“เฟิงเจ๋อ นี่มันมากเกินไป”
ฉางเซวียมีสีหน้าที่โมโหอย่างมาก เขานั้นเป็นคนที่นำเซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองมายังสถานที่แห่งนี้ แต่กลับทำให้พวกเขาต้องมาเผชิญกับเรื่องเช่นนี้ เขาคิดว่าตนเองนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
ปัง!
หลังจากที่พูดจบ เฟิงเจ๋อก็เคลื่อนไหวออกมาอย่างกะทันหัน เป็นเหมือนกับกระแสลมก็ว่าได้ หมัดได้ประเคนออกไปที่หน้าท้องของฉางเซวียอย่างรวดเร็ว
“อ๊าก!”
ฉางเซวียไม่คาดคิดว่าเฟิงเจ๋อจะลงมือโจมตีเช่นนี้ ดังนั้นจึงได้ประมาทไปชั่วครู่หนึ่งและเป็นผลให้ฝ่ายตรงข้ามฉวยจังหวะลอบโจมตี โจมตีอย่างกะทันหัน พลังอำนาจที่แข็งแกร่งได้ปะทุออกมาที่ร่างกายของเขา ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช
วินาทีต่อมา เขาก็ถูกอัดจนล้มไปกับพื้นและขดตัวอยู่ที่พื้นเหมือนกับเป็นกุ้งต้มก็ว่าได้ เส้นประสาททั่วทั้งร่างกายเหมือนกับถูกทิ่มแทง มุมปากมีเลือดไหลออกมา
“เจ้าบัดซบ!”
หวังเฉิน เว่ยฉีและจินเจ๋อทั้งสามคนต่างก็จ้องมองอย่างโมโห พวกเขานั้นก็ต้องการที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน ทว่าผู้คนมากกว่าสิบคนที่ยืนอยู่รอบๆก็ได้ก้าวออกมาทันที ผู้คนเหล่านี้อยู่ในฝั่งเดียวกับเฟิงเจ๋อ เป็นเหมือนกับเสือที่จับจ้องเหยื่อ เผยให้เห็นถึงสัญญาณของการเตือน
ทันใดนั้น พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว เพราะเมื่อใดที่เคลื่อนไหวออกมาที่นี่ จะต้องถูกคนกลุ่มนี้ล้อมรอบอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ก็คือทวีปโลหิตวิญญาณ หากพวกเขาตายไปในสถานที่แห่งนี้ แม้แต่นิกายเองก็ไม่สามารถที่จะตามหาฆาตกรได้ ไม่มีใครที่จะล้างแค้นให้กับพวกเขา
เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว ลูกศิษย์ของนิกายที่ตายไปภายในทวีปโลหิตวิญญาณนั้นก็มีจำนวนมากจริงๆ ไม่สามารถที่จะนับได้
“ช่างเป็นคนที่พูดจาน่ารำคาญจริงๆ ต้องการที่จะปกป้องเจ้านักบ่มเพาะอิสระคนนี้ แต่กลับไม่ดูความสามารถของตนเอง” เฟิงเจ๋อแสยะออกมา “การที่ไม่มีนิกายเมฆาทะยานคอยช่วยเหลือพวกเจ้านั้น พวกเจ้ามันก็แค่กลุ่มคนไร้ค่าเท่านั้น”
“รีบไสหัวออกไปซะ อย่าทำให้ข้าโมโห ไม่อย่างนั้นข้าจะสังหารพวกเจ้าทั้งหมด”
ฉางเซวียโมโหเจียนตาย ใบหน้านั้นแดงก่ำ ไม่มีทางเลือก การที่เฟิงเจ๋อมีจำนวนที่ได้เปรียบเช่นนี้ อีกทั้งยังทรงพลังอย่างมาก ต่อให้จะต้องการต่อต้าน ก็ไม่มีทางที่จะได้ทำ
เขานั้นจ้องมองเฟิงเจ๋ออย่างโมโห
“เจ้ามองอะไร ไม่คาดคิดว่าจะกล้าชักสีหน้าใส่ข้าเช่นนี้ ไม่เต็มใจยอมรับหรือ? นี่เป็นการที่เจ้าแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง!”
เฟิงเจ๋อมีสายตาที่เย็นชา จิตสังหารพุ่งออกมาจากทุกทิศทาง ทันใดนั้นเขาก็ยกเท้าขึ้นมาและไหลเวียนพลังเวทมนตร์ เหยียบออกไปเหมือนกับช้างบาบีเรี่ยน ต้องการที่จะเหยียบลงไปที่ร่างกายของฉางเซวีย
“ไม่นะ!!”
หวังเฉินและคนอื่นๆต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าเฟิงเจ๋อนั้นเอาจริง มีจิตสังหารที่แอบแฝงอยู่ เมื่อใดที่เหยียบลงไปนั้น ต่อให้จะไม่ตาย ก็จะต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้ต่อให้พวกเขาจะต้องการเข้าไปช่วยเหลือ มันก็สายเกินไป ไม่สามารถที่จะเข้าไปขัดขวางได้ทันเวลา
ฉางเซวียมีสีหน้าที่ซีดเซียว เขาต้องการที่จะหลบหลีก ทว่าหมัดเมื่อครู่นี้นั้นทำให้เขาไร้เรี่ยวแรง ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้ในตอนนี้ การที่คิดจะหลบหลีกออกไปนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ในตอนนี้ ภาพเงาได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสายฟ้า มาถึงตรงหน้าของเฟิงเจ๋ออย่างกะทันหันและยกเท้าของเฟิงเจ๋อขึ้นมา สองพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ได้ปะทะกัน
ตึบ!
ทันใดนั้นรอบๆก็เกิดลมที่น่าสะพรึงกลัวพัดออกไป ก่อตัวขึ้นมาเป็นสสาร เป็นเหมือนกับคลื่นมหาสมุทรก็ว่าได้ กวาดออกไปทุกทิศทาง เริ่มทำให้เกิดคลื่นลมกระโชกที่รุนแรง ฝุ่นและควันฟุ้งกระจายขึ้นมา
ผู้คนที่อยู่รอบๆสามารถสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของลมนี้ เหมือนกับว่าทำให้พวกเขาทั้งหมดเสียสมดุล
“อู๋ไท่โต่ว!”
บางคนที่ตะโกนขึ้นมา เห็นได้ถึงภาพเงาที่ปรากฏขึ้นมานี้ ก็คือเจ้านักบ่มเพาะอิสระอู๋ไท่โต่วนั่นเอง ในช่วงเวลาวิกฤติเขาได้เคลื่อนไหวออกมาและต้านทานการโจมตีของเฟิงเจ๋อไว้
เขาได้หยุดการเคลื่อนไหวของเท้าเฟิงเจ๋อไว้ ไม่อย่างนั้นฉางเซวียจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
ผู้คนจำนวนมากต่างก็ช็อกไปตามๆกัน พวกเขาไม่คาดคิดว่าเจ้านี่จะกล้าเข้ามาขัดขวางเช่นนี้
“อู๋ไท่โต่ว เจ้าต้องการที่จะทำอะไร ทำไมถึงเข้ามาขัดขวางข้า? ข้าเพียงแค่ต้องการที่จะสั่งสอนเขาเท่านั้น!” เฟิงเจ๋อจ้องมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่เย็นชา ออร่าจิตสังหารได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ เขาคือสหายของข้า การที่มีข้าอยู่ที่นี่ เจ้าไม่สามารถที่จะทำร้ายเขาได้”
เซี่ยปิงมองเฟิงเจ๋ออย่างดูถูก
“น่าสนใจจริงๆ ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะสั่งสอนเจ้าก่อน!” เฟิงเจ๋อระเบิดอารมณ์ออกมา
ทักษะลูกเตะทะลวงวิญญาณ!
ภายในพริบตา เฟิงเจ๋อก็ได้นำเท้าขวากลับไปและเตะเข้าไปอีกครั้ง พลังเวทมนตร์ทั่วทั้งร่างกายได้ไปรวมอยู่ที่เท้าขวา จากนั้นก็ปะทุออกมาอย่างกะทันหัน มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด
รอบๆบนอากาศนั้นมีเสียงคร่ำครวญของภูตผีวิญญาณที่ดังขึ้นมา เหมือนกับว่าจิตวิญญาณที่ชั่วร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังโหยหวนออกมา
นี่คือหนึ่งในทักษะระดับจักรพรรดิขั้นสุดยอดของนิกายหวนคืนปรโลก ลูกเตะที่เตะออกไปนั้น มีพลังอำนาจของภูติผีวิญญาณที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ต่อให้เป็นภูเขา ก็สามารถที่จะตัดผ่านไปได้
เรียกได้ว่าพลังอำนาจของลูกเตะนี้นั้น เกือบที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจของเฟิงเจ๋ออย่างชัดเจน ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเทียบได้กับการโจมตีก่อนหน้านี้ นี่คือการโจมตีของระดับสมปรารถนาขั้นสูงสุด มีพลังอำนาจที่เคลื่อนย้ายภูเขาและแหวกว่ายท้องทะเลได้
“ทรงพลัง!”
ฉางเซวียและคนอื่นๆต่างก็ช็อกไปตามๆกัน ถึงแม้ว่าเฟิงเจ๋อนั้นจะมีลักษณะนิสัยที่ยโสโอหังอย่างมาก โหดเหี้ยมและไร้ความปราณี ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพลังอำนาจของเฟิงเจ๋อนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้บ่มเพาะในระดับระดับสมปรารถนาคนอื่นๆ
ในบรรดาผู้บ่มเพาะในระดับสมปรารถนาจำนวนมากนั้น ผู้ที่สามารถเอาชนะเฟิงเจ๋อได้นั้นมีเพียงจำนวนน้อยนิด
แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะเฟิงเจ๋อ
“เจ้าเด็กนี่จะต้องตาย ไม่คาดคิดว่าจะกล้าขัดขวางสหายเฟิง ช่างเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน” ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็แสยะออกมา เห็นเป็นเรื่องสนุก พวกเขาเหมือนกับว่าเห็นได้ถึงชะตากรรมของเจ้าอู๋ไท่โต่วคนนี้
คาดการณ์ได้ว่าเพียงแค่ลูกเตะนี้ เจ้าเด็กนี่จะต้องพิการในทันที ใครกันที่ใช้ให้เขาเข้ามาขัดขวางทั้งๆที่ไม่มีพลังอำนาจ นี่ไม่ใช่เป็นการนำพาหายนะมาสู่ตนเองหรือ?
การที่เผชิญกับลูกเตะที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ เซี่ยปิงก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เขาเพียงแค่ยืนอยู่ที่จุดๆเดิมอย่างแน่นิ่งด้วยสีหน้าที่สุขุมเยือกเย็น
ตึบ!
ลูกเตะนี้ได้อัดเข้าไปที่ร่างกายของเซี่ยปิงอย่างรุนแรง พลังอำนาจของทักษะลูกเตะทะลวงวิญญาณได้ปะทุออกมา
อะไรกัน?!
เดิมทีเฟิงเจ๋อต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของตนเอง คิดว่าลูกเตะของตนเองนั้นจะทำให้เจ้านักบ่มเพาะอิสระบัดซบนี่ตายไป ทว่าเมื่อลูกเตะปะทะเข้ากับร่างกายของเซี่ยปิงนั้น เขากลับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
เพราะว่าเขารู้สึกว่าบนตัวของเจ้านี่มีบาเรียพลังฉีที่ปรากฏขึ้นมาเป็นชั้นๆ พลังอำนาจที่แข็งแกร่งที่ระเบิดออกไปนั้น เหมือนกับการอัดเข้าไปกับก้อนนุ่นก็ว่าได้ พลังอำนาจถูกทำให้อ่อนลงในแต่ละชั้นๆ
ในที่สุด พลังอำนาจของเขาก็หายไป นี่เป็นความรู้สึกอึดอัดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เหมือนกับว่าลูกเตะของเขานั้นไร้ประโยชน์ ไม่สามารถที่จะทำอันตรายต่อเจ้านี่ได้แม้แต่นิดเดียว
“ไม่นะ!!”
เฟิงเจ๋อมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะว่าเขารู้สึกได้ถึงหมัดของเซี่ยปิงที่ได้ประเคนออกมา พลังเวทมนตร์รวมเข้าที่หมัดขวาเหมือนกับเป็นหลุมวนก็ว่าได้ อากาศสั่นสะเทือน เหมือนกับว่ามีพลังอำนาจที่จะทำให้ภูเขาขนาดใหญ่สั่นสะเทือนได้
เซลล์ทั่วทั้งร่างกายของเขาสั่นไหว ออร่าแห่งความตายได้กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย เส้นประสาทแต่ละเส้นรัดแน่น เหมือนกับว่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
ตึบ!
หมัดได้อัดไปที่ร่างกายของเฟิงเจ๋อ บาเรียพลังฉีของเขาแตกกระจายออกไปเหมือนกับเป็นเศษกระดาษ แตกออกเป็นเสี่ยงๆอย่างกะทันหัน พลังเกลียวของหมัดได้เจาะเข้าไปในร่างกายของเขา สร้างความเสียหายให้กับอวัยวะภายในอย่างรุนแรง
“อ๊าก!”
เฟิงเจ๋อส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช ร่างกายของเขาโค้งงอ ถูกอัดเหมือนกับเป็นลูกบอลยางก็ว่าได้
เสียงปังดังขึ้นมา ร่างกายของเขาถูกอัดกระแทกลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง ทันใดนั้นที่พื้นก็ปรากฏเป็นหลุมขนาดใหญ่ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตร
เต็นท์ที่อยู่รอบๆนั้นถูกบดทำลายจนกลายเป็นผุยผงโดยพลังอำนาจนี้
ผู้คนที่เห็นเช่นนี้ต่างก็หวาดกลัวจนเจียนตาย แต่ละคนรีบถอยหลังออกไป หลีกเลี่ยงคลื่นพลังงานของหมัดๆนี้
ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงมาโดยลมที่รุนแรงและปลิวออกไปตามอากาศ จากนั้นก็ถูกบดขยี้ด้วยแรงลม
“อั่ก!”
ร่างกายของเฟิงเจ๋อจมลงไปในหลุมลึกนี้ กระอักเลือดออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน มีสีหน้านั้นที่ซีดเซียวอย่างมาก