ายของการฝึก ผมจึงเดินไปหาลิลลี่
“ลิลลี่” ผมพูด
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ผมจึงถามเธอเกี่ยวกับความคิดเห็นต่าง ๆ
“กลุ่มไหนเอาชนะยากที่สุด? “
“คุณถามความคิดเห็นของฉัน? ” เธอถาม
“แค่บอกความคิดของเจ้ามา” ผมตอบ
รอยย่นปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเธอ
“ตามที่คุณคาดไว้ เป็นกลุ่มของกิซาร์”
“และต่อมาคือกลุ่มของกิกิ” เธอกล่าวต่อ
ผมไม่คิดเลยว่านี่จะไม่ใช่กลุ่มของกิก้าที่มีระดับสูงกว่า แต่เป็นกลุ่มนักฝึกสัตว์กิกิที่เธอพบว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับสอง
ขณะที่ผมอยู่ในห้วงความคิด ผมก็สังเกตเห็นลิลลี่ที่แอบมองอยู่
“มีอะไรรึเปล่า? ” ผมถาม
“ไม่ ไม่มีอะไร” เธอตอบอย่างห้วน ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของผม
ผมอยากรู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็ไม่มีปัญหา หากเธอวางแผนอะไรบางอย่าง ผมก็จะลงโทษเธออย่างเหมาะสม
ทันใดนั้นมีเสียงเรียกเข้ามา
“ราชา! “
◇◆◆
“ท่านรู้จักคำว่าป้อมปราการแห่งนรกมั้ย? “
“มันคืออะไรกัน? ” ผมตอบกลับด้วยการขมวดคิ้ว
“มันเป็นเรื่องธรรมดาที่รู้กันแค่ในบางกลุ่ม” เขาตอบ
“กอร์ด็อบ เกิร์ดการ์ พาราดัวและกันระ สี่ตระกูลเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของก็อบลิน ถ้าไม่นับมนุษย์ ก็อบลินน่าจะเป็นเผ่าที่มีจำนวนมากที่สุด “เขากล่าว
กอร์ด็อบ เกิร์ดการ์?
“แต่ทั้งสี่ตระกูลไม่ได้รวมกัน แน่นอนว่าพวกเขาไม่ชอบมนุษย์ แต่พวกเขาก็ไม่ชอบกันเองเช่นกัน”เขากล่าวต่อ
เมื่อกิซาร์เล่า ผมจึงตัดสินใจที่จะฟังที่เขาพูด สำหรับเหตุผลน่ะเหรอ? เพราะสายตาของเขาแสดงความยึดมั่นเหมือนตอนที่เขาต่อสู้กับผม
“แต่มีสิ่งหนึ่งที่รวมพวกเขาเข้าด้วยกัน” เขากล่าว
“นั่นคือป้อมปราการแห่งนรก? “
“ถ้าท่านไปแล้วท่านจะรู้” กิซาร์กล่าว
เขายังคงรักษานัยน์ตานั้นไว้ตลอดเวลา
“เจ้าต้องการให้ข้าไปที่นั่น? ” ผมถามเขา
เขาจึงตอบผมกลับ
“ราชา ถ้าท่านจะนำพวกเราเหล่าก็อบลินแล้ว … “
“ที่นั่นคือบ้านของเรา ที่ที่ก็อบลินทุกตัวจะต้องกลับไป”
— บ้านของก็อบลิน ป้อมปราการแห่งนรก
ด้วยคำพูดเหล่านั้น มีเสียงลึกลับดังก้องอยู่ภายในหัว มันอาจเป็นสิ่งที่กระตุ้นก็อบลินได้ เพราะแม้แต่กิซาร์ที่มักจะสงบนิ่งก็ยังแสดงออกถึงความหลงใหล
หรือสถานที่นั่นมีผลกระทบต่อก็อบลินทุกตัว ยกเว้นผม?
แต่ถึงอย่างนั้น …
“ขอบคุณ” เขาตอบ
ขอบคุณ?
“ขอบคุณสำหรับสิ่งที่น่าสนใจ”เขายิ้ม
ถ้าเขาพูดถึงเกรย์วูล์ฟ เขาคงเข้าใจผิด
แต่…
“ป้อมปราการอยู่ที่ไหน? “ผมถาม
ผมไม่รู้ว่าป้อมปราการนั่นมีผลกระทบต่อก็อบลินมากแค่ไหน แต่ถ้าผมสามารถใช้มันได้แล้วละก็
ไม่ว่าจะใช้เพื่อสร้างหรือทำลาย …ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อสร้างอาณาจักรของตัวเอง
“ลึกเข้าไปในป่าทางตะวันตก …ระยะทางประมาณ 10 วันจากที่นี่” กิซาร์ตอบ
ก็อบลินเหล่านั้นอยู่ที่นั่น?
“ตะวันตก? ” ผมพึมพำ
กิซาร์พยักหน้า ดูเหมือนเขาจะเข้าใจสิ่งที่ผมคิด
“แต่เราต้องจัดการกับพวกออร์คก่อน นั่นคือป้อมปราการแรกที่พวกเราต้องผ่าน”กิซาร์กล่าว
พวกมันต้องจ่าน
ผมจะตอบแทนพวกมันสำหรับการจู่โจมหมู่บ้านครั้งก่อน
◆◆◇
“ท่านวางแผนจะทำอะไรกับพวกมัน? “
ราชาพูดกับผมโดยที่ไม่ได้เงยหน้ากลับมา
“ข้าจะดูแลพวกมัน”
ลูก ๆ ของเกรย์วูล์ฟที่พยายามจะฆ่าคุณน่ะเหรอ?
“ถึงแม้ว่าพวกมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าท่านในสักวัน? “
ราชามองนัยน์ตาของเกรย์วูล์ฟแล้วพูดว่า
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะตอบแทนพวกมันด้วยพลังทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นหรือการหักหลัง “
ทำไมล่ะ?
“เหมือนกับเจ้ากิซาร์” คำพูดต่อมาทำให้ร่างกายของผมหนาวสั่น
“หากเจ้าต้องการ” เขากล่าว “ข้ายินดีที่จะตอบรับเจ้าทุกเมื่อ”
เมื่อผมเดินตามหลังราชา ผมนึกถึงเวลาที่ออกจากหมู่บ้าน เมื่ออดีตหัวหน้ากลุ่มพบว่าผมกลายเป็นดรูอิด เขาก็รวบรวมก็อบลินทุกตัวเพื่อขับไล่ผมออกมา
คนเดียวที่ปกป้องผมคือก็อบลินอาวุโส แม้ท้ายสุดท้ายเขาจะไม่สามารถต้านทานหัวหน้าได้ก็ตาม
ผมที่หลบหนีจึงออกไปตั้งกลุ่มใหม่
ในที่สุดผมก็สามารถเรียกคืนสถานที่ที่เคยสูญเสีย แต่แล้วก็อบลินอาวุโสก็มาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีกครั้ง
ถึงเขาจะเป็นคนที่สอนให้ผมพูดได้ ผู้มีพระคุณที่ทำให้ผมกลายเป็นดรูอิด แต่ผมยังไม่สามารถลืมความเกลียดชังที่เคยได้รับ
“ทำไมล่ะ! ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่อีก!? “
“ข้าเจอราชันแล้ว”
ผมไม่อยากเชื่อหูตัวเอง คำว่าราชัน …เรื่องโกหกดั่งนิทาน เขาบอกว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวปรากฏตัวขึ้น?
“เป็นไปไม่ได้” ผมหัวเราะ
แต่สายตาของเขาดูจริงจัง
“ก็ได้ …ให้ข้าลองทดสอบเขาดู”
“ถ้าเขาเป็นราชันจริง ๆ แล้วละก็! “
ผมเดินออกไปพร้อมกับซ่อนอัญมณีเวทย์ไว้
.
.
.
.
◆◇◇◆◆◇◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts