อะไรนะ?!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสจำนวนมากของนิกายหยวนหมิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ในที่สุดความจริงก็หลุดออกมา การที่พวกเขาพยายามใช้ความคิดกันอย่างหนัก ไม่ใช่เพื่อการเค้นหาความลับนี้รึ?!
พวกเขาต่างก็จดจ่อสมาธิและตั้งใจฟังทันที รวมถึงผู้อาวุโสสูงสุดหลิวเหวินเช่นกัน
“โอ้ ข้ากำลังฟังอยู่”
หลิวเหวินเสแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง เผยท่าทางเหมือนกับไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง
“ข้าพบหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี”
เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างเรียบเฉย
“หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี?!”
ผู้อาวุโสจำนวนมากก็ตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง จ้องมองเซี่ยปิงอย่างไม่ละสายตา
“อะไรนะ?! หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี? แร่ล้ำค่าที่ใช้เป็นวัสดุหลักในการหล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เชิงห้วงมิติในระดับสิ่งประดิษฐ์เซนต์ หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีที่ประเมินค่าไม่ได้นั่นน่ะหรือ?!” หลิวเหวินที่เดิมทีเสแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็นก็ตกตะลึงเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะถามออกไปอย่างต่อเนื่อง
เพราะว่าสมบัติลับเช่นนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ แม้แต่เซนต์ก็ต้องตื่นเต้นขึ้นมา อย่าพูดถึงพวกเขาบุคคลธรรมดาๆเลย นี่ถือว่าเป็นสมบัติที่เป็นศัตรูกับความร่ำรวยที่แท้จริง
หากมีบางคนค้นพบหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีและนำไปแลกเปลี่ยนกับเซนต์ จากนั้นเซนต์ก็จะมอบอำนาจการปกครองอาณาจักรให้กับบุคคลนั้นได้ จะทะยานขึ้นท้องฟ้าภายในก้าวเดียว กลายเป็นราชาของอาณาจักร ปกครองดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วน
หากไม่ต้องการที่จะกลายเป็นราชา ก็สามารถเลือกที่จะแลกเปลี่ยนกับสมบัติที่ล้ำค่าอื่นๆของเซนต์ได้ ต่อให้จะต้องการแลกเปลี่ยนกับเม็ดยาอายุวัฒนะที่เพิ่มอายุขัยได้นั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่มากเกินไป
เพราะถึงอย่างไร หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีก็เป็นสมบัติที่ล้ำค่าจริงๆ
“ใช่ ที่ท่านกล่าวมาถูกต้องแล้ว”
เซี่ยปิงพยักหน้า
“มันอยู่ที่ใด หรือว่าเจ้าครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีนี่มาได้แล้ว?” หลิวเหวินถามออกไปทันที เวลานี้เขาแทบจะเอ่ยปากขอให้หม่ากู่โป๋ยื่นสมบัตินั้นมาให้กับเขาทันที
สมบัติเช่นนี้ มีเพียงแค่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าอย่างเขาเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติในการครอบครอง
ทว่าไม่ทันรอให้เซี่ยปิงได้เอ่ยอะไรออกมา ทันใดนั้นก็เกิดคลื่นผันผวนขึ้นมาในพื้นที่รอบๆ
ซู่ ซู่ ซู่!!!
ทันใดนั้น ภาพเงาจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า แผ่ออร่าที่ทรงอำนาจออกมา มียอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าอยู่เป็นจำนวนมาก
คนเหล่านี้ก็คือผู้อาวุโสของนิกายประตูจันทราโบราณ นิกายบัญชาสวรรค์ นิกายสวรรค์เบื้องบนและนิกายสวรรค์ชั้นฟ้า พวกเขาได้แอบติดตามหลิวเหวินและคนอื่นๆมาเช่นกัน หลบซ่อนอยู่รอบๆ
เดิมทีพวกเขาก็ต้องการที่จะหลบซ่อนตนเองต่อไป ทว่าเมื่อได้ยินคำว่าหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี พวกเขาก็ไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ของตนเองได้อีกต่อไป แต่ละคนต่างก็ปรากฏตัวออกมา เปิดเผยตำแหน่งของตนเอง
“พวกเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน?!”
หลิวเหวินและคนอื่นๆก็มีใบหน้าที่บิดเบี้ยวทันที มีสีหน้าที่ซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะกำหมัดขึ้นมา การที่มีกลุ่มคนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ บางทีพวกเขาก็คงจะไม่สามารถครอบครองทุกอย่างไว้เพียงผู้เดียวได้
“ฮ่าฮ่า หลิวเหวิน เหตุใดเจ้าจึงใจแคบเช่นนี้ มีความลับเช่นนี้แต่กลับไม่แบ่งปันกับพวกเรา หากไม่ใช่เพราะว่าพวกเราส่งคนไปสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าอยู่ตลอดเวลา เห็นพวกเจ้าแอบออกไปจากแคมป์อย่างลับๆและได้ติดตามไปนั้น พวกเราก็คงจะไม่รู้ว่าหม่ากู่โป๋ยังไม่ตาย อีกทั้งก็ยังซ่อนความลับที่สะท้านสวรรค์เช่นนี้ไว้”
ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายประตูจันทราโบราณแสยะออกมา
“หลิวเหวิน การมีความสุขร่วมกันย่อมดีกว่าการมีความสุขเพียงคนเดียว หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีเป็นสมบัติที่มหัศจรรย์ของจักรวาล การที่เจ้าต้องการจะครอบครองมันไว้เพียงผู้เดียวนั้น ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกเพ่งเล็งโดยคนอื่นๆหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายบัญชาสวรรค์แสยะออกมา บ่งบอกว่าต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์เช่นกัน
“ใช่ เราควรต้องแบ่งปันกัน พวกเรานิกายที่ยิ่งใหญ่ต่างก็เป็นเหมือนกับพี่น้อง ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะต้องการครอบครองสมบัติไว้เอง ช่างน่าผิดหวังจริงๆ”
ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายสวรรค์เบื้องบนพูดออกมา
“สรุปสั้นๆก็คือเรื่องนี้พวกเราจะร่วมด้วย ปล่อยให้พวกเจ้านิกายหยวนหมิงครอบครองผลประโยชน์ทั้งหมดไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไร มันก็ไม่มีความยุติธรรมแม้แต่น้อย”
ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายสวรรค์ชั้นฟ้าก็เอ่ยออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวเหวินก็มีสีหน้าที่มืดมนเล็กน้อย เขาก็รู้ว่าเมื่อถูกค้นพบโดยนิกายอื่นๆเช่นนี้ จากนั้นแผนการของตนเองก็พังทลาย ไม่สามารถที่จะครอบครองทุกอย่างไว้เองได้
เขารู้สึกเศร้าใจมาก เห็นได้ชัดว่าตนเองแอบเคลื่อนไหวออกมาอย่างลับๆ ไม่คาดคิดว่าข่าวนี้จะรั่วไหลออกไปได้
หลังจากที่สิ้นสุดเรื่องนี้ เขาจะต้องจัดระเบียบนิกายหยวนหมิงใหม่ ไม่อย่างนั้นทั่วทั้งนิกายก็จะกลายเป็นเหมือนกับคนปากเปราะ ไม่ว่าข่าวใดๆก็ปกปิดไว้ไม่ได้
ทว่าให้ตายหลิวเหวินก็ไม่สามารถคิดได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามปกปิดข่าวนี้เพียงใด สุดท้ายข่าวนี้ก็จะต้องรั่วไหลอยู่ดี เพราะว่านี่เป็นฝีมือของเซี่ยปิง แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่นิกายหยวนหมิงจะครอบครองทุกอย่างไว้เพียงผู้เดียว
หากไม่ได้หลอกลวงนิกายที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะดำเนินแผนการขั้นต่อไปได้
ตอนนี้ในเมื่อกลุ่มอิทธิพลทั้งหมดมาถึงที่นี่แล้ว จากนั้นก็ถึงเวลาสำหรับการแสดงดีๆ
“เอาล่ะ ทุกๆคนคือสหายพี่น้องกัน แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้อาวุโสหม่า พูดสิ่งที่เจ้ารู้มาให้หมด หินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีนั่นอยู่ที่ใด? ตอนนี้อยู่ในมือของเจ้าหรือไม่?”
ในขณะที่หลิวเหวินเอ่ยคำเหล่านี้ออกมา เขาก็รู้สึกว่ามีเลือดซึมในหัวใจ เหมือนกับว่าชิ้นเนื้อของตนเองถูกตัดออกไปก็ว่าได้
ทว่าการที่ผู้อาวุโสของนิกายอื่นๆเข้ามาพร้อมเพรียงกันเช่นนี้ เปรียบดั่งการที่เหล่าขุนนางบีบบังคับให้จักรพรรดิต้องสละอำนาจ เขาก็ทำได้เพียงแค่ยอมก้มหัวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากทำให้นิกายเหล่านี้ขุ่นเคืองใจขึ้นมา พวกเขาอาจจะต้องเผชิญกับความโชคร้ายมากกว่าความโชคดี
“ข้ายังไม่ได้ครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมา ไม่ได้อยู่ในมือของข้า”
เซี่ยปิงยักไหล่ บ่งบอกว่าตนเองไม่ได้ครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี “เพราะว่ามันอยู่ในสายแร่ขนาดใหญ่ของหินห้วงมิติ ห้อมล้อมไปด้วยราชันอสูรเวิ้งว้างมากมาย ข้าไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ หากข้าได้ครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีนั่นมาแล้ว ข้าก็คงจะเดินทางออกจากสถานที่บัดซบแห่งนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสจำนวนมากก็พยักหน้า พวกเขาก็เชื่อคำพูดของเซี่ยปิง หากเซี่ยปิงครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมาจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป การเลือกเดินทางออกไปจากที่นี่เป็นแผนการที่ดีที่สุด
“สายแร่ขนาดใหญ่นั่นอยู่ที่ใด?”
หลิวเหวินเอ่ยถาม
“มันอยู่ไม่ไกลไปจากที่นี่”
เซี่ยปิงพูดออกมา “เพื่อที่จะครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมา ข้าได้ใช้ระยะเวลาอันยาวนานและใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อขุดอุโมงค์ใต้ดินจากสถานที่แห่งนี้ทอดยาวออกไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดของสายแร่โดยตรง สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับของพวกอสูรเวิ้งว้างได้”
เขาชี้ไปที่ทางเข้าถ้ำตรงหน้า
นี่คือทางเข้าไปสู่อุโมงค์ใต้ดินที่สไลม์ทองได้ขุดเอาไว้ เชื่อมต่อไปสู่ส่วนลึกที่สุดของสายแร่แห่งนี้
“เป็นอุโมงค์ใต้ดินจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังขุดลงไปลึกมาก ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมา เจ้าได้ลำบากลำบนมามากมาย” ผู้อาวุโสบางคนที่เข้าไปตรวจสอบทันทีและค้นพบว่ามันเป็นอุโมงค์ใต้ดินจริงๆ
ต่อให้ยอดฝีมือในระดับกฎเทวรูปจะมีพลังเวทมนตร์ที่ลึกซึ้ง ทว่าการที่ต้องการจะขุดอุโมงค์ใต้ดินเช่นนี้ก็ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
“หึหึ ลำบากลำบนไปอย่างสูญเปล่า เพราะสุดท้ายก็เพียงแค่ตัดชุดแต่งงานให้กับคนอื่น”
เซี่ยปิงเผยท่าทางที่โศกเศร้าอย่างมาก
“ผู้อาวุโสหม่า อย่าเศร้าใจไปเลย การที่เจ้าเป็นผู้ที่ค้นพบหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีนี้ เจ้าก็เป็นผู้ที่มีคุณงามความดีมากที่สุด หลังจากที่พวกเราได้ครอบครองสมบัติเหล่านี้ ข้ารับประกันว่าเจ้าจะได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ไป เป็นรางวัลให้แก่ความเพียรพยายามของเจ้า”
หลิวเหวินก็ให้สัญญาปากเปล่า พูดปลอบใจเซี่ยปิง
ถึงอย่างไรการพูดโอ้อวดเกินจริงก็ไม่ได้เป็นความผิด เมื่อถึงเวลานั้นก็เพียงแค่มอบหินห้วงมิติให้กับหม่ากู่โป๋เป็นจำนวนหนึ่ง การที่ตนเองได้ครอบครองผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไปนั้น การที่คนอื่นๆจะได้รับส่วนแบ่งเล็กๆน้อยๆก็ไม่ใช่เรื่องที่มากเกินไป
“จะมัวรีรออะไรอยู่ รีบไปเถอะ ครอบครองหินศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีนั่นมาให้ได้โดยเร็วที่สุด”
ผู้อาวุโสจำนวนมากก็ร้อนรนใจ
“ไปกันเถอะ”
หลิวเหวินโบกมือออกไป
ทันใดนั้นผู้อาวุโสจำนวนมากก็เข้าไปในอุโมงค์ใต้ดินนี้ทันที