God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1326

ถึงแม้ว่าผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นจะประกาศออกมาอย่างดุร้าย ทว่าพวกเขาก็รู้ว่าในเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นนั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่สามารถที่จะจัดการกับเซี่ยปิงได้ ทำได้เพียงแค่ตะโกนออกมา ไม่กล้าที่จะลงมือ

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังคงจับจ้องเซี่ยปิงเหมือนกับเสือที่จับจ้องเหยื่อ เหมือนกับกำลังรอโอกาสที่จะได้ชำระความแค้น

ฉู่หลง ซู่จี ยวีชีชีและเจียงยารุทั้งสี่คนก็ล่วงรูได้อย่างรวดเร็วว่าเซี่ยปิงได้สร้างผลงานอะไรไว้ที่ทำให้ผู้คนทั่วทั้งเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นแห่งนี้ไม่พึงพอใจ เดิมทีเป็นเพราะว่าได้ฉ้อโกงเงินของพวกเขาไปนับพันล้านเหรียญจักรวาลนั่นเอง

อีกทั้งยังทำการประโคมข่าวเรื่องนี้ออกไป ทำให้ผู้คนจำนวนมากล่วงรู้ถึงความโง่เขลาของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้จะเคียดแค้นเซี่ยปิงแค่ไหน ต้องการที่จะถลกหนังของเขาใจจะขาด

ปัง!

ในตอนนี้ ผู้คนทั่วทั้งเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นก็ได้เคลื่อนย้ายกันออกไปอย่างกะทันหัน เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายมากกว่าตอนที่เซี่ยปิงปรากฏตัวขึ้นมาเสียอีก

“รีบไปเร็ว ข้างนอกมีทักษะหล่อหลอมระดับเซนต์ที่ปรากฏขึ้นมา ผู้ที่ถือมันได้ถูกค้นพบแล้ว รีบออกไปปล้นชิงทันที ไม่อย่างนั้นจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีก” บางคนที่ส่งเสียงออกมา มีสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างมาก

ได้ยินเช่นนี้ ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นก็ตื่นเต้นไปตามๆกัน บรรดาผู้คนที่กำลังจ้องมองเซี่ยปิงและหาโอกาสในการแก้แค้นก็ตื่นตัวขึ้นมาเช่นกัน พวกเขาต่างก็รีบเดินทางออกไปจากเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นอย่างรวดเร็ว

“หืมม? เกิดเรื่องอะไรกัน?”

เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย เขาเห็นเหมือนกับว่าเกิดเรื่องสำคัญบางอย่างในเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สร้างความชุลมุนวุ่นวายไปทั่วทั้งเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นอย่างแน่นอน

เขาได้แผ่จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างไร้เสียงและไร้ร่องรอย แผ่กระจายออกไปที่กลุ่มฝูงชนรอบๆ ต้องการที่จะสืบหาความจริงของเรื่องนี้

จากนั้นก็ได้ยินกลุ่มของผู้คนที่กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องนี้

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

เซี่ยปิงแสดงสีหน้าความเข้าใจออกมา หลังจากที่ได้ฟังคำพูดคุยของผู้คนเหล่านี้ ในที่สุดเขาก็ล่วงรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เดิมทีก่อนหน้านี้มีบางคนที่ได้เดินทางออกไปไล่ล่าอสูรดุร้ายข้างนอกเมือง เข้าไปภายในป่า หลังจากที่ได้สังหารอสูรดุร้ายในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีทักษะหล่อหลอมระดับเซนต์ที่ตกลงมา มีชื่อว่าทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีด!

นี่คือทักษะลับที่ใช้ในการหล่อหลอมสมบัติขึ้นมา ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่เซนต์เปลวไฟสามขีดบรรพบุรุษในยุคโบราณได้หลงเหลือไว้ ไม่คาดคิดว่าทักษะลับนี้จะอยู่ในโลกเสมือนจริง ไม่มีใครเคยพบเจอ

เทียบกับทักษะระดับเซนต์ปกติธรรมดานั้น ทักษะหล่อหลอมระดับเซนต์นั้นเป็นทักษะที่มีความล้ำค่ากว่ามาก แม้แต่ในนิกายระดับเซนต์เองก็มีน้อยมาก เพราะว่าถึงอย่างไรการที่ได้ครอบครองทักษะการหล่อหลอมเช่นนี้นั้น จากนั้นก็จะสามารถหล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ทรงอำนาจออกมาได้อย่างต่อเนื่อง

แม้แต่สิ่งประดิษฐ์เซนต์ก็สามารถที่จะหล่อหลอมออกมาได้

เมื่อใดที่ได้ครอบครองทักษะหล่อหลอมนี้ จะกลายเป็นยอดปรมาจารย์ด้านการหล่อหลอมได้ในทันที ในตอนนั้นแม้แต่นิกายระดับเซนต์ก็ต้องวิ่งเข้ามาหา ต้องการให้กลายเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของนิกาย

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว ยอดปรมาจารย์ด้านการหล่อหลอมนั้นก็มีเพียงน้อยนิด น้อยนิดเหมือนกับจำนวนแพนด้าก็ว่าได้

เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นได้ยินข่าวนี้ พวกเขาจะบ้าคลั่งแค่ไหน แต่ละคนต่างก็ต้องการที่จะแย่งชิงมันมา ยึดครองมาเป็นของตนเอง นี่จะทำให้พวกเขาทะยานขึ้นท้องฟ้าภายในก้าวเดียว เป็นโอกาสที่เหมือนกับปลาที่แหวกว่ายผ่านประตูมังกร

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็ไม่ใช่เพียงแค่ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นเท่านั้น เมื่อผู้คนของเมืองนับสิบนับร้อยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ยินข่าวนี้นั้น พวกเขาก็ได้รีบเดินทางเข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว หวังว่าจะได้ปล้นชิงทักษะลับนี้ไป

“ไม่คาดคิดว่าข่าวจะรั่วไหลออกมาได้”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง

ในสถานการณ์ปกตินั้น ผู้ที่ได้ครอบครองทักษะลับที่ล้ำค่าเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเก็บเป็นความลับ จะไม่มีทางปล่อยให้รั่วไหลออกมาอย่างแน่นอน

แต่ปัญหาก็คือว่าทักษะลับนี้นั้นเป็นมรดกทางจิตวิญญาณของท่านบรรพบุรุษเปลวไฟสามขีด มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่สามารถสืบทอดมันไปได้

เห็นได้ชัดว่าทุกๆคนในกลุ่มที่ออกเดินทางไปนั้นต้องการที่จะยึดครองทักษะลับนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครเต็มใจที่จะเสียสละ ส่งผลให้กลุ่มของผู้คนฆ่าฟันกันเองและในที่สุดก็มีคนๆหนึ่งที่ได้ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดไป

ทว่าก็ไม่คาดคิดว่าผู้ที่พ่ายแพ้ไปนั้นจะไม่เต็มใจยอมรับและได้ปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกไปทันที

ในที่สุดผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนก็ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ แต่ละคนต่างก็เดินทางออกไปจากเมือง ต้องการที่จะปล้นชิงทักษะหล่อหลอมเปลวไฟขีด

“แปลกจริงๆ หากครอบครองทักษะลับได้ ทำไมถึงไม่ล็อกเอาท์ออกไปทันที?” เจียงยารุก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เธอคิดว่าที่นี่เป็นเพียงแค่โลกเสมือนจริง ถึงอย่างไรก็ไม่ตาย การที่ล็อกเอาท์ออกไปทันทีนั้นก็สามารถที่จะเก็บคัมภีร์ลับไว้เองได้

“ไม่สามารถล็อกเอาท์ออกไปในพื้นที่ข้างนอกเมือง เว้นแต่จะปลิดชีวิตตนเองหรือว่าถูกสังหารไปเท่านั้น”

เซี่ยปิงส่ายหัว “เมื่อใดที่ล็อกเอาท์ สิ่งของทั้งหมดในตัวของเขาก็จะตกลงมา รวมถึงทักษะลับนี้เช่นกัน”

“ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะนี้ในทันทีนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ เพราะว่าถึงอย่างไรนี่ก็เป็นทักษะที่สืบทอดมาจากท่านบรรพบุรุษเปลวไฟสามขีด การที่จะสืบทอดทักษะนี้จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาหลายวัน หากถูกรบกวนในช่วงเวลาเหล่านี้ ความพยายามทั้งหมดของเขาก็จะต้องสูญเปล่าอย่างแน่นอน จิตวิญญาณจะได้รับบาดแผล ภายใต้ผู้คนจำนวนมากที่ห้อมล้อมอยู่นั้น เขาคงจะไม่กล้ายอมรับการสืบทอดของทักษะลับนี้”

ดังนั้นในตอนนี้ผู้ที่ได้ครอบครองทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั้นจึงได้ถูกผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนไล่ล่า หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่เทือกเขาที่ห่างไกลออกไป แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้โผล่หัวออกมา

หากเขากล้าที่จะโผล่หัวออกมา รับประกันได้ว่าจะต้องถูกกระแสของผู้คนนับไม่ถ้วนถาโถมเข้ามาอย่างแน่นอน

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

เจียงยารุและคนอื่นๆก็ได้พยักหน้า บ่งบอกว่าตนเองเข้าใจ

“ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีด? อืม อันที่จริงนี่ก็เป็นทักษะการหล่อหลอมที่ดีเหมือนกัน”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง หลังจากที่ได้เลื่อนขั้นมาในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้น เขาก็สามารถที่จะปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ได้แล้ว ทว่าเขาก็ยังขาดแคลนทักษะในการหล่อหลอมสมบัติ ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนี้เหมือนกับจะเหมาะสมสำหรับเขามาก

ถึงแม้ว่าบนตัวของเขาจะมีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ทรงอำนาจเป็นจำนวนมาก ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบรรลุระดับหล่อหลอมสมบัตินั้นก็คือการหล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์พลังชีวิตของตนเองออกมา นี่คือสิ่งที่ทรงพลังที่สุด

หากสามารถหล่อหลอมและกลั่นกรองได้สำเร็จ สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์พลังชีวิตนั้นจะสามารถพัฒนาไปพร้อมกับแกนพลังฉีของตนเองได้ อีกทั้งยังสามารถที่จะพัฒนาจนไปถึงระดับสิ่งประดิษฐ์เซนต์ได้เช่นนี้ เพราะว่ามันนั้นเชื่อมโยงกับผู้ใช้ พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องตามผู้ใช้

ดังนั้นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์พลังชีวิตนั้นจึงเป็นสิ่งที่เหมาะกับตนเองมากกว่าสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ไหนๆ มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างมาก

โดยปกติแล้ว เซนต์ทุกคนหรือว่ายอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ทุกคนจะมีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์พลังชีวิตของตนเองอยู่

“ดูเหมือนว่าจะต้องออกไปข้างนอกเมืองเช่นกัน ตามหาทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั่น”

เซี่ยปิงได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เขาก็วางแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางที่จะทิ้งโอกาสที่อยู่ตรงหน้าเช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยพลังอำนาจของเขาในตอนนี้ ก็ไม่มีใครในเมืองระดับต่ำที่จะสามารถเอาชนะเขาได้

ดิ้ง!

ในตอนนี้ เครื่องมือสื่อสารของเขาได้ดังขึ้นมา

เซี่ยปิงได้กดเชื่อมต่ออย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของเด็กเล็กๆที่ดังขึ้นมาหลายเสียง “พี่ชายชาวพื้นเมือง พี่ชายอยู่ที่ไหน พวกเราต้องการที่จะออกไปเล่นกับพี่ชาย”

ภาพฉายเสมือนจริงของเด็กสาวตัวเล็กได้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าของเขาทันที ซึ่งข้างหลังก็มีกลุ่มของเด็กตัวเล็กอีกหลายคนเช่นกัน เธอดูเหมือนว่าจะเป็นราชินีของเด็กกลุ่มนี้ก็ว่าได้

เซี่ยปิงจดจำได้ทันที นี่มันคือกลุ่มเด็กที่เขาเจอในหมู่บ้านฝึกหัดไม่ใช่หรือ? บังเอิญจริงๆ เขาก็วางแผนที่จะคืนเงินทั้งหมดให้กับเด็กเหล่านี้เช่นกัน

“ตอนนี้ข้าอยู่ในเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น”

เขาตอบกลับไป

“เยี่ยม พวกเราออกไปจากหมู่บ้านฝึกหัดได้แล้ว พวกเราจะออกไปหาพี่ชาย”

เย่เจียเจียพูดออกมาอย่างตื่นเต้น เด็กคนอื่นๆก็มีสายตาที่เป็นประกายเช่นกัน

จากนั้นเธอก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว

อะไรนะ?!

เซี่ยปิงกัดมุมปาก ออกมาจากหมู่บ้านฝึกหัด? นั่นหมายความว่าเด็กเหล่านี้ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับราชวังสีม่วงแล้วอย่างนั้นหรือ?

ถึงแม้ว่าเขาจะล่วงรู้มานานแล้วว่าเด็กเหล่านั้นไม่ธรรมดา ทว่าความเร็วในการพัฒนาเช่นนี้ก็รวดเร็วเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็มีอายุเพียงแค่7-8ขวบ บางคนมีอายุเพียงแค่5-6ขวบ ช่างเป็นกลุ่มของผู้มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจอย่างแท้จริง

หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในโลกแห่งเมฆาล่ะก็ ไม่รู้วเ่าจะทำให้ผู้คนจำนวนมากแค่ไหนที่หวาดกลัวจนเจียนตาย

ภายในระยะเวลาอันสั้น จุดเทเลพอร์ตของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นก็ได้กระพริบทันที จากนั้นเด็กตัวเล็กๆแต่ละคนก็ได้วิ่งออกมาจากจุดเทเลพอร์ตพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดีใจ ภาพที่เห็นเหมือนกับมาปิกนิกก็ว่าได้

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset