ตอนที่ 1820
ในดึกดื่นคืนนั้น ณ คฤหาสน์ที่หรูหราแห่งหนึ่งในเขตชั้นนอกของเมืองมรกต
ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงก็ได้เช่าคฤหาสน์หลังนี้ในราคาหนึ่งหมื่นเหรียญปีศาจต่อหนึ่งเดือน นี่ ก็ทําให้ฟูหลิงหลงและชิงหลวนทั้งสองออกมาจากโรงแรมทรุดโรม เก่าแก่ ขนาดเล็กและคับแคบแห่งนั้นได้
วิซ!
ทว่าจู่ๆภาพเงาหนึ่งก็บินผ่านแสงจันทร์เข้ามา ทะลวงผ่านห้วงอวกาศเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยืนตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า ภาพเงานี้ก็คือปีศาจชราเฮยเฟิงนั่นเอง
“เหอะ ช่างเป็นบุคคลต่ําต้อยที่หลงระเริงกับความสําเร็จจริงๆ ได้รับเงินมาเพียงไม่นาน ก็เพลิดเพลินไปกับความหรูหราทุกอย่างของโลกใบนี้ หมดหนทางช่วยเหลือจริงๆ” ปีศาจชราเฮยเฟิงก็เปล่งเสียงออกมาในลําคออย่างเย้ยหยันกับพฤติกรรมฟุ่มเฟือยเช่นนี้ คิดว่าเป็นการใช้ความมั่งคั่งอย่างสิ้นเปลือง
หากร่ํารวยขึ้นมาก็ควรที่จะใช้เงินนั้นในการซื้อเม็ดยาและสมุนไพรวิญญาณที่ล้ําเลิศในการทํา ให้แกนพลังฉีพัฒนาเติบโต นี่คือวิถีแห่งความมั่งคั่งที่ถูกต้อง ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่สามารถพึ่งพาได้ มีเพียงแค่หมัดของตนเองเท่านั้นที่สามารถพึ่งพาได้
“เจ้าเด็กอู๋ไท่โต่วนั่นอยู่ที่ใดกัน?”
ปีศาจชราเฮยเฟิงก็เผยสายตาเป็นประกายออกมา จากนั้นก็อัญเชิญลมทมิฬครอบคลุ มรอบคฤหาสน์หลังนี้ภายในชั่วพริบตา ทันใดนั้นก็ค้นพบว่าอู๋ไท่โต่วกําลังอาบน้ําอยู่ในอ่างขนาดยักษ์ไม่คาดคิดว่าจะฮัมเพลงอย่างมีความสุขไปพร้อมๆกัน
“ดี ดีมาก ตอนนี้เจ้าเด็กนี่ไม่ได้ระมัดระวังตัวแม้แต่น้อย เป็นโอกาสทองในการกําจัดเขา”
ปีศาจชราเฮยเฟิงก็มีความสุขอย่างมาก คาดการณ์ได้ว่าเจ้าเด็กนี่คงจะตายไปอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเป็นมันที่สังหารเขา สามารถที่จะสังหารเจ้าเด็กนี่ในระว่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
เมื่อเขาค้นพบว่ามีบางคนที่ต้องการลอบสังหารเขา ในเวลานั้นดวงวิญญาณก็คงจะลอยออกจากร่างไปแล้ว
มันก็เป็นบุคคลที่โหดเหี้ยมและไร้ปราณีเมื่อมองเห็นเป้าหมายแล้ว จากนั้นมันก็ตัดสิน ใจที่จะลงมือในทันที
วิช!
ภายในชั่วพริบตา ปีศาจชราเฮยเฟิงก็เปลี่ยนกลายเป็นกระแสพลังฉีสีดําทมิฬ ลักลอบเข้า ไปในห้องอาบน้ําของคฤหาสน์หลังนี้อย่างไร้ร่องรอย จากนั้นมันก็มองเห็นตําแหน่งของเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์-หนามลมทมิฬ!
มันควบแน่นลมทมิชชั่วร้ายขึ้นมา เปลี่ยนกลายเป็นหนามที่แหลมคมอย่างถึงที่สุด สังหารออกไปโดยตรง เป็นการโจมตีที่เพียงพอจะบดทําลายดวงดาวได้
ตึบ!
การโจมตีนระเบิดใส่ข้างหลังของอู๋ไท่โต่วอย่างรุนแรง พลังเวทมนตร์ที่น่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาในทันที ระเบิดจนร่างกายของฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สร้างพลังทําลายล้างที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมา
“ทุกอย่างราบรื่น? ไม่ นี้มันไม่ถูก ยังไม่มีร่องรอยของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลของเขาปรากฏขึ้นมา”
เดิมทีปีศาจชราเฮยเฟิงก็มีความสุขอย่างยิ่ง คิดว่าตนเองสังหารอู๋ไท่โต่วได้แล้ว ทว่าบัญหาก็คือเมื่อเขามองไป เขากลับไม่ค้นพบยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลที่ปรากฏขึ้นมาจากตัวของเจ้าอู๋ไท่โต่ว
ด้วยสัญชาตญาณของยอดฝีมือในระดับกฏเทวรูปขั้นสูงสุด มันก็ล่วงรู้ได้อย่างกะทันหันว่า ภารกิจของตนเองยังไม่สิ้นสุด เจ้าอู๋ไท่โต่วที่แท้จริงยังไม่ตาย
ปัง!
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ วินาทีต่อมา สภาพแวดล้อมรอบๆก็แตกสลายเหมือนกับแก้ว แม้แต่ซากศพของอู๋ไท่โต่วที่พื้นก็เหมือนจะเปลี่ยนกลายเป็นควันที่ลอยออกไป หายไปจากตรงหน้าของปี ศาจชราเฮยเฟิงอย่างรวดเร็ว
ทว่าเซี่ยงที่แท้จริงกลับยืนอยู่ไม่ไกลไปจากปีศาจชราเฮยเฟิงและกําลังมองมันด้วยรอยยิ้ม ที่เหมือนจะไม่ยิ้ม
“ฮ่าฮ่า ปีศาจชราเฮยเฟิง ดึกดื่นเช่นนี้กลับไม่อาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัว ทว่ากลับต้องการลอบสังหารข้า ความกล้าหาญของเจ้าช่างใหญ่โตยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่เป็นถึงผู้ ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจ ไม่คาดคิดว่าจะทําเรื่องลับๆล่อๆเช่นนี้ เจ้าไม่คิดว่ามันจะเป็นการเสียหน้ารึ?”
เซี่ยงยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้างพร้อมกับมองปีศาจชราเฮยเฟิงด้วยสายตาที่ดูแคลน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เมื่อครู่นี้เป็นทักษะภาพลวงตารี? แท้ที่จริงแล้วเจ้าได้ติดตั้งค่ายกลภาพ ลวงตาในสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่คาดคิดว่าจะสามารถตบตาการสัมผัสจากจิตตระหนักรู้ ศักดิ์สิทธิ์ของข้าได้?”
ปีศาจชราเฮยเฟิงก็รู้สึกหวาดกลัวเซี่ยปิงขึ้นมาทันที มันนึกไม่ถึงว่าเจ้านี่จะติดตั้งค่ายกลภาพลวงตาไว้อย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้ ตบตาการสัมผัสของตนเอง ทําให้มันตกเข้ามาในโลกแห่งภาพลวงตาโดยที่ไม่รู้ตัว ช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ
นี่ส่งผลให้มันเพิ่มระดับภัยคุกคามของเซี่ยงขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ติดตั้งตั้งแต่เมื่อไหร่? ก็ตั้งแต่ที่เจ้าก้าวเข้ามาในระยะรัศมีหลายสิบกิโลเมตรจากคฤหาสน์หลังนี้ ทว่าสาเหตุที่เจ้ายอมเสียเวลาเคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง ต้องการที่จะลักลอบเข้ามา ภายในคฤหาสน์ของข้าเพื่อลอบสังหารข้า ไม่ว่าจะมองอย่างไร เจ้าก็ต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง หากให้ข้าคาดเดาล่ะก็ เจ้าต้องการที่จะครอบครองยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลของข้าใช่รึไม่?” เซี่ยปิงมองไปที่ปีศาจชราเฮยเฟิงพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา
“อะไรกัน? เจ้ารู้อย่างนั้นรึ? เจ้าก็สัมผัสได้ว่าบนตัวของข้าก็มียันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลอย่างนั้นรึ?”
ดวงตาของปีศาจชราเฮยเฟิงฉายแววความตื่นตระหนก มันรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีเลย เหมือนกับว่าตนเองก้าวเข้ามาในกับดักของฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งยังบุกรุกเข้ามาในรังของศัตรูอย่างโง่เขลา
ในช่วงเวลานี้ มันมีความปรารถนาที่จะล่าถอยออกไป
“แน่นอนว่าต้องรู้ เหตุผลที่ข้าแสดงละครภายในเรือนหมื่นปีศาจ อีกทั้งก็ยังปล่อยให้ออร่า ของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลรั่วไหลออกไปอย่างตั้งใจนั้น ก็เพื่อหลอกลวงให้เจ้าตายใจ เป็นการล่อเสือออกจากถ้ํา”
เซี่ยงยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง “เดิมที่หากเจ้าอยู่ภายในเรือนหมื่นปีศาจซึ่งเป็นสถานที่ที่ติดตั้งค่ายกลยับยั้งไว้มากมายนั้น การที่ข้าต้องการสังหารเจ้า ก็จําเป็นต้องลงทุนใช้สมบัติ และวิธีการมากมาย แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะเคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเองจริงๆ เรียกได้ว่านี่เป็น การที่ยมราชต้องการให้เจ้าตาย”
“ยโสโอหังอย่างถึงที่สุด เป็นเพียงแค่เด็กทารก แต่หยิ่งผยองจนถึงขั้นนี้ ชายชราผู้นี้คือยอดฝีมือในระดับกฎเทวรูปขั้นสูงสุด เป็นตัวตนของราชันปีศาจ ต่อให้เด็กทารกอย่างเจ้าจะจัดตั้งกับดักแล้วอย่างไรกัน หากชายชราผู้นี้ต้องการเดินออกไป ก็ไม่มีใครที่จะสามารถขวางทางข้าได้!”
ปีศาจชราเฮยเฟิงเปล่งเสียงออกมาในลําคอ จากนั้นมันก็เปลี่ยนกลายเป็นลมทมิชชั่วร้าย ต้องการหลบหนีออกไปทันที
“สายไปแล้ว!”
เซี่ยปิงโบกมือออกไป ลูกปัดพิภพบนร่างกายของเขาสั่นสะเทือน ทันใดนั้นค่ายกลแผ่นภาพ ห้วงมิติไร้ขอบเขตก็ปรากฏขึ้นมาทันที
ปัง!
ทันใดนั้นเมื่อค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ปรากฏขึ้นมา มันก็ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหลายร้อยกิโลเมตรอย่างกะทันหัน ผนึกฟ้าปิดกั้นพสุธา ควบแน่นความว่างเปล่า กลายเป็นสนามอาณาเขตที่สมบูรณ์
ตึบ ตึบ ตึบ !!
ปีศาจชราเฮยเฟิงหลบหนีออกไปอย่างบ้าคลั่ง ทวาเมื่อมันพุ่งตัวออกไปบนอากาศ มันกลับกระแทกเข้ากับม่านอะไรบางอย่าง ตึบ ส่งเสียงดังสนั่นขึ้นมา เหมือนกระแทกเข้ากับกําแพงเหล็กกล้าก็ว่าได้ ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช
มันไม่เต็มใจอย่างมาก พยายามที่จะฝ่าผ่านสิ่งกีดขวางนี้ ทว่าต่อให้โจมตีไปมากแค่ไหน ค่ายกลแผ่นภาพห้วงมิตินี้ก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว
“เปล่าประโยชน์ ภายใต้แผ่นภาพห้วงมิติไร้ขอบเขตของข้า มันผนึกฟ้าและปิดกั้นพสุธา ความว่างเปล่าควบแน่นกลายเป็นของแข็ง มีเพียงแค่การที่เจ้ากําจัดข้าเท่านั้น มิเช่นนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่ จะออกไปจากค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้”
เซี่ยปิงก็มั่นใจในแผ่นภาพห้วงมิติไร้ขอบเขตของตนเองเป็นอย่างมาก นี่คือค่ายกลปิดกั้นที่ทรงพลังอย่างถึงที่สุด ก่อตัวกลายเป็นพื้นที่สมบูรณ์ ต่อให้เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ไม่ สามารถหลบหนีออกไปจากค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่ต้องพูดถึงเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงที่เป็นเพียงยอดฝี มือในระดับกฎเทวรูปเท่านั้น
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ชายชราผู้นี้ก็จะฆ่าเจ้าชะ!”
ปีศาจชราเฮยเฟิงเผยออร่าจิตสังหารออกมา จากนั้นก็ลงมืออย่างอาจหาญ ไม่คาดคิ ดว่าจะล้มเลิกการหลบหนีและโจมตีโดยตรง
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ สายลมดาราทมิฬ!
นี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของปีศาจชราเฮยเฟิง ผ่านการดึงดูดลมดาราทัพดินจากส่วนลึกของความว่างเปล่า ทําการบ่มเพาะเป็นระยะเวลากว่าพันปีด้วยกัน ในที่สุดจึงบ่มเพาะจนสําเร็จได้
หลังจากที่ประสบความสําเร็จ ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ไร้เทียมทาน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอํานาจในการปัดเป่าสิ่งมีชีวิตทั้งมวล มีพลังทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว กัดกร่อนจิตศักดิ์สิทธิ์ ใช้ได้อย่างราบรื่นในทุกหนแห่ง ไม่ว่าเป็นปีศาจใดก็ไม่กล้าเผชิญกับพลังอํานาจนี้โดยตรง
ต่อให้จะเป็นสมบัติประเภทป้องกันที่เผชิญหน้ากับสายลมดาราทมิฬนี้ ก็จะต้องถูกกัดกร่อนจนแหลกสลายไป หายไปจากโลกนี้
ด้วยความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ ปีศาจชราเฮยเฟิงจึงยืนอยู่ในตําแหน่งที่สูงสุด อัดปีศาจ จํานวนนับไม่ถ้วนจนต้องคุกเข่าขอความเมตตาและได้รับการดํารงตําแหน่งผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจสาขาเมืองมรกตแห่งนี้
ซู่ ซู่ ซู่!!
ส่วนลึกของความว่างเปล่า สายลมดาราทมิฬพัดออกไป เปลี่ยนกลายเป็นพายุหมุนทอร์นาโด กวาดตรงไปที่เซี่ยปิง แผ่นดินสั่นสะเทือน เหมือนกับว่าเป็นพายุที่ไร้ที่สิ้นสุดก็ว่าได้ แอบแฝงไปด้วยจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว
“ ตายซะ!”
เซียปิงก็มองอย่างที่ไม่ต้องการมอง สายเลือดอีกานรกทองคําภายในร่างกายควบแน่นขึ้นมา พลังงานเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวลุกโชนออกมาจากส่วนลึกของร่างกายและรวมเข้าที่หมัด ในเวลานี้ ทั่วทั้งหมดของเขาเหมือนจะเปลี่ยนกลายเป็นหมัดเปลวไฟก็ว่าได้
ส่วนลึกของเปลวไฟเหล่านี้เหมือนจะมีอักขระของอีกานรกทองคําปรากฏขึ้นมาลางๆ ราวกับว่าเป็นมังกรสวรรค์บรรพกาลที่กําลังคดเคี้ยวไปมาก็ว่าได้ เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน จากนั้นก็ก่อตัวกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่แผดเผาชั่วนิรันดร์