วันต่อมาหลังจากที่เซี่ยปิงกลับมาสู่นิกายฟ้าดิน ผู้อาวุโสจำนวนมากรวมถึงผู้นำนิกายก็ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเขาทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้ยินข่าวที่เซี่ยปิงได้ครอบครองผลอายุวัฒนะเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงคิดที่จะเข้ามาขอแลกเปลี่ยนกับเซี่ยปิง
เพราะถึงอย่างไร ผู้อาวุโสจำนวนมากของนิกายฟ้าดินต่างก็เป็นคนแก่ชรา จำเป็นที่จะต้องกินผลอายุวัฒนะเพื่อยืดชีวิตของตนเองออกไป
แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะบังคับขู่เข็ญใดๆ ทว่าต้องการแลกเปลี่ยนกับสมบัติ เพราะว่าถึงอย่างไรสถานะและพลังอำนาจของเซี่ยปิงในตอนนี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากระดับของผู้อาวุโสทั่วไป
เซี่ยปิงก็ไม่ได้ปฏิเสธอย่างน่าเกลียด แต่บอกว่าหากมีสมบัติที่ถูกใจเขา ก็สามารถที่จะแลกเปลี่ยนกันได้ เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วเขาก็มีเม็ดยาอายุวัฒนะมากกว่าหนึ่งร้อยเม็ด
อันที่จริงเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เป็นจำนวนมากเช่นนี้ หากมีสมบัติที่ล้ำค่ามากพอ แน่นอนว่าเขาก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยน
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ บรรดาผู้อาวุโสต่างก็เดินทางกลับไปอย่างมีความหวัง บ่งบอกว่าหากตนเองได้สมบัติที่ล้ำค่ามา จะเข้ามาเยี่ยมเยียนใหม่อย่างแน่นอน
หลังจากที่รอให้จัดการธุระกับบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้เสร็จสิ้น เซี่ยปิงก็ได้รับข้อความจากเซนต์อสูรมืด ต้องการให้เขาเดินทางไปที่หุบเขาอสูรมืด
“ท่านอาจารย์”
อย่างรวดเร็ว เซี่ยปิงก็มาถึงที่ห้องเงียบสงบแห่งหนึ่งในหุบเขาอสูรมืด ในช่วงเวลานี้เซนต์อสูรมืดกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเสื่อผืนหนึ่ง
ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่าออร่าของเซนต์อสูรมืดแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เหมือนจะล้ำลึกมากขึ้น เหมือนกับเป็นภาพลวงตาไม่มีอยู่จริง ราวกับปรากฏขึ้นมาจากองค์ประกอบธาตุทั้งห้า เป็นอิสระอยู่ในทั้งสามภพ
“มีอะไรรึ?”
เซนต์อสูรมืดมองไปที่เซี่ยปิง
“ท่านอาจารย์ เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าท่านแตกต่างไปจากเดิม”
เซี่ยปิงถามข้อสงสัยของตนเองออกไป
“ดี ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะสังเกตเห็นความแตกต่างของอาจารย์ ดูเหมือนว่าแกนพลังฉีของเจ้าก็พัฒนามาอย่างรวดเร็ว”
เซนต์อสูรมืดก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ชื่นชม “สิ่งที่เจ้ารู้สึกถูกต้องแล้ว ระยะเวลาหลายวันนี้ข้าได้พัฒนาตนเองไปอีกขั้น เลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับใหม่ ได้รับผลประโยชน์อย่างไร้ที่สิ้นสุด”
“ขอแสดงความยินดีกับท่านอาจารย์”
เซี่ยปิงก็พูดอย่างอ่อนน้อม เพราะถึงอย่างไรเซนต์อสูรมืดก็คืออาจารย์ของเขา ยิ่งฝ่ายตรงข้ามทรงพลังแค่ไหน ผลประโยชน์ที่เขาจะได้ครอบครองก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็รู้สึกดีใจกับอาจารย์ของตนเองจริงๆ
“เอาล่ะ ไม่ต้องประจบสอพลอข้า”
เซนต์อสูรมืดยิ้มออกมา “ผลงานของเจ้าภายในดินแดนสวรรค์นิรันดร์ข้าก็ได้รับรู้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะทำผลงานได้ดี ทว่าเจ้าก็สร้างความเกลียดชังไว้มากมายเช่นกัน อาจจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ต้านลม ชีวิตของเจ้านับจากนี้อาจจะไม่ได้สงบสุขอีกต่อไป บางทีอาจจะมีศัตรูที่ต้องการลอบสังหารเจ้าเป็นจำนวนมาก เจ้าจะต้องระมัดระวังตัวไว้อย่างดี”
“ยิ่งไปกว่านั้นศัตรูของข้าก็มีมากมายเช่นกัน ถึงแม้ว่าศัตรูเหล่านี้จะจัดการกับข้าไม่ได้ ทว่าก็อาจจะเพ่งเล็งไปที่ตัวเจ้าแทน เจ้าจำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจกับทุกๆเรื่อง อย่าตกหลุมพรางของศัตรูเป็นอันขาด”
เขาได้ย้ำเตือนเซี่ยปิงให้สนใจอันตรายอยู่ตลอดเวลา
“รับทราบ ท่านอาจารย์ ข้าเข้าใจแล้ว”
เซี่ยปิงพยักหน้า
“บ่มเพาะอย่างหมั่นเพียรต่อไป รีบพัฒนาขึ้นมาในระดับเซนต์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ข้าเกรงว่าวันเวลาแห่งความสุขจะคงอยู่ได้ไม่นาน” คำพูดของเซนต์อสูรมืดเหมือนจะแอบแฝงด้วยความหมายที่ลึกซึ้งบางอย่าง เขามองผ่านเซี่ยปิงไป เหมือนกับกำลังมองการณ์ไกล เหมือนกับจะมองไปถึงจุดสิ้นสุดของจักรวาล
เมื่อพูดทิ้งท้ายคำเหล่านี้ เขาก็โบกมือและบอกให้เซี่ยปิงกลับไป
……………….
จากนั้นเซี่ยปิงก็กลับมาที่หุบเขาหยานหวงอีกครั้ง
ในตอนนี้เขาได้รับข่าวดีจากกระทิงสีคราม ในที่สุดอสูรซากศพที่ตกอยู่ในภวังค์หลับใหลก็ฟื้นคืนสติขึ้นมา
โดยที่ไม่ได้รีรออะไรอีก เขาก็เข้าไปในพื้นที่ของลูกปัดพิภพทันทีและมาถึงที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เพราะว่าสถานที่แห่งนี้คือสถานที่ที่อสูรซากศพถูกนำตัวมาไว้
ในช่วงเวลานี้ กระทิงสีครามและแมวนักปราชญ์ทั้งสองก็ปรากฏอยู่ในสถานที่แห่งนี้เช่นกัน กำลังจับตาดูอสูรซากศพที่ฟื้นคืนสติขึ้นมา
“นี่คืออสูรซากศพหรือ?”
เซี่ยปิงขมวดคิ้วเป็นปม เพราะเขาค้นพบว่ารูปลักษณ์ของอสูรซากศพได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง มันได้เจาะทะลวงออกมาจากเปลือกไข่ เหมือนกับเป็นการวิวัฒนาการของผีเสื้อก็ว่าได้ ไม่คาดคิดว่าตอนนี้จะกลายเป็นเด็กหญิงที่มีอายุประมาณ7-8ปี
ผมยาวสลวยสีดำทอดยาวถึงเอว ดวงตากลมโตสีเลือด ผิวหนังขาวผ่องราวกับผิวหนังของเด็กทารก ริมฝีปากจิ้มลิ้มดั่งผลเชอร์รี่ จมูกเป็นสันคม ดูน่ารักน่าชังอย่างมาก
ทว่าตอนนี้เธอสวมใส่ชุดกระโปรงสีดำ เหมือนกับเป็นการแต่งตัวในรูปแบบศิลปะกอธิค เหมือนกับกระโปรงสีดำนี้จะไม่ธรรมดาเลย มีพลังป้องกันที่ทรงอำนาจอย่างถึงที่สุด แทบจะอยู่ในระดับเดียวกับสิ่งประดิษฐ์เซนต์ ดูเหมือนว่ามันจะควบแน่นขึ้นมาจากพลังป้องกันของเธอ
บนตัวของเธอก็มีออร่าความมืดมิดที่แผ่ออกมาลางๆ ดูอันตรายอย่างถึงที่สุด ดูเหมือนว่าเป็นอสูรโบราณตัวน้อย ร่างกายเล็กๆของเธอแอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่มหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็มีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก ไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา ไม่มีใครที่จะสามารถมองเห็นได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ดังนั้นกระทิงสีครามและแมวนักปราชญ์จึงได้รีบรุดมาที่นี่ เกรงกลัวว่าเจ้าอสูรซากศพนี่จะออกอาละวาด
“เจ้า..เจ้านาย”
ในตอนนี้ เด็กหญิงผมดำสัมผัสได้ถึงออร่าของเซี่ยปิง ยืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน ร่างกายของเธอก็กระพริบหายไปและบินโฉบเข้าไปที่หน้าอกของเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน กอดลำตัวของเซี่ยปิงเหมือนกับเป็นหมีโคอาล่าก็ว่าได้
“นี่มัน!”
เซี่ยปิงก็จ้องมองอย่างวอกแวก ทว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดกับเด็กสาวผมดำนี้ มีความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณที่แน่นแฟ้น แยกจากกันไม่ได้
เขาก็สามารถสัมผัสได้ว่าเด็กหญิงผมสีดำคนนี้มีความผูกมัดกับตนเอง เห็นตนเองเป็นดั่งญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดที่สุด
ในขณะเดียวกันเขาก็ค้นพบว่าในสมองของฝ่ายตรงข้ามนั้นว่างเปล่า ดูเหมือนกับเป็นเด็กทารกเกิดใหม่ก็ว่าได้ ไม่เข้าใจสิ่งใดๆ
เซี่ยปิงก็เข้าใจได้ทันที ตั้งแต่กำเนิดจนถึงตอนนี้ อสูรซากศพอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งมาตลอด ไม่ได้มีสติสัมปชัญญะของตนเอง ดังนั้นจึงเหมือนกับไม่ได้กำเนิดขึ้นมา
ทว่าหลังจากที่เขาควบคุมมันได้ ร่างกายของอสูรซากศพก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่คาดฝัน มีสติสัมปชัญญะขึ้นมา ได้รับการวิวัฒนาการ ดังนั้นตอนนี้อสูรซากศพจึงเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง เป็นเหมือนกับเด็กทารกเกิดใหม่ไม่มีผิด
“ใช่สิ จะต้องตั้งชื่อให้กับเจ้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าจะมีชื่อว่าลูน่า”
เซี่ยปิงก็ตัดสินใจตั้งชื่อให้กับเด็กหญิงผมดำคนนี้ทันที
“ลูน่า?!”
เด็กหญิงผมดำก็กระพริบดวงตากลมโตของเธอ เหมือนจะไม่เข้าคำพูดและหมายความของมัน ทว่ามันก็ไม่ได้ขัดขวางเธอให้พูดเลียนแบบ เพราะว่าถึงอย่างไรไอคิวของเธอก็สูงมากและมีความสามารถในการจดจำที่ยอดเยี่ยม เหมือนกับบันทึกทุกอย่างลงในความทรงจำ
“ใช่ ในอนาคตเจ้าจะมีชื่อว่าลูน่า ทว่าตอนนี้เจ้าจะต้องลองทดสอบความสามารถของตนเอง”
เซี่ยปิงก็เอามือเท้าคาง ต้องการที่จะทดสอบความสามารถของลูน่า เพราะว่าถึงอย่างไรตอนนี้รูปลักษณ์ของอสูรซากศพก็ดูแปลกประหลาดเกินไปจริงๆ ไม่รู้ว่าลูน่าจะยังมีความสามารถของอสูรซากศพอยู่หรือไม่
เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาก็ยื่นมือออกไป จากนั้นก็คว้ากระต่ายมังกรมาจากระยะที่ห่างออกไปอย่างกะทันหัน นำมาใช้เป็นหนูทดลอง
“ลูน่า จงเปลี่ยนเจ้ากระต่ายนี่ให้กลายเป็นทาสรับใช้ของเจ้า”
เซี่ยปิงก็พูดกับลูน่าทันที
ทาสรับใช้?!
ลูน่ากระพริบตา ถึงแม้จะไม่เข้าใจคำพูดของเซี่ยปิง ทว่าสัญชาตญาณของเธอกลับเข้าใจในการทำให้เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้กลายเป็นทาสรับใช้ นี่คือความสามารถที่ติดตัวเธอมา
วิซ!
เธอชี้นิ้วออกไป จากนั้นก็จิ้มลงบนตัวของกระต่ายมังกรตัวนี้เบาๆ ทันใดนั้นพลังงานลึกลับสีดำก็หลั่งไหลเข้าไปในร่างของกระต่ายมังกรอย่างกะทันหัน
กระต่ายมังกรตัวนี้ก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช เหมือนกับจะถูกพลังงานสีดำนี้กัดกร่อน ปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย
ร่างกายของมันก็เปลี่ยนแปลงไปราวกับฟ้ากับเหว ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น มีขนาดใหญ่ขึ้นมาสามเท่า กล้ามเนื้อปูดพอง กล้ามเนื้อทุกซอกทุกมุมต่างก็เป็นเหมือนกับเหล็กก็ว่าได้
ในขณะเดียวกันก็เหมือนว่าความตะกละจะเพิ่มขึ้นมา เหมือนกับจะหิวโหยอย่างมาก เขมือบกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นผักหรือเนื้อสัตว์
ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่มันดูดกลืนพลังงานของอาหารเหล่านี้ ก็เหมือนกับว่าพลังอำนาจ ความเร็วและขนาดร่างกายจะพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่ลมหายใจ ร่างกายของมันก็แข็งแกร่งมากขึ้นถึง3-4เท่า