Goblin Kingdom – ตอนที่ 61

[ชื่อ] รา กิลมิ

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลินเผ่ากันระ

[เลเวล] 87

[คลาส] แรร์, กาดิเอต้านักธนูคนแรก

[ทักษะ] <<ความเป็นผู้นำ B +>> <<ผู้สืบทอดความปรารถนาที่กำลังจะตาย>> <> <<ความชำนาญการใช้ธนู B+>> <<ผู้อาศัยในพงไพร>><<สัญชาตญาณ>> <<เสียงกระซิบของสปิริต>><<ดวงตามองไกล>> <<ลูกศรแห่งการฆ่า>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ซา รูก้า

[แอตทริบิวต์] ไม่มี

◇◆◇

“ตรวจสอบรอบ ๆ มีสายลมอ่อนกำลังพัดมาทางขวา” รา กิลมิหายใจเบา ๆ ขณะที่เขารั้งสายธนู เป้าหมายของเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไรเดอร์ที่กำลังลาดตระเวน หลังจากที่ฮัลจากไปแล้ว กิลมิก็เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านเผ่าพาราดัว ตอนนี้ศัตรูอยู่ในระยะโจมตีของเขา

เขาปล่อยลูกศรให้มันแทงเข้าไปในอกของก็อบลินเผ่าพาราดัว จากนั้นก็อบลินที่เหลือโดยรอบก็ล้มลง บนหน้าอกของพวกมันมีลูกศรโผล่ออกมา

นักธนูกลุ่มนี้ประกอบด้วยก็อบลินชั้นสูงของกันระ พลังของพวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ เมื่อพวกเขาสังหารก็อบลินทั้งหมดต่อหน้า โดยไม่แตะต้องสัตว์อสูรเหล่านั้น

“ขับไล่สัตว์อสูรแล้วเราจะไปยังเป้าหมายต่อไป” ก็อบลินเผ่ากันระเคลื่อนไหวเหมือนมือสังหาร ขณะที่พวกเขาฆ่าก็อบลินเผ่าพาราดัวอย่างต่อเนื่อง

หลังจากฆ่าก็อบลินอีกห้าตัว กิลมิก็สั่งให้ล่าถอย

“ลอร์ดอลูฮาลิฮาลน่าจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเราแล้ว ล่าถอย”

ภายในป่า กิลมิวิ่งไปโดยมีก็อบลิน 15 ตัวตามมาจากข้างหลัง

◆◆◇

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? “

หลังจากได้รับรายงานของฮัล ก็มีรายงานอีกฉบับบจากหน่วยลาดตระเวน เมื่ออลูฮาลิฮาลและรัสกาได้ยินเนื้อหา พวกเขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“…กลุ่มลาดตระเวนถูกฆ่า?” ความโกรธเต็มไปบนใบหน้าของอลูฮาลิฮาล ก็อบลินที่มารายงานต่อเขาตัวสั่น เขาไม่สามารถซ่อนความกลัวของตัวเองได้

“ข-ขอรับ ด้วยธนู พวกเขาน่าจะถูกสังหารจากเผ่ากันระ พวกเขาถูกสังหารไปหลายคน หลังจากสัตว์อสูรของพวกเขากลับมาที่หมู่บ้าน เราก็ไปตรวจสอบและ…พบศพของพวกเขา”

“ไอ้สารเลว…พวกมันลงมือแล้ว” อลูฮาลิฮาลกัดฟันด้วยความโกรธ แต่รัสกาเพียงแค่พยักหน้าเงียบ ๆ เหมือนเช่นเคย

“เราจะตามล่าพวกมัน ไปรวบรวมคนมา”

“ขอรับ”

“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า แต่ถ้าจะสู้ เจ้าควรรอเผ่าของข้าก่อนจะดีกว่า”

“ขอโทษนะเด็กน้อย แต่ตอนนี้ข้าต้องให้เจ้าคอยเฝ้าบ้าน”

“…อลูฮาลิฮาล”

“คนที่ถูกกระทำคือชนเผ่าของข้า ดังนั้นคนที่จะแก้แค้นำพวกมันคือข้าเอง”

รัสกาหรี่ตาลง ขณะที่เขามองดูร่างที่กำลังจากไปของอลูฮาลิฮาล

“แค่คุยกันคงไม่พอจริง ๆ”

นอกเหนือจากเขาและก็อบลินที่เขาเป็นผู้นำแล้ว ไม่มีใครอื่นอีก

คนที่จะรวบรวมสมบัติทั้งสี่เข้าด้วยกัน…ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวเขา

◇◇◆

“พวกเขามาแล้ว ทุกคนรวมตัวแล้วถอยพร้อมกัน!”

ก็อบลินเผ่ากันระกำลังวิ่งอยู่ในป่าตามที่กิลมิสั่ง

โดยมีเผ่าพาราดัวกำลังไล่ตามพวกเขาไป

ด้วยพื้นที่โดยรอบที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ก็อบลินเผ่ากันระที่มีขนาดเล็ก จึงมีข้อได้เปรียบเหนือเผ่าพาราดัวที่ขี่สัตว์อสูร

แน่นอนว่าการวิ่งแยกออกไปมีโอกาสรอดสูงกว่าการวิ่งเป็นกลุ่ม ท้ายที่สุดผู้ไล่ตามจะต้องกระจายตัวกัน แต่ถ้าเขาจะลากก็อบลินเผ่าพาราดัวไปเป็นกลุ่ม

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในฐานะเหยื่อ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งกันเป็นกลุ่ม

“จะไปไหน ไอ้พวกตัวเล็ก!” ก็อบลินเผ่าพาราดัวส่งเสียงร้องขณะไล่ตาม เมื่อหนึ่งในพวกเขาฟาดหอกออกไปด้วยความโกรธ ก็อบลินเผ่ากันระที่อยู่หลังสุดก็ถูกโจมตี

“…วิ่งไปด้วยความเร็วเต็มที่ ข้าจะไปดูแลด้านหลังเอง” กิลมิชักธนูขึ้น ขณะที่เขาทำให้ตัวเองรั้งท้าย กิลมิปล่อยลูกธนูเพื่อขู่ แต่ลูกศรลูกนั้นไม่ได้มีผลกับการไล่ตามของก็อบลินเผ่าพาราดัวแม้แต่น้อย

จากด้านหลังและด้านข้าง – ก็อบลินเผ่าพาราดัวพยายามล้อมพวกเขา

พวกเขาไถลผ่านหอกที่ถูกแทงออกมาและพุ่มไม้ที่ไรเดอร์เข้าไปไม่ได้

ก็อบลินเผ่าพาราดัวมีจำนวนมากกว่านักธนูเผ่ากันระ หากพวกเขาหยุดลง พวกเขาจะถูกแทงจากทุกทิศทุกทาง

พวกเขาต้องวิ่ง

กิ่งไม้แหลมคมฟาดลงบนแก้ม รากที่มองเห็นสะดุดเท้าพวกเขา บาดแผลที่เกิดจากต้นไม้รอบ ๆ นั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ว่าเผ่ากันระจะคุ้นเคยกับป่ามากแค่ไหน เผ่าพาราดัวก็ไม่เสียเปรียบ หากพวกเขายังไล่ตามแบบนี้ต่อไป

“อีกนิดเดียว!” กิลมิที่อยู่เบื้องหลังให้กำลังใจ ในขณะที่เขายิงลูกศรเพื่อยับยั้งศัตรู ทำให้เผ่าพาราดัวไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ถนัด

ช่องว่างระหว่างต้นไม้ที่แคบเกินไป ทำให้เผ่าพาราดัวไม่สามารถแทงหอกออกไปได้

แต่ถึงอย่างนั้นความผ่อนคลายก็ยังไม่ปรากฏขึ้นในหมู่ก็อบลินเผ่ากันระ เนื่องจากพวกเขาถูกดันมากและมากขึ้นโดยการล้อมจากเผ่าพาราดัว

“ต้นไม้ควรจะโล่งขึ้นในทางข้างหน้า ไล่ตามพวกมันไป” อลูฮาลิฮาลที่นำคนของเขาออกคำสั่งอย่างใจเย็น หลังจากนั้นแรงกดดันจากด้านข้างก็รุนแรงขึ้น ด้วยเส้นทางที่แคบลง นักธนูเผ่ากันระจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปยังทิศทางที่เผ่าพาราดัวกำลังนำพวกเขาไป

“สมกับเป็นลอร์ดอลูฮาลิฮาล” ลมหายใจของกิลมิขาดห้วงไปช่วงหนึ่ง แต่เขาก็ยังอดทึ่งไม่ได้กับวิธีการอันชาญฉลาดของเผ่าพาราดัว

พวกเขาที่ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันจากด้านข้าง ก็อบลินตัวหนึ่งจึงล้มลง กิลมิไม่จำเป็นต้องทำนายอนาคต เขาก็รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับก็อบลินตัวนั้น

เมื่อแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น กิลมิก็หันศีรษะไปด้านหน้า

–––– ไม่มีทางเลือกอื่น

กิลมิรู้ดีว่าทางเลือกนี้เสี่ยงแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำมัน ดังนั้นเขาจึงจับคันธนูไว้แน่นขึ้นและหยิบลูกศร

“พวกเจ้าทุกคนหันกลับมา!!”

ครู่หนึ่งก็อบลินสงสัยในสิ่งที่ได้ยิน แต่พวกเขาหยุดลงและหันกลับ

“อะไร!? พวกมันบ้าไปแล้วเหรอ!?”

“ย่อตัวแล้ววิ่ง!”

ในขณะที่อลูฮาลิฮาลตกใจ ลูกธนูของกิลมิก็พุ่งไปยังสัตว์ขี่ของอลูฮาลิฮาล

“ชิ .. จิโร่!? ใจเย็น ๆ! “

ลูกศรพุ่งไปที่จมูกของจิโร่ ทำให้มันตกใจและเปิดช่องว่าง กิลมิใช้โอกาสนั้นให้พลธนูเผ่ากันระยิงลูกศรของพวกเขา

“ยิง! “

ตามคำสั่งของกิลมิ ลูกศรพุ่งเข้าใส่ไรเดอร์ที่ไล่ตาม

ไรเดอร์ไม่คิดว่าพวกเขาจะถูกโจมตีกลับ พวกเขาจึงไม่มีเวลาป้องกัน ลูกศรบางดอกพุ่งเข้าใส่พวกเขา บางดอกเจาะใส่สัตว์อสูร

แต่มีสิ่งหนึ่งที่พบในหมู่ก็อบลินเผ่าพาราดัว เมื่อพวกเขาถูกโจมตี จึงไม่มีใครให้ความสำคัญกับก็อบลินเผ่ากันระอีก พวกเขาที่กังวลเกี่ยวกับบาดแผลของตัวเอง ทำให้เกิดช่องเล็ก ๆ ที่กิลมิใช้เพื่อพาคนของตนวิ่งผ่านไป

พวกเขาก้มตัวผ่านสัตว์ขี่ขนาดใหญ่ไปยังส่วนป่าที่ทึบกว่า อลูฮาลิฮาลพยายามไล่ตามพวกเขาทันที แต่พวกไรเดอร์ที่เหลือนั้นอยู่ใกล้กันมากเกินไป

ถึงอย่างนั้นอลูฮาลิฮาลก็ทำให้คนของเขากลับมารวมตัวกันได้อย่างชำนาญ

“ตามพวกมันไป! พวกมันอยู่ที่ริมขอบของประตูแห่งความตายแล้ว!”

แม้ว่ากิลมิจะสามารถพลิกสถานการณ์ด้วยความคิดที่รวดเร็ว แต่อลูฮาลิฮาลก็ตระหนักดีถึงสถานการณ์ของพวกเขา

“จะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สอง” ขณะที่อลูฮาลิฮาลพึมพำ พวกเขาก็ไล่ตามก็อบลินเผ่ากันระไป

◆◇◆

การติดตามหลังจากนี้จึงเป็นไปอย่างดุเดือด

แต่เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ตกอยู่ในแผนการใด ๆ อีก พวกเขาตั้งใจที่จะต้อนเผ่ากันระไปยังสถานที่ที่พวกเขาได้เปรียบ ยิ่งไปกว่านั้นอลูฮาลิฮาลยังมีผู้ช่วยอีกสองคนอยู่ด้านข้าง ฮัลอยู่ในตำแหน่งทางซ้าย ในขณะที่อลาชอยู่ด้านขวา

อลูฮาลิฮาลตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้ก็อบลินแม้แต่ตัวเดียวหนีไป เพื่อที่จะค่อย ๆ บีบรัดพวกมัน เขาจึงจำกัดวงล้อมให้แคบลง ก็อบลินจากกลุ่มกิลมิจะถูกลดจำนวนลงอย่างช้า ๆ

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เราจะสามารถฆ่าพวกมันได้”

เมื่ออลูฮาลิฮาลระลึกถึงสหายที่ตายไป เขาก็พึมพำด้วยความโกรธ

“แต่เส้นทางสายนี้…”

ถ้าความจำของอลูฮาลิฮาลถูกต้อง หลังจากนี้ไปจะไม่มีป่าทึบอีก นี่น่าจะเป็นป่าที่นำไปสู่หมู่บ้านเผ่าเกิร์ดการ์ เมื่ออลูฮาลิฮาลนึกถึงการล่าที่กำลังจะมาถึง มุมปากของเขาก็บิดยิ้ม

“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม!” เสียงร้องของอลูฮาลิฮาลดังก้องขณะจับหอกแน่นขึ้น เขาก็เป็นผู้นำในการไล่ล่าและเมื่อหลบลูกศรที่ถูกยิงออกมา วงล้อมก็ยิ่งแคบลง คราวนี้จะไม่มีช่องว่างให้พวกมันหลบหนีอีก

เมื่อถึงจุดสูงสุดของการติดตาม ไรเดอร์เผ่าพาราดัวร่วมกับสัตว์อสูรก็คำรามเพื่อเปิดฉากการโจมตี

“ตอนนี้!” เมื่อคำนวณเวลาที่จะใช้ ก่อนที่พวกเขาจะออกจากป่าลึก อลูฮาลิฮาลก็หมุนหอกของเขาเพื่อแทงมันไปที่ก็อบลินเผ่ากันระ

“ขว้างมัน!”

เมื่อพวกเขาออกจากป่าลึก สิ่งที่ทักทายพวกเขาคือต้นไม้จำนวนมาก ซึ่งระหว่างพวกมันมีช่องว่างขนาดใหญ่

เสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงศัตรูที่อลูฮาลิฮาลจำได้ดี ในขณะนั้นมีก้อนหินลอยมาจากตรงหน้า ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชะลอตัว

“อึก!? นี่มันอะไรกัน!? “

“กำจัดพวกมัน!”

หลังจากเสียงกระแทกของก้อนหิน สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาคือพื้นที่ที่ต้นไม้ลดระดับลงและมีการสร้างรั้ว คนที่ยืนอยู่ข้างหลัง คือก็อบลินผิวเทาที่มีสามเขา!

อลูฮาลิฮาลเฝ้าดูก็อบลินเผ่ากันระที่ถอยอย่างร่าเริงเข้าไปในรั้ว

“ไอ้สารเลววววว!”

ความล้มเหลวในการปล่อยให้เหยื่อวิ่งหนีและความอัปยศจากการแผนที่ล้มเหลว ทำให้อลูฮาลิฮาลสูญเสียเหตุผลทั้งหมด

“อย่าคิดว่าเจ้าจะหยุดไรเดอร์เผ่าพาราดัวได้ด้วยของแค่นี้!!?”

อลูฮาลิฮาลโกรธมากจึงพุ่งเข้าใส่ศัตรูโดยมีผู้ช่วยสองคนตามมาจากด้านหลัง แน่นอนว่าไรเดอร์คนอื่น ๆ ก็ทำตามเช่นกัน มันเป็นแรงขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ของไรเดอร์เผ่าพาราดัว

ไรเดอร์เผ่าพาราดัวพุ่งเข้าใส่ศัตรูและแทงหอกออกไปอย่างรวดเร็ว การชาร์จโจมตีของพวกเขาเต็มไปด้วยพลัง มันไม่ใช่สิ่งที่รั้วธรรมดา ๆ จะสามารถหยุดพวกเขาได้

––– ดูสิ เจ้าพวกเด็กน้อย! นี่คือพลังของเผ่าพาราดัว! นี่คือความภาคภูมิใจของเรา!

“กูรูวอาาาาา!”

เสียงอันเกรี้ยวกราดของอลูฮาลิฮาลดังขึ้นเพื่อปลุกจิตวิญญาณของเผ่าพาราดัวทั้งหมด

“ขว้าง!”

–––– แกคิดว่าจะหยุดพวกเราด้วยก้อนหินแบบนั้นได้!?

อลูฮาลิฮาลพุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างรุนแรงโดยไม่สนใจก้อนหิน ในความเป็นจริงเขาชาร์จเข้าโจมตีเร็วขึ้น แต่ … ทันใดนั้นเองที่เสียงแห่งความเจ็บปวดดังเข้าไปในหูของเขา

“อึก!?”

เมื่อเขามองไปด้านหลัง สิ่งที่เห็นคือคนของเขาที่ล้มลง

—เกิดอะไรขึ้น!?

การชาร์จที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ของาพาราดัวช้าลงอย่างกะทันหัน

“เจ้าทำอะไรลงไป!?”

เมื่ออลูฮาลิฮาลหันกลับมา สิ่งที่เขาเห็นคือหลุมพรางและกับดักไม้เลื้อยที่ห้อยอยู่ข้างเท้าของพวกเขา

–––– เราตกอยู่ในกับดัก?

ด้านหน้าของอลูฮาลิฮาลคือแนวรั้วที่ไม่ซับซ้อน แต่ถึงแม้มันจะเรียบง่าย พวกเขาก็ไม่สามารถก้าวข้ามมันไปได้ นี่เป็นรั้วที่สร้างจากไม้เรียงกันเป็นแนวขวาง รั้วธรรมดา ๆ ที่เต็มไปด้วยรูเล็ก ๆ

“แก ไอสารเลววว แกทำอะไรลงไป!”

อลูฮาลิฮาลใช้หอกของเขากระแทกกับรั้วด้วยความโกรธ รั้วพังภายใต้พลังของเขา แต่เสือดำของอลูฮาลิฮาลที่พุ่งเข้าใส่กลับล้มลง มันทำให้อลูฮาลิฮาลกระเด็นไปข้างหลัง

“แทงพวกมัน!”

แต่อลูฮาลิฮาลยังโชคดี ในขณะที่รั้วอันอ่อนแอมีการสร้างรูขนาดเล็กอยู่ข้างใน และหอกที่ถูกแทงออกมาทะลุผ่านร่างของก็อบลินเผ่าพาราดัว

สิ่งที่แทงเข้าไปในร่างกายพวกเขาคือหอกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หอกเหล่านั้นทำด้วยไม้ที่เหลาหยาบ ๆ เท่านั้น สหายของอลูฮาลิฮาลร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับมีเกลือมาถูที่บาดแผลและมีเสียงที่เหี้ยมโหดดังขึ้น

“กำจัดพวกมัน!”

ก็อบลินวิ่งผ่านช่องว่างระหว่างรั้วพุ่งเข้าใส่ไรเดอร์เผ่าพาราดัวที่บาดเจ็บ

—ถอนทัพ

เมื่อความพ่ายแพ้ปรากฏขึ้นภายในจิตใจ อลูฮาลิฮาลก็ถูกกระตุ้นด้วยความต้องการที่จะช่วยเหลือเผ่าของตน

แต่เมื่อเขายืนขึ้นอย่างสิ้นหวัง สิ่งที่เขาเห็นคือก็อบลินพุ่งออกมาจากทั้งสองด้าน อาการคลื่นไส้ตีเขาเหมือนรถบรรทุกที่พุ่งชน แต่ด้วยความสิ้นหวังเขาพยายามต่อสู้กลับ

ณ จุดนี้อลูฮาลิฮาลรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ของเขาได้

ตอนนั้นเองที่มีเงาปรากฏตัว

ภายใต้สายตาที่พร่ามัว ก็อบลินผิวเทาก็ปรากฏขึ้น

“ถ้าเจ้ายอมแพ้ ข้าจะไว้ชีวิตคนของเจ้า”

.

.

.

.

“…ข้ายอมแพ้”

อลูฮาลิฮาลไม่มีพลังที่จะต่อต้านอีกต่อไป

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Goblin Kingdom

Goblin Kingdom

Type: Author:
อ่านGoblin Kingdomก็อบลิน มอนสเตอร์ที่มักถูกล่า มอนสเตอร์ผู้อ่อนแอที่รวมฝูงกันก่อนที่จะถูกฆ่า แต่ทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อราชากำเนิดขึ้น

Options

not work with dark mode
Reset