“แข็งแกร่งเกินไป”
เซี่ยปิงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เขาก็มีอาการตกตะลึงอย่างมาก ในตอนนี้เขาก็ล่วงรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าพลังอำนาจของเซนต์
อย่ามองเพียงแค่ว่านี่เป็นการโจมตีที่ห่างออกไม่รู้กี่ปีแสงซึ่งสังหารยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าได้อย่างกะทันหันกะทันหัน ทว่าสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นก็คือการที่สังหารเฉียนต้าเมื่อครู่นี้นั้น แผ่นดินรอบๆกลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่นิดเดียว
เหมือนกับว่าพลังอำนาจทั้งหมดนั้นเจาะจงไปที่เฉียนต้าและคนอื่นๆเพียงเท่านั้น สถานที่อื่นๆไม่ได้รับผลกระทบ ไร้รอยขีดข่วน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ด้วยพลังอำนาจของเซนต์นั้น ดาวกวางน้อยดวงนี้คงจะพังทลายไปแล้ว
สำหรับการที่ควบคุมพลังอำนาจของตนเองได้สมบูรณ์แบบจนถึงขั้นนี้นั้น ช่างเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการจริงๆ อยู่ในระดับเทพเจ้าก็ว่าได้ อยู่เหนือจินตนาการของมนุษย์ทั้งมวล นี่คือเซนต์ผู้ที่อยู่เหนือกว่าขอบเขตของมนุษย์!
“อืม เซี่ยปิง นี่เจ้าได้กลับมาหลังจากที่ทำภารกิจเสร็จสิ้นใช่หรือไม่?”
ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็รู้สึกว่ามีเสียงที่ดังขึ้นมาจากจิตวิญญาณของตนเองในทันที เห็นได้ชัดว่านี่เป็นข้อความที่ถ่ายทอดมาจากจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซนต์อสูรมืดซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ห่างออกไปไกลกี่ปีแสง ถ่ายทอดเสียงมาสู่ความคิดของเขาโดยตรง
“ใช่แล้วท่านอาจารย์ ข้าเพิ่งที่จะกลับมา”
เซี่ยปิงพยักหน้า
“อืม มาหาข้าหลังจากที่เจ้ากลับมาที่นิกายฟ้าดิน” หลังจากพูดคำเหล่านี้ เสียงของเซนต์อสูรมืดก็ได้หายไป เหมือนกับว่าสำหรับเขานั้น การบดขยี้ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้านั้นเป็นเพียงแค่เรื่องปกติธรรมดา เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย
ทันใดนั้นหลุมดำบนท้องฟ้าเหนือดาวกวางน้อยก็ได้หายไปเช่นกัน พลังงานจักรวาลรอบๆก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ
“ดูเหมือนว่าจะมีสมบัติอยู่”
จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยปิงได้สแกนออกไปรอบๆ ค้นพบแหวนห้วงมิติของเฉียนซานในทันที จากนั้นจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้แผ่เข้าไปและค้นพบว่าภายในแหวนห้วงมิตินั้นมีเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งทั้งหมดมีมูลค่าอย่างน้อยประมาณร้อยล้านเหรียญจักรวาล
นอกจากนี้เขาก็พบคัมภีร์ลับระดับเซนต์ <ทักษะหมัดสายฟ้า> เช่นกัน เห็นได้ชัดว่านี่เป็นคัมภีร์ลับที่เฉียนซานได้มาจากงานประมูลเมื่อวาน มันถูกเก็บไว้ในแหวนห้วงมิติของเขา
อีกทั้งเขาก็ยังค้นพบชิ้นส่วนสิ่งประดิษฐ์เซนต์ข้างในที่เฉียนซานได้จากงานประมูล ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ส่งมอบให้กับตระกูล ท้ายที่สุดตอนนี้มันก็ตกเป็นของเซี่ยปิง
“เจ้าเฉียนซานนี่เป็นคนดีจริงๆ สิ่งของทุกอย่างที่เขาประมูลมาอย่างยากลำบากนั้น ไม่คาดคิดว่าจะมอบให้ข้าทั้งหมด” เซี่ยปิงยิ้มออกมาทันที ครั้งนี้เขาได้รับการเก็บเกี่ยวที่ดีพอสมควร
หากเสนอราคาในงานประมูลจริงๆ สิ่งของทั้งสองนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่2-3พันล้านเหรียญจักรวาล ไม่ว่าราคาซื้อขายจริงๆจะเป็นเท่าไหร่ นี่ก็ถือว่าเป็นความมั่งคังที่มากพอสมควร
สิ่งที่ทำให้เซี่ยปิงรู้สึกเสียดายนั้นก็คือเดิมทีเฉียนต้าและคนอื่นๆก็คงจะมีสมบัติอยู่เช่นกัน ทว่าพวกมันทั้งหมดก็เปลี่ยนกลายเป็นผุยผงไปโดยพลังอำนาจของเซนต์อสูรมืด แม้แต่แหวนห้วงมิติก็ถูกทำลายไป หายไปในความว่างเปล่า
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พบเจอสมบัติใดๆของเฉียนต้าและผู้อาวุโสคนอื่นๆ
“ลืมมันไปเถอะ การที่ได้ครอบครองสิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นโชคลาภที่มากพอ ถึงเวลาที่จะกลับไปยังนิกายฟ้าดิน” เซี่ยปิงทำการค้นหา ทว่าก็ค้นพบว่าไม่มีสมบัติใดๆอยู่รอบๆอีก จากนั้นก็ได้เดินทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานี้ ในดาวกวางน้อยนั้นไม่มีใครกล้าที่จะขัดขวางเขา แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เกรงกลัวว่าเซี่ยปิงจะหงุดหงิดขึ้นมาและกำจัดพวกเขาทั้งหมด ในตอนนั้นจะไม่มีใครที่จะกล้าเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา
หลังจากที่รอให้เซี่ยปิงได้เดินทางออกไปโดยยานจันทราศักดิ์สิทธิ์นั้น ในที่สุดผู้มีอิทธิพลจำนวนมากของดาวกวางน้อยก็สามารถที่จะสืบสวนหาข้อมูลได้อย่างชัดเจนว่าเซี่ยปิงนั้นเป็นใคร
“ข้าได้ทำการตรวจสอบและค้นพบสถานะของเจ้าเด็กหนุ่มนั่นแล้ว เขามีชื่อว่าเซี่ยปิง เป็นลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดิน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือเขานั้นเป็นถึงลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืด”
ผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลนี้ เขาต้องใช้อำนาจและอิทธิพลทั้งหมดของตนเองและของนิกายเช่นกัน อีกทั้งก็ได้นำรูปถ่ายของเซี่ยปิงมาเปรียบเทียบด้วย
ในที่สุดเขาก็ล่วงรู้จากผู้อาวุโสของนิกายฟ้าดินว่านี่คือลูกศิษย์ที่สำคัญของนิกายฟ้าดิน เป็นศิษย์เอกของเซนต์อสูรมืด มีตำแหน่งที่สูงสุงอย่างถึงที่สุด
อะไรนะ?!
ผู้คนต่างก็แตกตื่นขึ้นมา ต่อให้พวกเขาจะมีจินตนาการที่กว้างไกลแค่ไหน แต่ก็ยังคงไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะมีสถานะเป็นลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืด
ภายในอาณาเขตดวงดาวทั้งหกนั้น ตัวตนของเขานั้นเป็นเหมือนกับเจ้าชายสืบทอดบัลลังก์ก็ว่าได้ ไม่รู้ว่ามีสถานะที่สูงส่งกว่าตระกูลเฉียนมากแค่ไหน
“ไม่ประหลาดใจว่าทำไมเซนต์อสูรมืดถึงได้เคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเองเช่นนี้ สังหารเจ้าเฉียนต้าอย่างกะทันหัน เจ้าเฉียนต้านี่ช่างโชคร้ายจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะท้าทายบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้”
“ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลก เจ้าเฉียนซานนั่นคิดว่าตระกูลเฉียนของตนเองไร้เทียมทาน ไม่มีใครที่จะกล้าท้าทาย คิดว่าการที่มีพ่อของตนเองนั้น ไม่มีใครที่จะสามารถสังหารเขาได้ ใครจะไปรู้ว่ากันว่าเจ้าเด็กหนุ่มนั่นจะมีผู้หนุนหลังที่ทรงพลังกว่ามาก”
“เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ โชคดีที่ข้ายับยั้งอารมณ์ของตนเองไว้และระมัดระวังตัวเสมอ ไม่ได้เลือกที่จะท้าทายเจ้าเด็กหนุ่มนั่น ไม่อย่างนั้นไม่จำเป็นต้องให้เซนต์อสูรมืดลงมือ เพียงแค่ยันต์เซนต์ของเจ้าเด็กนั่นก็สามารถที่จะสังหารข้าได้นับสิบครั้ง”
“รู้สึกสงสารเจ้าเฉียนต้าจริงๆ มีความหวังที่จะได้เลื่อนขั้นไปในระดับเซนต์ ไม่คาดคิดว่าจะไม่ทันได้พัฒนาขึ้นไป ทว่าถูกเซนต์อสูรมืดบดขยี้ด้วยเพียงนิ้วเดียว ในที่สุดก็ดับสลายไปก่อนที่จะได้ก้าวขึ้นไปในระดับสูงสุด”
“อย่าเพ้อฝันไป มันก็เป็นเพียงแค่ความหวัง ทั่วทั้งจักรวาลนั้นมีผู้มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไม่สามารถเลื่อนขั้นไปในระดับเซนต์ได้ ต่อให้เฉียนต้าจะไม่ได้ตายไปในตอนนี้ ในอนาคตมันก็ไม่ได้รับประกันได้ว่าเขาจะสามารถพัฒนาเป็นเซนต์ได้อย่างแน่นอน”
“เซนต์นี่ช่างเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด ว่ากันว่าร่างหลักของเซนต์อสูรมืดนั้นอยู่ภายในนิกายฟ้าดินซึ่งไม่รู้ว่าห่างไกลจากดาวเคราะห์ดวงนี้ถึงกี่ปีแสง ใช้การโจมตีข้ามผ่านห้วงมิติมา จากนั้นก็บดขยี้เฉียนต้ายอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าได้อย่างง่ายดาย ช่างมีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป”
“เซนต์ปกติธรรมดานั้นไม่ได้น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ เพียงแค่ว่าเซนต์อสูรมืดนั้นพิเศษกว่าคนอื่นๆ ว่ากันว่าครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้และสังหารเซนต์ในระดับเดียวกัน ไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามจนไม่มีที่ให้หลบซ่อน มีพลังการต่อสู้ที่ทรงอำนาจอย่างมาก”
ผู้คนต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกเขานั้นยังคงรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่ก่อนขึ้นเมื่อครู่นี้ พลังอำนาจของเซนต์ที่สามารถบดทำลายดาวเคราะห์ได้ หากไม่ใช่เพราะเซนต์อสูรมืดยับยั้งพลังอำนาจของตนเองไว้ ทุกๆคนที่อยู่ภายในดาวเคราะห์ดวงนี้คงจะดับสลายไปทั้งหมด
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็แอบดีใจเช่นกัน ก่อนหน้านี้มีบางคนที่ต้องการจะล้างแค้นเซี่ยปิง ล้างแค้นเรื่องที่เกิดขึ้นในงานประมูล ทำให้เจ้าเด็กนั่นได้รับบทเรียนที่สาสมและล่วงรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกนี้
ทว่าตอนนี้หลังจากที่ได้คิดอย่างรอบคอบนั้น พวกเขาก็รู้สึกโชคดีอย่างมากที่ตนเองไม่ได้ลงมือทำอะไรไป ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเป็นฝ่ายที่ล่วงรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าความจริงอันโหดร้ายของโลกนี้เสียเอง อย่าว่าแต่จะให้เซนต์อสูรมืดลงมือเลย เพียงแค่ไพ่ในมือของเจ้าเด็กนั่นก็เพียงพอที่จะจัดการกับพวกเขาได้
“ตระกูลเฉียนจบสิ้นแล้ว ชายชราได้รับข่าวมา การที่ตระกูลเฉียนได้ไล่ล่าลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืดนั้น ทำให้นิกายฟ้าดินเดือดระอุอย่างมาก ต้องการทำลายล้างตระกูลเฉียนทั้งหมด คาดการณ์ได้ว่าจะมียอดฝีมือของนิกายฟ้าดินเดินทางมาที่นี่ ตัดหัวผู้คนทั้งตระกูลเฉียนและประหารทั้งเก้าชั่วโคตร”
ผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เมื่อวานนั้นตระกูลเฉียนยังคงเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า ทว่าวันนี้กลับเผชิญกับการทำลายล้าง เพียงแค่เพราะไปท้าทายบุคคลที่ตนเองไม่ควรท้าทาย
“เหอะ นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ มีที่ไหนที่เดินไปตามแม่น้ำแล้วรองเท้าจะไม่เปียก พวกเขานั้นยโสโอหังและหยิ่งทะนงมานาน อย่างไรซะสักวันก็คงจะพลาดพลั้งไปท้าทายบุคคลที่ไม่ควรท้าทายอยู่ดี”
ชายชราอีกคนหนึ่งก็แสยะออกมา เขานั้นได้ใช้ชีวิตมานานหลายพันปี ยิ่งมีชีวิตนานแค่ไหนก็ยิ่งมีความระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น เพราะเขาก็ล่วงรู้ว่าภายในจักรวาลนั้นมีตัวตนที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน หากพลาดพลั้งไปท้าทายบุคคลที่ไม่ควรท้าทายเข้า ต่อให้เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ต้องตาย
“รีบถ่ายทอดคำสั่งออกไปทันที ห้ามใครไปท้าทายเซี่ยปิงลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืดเด็ดขาด ส่งต่อภาพของเขาไปให้ลูกศิษย์ทุกคนได้เห็น บันทึกภาพของเขาไว้ในความทรงจำ หากใครกล้าที่จะท้าทายเซี่ยปิงหลังจากนี้ ชายชราจะฆ่าล้างทั้งเก้าชั่วโคตรของเขา”
ผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่ได้พูดออกมาอย่างดุร้าย การกระทำในครั้งนี้ของเซี่ยปิงนั้นทำให้นิกายจำนวนมากระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าจะไม่มีตระกูลเฉียนอีกต่อไป แต่หากว่าพวกเขายโสโอหังเช่นกัน ชะตากรรมก็คงจะไม่ต่างไปจากตระกูลเฉียน
ข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เหล่าลูกศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนของนิกายต่างๆล่วงรู้ถึงเรื่องนี้