ตอนที่ 1901
“มีค่ายกลยับยั้งที่ถูกติดตั้งไว้ที่นี่ด้วยรึ? เหตุใดพวกเราถึงตรวจจับมันไม่ได้?”
“ใช่ ก่อนหน้านี้ข้าก็ใช้จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์สํารวจไปทั่วทั้งบริเวณ ทว่ากลับไม่พบสิ่งใด มีเพียงแค่ฝันอวกาศเท่านั้น”
“ยิ่งไปกว่านั้นการที่สามารถทําลายพลังอํานาจของทั้งสามกลุ่มอิทธิพลได้ ค่ายกลที่ทรงพลังเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏขึ้นมาอย่างไร้ร่องรอย
“กล่าวได้เพียงว่าค่ายกลที่เจ้าอู๋ตี่ติดตั้งไว้อยู่ในระดับที่สูงเกินไป บรรลุระดับที่ผู้บ่มเพาะทั่วๆไม่สามารถจินตนาการได้ ดังนั้นจึงส่งผลให้ค่ายกลไร้ร่องรอยเช่นนี้ ไม่สามารถที่จะตรวจจับได้”
ผู้คนที่อยู่รอบๆก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมา พวกเขาก็คาดเดากันมาก่อนแล้วว่าเจ้าอู๋ตี่จะต้องติดตั้งกับดับไว้ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้ประหลาดใจกับเรื่องนี้นัก ทว่าเมื่อเห็นเจ้าอู๋ตี่กระตุ้นพลังอํานาจของค่ายกลขึ้นมาอย่างไร้ที่มาที่ไปเช่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่ทําให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก คิดว่าเจ้าอาชญากรระดับจักรวาลที่โด่งดังผู้นี้มีความสามารถที่สมกับคําร่ําลือจริงๆ
“อู๋ตี่ จริงอยู่ที่เจ้าก็มีฝีมืออยู่เหมือนกัน ทว่าเจ้าจะสามารถต้านทานเผ่าพันธุ์เทวดาของข้าได้รี?!”
ทันใดนั้น กลุ่มอิทธิพลอีกกลุ่มก็ปรากฏขึ้นมาในผืนอวกาศนี้ พวกเขาเป็นกลุ่มของเทวดานั่นเอง แสงสีขาวเปล่งประกายออกมา แผ่นหลังมีปีกคู่หนึ่ง ดูศักดิ์สิทธิ์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะลงมือโจมตีเซียปิงอย่างฉับพลัน ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย
“การลงทัณฑ์แห่งเทวดา ชำระล้างบาป!”
เทวดาจํานวนมากก็แสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของตนเองออกมา พวกเขาต่างก็แทงหอกยาวในมือ ลําแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวได้พุ่งทะลวงออกไป
ลําแสงเหล่านี้คือลําแสงแห่งการลงทัณฑ์ของเผ่าพันธุ์เทวดา มีพลังอํานาจที่ไร้ขีดจํากัด หากเป็นผู้คนธรรมดาที่เผชิญกับการโจมตีนี้ จิตศักดิ์สิทธิ์จะดับสลายไปอย่างกะทันหัน หายไปจากโลกนี้ บาปทั้งหมดถูกชําระล้างไป
ลําแสงแห่งการลงทัณฑ์นี้ก็ปรากฏขึ้นมานับหมื่นเส้น พื้นที่ในระยะหลายพันกิโลเมตรเหมือนจะเปลี่ยนกลายเป็นโลกสีขาวบริสุทธิ์ ความมืดมิดทั้งหมดถูกขจัดออกไป เหมือนกับว่าพื้นที่บริเวณนี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นสรวงสวรรค์
ส่วนลึกของความว่างเปล่าก็เหมือนจะมีเทวดาจํานวนนับไม่ถ้วนที่สวดพระคัมภีร์บูชาสรรเสริญเทพเจ้า
“เจ้าปีศาจร้าย เจ้าสังหารพระอาจารย์เจี้ยอูบุคคลสําคัญในทางพระพุทธศาสนาของข้า พวกเราไม่มีวันให้อภัยเจ้าเด็ดขาด!”
ในอีกฝั่งหนึ่ง กลุ่มยอดฝีมือทางพระพุทธศาสนาก็มาถึงที่นี่เช่นกัน แสงพระพุทธสาดส่อง มีเป็นจํานวนนับพันคน แต่ละคนหัวโล้นอย่างเห็นได้ชัด ข้างหลังศีรษะของพวกเขาก็มีวงแหวนแห่งปัญญาสีทองที่ปรากฏขึ้นมา
ในตอนนี้พวกเขาก็มองเห็นสภาพของพระเจี้ย ถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็ง ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร นี่ก็ทําให้พวกเขาโมโหขึ้นมาทันที ต้องการที่จะสังหารเจ้าคนบาปนี้ให้ได้
“พระอรหันต์ขับไล่ปีศาจ พระพุทธเจ้าถือกําเนิด!”
เห็นเพียงแค่ว่ายอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาต่างก็เคลื่อนไหวออกมา แผ่นหลังมีเทวรูปพระสงฆ์ที่ปรากฏขึ้น แสงสีทองส่องสว่างไปทั้งสี่ทิศทาง บทสวดทางพระพุทธศาสนาปรากฏขึ้น สามารถกําราบสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดทั้งมวล
ภายใต้พลังอํานาจนี้ ไม่ว่าจะเป็นพลังอํานาจด้านมืดใดๆก็จะต้องถูกชําระล้างไป ในขณะเดียวกันมันก็แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจของผนึกระดับสุดยอด กลุ่มของพระผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ดูเหมือนว่าจะต้องการปิดผนึกเซี่ยบังไว้
ผู้คนที่อยู่รอบๆก็จ้องมองอย่างตื่นตะลึง พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของบทสวดทางพระพุทธศาสนาเหล่านี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้า ก็จะต้องถูกผนึกแกนพลังฉีอย่างกะทันหัน ทําให้กลายเป็นตัวตนที่ไร้พิษภัย ไร้ซึ่งพลังอํานาจ
นี่ก็คือความน่าสะพรึงกลัวของพระพุทธศาสนา ทักษะการปิดผนึกของพวกเขาเรียกได้ว่าอยู่ในระดับสุดยอดของโลก อีกทั้งยิ่งแกนพลังฉีของศัตรูผู้นั้นแอบแฝงไปด้วยความชั่วร้ายแค่ไหน พลังอํานาจของผนึกก็จะยิ่งทรงอํานาจมากขึ้นเท่านั้น สามารถที่จะปิดผนึกได้อย่างง่ายดาย
ว่ากันว่าภายในวัดลุ่ยอิมซึ่งก็คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนานั้น มีหอคอยจองจําปีศาจอยู่ กักขังสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายจํานวนนับไม่ถ้วนของจักรวาลไว้ ด้วยการสวดมนตร์และปลุกเสกของพระผู้อาวุโสเหล่านี้ พลังชั่วร้ายก็ถูกชําระล้างทั้งวันทั้งคืน
“ฮ่าฮ่า อู๋ตี่ ดูเหมือนว่าความตายของเจ้าจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม การที่ท้าทายนิกายประตูจันทราโบราณของข้า นิกายสวรรค์ชั้นฟ้า นิกายบัญชาสวรรค์ เจ้าคงจะไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การซ้ําเติมผู้อื่นในขณะที่ล้มอยู่ จงยอมตายแต่โดยดีเถอะ”
เสียงปังดังขึ้นมา ผืนอวกาศที่ห่างออกไปก็มีสามกลุ่มอิทธิพลปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกเขาคือนิกายระดับเซนต์ที่มาจากทางเหนือของจักรวาล อย่างน้อยแต่ละคนก็มีแกนพลังฉีอยู่ในระดับกฏเทวรูปขั้นสูงสุด และมากกว่าครึ่งก็เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้า
เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่และเห็นว่าเชียปิงถูกห้อมล้อมโดยผู้คนจํานวนมาก ทันใดนั้นก็มีความสุขขึ้นมาทันที ต้องการซ้ําเติมผู้อื่นในขณะที่ล้มอยู่ เริ่มลงมืออย่างรวดเร็ว
ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่จํานวนมากก็ปรากฏขึ้นมาตามๆกัน มีเป็นจํานวนนับหมื่น ทุกซอกทุกมุมของผืนอวกาศเต็มไปด้วยพลังงานที่น่าสะพรึงกลัว แม้แต่พระอาทิตย์ก็ไม่สามารถต้านทานพลังอํานาจเช่นนี้ได้ จะต้องระเบิดออกมาโดยตรง
“เวรเอ๊ย อันที่จริงเจ้าอู๋ตี่นี่สร้างศัตรูไว้มากมายเพียงใดกัน? ก่อนหน้านี้ก็มีตระกูลปีศาจสายฟ้า นิกายหมื่นพิษและนิกายสวรรค์เบื้องบนที่ต้องการสังหารเขา ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีเผ่าพันธุ์เทวดา เผ่าพันธุ์อรหันต์ นิกายประตูจันทราโบราณ นิกายสวรรค์ชั้นฟ้าและนิกายบัญชาสวรรค์ซึ่งเป็นนิกายระดับเซนต์ในทางเหนือของจักรวาล ไม่คาดคิดว่ากลุ่มอิทธิพลทั้งหมดนี้จะต้องการร่วมมือกันเพื่อสังหารเจ้าอู๋ตี่เพียงคนเดียว” บางคนที่ตกตะลึงจนตาค้าง เขาก็เคยเห็นอาชญากรมาก่อน เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายมานับไม่ถ้วน ทว่าก็ไม่เคยเห็นปีศาจร้ายที่เป็นที่จงเกลียดจงชังเช่นนี้ ราวกับว่าทั่วทั้งจักรวาลเป็นศัตรูของเขา มีศัตรูปรากฏตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
แต่ละกลุ่มอิทธิพลที่ปรากฏขึ้นมา เพียงแค่มองก็ทําให้เขาเสียวสันหลังวาบแล้ว
หากเขาเป็นอู๋ตี่ล่ะก็ บางทีก็คงจะรู้สึกสิ้นหวังจนปลิดชีวิตตนเองไปแล้ว มีที่ไหนที่จะรอจนถึงตอนนี้
“ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก็รู้เพียงแค่ว่าเจ้าเด็กนี่เป็นที่จงเกลียดจงชังของทั้งมวลมนุษย์และ พระเจ้า”
กลุ่มของผู้คนก็พูดอะไรไม่ออก พวกเขาคิดว่าเจ้าอู๋ตี่นี่เป็นตัวตนของหายนะโดยแท้ ท้าทายคนอื่นๆไปทั่ว ราวกับว่าทั่วทั้งจักรวาลไม่มีมิตรสหายของเขาแม้แต่คนเดียว
“มากันแล้วรึ? ถ้าอย่างนั้นก็ตายไปด้วยกันเลย จงตกอยู่ในภวังค์ภาพลวงตา!”
เมื่อเห็นศัตรูจํานวนมากที่ปรากฏตัวขึ้นมา เซียปิงก็ไม่ได้สะทกสะท้านใดๆ มือของเขาโบกออกไป ทันใดนั้นค่ายกลจํานวนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมารอบๆตัวเขาทันที ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหนึ่งพันล้านกิโลเมตร
ค่ายกลแรกที่ปรากฏขึ้นมาคือค่ายกลดอกพีชลวงตา ดอกพีชกระจายไปทั่วทั้งผืนอวกาศ ไม่มีใครรู้ว่ามีเป็นจํานวนมากแค่ไหน อยู่รวมกันอย่างแน่นขนัด ในขณะเดียวกันต้นพีชก็บานสะพรั่งอย่างเต็มที่และเต็มไปด้วยกลีบดอกสีชมพู กระจายไปรอบๆ เหมือนกับว่าจะเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งดอกพีช กลิ่นหอมโชยออกมา
ผู้บ่มเพาะจํานวนมากก็ตกอยู่ในอํานาจของค่ายกลนี้ทันที รู้สึกว่าขาดการติดต่อกับผู้คนรอบๆตกอยู่ในภวังค์ภาพลวงที่ไร้ที่สิ้นสุด ต่อให้จะใช้จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งต่างๆรอบตัวได้ เหมือนกับว่ากลิ่นหอมของดอกพืชมีสรรพคุณในการบิดเบือนจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์
ค่ายกลที่สองก็คือค่ายกลไหลเวียนดวงดารา!
เห็นเพียงแค่ว่าเหนือดอกพีชมากมายนั้น มีกลุ่มดาวจํานวนมากที่ปรากฏขึ้นมา อย่างน้อยก็มีกว่าหลายร้อยล้านดวง ทุกๆที่ต่างก็มีดวงดาวปรากฏอยู่ เปล่งแสงสีครามออกมาเป็นแสงสว่างสดใส
พลังอํานาจของดวงดาวแต่ละดวงก็ปะทุออกมา ราวกับเป็นการระเบิดของดวงดาวก็ว่าได้ การโจมตีของเผ่าพันธุ์เทวดา กลุ่มพระพุทธศาสนา นิกายประตูจันทราโบราณ นิกายสวรรค์ชั้นฟ้า นิกายบัญชาสวรรค์และกลุ่มอิทธิพลอื่นๆต่างก็สลายหายไปอย่างกะทันหัน เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มของพลัง
“บัดซบ พวกเราหลงกลแล้ว นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของเจ้าเด็กนี่ ใช้ค่ายกลภาพลวงตาแบ่งแยกพวกเราออกจากกัน จากนั้นก็ตามเก็บกวาดที่ละกลุ่ม!” บางคนที่มองทะลุถึงเป้าหมายของอู๋ตี่ในทันที
ในค่ายกลภาพลวงตานี้ เหมือนอยู่ใกล้กับกลับอยู่ไกล ต่อให้ระยะห่างจะใกล้กันมากแค่ไหน ทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถสัมผัสถึงกันและกันได้
“เวรเอ๊ย เป็นค่ายกลภาพลวงตาที่ทรงพลังยิ่งนัก เกือบที่จะบรรลุระดับสูงสุด ปิดบังความจริง แม้แต่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาของข้า-ตาทิพย์ก็ยังไม่สามารถมองทะลุภา พลวงตานี้ได้!”
ยอดฝีมือทางพระพุทธศาสนาคนหนึ่งก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวไป ตาทิพย์ของเขามักที่จะมองทะลุภาพลวงตาได้ทุกประเภท ทว่าตอนนี้กลับถูกค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้บดบังไว้ไม่สามารถที่จะมองทะลุไป
ทว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก
เพราะว่าค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้เป็นการที่เซี่ยงดัดแปลงพัฒนามาจากทักษะภาพลวงตาเสมือนจริง เป็นค่ายกลที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจากการผสมผสานความรู้มากมายในด้านค่ายกลของเขา ขาดอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็จะบรรลุในระดับที่ลึกซึ้ง
ซึ่งความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆไปไม่สามารถที่จะมองทะลุมันได้
นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าทักษะภาพลวงตาเสมือนจริงร้ายกาจเพียงใด ไม่ใช่ทักษะธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน!
“นี่ไม่ใช่ปัญหา ข้าเป็นผู้บ่มเพาะทักษะกระแสจิต สามารถที่จะถ่ายทอดข้อความผ่านทางจิตได้ ติดต่อกับผู้คนรอบๆ ต่อให้ค่ายกลนี้จะสามารถปิดกั้นจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ ทว่าก็ไม่สามารถขัดขวางการสื่อสารทางกระแสจิตของข้าได้”
พระผู้อาวุโสอีกคนแสยะออกมา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านทักษะกระแสจิต