“ไม่คาดคิดว่าจะร่วมมือกัน?!”
เซี่ยปิงขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดว่าตระกูลพยัคฆ์ขาวและเผ่าพันธุ์แวมไพร์จะเต็มใจยอมรับข้อตกลงของตระกูลช้าง เริ่มเคลื่อนไหวออกมาเพื่อโจมตีเขา แน่นอนว่าด้วยพลังอำนาจของเขาในตอนนี้ เขาไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามของศัตรู
ทว่าการที่พึ่งพาเพียงแค่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในตอนนี้ มันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะกำจัดกลุ่มของศัตรูเหล่านี้จนหมดสิ้น บางทีอาจจะต้องเปิดเผยความสามารถศักดิ์สิทธิ์เฉพาะตัวของตนเองไปเช่นกัน
หากถูกสืบสวนอย่างถี่ถ้วน บางทีสถานะที่แท้จริงของเขาก็อาจจะถูกเปิดโปงได้
“ดูเหมือนว่าจะต้องเรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาใหม่เพื่อปกปิดวิทยายุทธดั้งเดิมของตนเอง” เซี่ยปิงมีสายตาเปล่งประกาย สำหรับผู้คนปกติทั่วไปนั้น การที่จะเรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาในระยะเวลาอันสั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ทว่าในตัวของเขามีระบบที่สามารถมอบความรู้และสติปัญญาจนแตกฉานได้ นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย ตราบใดที่มีคะแนนความเกลียดชังมากพอ เขาก็สามารถที่จะเรียนรู้ทักษะใดๆในระยะเวลาอันสั้นได้ ไม่ต้องใช้ความพยายามแม้แต่น้อย
“ระบบ ข้าต้องการความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาที่ทรงอำนาจ”
เซี่ยปิงพูดกับระบบ
“รับทราบผู้เล่น ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนามีอยู่ทั้งหมด933อย่าง สิ่งที่เหมาะสมกับผู้เล่นที่สุดก็คงจะเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาประเภทโจมตี—ฝ่ามือเมตตามหานิยม นี่คือหนึ่งในทักษะลับ72รูปแบบของพระพุทธศาสนา จำเป็นต้องใช้คะแนนความเกลียดชังห้าร้อยล้านคะแนนในการแลกเปลี่ยน”
เสียงของระบบถ่ายทอดมา
“แลกเปลี่ยนทันที”
เซี่ยปิงก็ตัดสินใจโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรในตัวของเขาก็มีคะแนนความเกลียดชังอยู่หลายพันล้านคะแนน การที่จะใช้คะแนนความเกลียดชังไปห้าร้อยล้านคะแนนนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะต้องคำนึงถึง
หล่ง หล่ง หล่ง~
หลังจากที่พูดจบ ข้อมูลที่มหาศาลก็ได้พรั่งพรูเข้าไปในความคิดของเซี่ยปิงทันที ข้อมูลทางพระพุทธศาสนาที่ไร้ที่สิ้นสุดท่วมท้นเข้ามาและรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ควบแน่นกลายเป็นรูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ซึ่งรอบๆปรากฏเป็นแสงสีทอง
ทว่าส่วนลึกของรูนนี้เหมือนกับจะปรากฏภาพเงาของพระพุทธเจ้าขึ้นมา ในมือกำลังหยิกกล้วยไม้ มีออร่าความเมตตาที่แผ่ออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด ทว่าในเวลาเดียวกันก็มีพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาเช่นกัน ราวกับว่านี่คือพระอรหันต์ปราบมังกร
เซี่ยปิงก็มีความเข้าใจในความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนานี่อย่างชัดเจน เข้าใจความร้ายกาจและความทรงอำนาจของทักษะวิทยายุทธนี้อย่างกะทันหัน สมกับที่เป็นหนึ่งในทักษะลับของพระพุทธศาสนา
ความเมตตาคืออะไร สำหรับคนที่แตกต่างกัน ก็ย่อมที่จะมีมุมมองความเมตตาที่แตกต่างกัน
สำหรับนักฆ่า ความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการทำให้ศัตรูตายไปโดยที่ไม่ทุกข์ทรมาน ปลิดชีวิตอย่างรวดเร็ว ทำให้ศัตรูไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองตายไปอย่างไร นี่คือความเมตตาของนักฆ่า
ทักษะวิทยายุทธก็เป็นวิธีการของการสังหารศัตรูเช่นกัน ไม่ว่าจะมีชื่อทักษะว่าอะไร ก็ไม่สามารถกำจัดเจตนาของการสังหารได้ แม้แต่ทักษะวิทยายุทธทางพระพุทธศาสนาที่เป็นการโปรดสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ก็เป็นการสังหารเช่นกัน
ทว่าฝ่ามือเมตตามหานิยมนั้นก็เป็นหนึ่งในทักษะฝ่ามือที่ใช้เพื่อสังหารศัตรูโดยเฉพาะ ฝ่ามือที่ตบออกไป โปรดสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ แสงสว่างแห่งพระพุทธศาสนาเฉิดฉายออกมา ศัตรูตายไปโดยที่ไม่รู้ตัว ร้ายกาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ด้วยการที่มันมีชื่อว่าเมตตา ดังนั้นมันจึงเป็นการปลิดชีวิตศัตรูโดยที่ปราศจากความเจ็บปวด นี่คือความเมตตาของพระพุทธเจ้า
ในขณะที่เซี่ยปิงสัมผัสได้ถึงความล้ำลึกของฝ่ามือเมตตามหานิยมนี้ ยอดฝีมือของตระกูลพยัคฆ์ขาวและเผ่าพันธุ์แวมไพร์ก็พุ่งโจมตีเข้ามา แสดงทักษะการสังหารที่หลากหลาย
“ตายซะ เจ้าลาหัวโล้น รับดาบพลังฉีเหล็กทองแกของตระกูพยัคฆ์ขาวของข้าไปซะ!”
หู่หรงระเบิดเสียงคำรามออกมา แสดงทักษะเพลงดาบระดับสุดยอด—ดาบพลังฉีเหล็กทองแกของตระกูลพยัคฆ์ขาว นี่มาจากการที่พวกเขาพยัคฆ์ขาวทางตะวันตกดึงพลังฉีเหล็กทองแกเข้ามา จากนั้นก็ผสมผสานเข้ามาภายในร่างกาย บ่มเพาะทั้งวันทั้งคืน จากนั้นจึงบังเกิดเป็นดาบพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัวนี้ขึ้นมา
ดาบพลังฉีที่ปรากฏขึ้นมานี้ สามารถที่จะตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง
อีกทั้งทักษะลับนี้ก็ไม่ใช่มีเพียงแค่หู่หรงเท่านั้นที่แสดงออกมาได้ ยอดฝีมือในตระกูลพยัคฆ์ขาวอีกนับสิบคนก็มีความเข้าใจในทักษะเพลงดาบนี้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน ดาบพลังฉีเหล็กทองแกที่น่าสะพรึงกลัวและทรงอำนาจได้ปรากฏขึ้นมา
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!!
แสงดาบสีทองได้พุ่งเข้ามา มีลำแสงเป็นจำนวนมาก เหมือนกับว่าเป็นการคำรามของพยัคฆ์ขาว ฉีกผ่านห้วงอวกาศ ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลดาบขนาดใหญ่ นี่คือการโจมตีสังหารระดับสุดยอด ทำลายสวรรค์และโค่นล้างแผ่นดิน
“เริ่มลงมือได้ จัดตั้งค่ายกลหยินโลหิตมรณะ!”
ราร์จก็คำรามออกมาพร้อมกับยอดฝีมือในเผ่าพันธุ์แวมไพร์อีกกว่าสิบคน พวกเขาต่างก็ร่วมมือกันจัดตั้งค่ายกลหยินโลหิตมรณะขึ้นมา
เห็นเพียงแค่ว่าเขากัดปลายนิ้วของตนเอง จากนั้นก็พ่นแก่นแท้เลือดภายในร่างกายออกไป ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์คนอื่นๆก็ทำตามเช่นกัน เลือดปริมาณมหาศาลได้ถูกพ่นออกมาอย่างกะทันหัน
เลือดเหล่านี้ที่หยดลงไป เหมือนกับมีชีวิตขึ้นมา มีสติสัมปชัญญะเป็นของตนเอง คดเคี้ยวบนอากาศอย่างต่อเนื่อง ไม่คาดคิดว่าจะก่อตัวกลายเป็นร่องรอยสีเลือดบนอากาศและก่อตัวกลายเป็นค่ายกลของสวรรค์และโลก ปกคลุมพื้นที่ในระยะ500กิโลเมตร
เมื่อค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี่ก่อตัวขึ้นมา ส่วนลึกของความว่างเปล่าก็มีพลังฉีโลหิตชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุดเอ่อล้นออกมา พลังฉีหยินที่น่าสะพรึงกลัวได้รวมตัวกันที่ใจกลางของค่ายกลนี้ แรงกดดันเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อร่างสร้างฐานของค่ายลนี้อย่างต่อเนื่อง
ตึบ!
เมื่อค่ายกลพลังฉีโลหิตชั่วร้ายนี้ควบแน่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ พลังฉีโลหิตชั่วร้ายก็ควบแน่นกลายเป็นดาบยักษ์สีเลือด บนดาบยักษ์นี้มีอักขระมากมายที่ถูกจารึกไว้ คดเคี้ยวไปตามคมดาบเหมือนกับเป็นมังกรน้ำก็ว่าได้ สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แผ่ออร่าที่ทรงอำนาจออกมา ซ่อนเร้นไปด้วยพลังอำนาจของการทำลายล้าง การกัดกร่อน การแพร่เชื้อและพลังอำนาจอื่นๆ
นี่คือดาบภูตพระจันทร์โลหิตที่ถูกควบแน่นขึ้นมาโดยค่ายกลนี้ แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว สามารถตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง หากสัมผัสเข้ากับดาบสีเลือดนี้ ทันใดนั้นจะถูกออร่าโลหิตชั่วร้ายจู่โจมร่างกายทันที
คาดการณ์ได้ว่าภายในระยะเวลาอันสั้น ศัตรูจะถูกแช่แข็งจนกลายเป็นปะติมากรรมน้ำแข็ง ส่วนลึกของหัวใจได้รับบาดแผล ร่างกายเหมือนกับสัมผัสเข้ากับกรดซัลฟิวริกก็ว่าได้ ถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว เป็นกระบวนท่าที่แอบแฝงไปด้วยเจตนาชั่วร้าย
พลังอำนาจของทั้งสองกลุ่มที่ปะทุออกมาต่างก็พุ่งโจมตีไปที่เซี่ยปิงพร้อมๆกัน
“ฝ่ามือเมตตามหานิยม!”
ทันใดนั้น เมื่อการโจมตีนี้ใกล้จะมาถึง เซี่ยปิงก็ได้แสดงทักษะฝ่ามือทางพระพุทธศาสนาออกมาทันที ร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง เหมือนกับเป็นพระพุทธเจ้าที่จุติลงมาก็ว่าได้ ฝ่ามือถูกตบออกไป
ทันใดนั้นบนอากาศก็ปรากฏสัญลักษณ์สวัสดิกะขึ้นมามากมายและรวมเข้าที่ศูนย์กลางของฝ่ามือนี้ ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลของสวรรค์และโลก ใจกลางของฝ่ามือขนาดยักษ์นี้เหมือนกับจะมีภาพเงาของพระพุทธเจ้าปรากฏขึ้นมาลางๆ
อีกทั้งในขณะที่ฝ่ามือนี้ตบออกไป ส่วนลึกของความว่างเปล่าเหมือนกับจะมีเสียงสวดมนตร์ของพระดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพแวดล้อมรอบๆปั่นป่วน
ตึบ!
อันดับแรก ดาบพลังฉีเหล็กทองแกของตระกูลพยัคฆ์ขาวถูกบดทำลายโดยฝ่ามือนี้ไปอย่างกะทันหัน ส่งเสียงดังสนั่นขึ้นมา เป็นเหมือนกับดาบสมบัติที่แตกกลายเป็นเสี่ยงๆ ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่และอัศจรรย์เช่นนี้ได้
จากนั้นดาบภูตพระจันทร์โลหิตของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ก็พยายามจะตัดทะลวงฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์นี้ ทว่าแสงสว่างแห่งพระพุทธเจ้าได้ส่องสว่างเจิดจ้าออกไป ชำระล้างความชั่วร้ายทั้งมวล เมื่อสัมผัสเข้ากับดาบภูตพระจันทร์โลหิตนี้ มันก็เหมือนกับน้ำแข็งที่ถูกเปลวไฟแผดเผาก็ว่าได้ ละลายไปอย่างรวดเร็ว ซี่ ซี่ ส่งเสียงดังขึ้นมา
ภายในไม่กี่ลมหายใจ ค่ายกลหยินโลหิตมรณะนี้ก็ถูกทำลายไปอย่างสิ้นซาก
“นี่มันคือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาอะไรกัน?”
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็ทำลายค่ายกลที่พวกเราประสานพลังอำนาจกันได้?”
“บัดซบ เจ้าลาหัวโล้นนี่มีพลังการต่อสู้ที่เหนือธรรมชาติเกินไป ครั้งนี้พวกเราเจอตอแข็งเข้าแล้ว”
ราร์จและหู่หรงตกตะลึงอย่างมาก ยอดฝีมือของทั้งสองกลุ่มที่ร่วมมือกันสังหารเจ้าเด็กนี่ ไม่คาดคิดว่าจะต้านทานการโจมตีของพวกเขาได้โดยที่ไม่มีปัญหา อีกทั้งยังเปลี่ยนพลังอำนาจทั้งหมดของพวกเขากลายเป็นความว่างเปล่า ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป
โดยเฉพาะยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ พวกเขารู้สึกได้ว่าความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ของเซี่ยปิงเป็นสิ่งที่เป็นปรปักษ์ต่อพลังความมืดมิดและหยินชั่วร้ายภายในร่างกายของพวกเขา เหมือนกับเป็นแสงที่ส่องสว่างในความมืด เป็นศัตรูตามธรรมชาติของพวกเขา
ภายใต้แสงสว่างแห่งพระพุทธเจ้า พวกเขาสามารถแสดงพลังอำนาจออกมาได้เพียงแค่70%เท่านั้น นี่ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างแท้จริง
“นึกไม่ถึงว่ายอดฝีมือของทั้งสองเผ่าพันธุ์ที่ร่วมมือกันจะยังไม่ใช่คู่มือของเขา?!”
เซียงเทาและยอดฝีมือของตระกูลช้างคนอื่นๆที่เห็นสถานการณ์นี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงกลัว เดิมทีพวกเขาคิดว่าการที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์เคลื่อนไหวออกมา จะจัดการกับเจ้านี่ได้อย่างแน่นอน ทว่ามีที่ไหนที่เป็นอย่างที่พวกเขาคิด เห็นได้ชัดว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
ทันใดนั้นก็มีความคิดของการล่าถอยผุดขึ้นมา บุคคลของเผ่าพันธุ์อรหันต์ที่น่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ ไม่ใช่ตัวตนที่จะสังหารได้อย่างง่ายดาย
หนำซ้ำภายใต้การต่อสู้อย่างซึ่งๆหน้า อาจจะเป็นฝ่ายของพวกเขาเองที่เผชิญกับความสูญเสีย