ตอนที่ 1823
เช้าตรู่วันต่อมา มีปีศาจจํานวนหนึ่งที่เดินผ่านหน้าคฤหาสน์ของเซี่ยปิง ทันใดนั้นก็ค้นพบว่าหน้าประตูทางเข้ามีศีรษะที่โชกไปด้วยเลือดห้อยอยู่ ศีรษะนี้ก็มีดวงตาที่เบิกกว้างอย่างมาก เหมือนกับจะตายตาไม่หลับ ทําให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกหวาดกลัวจนสั่นเทิ้ม
“เหตุใดศีรษะนี้ถึงได้ดูคุ้นตานัก เหมือนกับเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง?”
ปีศาจบางตัวที่นึกสงสัยอย่างมาก
“เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่คุ้นตา?!”
ปีศาจบางตัวที่กรีดร้องออกมา “นี่มันปีศาจชราเฮยเฟิงผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจ แม่เจ้านี่มันเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่อย่างแท้จริง ไม่คาดคิดว่าปีศาจชราเฮยเฟิงจะถูกฆ่าตายเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นฝีมือของเจ้าเศรษฐีอู๋ไท่โต่ว!”
สัญชาตญาณของมันกําลังบ่งบอกว่านี่เป็นเรื่องที่ใหญ่โตอย่างมกา
ปีศาจชราเฮยเฟิงคือใครกัน นี่คือตัวตนในระดับราชันปีศาจ อีกทั้งมันก็ยังดํารงตําแหน่งผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจซึ่งเป็นกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ในโลกปีศาจ นี่ส่งผลให้มันมีพลังอํานาจและอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น เพียงพอที่จะเทียบได้กับจ้าวเมืองของเมืองมรกต
ทว่าบุคคลเช่นนี้กลับถูกฆ่าตาย ศีรษะก็ถูกนํามาแขวนไว้ที่หน้าประตูคฤหาสน์ เห็นได้ชัดว่านี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากแค่ไหน เพียงพอที่จะทําให้ทั่วทั้งเมืองมรกตสั่นคลอนได้
“เร็ว รีบกระจายข่าวนี้ออกไป เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแล้ว มีมังกรดุร้ายที่ข้ามแม่น้ำมาสู่เมืองมรกตของพวกเรา”
ปีศาจตัวหนึ่งที่คํารามเสียงดังออกมา
ทันใดนั้นปีศาจจํานวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ตามท้องถนนก็เคลื่อนไหวออกไปทันที กระจายข่าวนี้ไปสู่มุมต่างๆของเมืองมรกต ทําให้กลุ่มอิทธิพลทั้งหมดในเมืองมรกตรับรู้ถึงเรื่องนี้
แน่นอนว่านั้นก็รวมถึงเรือนหมื่นปีศาจเช่นกัน
“ได้ยินไม่? ปีศาจชราเฮยเฟิงผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจได้ถูกสังหารไป หนําซ้ำศีรษะของมันยังถูกแขวนไว้ที่หน้าประตูคฤหาสน์”
“เรื่องนี้ข้าก็ได้ยินมา เป็นข่าวที่แพร่กระจายในช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันนี้ สําหรับเรื่องนี้ข้าก็ได้เดินทางไปดูด้วยตาตนเองเช่นกันและก็ได้เห็นสภาพการตายที่น่าสมเพชของปีศาจชราเฮยเฟิงจริงๆ ดวงตาของมันเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับ”
“เป็นจริงอย่างที่ว่า ข้าสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความเคียดแค้นที่หลงเหลืออยู่ที่ศีรษะนั้น แทบที่จะคืบคลานเข้ามาในจิตวิญญาณ หากเป็นผู้บ่มเพาะอ่อนแอที่เข้าไปใกล้ละก็ อาจจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาได้ เรียกได้ว่าสมกับที่เป็นยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่จริงๆ น่าสะพรึงกลัวทีเดียว”
“สังหารปีศาจ อีกทั้งยังแขวนศีรษะไว้ที่หน้าประตูคฤหาสน์ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ข่มขวัญผู้อื่นไม่ให้คิดทําตาม อันที่จริงนี่มันเกิดจากบาดหมางอันใดกัน?”
“ข้าได้ยินมาว่าเมื่อวานเจ้าอู๋ไท๋โต่วได้เข้าไปที่เรือนหมื่นปีศาจ ไม่คาดคิดว่าพนักงานของเรือนหมื่นปีศาจจะตาต่ำ มองเขาเป็นคนยากคนจน จากนั้นก็คิดที่จะรีดไถ่และฉ้อโกงเขา พยายามที่จะปรักปรําใส่ร้ายว่าเจ้าอู๋ไท๋โต่วขโมยสินค้า”
“เห็นได้ชัดว่าเจ้าอู๋ไท๋โต่วจะเดือดดาลแค่ไหน เขาได้เดินทางออกจากเรือนหมื่นปีศาจทันที จากนั้นก็ไปทําการค้าขายกับตําหนักปีศาจจิ้งจอกแทน นี่เป็นการตบใบหน้าปีศาจชราเฮยเฟิงฉาดใหญ่ ทําให้มันอดทนอดกลั้นไม่ได้ ดังนั้นความบาดหมางจึงปะทุขึ้นกลายเป็นเรื่องที่ยากเกินจะแก้ไข”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง นี่ก็เข้าใจได้ บอกตามตรงแม้แต่ข้าเองก็ถูกเรือนหมื่นปีศาจฉ้อโกงไปหลายครั้งหลายครา รู้สึกเคียดแค้นเช่นกัน หากไม่ใช่เป็นเพราะว่าเรือนหมื่นปีศาจมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่นั้น พ่อก็คงจะฆ่าล้างพวกมันไปแล้ว ตอนนี้เมื่อพวกมันได้พบกับปีศาจที่โหดเหี้ยม ผู้ปกครองของพวกมันจึงถูกสังหารไปโดยตรง นี่ก็เป็นผลกรรมที่พวกมันสมควรได้รับ”
“อันที่จริงเจ้าอู๋ไท๋โต่วนเป็นบุคคลประเภทใดกัน ช่างอาจหาญอย่างถึงที่สุด แม้แต่ปีศาจชราเฮยเฟิงก็กล้าสังหาร นี่เขาไม่เกรงกลัวการล้างแค้นจากเรือนหมื่นปีศาจเลยหรือ? ต้องรู้ด้วยว่าอิทธิพลของเรือนหมื่นปีศาจแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกปีศาจ”
“อาจจะไม่มีความจําเป็นที่จะต้องเกรงกลัว เจ้าไม่เห็นการกระทําของเจ้าอู๋ไท๋โต่วเมื่อวานหรือใช้จ่ายเงินอย่างทิ้งขว้าง เงินหนึ่งพันล้านเหรียญปีศาจก็ใช้จนหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว ปีศาจเช่นนี้มีที่ไหนที่จะมีภูมิหลังที่ธรรมดา บางทีอาจจะมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเรือนหมื่นปีศาจเสียอีก”
“ฮ่าฮ่า อันที่จริงตอนนี้มีเรื่องสนุกให้พวกเรารอรับชมแล้ว เป็นการต่อสู้ที่ถึงพริกถึงขิงและสมศักดิ์ศรีระว่างทั้งสองฝ่าย
“อันที่จริงข้าก็ต้องการให้เรือนหมื่นปีศาจเผชิญกับความสิ้นหวังเช่นกัน เจ้าพวกบัดซบเหล่านั้นได้ฉ้อโกงผู้คนมามากมาย มีน้อยมากในเมืองมรกตที่จะไม่เคยถูกฉ้อโกงโดยพวกมัน เป็นร้านค้าที่ใจดําอํามหิตอย่างแท้จริง”
ปีศาจจํานวนนับไม่ถ้วนของเมืองมรกตก็กําลังสละเวลาของตนเองเพื่อพูดคุยถึงเรื่องการตายของปีศาจชราเฮยเฟิง
ปีศาจส่วนใหญ่ต่างก็ปรบมือและโห่ร้องดีใจ มีความสุขกับความทุกข์ของเรือนหมื่นปีศาจ เพราะว่าพวกมันก็เคยถูกเรือนหมื่นปีศาจฉ้อโกงไปเช่นกัน เรียกได้ว่ากลายเป็นความเดือดดาลของสาธารณะ
ณ ตําหนักปีศาจจิ้งจอก
“อะไรนะ? เจ้ากําลังบอกว่าเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงนั่นถูกสังหาร หนําซ้ำศีรษะของมันก็ถูกนําไปแขวนไว้ที่หน้าคฤหาสน์อย่างนั้นรึ?”
เดิมที่ฮู่ซานเหนียงที่เพิ่งตื่นขึ้นมา มีท่าทางที่สะลึมสะลือ เกียจคร้านอย่างมาก ทว่าเมื่อได้ยินขาวนี้ เธอก็กระโดดโหยงขึ้นมาจากเตียงนอนพร้อมกับเผยสีหน้าที่ตกใจ
ไม่มีใครที่จะรู้จักเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงไปมากกว่าเธอแล้ว การที่ทั้งสองเป็นศัตรูคู่อริกันมานาน เธอก็ย่อมรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเจ้าเล่ห์ ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีพลังอํานาจที่ไม่อาจมองข้ามได้ บนตัวก็มีสมบัตินับไม่ถ้วน แม้แต่ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ไม่อาจสังหารมันได้
ทว่าตอนนี้ข่าวที่แพร่กระจายออกมา บอกว่าปีศาจชราเฮยเฟิงถูกสังหารไปแล้วนั้น เธอก็ไม่อยากที่จะเชื่อข่าวนี้
“ท่านจ้าวตําหนัก ข่าวนี้ถูกต้อง ข้าน้อยได้เดินทางไปยืนยันเรื่องนี้ด้วยตนเอง เป็นศีรษะของเจ้าปีศาจชราเฮยเฟิงจริงๆ พลังฉีปีศาจที่แผ่ออกมาจากศีรษะนั้น ต่อให้จะกลายเป็นเถ้าถ่านข้าน้อยก็ยังจดจําได้”
ปีศาจจิ้งจอกตัวหนึ่งที่กล่าวอย่างมั่นใจ สาบานต่อฟ้าดิน
“นี่มันเป็นไปไม่ได้”
ฮู่ซานเหนียงก็ยังคงไม่อยากเชื่อ “ หากเกิดการต่อสู้กันเมื่อคืน การต่อสู้ในระดับยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ก็จะต้องสร้างคลื่นผันผวนที่รุนแรงออกมา ทั่วทั้งเมืองมรกตจะต้องสัมผัสได้ถึงการต่อสู้นี้ถึงจะถูก ทว่าทําไมเมื่อคืนมันถึงได้เงียบสงบยิ่งนัก ไม่อาจสัมผัสได้ถึงคลื่นผันผวนใดๆ? นี่มันดูไม่เหมือนว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่เลย”
“นี่ก็ไม่แน่ชัด เป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีวิธีการบางอย่างในการปกปิดคลื่นผันผวนจากการต่อสู้ ทําให้บุคคลภายนอกไม่สามารถตรวจจับได้”
ปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นก็ส่ายหัว
“ดูเหมือนว่าจะต้องประเมินเจ้าอู๋ไท๋โต่วนี้ใหม่”
ฮู่ซานเหนียงมีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมา “ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงแค่ลูกล้างผลาญของตระกูลที่ร่ำรวย ไม่คาดคิดว่าจะโหดเหี้ยมจนถึงขั้นนี้ สังหารปีศาจชราเฮยเฟิงโดยที่ไร้ร่องรอยและไร้เสียง วิธีการเช่นนี้น่าสะพรึงกลัวจริงๆ ถ่ายทอดคําสั่งของข้าออกไป ส่งคนไปมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับเจ้าอู๋ไท๋โต่วทันที แสดงความยินดีกับการขึ้นบ้านใหม่ของอู๋ไท๋โต่ว”
เธอตัดสินใจที่จะมอบของขวัญเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง พัฒนาความสัมพันธ์ต่อกัน
บางทีครั้งนี้เธออาจจะได้เกาะต้นขาทองคํา
ณ เรือนหมื่นปีศาจ
ในเวลานี้ ปีศาจจํานวนมากกําลังเดือดดาล ไม่สามารถยับยั้งความโมโหของตนเองได้
“เจ้าอู๋ไท๋โต่วนั่นช่างกล้าหาญยิ่งนัก อาจหาญอย่างถึงที่สุด แม้แต่ผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจของข้าก็กล้าสังหาร นี่เป็นการที่เขานําพาภัยพิบัติไปสู่ตนเอง” ปีศาจตัวหนึ่งที่เอ่ยออกมาอย่างควบคุมตนเองไม่ได้
“ฆ่าเขาซะ ฆ่าเจ้าอู๋ไท๋โต่วนั่นทันที ตัดหัวของเขามา สังหารครอบครัวของเขา ฆ่าล้างทั้งตระกูล ล้างแค้นให้กับท่านเฮยเฟิง” ปีศาจจํานวนมากก็ตะโกนออกมาอย่างโมโห จิตสังหารกําลังเดือดดาล
เป็นระยะเวลานานแค่ไหนแล้ว เป็นระยะเวลานานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ปกติแล้ว มีเพียงแค่เรือนหมื่นปีศาจของพวกมันที่รังแกผู้อื่น ฆ่าล้างทั้งตระกูล ไม่มีเคยมีปีศาจตัวใดที่กล้าท้าทายพวกมันเรือนหมื่นปีศาจ พวกมันจึงอาละวาดอย่างอิสระในหลายปีมานี้จนคุ้นชิน ราวกับเป็นเผด็จการท้องถิ่น
ต่อให้สาธารณะจะเดือดดาลกับการฉ้อโกงของพวกมัน ก็ยังไม่มีปีศาจตัวใดที่กล้าเข้ามาท้าทายเรือนหมื่นปีศาจของพวกมัน
ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีปีศาจตัวหนึ่งที่กล้าสังหารผู้นําของพวกมันโดยตรง สังหารผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจ อีกทั้งยังแขวนศีรษะของผู้ปกครองเรือนหมื่นปีศาจไว้ที่หน้าคฤหาสน์ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การฆาตกรรมทั่วๆไปเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าต้องการจะแสดงให้เห็นถึงอํานาจบารมีของตนเอง เชือดไก่ให้ลิงดู ทว่าการกระทําเช่นนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นประกาศสงครามกับพวกมันเรือนหมื่นปีศาจ!
หากไม่ทําการล้างแค้นล่ะก็ ในอนาคตพวกมันเรือนหมื่นปีศาจจะมีหน้าออกไปพบใครอีก? จะมีปีศาจที่ยังเกรงกลัวและเคารพนับถือพวกมันเรือนหมื่นปีศาจอีกหรือ?!
“ทุกๆคนสบายใจได้”
ผู้ที่พูดออกมานี้ก็คือรองผู้ปกครองของเรือนหมื่นปีศาจ “เรื่องนี้ข้าได้รายงานสํานักงานใหญ่ไปแล้ว บอกให้พวกเขาส่งยอดฝีมือระดับสูงมาเพื่อจัดการเรื่องนี้ รอให้ยอดฝีมือของทางสํานักงานใหญ่มาถึง ทันใดนั้นก็จะบดขยี้เจ้าปีศาจบัดซบที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงนั่นได้ทันที ล้างแค้นให้กับท่านเฮยเฟิง ไม่มีปีศาจตัวใดที่สังหารคนของเรือนหมื่นปีศาจแล้วจะมีชีวิตอยู่รอดได้ ไม่มีวันที่จะได้อยู่เย็นเป็นสุข!”
มันกําหมัดขึ้นมาและแสดงสีหน้าที่ดุร้าย
ปีศาจจํานวนมากของเรือนหมื่นปีศาจก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที