ตอนที่ 1822
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เจ้าพวกโง่ จะมัวยืนงงอะไรอยู่ พวกเจ้าคือทาสของข้า เป็นทาสรับใช้ ทําตามคําสั่งของข้าทันที ถ่ายทอดพลังอํานาจมังกรสวรรค์ของพวกเจ้ามาให้ข้า ทําให้ข้าพัฒนาขึ้นหลังจากที่รอให้ข้าได้เลื่อนระดับขึ้นไป ในอนาคตพวกเจ้าก็จะได้รับผลประโยชน์ไปเช่นกัน” เมื่อสัมผัสได้ว่าไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบสนองจากยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลเหล่านี้ ปีศาจชราเฮยเฟิงก็ต่อว่าด่าทอออกมาทันที
ทว่ายันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง18ใบก็ยังคงลอยอยู่บนอากาศ ดวงตามังกรขนาดยักษ์ยังจ้องมองไปที่ปีศาจชราเฮยเฟิง ส่วนลึกของม่านตาไม่ได้เผยความโมโห มีเพียงแค่ความนิ่งเฉยเท่านั้น ราวกับเป็นสระน้ำลึกที่สงบนิ่งไม่มีผิด ไม่มีวันผันแปรไปชั่วนิรันดร์
ทว่าความสงบนิ่งเช่นนี้กลับทําให้จิตใจผู้อื่นรู้สึกได้ถึงความหนาวสั่น
“นี่มันอะไรกัน? พลังอํานาจของพวกเจ้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้องการที่จะต่อต้านหรือ?”
ปีศาจชราเฮยเฟิงก็สัมผัสได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ดูไม่ชอบมาพากล เพราะว่าปกติแล้ว ภายใต้คําสั่งของตนเอง ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลเหล่านี้ควรที่จะลงมือทําตามคําสั่งในทันที ทว่าตอนนี้กลับนิ่งเฉยไม่สนใจสิ่งใด เหมือนกับว่าจะเริ่มมีความคิดต่อต้านขัดขืนมัน
ทว่ามันก็ยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่ ดังนั้นจึงได้แสยะออกมา “ข้าก็รู้มานานแล้วว่าสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เช่นพวกเจ้ามีจิตใต้สํานึกรวมถึงสัญชาตญาณเป็นของตนเอง ดังนั้นข้าจึงได้ฝังเมล็ดสัญญาเลือดไว้ในส่วนลึกของยันต์แล้ว เมื่อใดที่ปะทุออกมา พวกเจ้าจะต้องตายทั้งเป็น พวกเจ้ามันก็แค่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ เป็นเพียงแค่ของตายเท่านั้น เป็นเพียงแค่ทาสรับใช้!”
“ตัวตนที่ต่ำต้อยเช่นนี้ต้องการที่จะต่อต้านเจ้านายรึ? ช่างเพ้อฝันสิ้นดี วันนี้ข้าจะทําให้พวกเจ้าได้รู้ว่าใครคือเจ้านาย ใครคือทาสรับใช้!”
สีหน้าของมันดุร้ายอย่างมาก จากนั้นมันก็ประสานมือเข้าทั้งสองข้าง พลังอํานาจปีศาจเอ่อล้นออกมา ทันใดนั้นก็ได้กระตุ้นพลังงานของเมล็ดสัญญาเลือดภายในส่วนลึกของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลเหล่านี้ นี่คือเมล็ดพลังงานที่มาจากศาสตร์มืด แอบแฝงไปด้วยพลังเดม่อนที่น่าสะพรึงกลัว
เมื่อใดที่ปะทุออกไป นั่นก็คือการตายทั้งเป็น ทันใดนั้นจะทําให้จิตใต้สํานึกของสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์หายไปในทันที
ทว่าหลังจากที่เริ่มลงมือ มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง18ตัวกลับนิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้านใดๆ ม่านตาของพวกมันก็ยังคงสงบนิ่ง เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับการเคลื่อนไหวของปีศาจชราเฮยเฟิงไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อพวกมันแม้แต่น้อย
ทว่าอากาศรอบๆกลับหนักหน่วงขึ้นมาอย่างกะทันหัน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอํานาจมังกรที่น่าสะพรึงกลัวในทุกซอกทุกมุม ยิ่งไปกว่านั้นในขณะที่ดําเนินไป แรงกดดันก็เหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั่วทั้งคฤหาสน์สั่นไหวอย่างรุนแรง แม้แต่ค่ายกลรอบๆก็สั่นสะเทือน
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
ปีศาจชราเฮยเฟิงก็ตกใจอย่างแท้จริง ใจสั่นระรัว มีสีหน้าที่บิดเบี้ยวขึ้นมา “เมล็ดสัญญาเลือดของข้า พลังงานศาสตร์มืดของข้า อันที่จริงหายไปที่ใดกัน ทําไมถึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ทําไมถึงหายไป?! พวกเจ้าขจัดพลังงานนี้ออกไปหรือ? นี่มันเป็นไปไม่ได้ เหตุใดจึงง่ายดายเช่นนี้ มันง่ายดายเกินไป?!”
“เจ้า อู๋ไท่โต่ว นี่เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่? เจ้าทําอะไรลงไป ก่อนหน้านี้เจ้าได้มอบสิ่งใดให้กับยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลของข้า ทําไมถึงเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้? ท้ายที่สุดแล้วเจ้าทําอะไรลงไป?!”
สัญชาตญาณของมันกําลังบ่งบอกว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเซี่ยปิงอย่างแน่นอน
เซี่ยปิงก็ส่ายหัว สิ่งที่เรียกว่าพลังงานศาสตร์มืดเมื่อเทียบกับพลังงานของมังกรสวรรค์บรรพกาลนั้น เรียกได้ว่าเป็นพลังของช้างกับมด การที่ต้องการจะควบคุมยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลด้วยพลังอํานาจนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะสิ้นดี
ทว่าตอนนี้ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องเก็บเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงนี้ไว้อีก
“กินมันซะ มังกรสวรรค์บรรพกาล”
เซี่ยปิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบเฉย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ม่านตาของมังกรสวรรค์บรรพกาลบนอากาศก็เผยแสงที่น่าสะพรึงกลัวออกมาเป็นแสงที่สว่างจ้าราวกับแสงพระอาทิตย์ ในขณะเดียวกันพวกมันก็ส่งเสียงคํารามออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
พื้นที่ในระยะหลายร้อยกิโลเมตรสั่นไหวขึ้นมา แม้แต่ที่พื้นดินก็เกิดรอยแตกขึ้น เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก
ปัง!
ภายในระยะเวลาอันสั้น พวกมันก็กระโจนเข้าไปและฉีกร่างกายของเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงนี้ออกจากกัน ฉีกแข็งฉีกขาทั้งสี่ข้าง รวมถึงลําตัวออกมา แม้กระทั่งศีรษะของมันก็ถูกมังกรสวรรค์บรรพกาลตัวหนึ่งกัดจนหลุดออกจากคอ ฉีกออกมาอย่างโหดเหี้ยมอํามหิตเลือดไหลพล่านไปทั่วบริเวณ
นี่คือการประหารแบบห้าม้าแยกศพอย่างแท้จริง!
ทว่าปีศาจชราเฮยเฟิงก็เป็นถึงยอดฝีมือในระดับกฏเทวรูปขั้นสูงสุด ต่อให้ร่างกายจะถูกฉีกกลายเป็นชิ้นๆ จิตศักดิ์สิทธิ์ของมันก็ยังคงอยู่รอด ทว่ามีสภาพที่น่าสมเพชอย่างมาก ต่อให้จะต้องการหลบหนี ก็ไม่สามารถหลบหนีได้
“ม่ายยย!”
ปีศาจชราเฮยเฟิงกรีดร้องออกมา เปล่งเสียงคํารามอย่างไม่เต็มใจ “ข้าเฮยเฟิงเป็นถึงยอดฝีมือในระดับกฏเทวรูปขั้นสูงสุด นี่คือตัวตนที่จะกลายเป็นเซนต์ปีศาจในอนาคต เป็นไปได้อย่างไรที่จะมาตายที่นี่ เป็นไปได้อย่างไรที่ร่างกายจะถูกฉีกกลายเป็นชิ้นๆเช่นนี้?! อู๋ไท่โต่ว ข้าปฏิเสธที่จะยอมรับ ข้าปฏิเสธที่จะยอมรับเรื่องนี้ แน่จริงก็เข้ามาต่อสู้ตัวต่อตัวกับข้า แน่จริงก็เผชิญหน้ากับข้าอย่างซึ่งๆหน้า…อ๊ากกก!”
ไม่ทันรอให้มันได้พูดต่อ มังกรสวรรค์บรรพกาลก็คํารามออกมาก่อนที่จะกัดกินจิตศักดิ์สิทธิ์ของมันไปเช่นกัน กัดฉีกจนไม่เหลือชิ้นดี จากนั้นก็กลืนเข้าไปในกระเพาะของตนเองโดยตรง
ปีศาจชราเฮยเฟิงผู้น่าสงสาร ตัวตนในระดับราชันปีศาจผู้นี้ ไม่คาดคิดว่าจะตายไปด้วยฝีมือของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลของตนเอง
ทว่าหลังจากที่ปีศาจชราเฮยเฟิงตายไปอย่างสมบูรณ์แล้วนั้น ความเคียดแค้นและความไม่เต็มใจที่ซ่อนลึกในแววตาของมังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง18ตัวก็หายไปเช่นกัน ดวงตาของพวกมันกลับคืนสู่ความสว่างสดใสอีกครั้ง
“คําราม!”
มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง18ตัวคํารามออกสู่ท้องฟ้า แสดงความตื่นเต้นของตนเองที่ได้ชําระความแค้นจนสําเร็จ พวกมันต่างก็มองหน้ากันและกัน จากนั้นไม่คาดคิดว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นยันต์เช่นเดิมและจมหายเข้าไปในร่างกายของเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน
สําหรับผู้ที่ช่วยเหลือตนเองและให้โอกาสพวกมันได้ล้างแค้น รวมถึงภายในร่างกายของคนผู้นี้ก็มีเลือดมังกรอยู่นั้น พวกมันจึงรู้สึกถึงความคุ้นเคยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ดังนั้นจึงได้ยอมรับเซี่ยปิงเป็นเจ้านายของพวกมันโดยตรง
ปีศาจชราเฮยเฟิงที่น่าสงสาร ใช้ระยะเวลากว่าหมื่นปีในการกลั่นกรอง ใช้วัสดุที่ล้ำค่าไปนับไม่ถ้วน ทว่ากลับไม่สามารถทําให้ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลยอมจํานนได้ไม่สามารถทําให้พวกมันยอมรับตนเองได้
ทว่าทันทีที่มันตาย ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลเหล่านี้กลับยอมรับเขี่ยทิ้งเป็นเจ้านายโดยอัตโนมัติ ไม่จําเป็นที่จะต้องให้เซี่ยปิงยุ่งยากลําบากอะไรเลย
หากปีศาจชราเฮยเฟิงล่วงรู้ถึงจุดๆนี้ล่ะก็ มันอาจจะโมโหจนต้องการทําลายยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลเหล่านี้จนสิ้นซากก็ว่าได้
เมื่อยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง18ใบหลอมรวมเข้ามาในร่างกายของเซี่ยปิง ทันใดนั้นก็เกิดปฏิกิริยาเคมีเข้ากับยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง2ใบที่อยู่ภายในร่างกายของเขาทําให้พลังมังกรของพวกมันผสมผสานรวมกัน
ในขณะที่ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง46ใบหลอมรวมเข้าด้วยกัน มันก็ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลใหม่
หล่ง หล่ง หล่ง~
พลังอํานาจของมังกรสวรรค์บรรพกาลท่วมท้นเข้ามาภายในร่างกายของเซี่ยทิ้งทันที จิตศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าดวงของเขาก็ดูดกลืนพลังอํานาจมังกรที่บริสุทธิ์เหล่านี้เข้ามาอย่างละโมบ ราวกับเป็นดินแดนแห้งแล้งที่ดูดซับความชุ่มชื้นเข้ามา
พลังเวทมนตร์ภายในพื้นที่ราชวังสีม่วงทั้งเก้าแห่ของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
แม้แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เข้าใกล้สภาวะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ส่วนลึกในม่านตาของเขาก็เหมือนจะมีมังกรสวรรค์ที่บินโลดแล่นอยู่ลางๆ พลังมังกรที่น่าสะพรึงกลัวได้กระจายไปทั่วทั้งร่างกายของเขา บิดเบือนอากาศและทําให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
“อบอุ่นจริงๆ”
เซี่ยปิงก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของร่างกาย การที่ได้ครอบครองพลังมังกรและแก่นแท้พลังงานของยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง18ใบนี้มา มันทําให้พลังเวทมนตร์ของเขาพัฒนาไปอย่างมหาศาล ประหยัดระยะเวลาการควบแน่นพลังเวทมนตร์ได้นานหลายร้อยปี
นี่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมยิ่งกว่าการกินสมุนไพรวิญญาณหมื่นปีตั้งไม่รู้กี่เท่า
ทว่าการที่ต้องการจะครอบครองยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลมาก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเพราะว่าถึงอย่างไรมันก็กระจายอยู่ทั่วทั้งจักรวาล ไม่รู้ว่าตกหล่นอยู่ในที่ใด หรือว่าถูกครอบครองโดยสิ่งมีชีวิตใด แม้แต่การที่ต้องการจะตามหามันก็เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการครอบครองมันมาเลย
ทว่าการที่สามารถครอบครองยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลมาได้มากมายเช่นนี้ มันก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเซี่ยปิง
“ศีรษะ”
เซี่ยปิงมองไปที่ซากศพที่เละเทะของปีศาจชราเฮยเฟิงที่พื้น จากนั้นเขาก็โบกมือออกไป ทันใดนั้นก็ทําลายชิ้นส่วนทั้งหมดของซากศพนี้ หายไปอย่างสมบูรณ์ ทว่าก็หลงเหลือไว้เพียงแค่ศีรษะเท่านั้น
เหตุผลที่ยังหลงเหลือศีรษะอยู่นั้น เป็นเพราะว่าเขาต้องการที่จะแขวนศีรษะของปีศาจชราเฮยเฟิงไว้ที่หน้าประตูทางเข้าของคฤหาสน์หลังนี้ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เตือนปีศาจตัวอื่นๆในเมืองมรกตไม่ให้ท้าทายเขาเด็ดขาด
เชื่อว่าหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ ทั่วทั้งเมืองมรกตแห่งนี้ จะไม่มีใครที่ไม่รับรู้และจะไม่มีใครที่ไม่เข้าใจ