หลังจากนั้นไม่กี่วัน ภายในพื้นที่ของลูกปัดพิภพ
“ฟู้!”
เซี่ยปิงสูดหายใจเข้าลึกๆและลืมตาขึ้นมา แสงที่ล้ำลึกและไม่อาจจะหยั่งถึงเปล่งประกายออกมาจากดวงตาของเขา เหมือนกับว่าส่วนลึกของม่านตาเขาแอบแฝงไปด้วยความโกลาหล มีเนบิวลาที่ไร้ที่สุดไหลเวียนอยู่ในดวงตา
ในการบ่มเพาะครั้งนี้เขาได้ดูดกลืนเม็ดยาวิญญาณปฐพีเข้าไปมากมาย กลั่นกรองเม็ดยาจำนวนมหาศาล แปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังเวทมนตร์ ทำให้พลังเวทมนตร์ของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ประหยัดระยะเวลาการบ่มเพาะไปได้อย่างน้อยหนึ่งร้อยปี
พูดได้เพียงแค่ว่าเม็ดยานี้สมแล้วที่เหมาะกับยอดฝีมือในระดับแตกฉาน เม็ดยาวิญญาณปฐพีนี้มีพลังงานเม็ดยาที่มหาศาล ไม่ใช่สิ่งที่เม็ดยาต่างๆก่อนหน้านี้จะเทียบด้วยได้
ทันทีที่เขากินเข้าไป มันก็มีพลังงานเม็ดยามหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย ต้องใช้ระยะเวลาถึงสามวันสามคืนกว่าที่เขาจะกลั่นกรองพลังงานเม็ดยาเหล่านี้จนหมดจด เสริมสร้างและบำรุงร่างกาย มีผลประโยชน์อย่างมาก
ในช่วงเวลานี้แกนทองภายในร่างกายของเซี่ยปิงก็มีขนาดใหญ่ขึ้น จิตศักดิ์สิทธิ์ข้างในแกนทองเหมือนกับว่าจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มีกลิ่นไอของเทพเจ้าอยู่ลางๆ ลึกซึ้งอย่างถึงที่สุด
แน่นอนว่าในการบ่มเพาะครั้งนี้เขาก็ไม่ได้ดูดซับเม็ดยาวิญญาณปฐพีเข้ามาอย่างเดียว เขาก็ได้เรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เรียกลมอัญเชิญฝนที่ได้มาจากกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เขาก็ได้เห็นความทรงอำนาจของความสามารถศักดิ์สิทธิ์เรียกลมอัญเชิญฝนนี้ด้วยตาของตนเอง เป็นสิ่งที่อู๋อันและยอดฝีมือในระดับแตกฉานคนอื่นๆได้ประสานพลังอำนาจด้วยกัน พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ที่สิ้นสุดได้ปะทุออกมานั้น ซ่อนเร้นด้วยพลังอำนาจที่เพียงพอจะทำลายล้างดาวเคราะห์ได้
ดังนั้นเขาจึงมีความสนใจในความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างมาก หวังว่าจะสามารถเรียนรู้ได้
“เรียกลมอัญเชิญฝน!”
เซี่ยปิงประสานมือเข้าทั้งสองข้าง ควบแน่นรูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที มันมีสองสีด้วยกันนั่นก็คือสีดำและขาวของหยินหยาง ไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง มีออร่าที่ลึกลับแผ่ออกมา เชื่อมโยงกับสวรรค์และโลก
เมื่อความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้แสดงออกมา โลกก็เหมือนจะเปลี่ยนไป ก้อนเมฆมืดครึ้มปกคลุมรอบๆ ทอดยาวออกไปกว่า3พันกิโลเมตร ลมที่รุนแรงพัดผ่านเข้ามา เสียงโหยหวนของภูตผีดังขึ้น ดูเหมือนว่าพายุเฮอริเคนกำลังใกล้เข้ามาก็ว่าได้ พร้อมกับนำพาสภาพอากาศที่แปรปรวนเข้ามา
หลั่ว หลั่ว หลั่ว~
ฝนตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับเป็นน้ำที่เทลงมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ระยะ3พันกิโลเมตร กลายเป็นปรากฏการณ์น้ำท่วมที่หายากในรอบหนึ่งร้อยปี ไร่ สวน ต้นไม้และสิ่งอื่นๆต่างก็จมหายไปในน้ำ
ลมที่รุนแรงกำลังพัดกระหน่ำ พายุเฮอริเคนกวาดเข้ามา ดูเหมือนกับเป็นพายุยักษ์ก็ว่าได้ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในระหว่างทาง แม้แต่ภูเขาก็ถล่มทลายลงมา ราบเป็นหน้ากลอง
ทว่าถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนมีพลังอำนาจที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก ทว่ามันก็ยังคงห่างไกลไปจากการเรียกลมอัญเชิญฝนที่กลุ่มของอู๋อันได้แสดงออกมา
เพราะว่าเขาได้อัญเชิญมาเพียงแค่พายุฝนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น บางทีอาจจะมีประสิทธิภาพในการจัดการกับสิ่งมีชีวิตธรรมดาทั่วไป ทว่าการที่จะจัดการกับนักวิทยายุทธนั้น ยังคงห่างไกลอีกมาก เพราะว่าถึงอย่างไรพลังอำนาจของมันก็ยังไม่เพียงพอ
“ดูเหมือนว่าจะต้องเลื่อนขั้นไปในระดับแตกฉานก่อนจึงจะสามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงของความสามารถศักดิ์สิทธิ์เรียกลมอัญเชิญฝนนี่ได้” เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา เขาก็ล่วงรู้เป็นอย่างดีว่าทำไมความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองและกลุ่มของอู๋อันแสดงออกมาถึงได้แตกต่างกันเช่นนี้
นั่นก็เป็นเพราะว่าอู๋อันและคนอื่นๆเป็นผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉาน ควบแน่นจิตศักดิ์สิทธิ์ได้
เมื่อใดที่ควบแน่นจิตศักดิ์สิทธิ์ได้ จากนั้นก็จะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจภายในส่วนลึกของห้วงมิติ
ท่ามกลางจักรวาลนั้น มีโลกห้วงมิติอยู่มากมาย โลกเหล่านี้หลบซ่อนอยู่ใต้ชั้นลึกของจักรวาล หากปราศจากการควบแน่นจิตศักดิ์สิทธิ์ จะไม่สามารถสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของโลกเหล่านี้ได้
โลกห้วงมิติเหล่านี้บางโลกนั้นเป็นโลกห้วงมิติเปลวไฟ มีเปลวไฟแห่งสวรรค์ที่ไร้ที่สิ้นสุด: บางโลกนั้นเป็นโลกห้วงมิติสายฟ้า มีสายฟ้านับไม่ถ้วน : บางโลกนั้นเป็นโลกแห่งน้ำแข็งและหิมะ แช่แข็งพื้นที่ในระยะ300ล้านกิโลเมตร ความหนาวเย็นเสียดแทง อีกทั้งยังมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศา สิ่งเหล่านี้คือห้วงมิติที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่
อย่างไรก็ตาม นักวิทยายุทธที่ควบแน่นจิตศักดิ์สิทธิ์ได้จะสามารถเชื่อมโยงกับพลังงานพิเศษของโลกห้วงมิติเหล่านี้ อีกทั้งยังสามารถดึงพลังอำนาจของห้วงมิติเหล่านี้เข้ามาได้ ใช้เพื่อเสริมพลังของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง นอกจากนี้ก็ยังสามารถควบแน่นพลังเวทมนตร์และเพิ่มความเร็วการบ่มเพาะได้อีก
ทว่าผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานบางคนที่มีจิตศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนแอนั้น จะสามารถเชื่อมโยงกับโลกห้วงมิติในชั้นตื้นบางเท่านั้น พลังงานในห้วงมิติเหล่านี้ก็อ่อนแอมาก ไม่สามารถที่จะแสดงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ออกมา
ส่วนผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานที่มีจิตศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอำนาจนั้นก็จะสามารถเชื่อมโยงกับโลกห้วงมิติที่อยู่ในชั้นลึกได้ จะสามารถแสดงพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวออกมาได้ อีกทั้งยังใช้พลังงานจากห้วงมิติเหล่านี้ได้อย่างอิสระ
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เรียกลมอัญเชิญฝนนั้นเป็นการที่ผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานเชื่อมโยงกับโลกห้วงมิติที่ไร้ที่สิ้นสุด เชื่อมต่อกับพลังงานของห้วงมิติเหล่านี้และนำมาใช้อย่างอิสระ พลังงานที่ปะทุออกมาก็จะมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะทำลายล้างดาวเคราะห์ได้
เรียกได้ว่ามีเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานขึ้นไปเท่านั้นที่จะแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ นอกจากนี้หากจิตวิญญาณทรงพลังมากแค่ไหน จากนั้นพลังอำนาจของความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะยิ่งทรงอำนาจมากขึ้นเท่านั้น
เซี่ยปิงถึงขั้นคิดว่าความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นเหมือนกับชุดสูทที่ตัดมาเพื่อตัวเขาก็ว่าได้
“เจ้านาย เกือบจะถึงเวลาที่ต้องมุ่งหน้าไปยังทางตะวันตกของจักรวาลแล้ว เข้าไปสู่ดินแดนไม้มังกร”
ในตอนนี้เสียงของกระทิงสีครามดังขึ้นมา ย้ำเตือนเซี่ยปิงถึงตารางการเดินทาง
“เข้าใจแล้ว”
เซี่ยปิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็ล้มเลิกการบ่มเพาะและออกมาจากพื้นที่ของลูกปัดพิภพ หากทำการบ่มเพาะต่อไป บางทีเขาอาจจะพลาดเวลาเปิดของดินแดนไม้มังกรได้
“ท่านผู้ปกครอง”
หลังจากที่เซี่ยปิงเดินออกมาจากห้องที่เงียบสงบ ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในวิลล่าก็มองเขาด้วยสีหน้าที่เคารพนับถือ ดูเหมือนกับเป็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้ก็ว่าได้ ตื่นเต้นกันอย่างมาก
เขาพบว่าสถานการณ์นี้แปลกประหลาดมาก จากนั้นจึงได้ถามและได้รู้คำตอบ ในระหว่างที่เขาบ่มเพาะอยู่นั้น ข่าวการพินาศของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ได้แพร่กระจายออกไป แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งทางตะวันออกของจักรวาล
ทว่าด้วยการที่สถานะที่แท้จริงของเขาก็ถูกเปิดเผยออกไปเช่นกันนั้น ผู้คนก็ได้รู้ถึงสถานะที่แท้จริงของเขา รู้ว่าเขาเป็นลูกศิษย์คนสำคัญของนิกายฟ้าดิน เป็นลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืด—เซี่ยปิง!
หลังจากที่รับรู้ข่าวนี้ กลุ่มอิทธิพลใต้ดินทั้งหมดในดาวรังอสูรก็ยอมจำนนอย่างแท้จริง ไม่มีความคิดที่จะต่อต้านอีก หนำซ้ำยังรู้สึกตื่นเต้นกันอย่างมาก
เพราะว่าการที่พวกเขาติดตามบุคคลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ บุคคลที่มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นเซนต์ในอนาคตนั้น มันก็เทียบเท่าได้กับการที่ได้เกาะแข้งเกาะขาบุคคลที่ทรงอิทธิพล มีที่ไหนที่พวกเขาจะไม่เข้าใจความจริงข้อนี้
หากก่อนหน้านี้ผู้นำตระกูลของพวกเขาล่วงรู้ถึงสถานะที่แท้จริงของเซี่ยปิงล่ะก็ บางทีอาจจะไม่กล้าท้าทายเซี่ยปิงอีก อาจจะยอมจำนนโดยอัตโนมัติ กลายเป็นลูกสมุนหมายเลขหนึ่งของเซี่ยปิงโดยที่ไม่สร้างปัญหาใดๆ
เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว สถานะของพวกเขาก็เป็นเพียงแค่อาชญากรโลกใต้ดินในดาวเคราะห์ปกติธรรมดาเท่านั้น มีที่ไหนที่จะเทียบได้กับสถานะลูกน้องของว่าที่เซนต์ ตราบใดที่พวกเขาติดตามเซี่ยปิง พวกเขาจะสามารถโลดแล่นไปในอาณาเขตดวงดาวทั้งหกได้อย่างอิสระ ข่มเหงรังแกผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่บนโลกนี้ไม่มียาแก้รักษาโรคเสียใจภายหลัง การที่คนเหล่านั้นยืนอยู่ผิดฝั่ง ดังนั้นจึงได้ตายไป
“เป็นอย่างนี้นี่เอง”
เซี่ยปิงนึกขึ้นได้อย่างกะทันหัน ล่วงรู้สาเหตุที่ผู้คนเหล่านี้เปลี่ยนแปลงท่าทีไปอย่างกะทันหัน เขาก็ไม่ได้สนใจว่าสถานะของตนเองจะถูกเปิดเผยออกไป เพราะว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืด ไม่ว่าจะก่อเรื่องที่ใหญ่โตวุ่นวายแค่ไหน สุดท้ายมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องปกติ
ผู้คนปกติธรรมดาอาจจะมีความสงสัยใคร่รู้ในความเร็วการบ่มเพาะของเขา ทว่าก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวออกมาเผชิญหน้ากับเขา ใครกันที่ใช้ให้เขามีเซนต์หนุนหลังอยู่
“ดูเหมือนว่าพวกผู้อาวุโสก็ได้มาที่นี่เช่นกัน”
เซี่ยปิงก็ได้รู้ข่าวจากลูกน้องเหล่านี้ว่าอวี๋ซิวจวินและคนอื่นได้เดินทางมาที่นี่ ทว่าก็กลัวว่าจะไปรบกวนการบ่มเพาะของเขา ดังนั้นจึงได้กลับไปที่นิกายฟ้าดิน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ได้ฝากรายงานว่าภารกิจนิกายของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถที่จะกลับไปยังดาวฟ้าดินได้ทุกเวลา
ทว่าในฐานะที่ทำภารกิจของนิกายนี้ได้สำเร็จนั้น ดาวรังอสูรก็จะกลายเป็นอาณาเขตของเซี่ยปิง ถูกมอบให้กับเขา เรียกได้ว่าดาวรังอสูรนี้ได้กลายเป็นอาณาเขตของเขาแต่เพียงผู้เดียว ไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีให้กับทางนิกาย มีอิสรภาพและอำนาจสูงสุด
“พวกเจ้าบริหารจัดการดาวรังอสูรให้ดี ข้ามีธุระอื่นๆที่ต้องจัดการ”
หลังจากที่เซี่ยปิงเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดในดาวรังอสูร เขาก็ได้แต่งตั้งหนึ่งในพวกเขาให้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบดาวรังอสูรเป็นการชั่วคราว จากนั้นเขาก็ขับยานดาราจักรออกไป เดินทางไปสู่ทางตะวันตกของจักรวาล