“สบายใจได้ ข้าก็เป็นคนที่มีศีลธรรมเช่นกัน ไม่ได้คิดที่จะหลอกลวงทุกคน”
เซี่ยปิงตบหน้าอกของตนเอง บ่งบอกว่าตนเองนั้นก็มีศีลธรรมอยู่
“ขอบคุณ ข้ารู้สึกสบายใจขึ้นมาก”
เจียเอ่อหม่ากัดมุมปาก ไม่รู้ว่าทำไมในขณะที่เขารู้สึกสบายใจขึ้นมานั้น เขาก็ยังคงรู้สึกอึดอัดใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน ตามคำพูดเช่นนี้นั้น มันเป็นการบ่งบอกว่าเขานั้นไม่มีคุณค่าพอให้หลอกลวงหรือไม่?!
ทว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลว่าตนเองจะถูกหลอกลวงจนไม่หลงเหลือแม้กระทั่งเส้นผมอีกต่อไป
“จากนี้พวกเราควรทำอย่างไรต่อไป?”
เจียเอ่อหม่าถามความเห็นของเซี่ยปิงอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ในตอนนี้เซี่ยปิงเป็นผู้นำแล้ว บุคคลที่ร้ายกาจเช่นนี้ เขาไม่กล้าที่จะท้าทายอีกต่อไป
“จัดงานแถลวงข่าวขึ้นมา เรื่องการตีพิมพ์หนังสือนี้จะต้องกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครรู้ว่าหนังสือดีๆกำลังจะออกวางขาย ใครจะไปรู้กันว่าเจ้าทำอะไรหากไม่โฆษณาออกไป”
เซี่ยปิงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
แถลงข่าว?!
เจียเอ่อหม่ามีสีหน้าที่แปลกประหลาด นักต้มตุ๋นนี่ต้องการที่จะจัดงานแถลงข่าวและทำให้ตนเองโดดเด่นขึ้นมา ทว่าสิ่งนี้ก็สอดคล้องกับความคิดของเขาเช่นกัน การที่ต้องการจะขายหนังสือให้ได้มากนั้น แน่นอนว่าต้องทำการโปรโมทโฆษณา ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องทำการเผยแพร่อย่างจริงจัง
“ไม่ทราบว่าจะตั้งราคาของหนังสือเล่มนี้ไว้ที่เท่าไหร่?”
เจียเอ่อหม่าถามขึ้นมา
“หนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลต่อเล่ม” เซี่ยปิงตอบกลับไปทันทีโดยที่ไม่คิดด้วยซ้ำ
อะไรนะ?!
เจียเอ่อหม่าสะดุ้งตกใจ หนังสือปกติทั่วไปนั้นจะมีราคาอยู่ที่ประมาณห้าเหรียญจักรวาลต่อเล่ม หากเป็นหนังสือที่มีระดับขึ้นมาก็จะมีราคาอยู่ที่10-20เหรียญจักรวาล หนังสือที่มีราคาถึงหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลนั้นเป็นราคาที่สูงจนเกินจริงก็ว่าได้
เขาต้องการที่จะถามว่าทำไมราคาถึงได้แพงเช่นนี้ ทว่าหลังจากที่คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ หนังสือเล่มนี้ก็มีมูลค่าที่น่าอัศจรรย์ ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของเคล็ดลับการหลอกลวง หากผู้คนตั้งใจอ่านและศึกษามันล่ะก็ จะต้องได้รับความรู้ที่คุ้มค่าไปอย่างแน่นอน
นี่คือคุณค่าทางปัญญาที่มีมูลค่ากว่าเงินหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาล
หนังสือเล่มนี้อาจจะมีราคากำหนด ทว่าความรู้ภายในนั้นประเมินค่าไม่ได้
“เอาล่ะ เข้าใจแล้ว” เจียเอ่อหม่าได้กลืนคำพูดที่จะพูดออกมาลงไปในท้องทั้งหมด จากนั้นเขาก็ได้กลับไป เริ่มที่จะดำเนินการ จัดการเรื่องการแถลงข่าว ทำการโปรโมทและโฆษณาต่างๆนาๆ
……….
หลังจากนั้นหนึ่งวัน ข่าวเรื่องการที่นักต้มตุ๋นที่ยิ่งใหญ่อู๋ตี่วางแผนที่จะจัดงานแถลงข่าวและถึงขั้นตีพิมพ์หนังสือขึ้นมานั้นก็ได้กระจายไปทั่วทั้งอาณาเขตดวงดาวทั้งห้าที่นิกายเมฆาทะยานปกครองอยู่ ทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนล่วงรู้อย่างกะทันหัน
โดยเฉพาะผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นนั้นต่างก็ช็อกไปตามๆกัน เพราะว่าสถานที่จัดงานแถลวงข่าวนั้นคือร้านอาหารที่หรูหราซึ่งอยู่ภายในเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นแห่งนี้ เมื่อถึงเวลานั้นนักข่าวและนักอ่านมากมายจะได้รับเชิญให้เข้ามาร่วมงาน
“เวรเอ๊ย ไม่คาดคิดว่าเจ้านักต้มตุ๋นบัดซบนี่จะกล้าปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการปรากฏตัวที่เปิดเผยและไม่เกรงกลัว จัดงานแถลวงข่าวอย่างไร้ยางอาย ทำไมเขาถึงไม่ตายไปสักที!”
ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นได้สาปแช่งออกมาทันที สีหน้าของเขานั้นโมโหอย่างมาก เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกเซี่ยปิงฉ้อโกงไป เขานั้นปรารถนาที่จะจับตัวเซี่ยปิงมาอัดอย่างป่าเถื่อนทันที
“เดิมทีข้าก็คิดว่าการที่เจ้าบัดซบนั่นได้ฉ้อโกงเงินไปมากมาย เขาก็คงจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะกล้าปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งยังต้องการที่จะตีพิมพ์หนังสือออกมา” บางคนที่กัดฟันพูด “บัดซบ ท้ายที่สุดแล้วเป็นหนังสืออะไรกัน เขาต้องการที่จะเปิดเผยถึงเรื่องราวของการฉ้อโกงเงินพวกเราไปอย่างนั้นหรือ?”
เขานั้นเกลียดชังเจ้าบัดซบอู๋ตี่นี่อย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่หลอกลวงเงินของพวกเขาไปเท่านั้น ทว่าตอนนี้กลับต้องการที่จะราดเกลือลงบนบาดแผลของพวกเขา มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่น
อีกทั้งยังต้องการที่จะใช้เรื่องนี้ในการแสวงหาผลกำไรให้กับตนเอง สามารถที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเงิน ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย
“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เขาได้เผยแพร่หนังสือออกมาอย่างแน่นอน”
บางคนที่คำรามออกมา “หลอกลวงเงินของพวกเราไปมากเช่นนี้ ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะต้องการตีพิมพ์หนังสืออกมาเพื่อหาเงินให้กับตนเอง ผันตัวไปเป็นนักเขียน ลืมเลือนความผิดของตนเอง บนโลกมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?!”
“ในฐานะนักต้มตุ๋น ไม่คาดคิดว่าจะกล้าเผยตัวออกมาเช่นนี้ ช่างยโสโอหังจริงๆ เห็นเหยื่ออย่างพวกเราเป็นมดปลวกที่สามารถบี้ได้ง่ายๆหรือ? นี่คิดว่าไม่มีใครที่จะสามารถทำอะไรเขาได้จริงๆหรือ?!”
ปอดของเขาเกือบที่จะระเบิดออกมา เดิมทีคิดว่าการที่ได้ยินข่าวของอู๋ตี่อีกครั้งนั้น คงจะเป็นข่าวที่เจ้านักต้มตุ๋นบัดซบนี่ถูกจับตัว ทว่ามีที่ไหนที่จะคิดได้ว่าเจ้านี่วางแผนที่จะตีพิมพ์หนังสือออกมา อีกทั้งยังต้องการที่จะจัดงานแถลงข่าว
ทำเหมือนกับว่าตนเองเป็นดารา เป็นนักแสดงดัง อีกทั้งยังเชิญชวนผู้สื่อข่าวและนักข่าวมากมายเพื่อมาทำการสัมภาษณ์เขา นักต้มตุ๋นประเภทใดกันที่จะเปิดเผยตัวเองเช่นนี้?
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็คงจะเป็นการที่แสวงหาผลกำไรให้กับตนเอง เขานั้นปรารถนาที่จะจับตัวเจ้าเซี่ยปิงมาอัดอย่างป่าเถื่อนทันที
“จัดงานแถลงข่าวตูดข้าสิ กล้าที่จะมาหาพวกเราถึงที่นี่ พวกเราจะจะต้องทำลายงานแถลงข่าวของเขา”
“พูดถูก เจ้าเด็กนี่ยโสโอหังอย่างที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ไม่คาดคิดว่าจะกล้าปรากฏตัวขึ้นมาที่เมืองตะวันออกอันไกลโพ้นอีกครั้ง”
“พี่น้องทุกคน เขานั้นไม่ได้เห็นเหยื่ออย่างพวกเราอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เจ้านักต้มตุ๋นนี่ยโสโอหังอย่างที่ไม่สนใจใครจริงๆ หากครั้งนี้พวกเราไม่ได้ให้บทเรียนที่ลึกซึ้งแก่เขา แม้แต่คนโง่เขลาก็จะพูดจาดูถูกพวกเราได้”
“ใช่ พวกเราจะต้องทำลายงานแถลงข่าวของเขา หากเป็นไปได้ก็จับตัวเขามา บีบบังคับให้เขาคืนเงินทั้งหมดของพวกเรา”
ผู้คนจำนวนมากต่างก็ตะโกนออกมา ดูเหมือนว่าจะเป็นความปั่นป่วนของสาธารณะ
“ทว่านี่คือเมืองภายในโลกเสมือนจริง ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นเขตพื้นที่ปลอดภัย พวกเราไม่สามารถที่จะจัดการอะไรกับเขาได้ อีกทั้งหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป มันจะเป็นพวกเราเองที่เผชิญกับความโชคร้าย”
บางคนที่พูดออกมาอย่างไร้หนทาง
หากนี่เป็นโลกแห่งความเป็นจริง พวกเขาจะสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจับตัว การอัดอย่างป่าเถื่อนหรือการขโมยเงินทั้งหมดกลับมา
แต่ปัญหาก็คือนี่เป็นโลกเสมือนจริง มีกฎระเบียบข้อบังคับอยู่ การที่ต้องการจะสร้างปัญหานั้น จะถูกขับไล่ออกไปทันทีและอาจจะถูกลงโทษไม่ให้ล็อกอินเข้ามาได้
เรียกได้ว่าเจ้าอู๋ตี่นั่นได้คาดการณ์ถึงจุดๆนี้ไว้แล้ว เขาจึงไร้ซึ่งความเกรงกลัวและไม่ได้เป็นกังวลว่าจะเกิดปัญหาใดๆขึ้น
“ทุกๆคนคิดว่าการที่เจ้านักต้มตุ๋นนี่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังประกาศตัวเองออกมานั้น เขาจะมีแผนการอะไรอยู่หรือไม่? เขาอาจจะมีความคิดที่ชั่วร้ายอยู่ กำลังวางแผนทำการฉ้อโกงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหรืออาจะวางแผนที่จะหลอกลวงพวกเราให้ร่วมมือในเกมส์การเดิมพันของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปได้” บางคนที่พูดออกมาอย่างตื่นตัว เขานั้นเกรงกลัวว่าการปรากฏตัวของเซี่ยปิงในตอนนี้นั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ชั่วร้าย
“จะต้องเกรงกลัวอะไรกัน ตราบใดที่พวกเราไม่มอบเงินให้ พวกเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสีย”
“ใช่ ครั้งนี้พวกเราจะต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลอกลวงพวกเราได้อีก”
“การฉ้อโกงพวกเราไปหนึ่งครั้ง ทว่าต้องการที่จะฉ้อโกงพวกเราอีกเป็นครั้งที่สองนั้น ช่างเพ้อฝันสิ้นดี”
“ครั้งนี้พวกเรารอดูว่าเจ้าเด็กนี่จะมีกลอุบายอะไรอีก”
ผู้คนต่างก็กัดฟันกันอย่างแน่น พวกเขาได้ตัดสินใจจะสร้างปัญหาในงานแถลงข่าวของเจ้าอู๋ตี่ ทำลายแผนการของเจ้าบัดซบนี่เพื่อที่จะระบายความโกรธแค้นในหัวใจของพวกเขา
…………..
ทว่าในช่วงเวลานี้ เย่เมิ่งเหยาก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน
“อะไรนะ? เจ้านักต้มตุ๋นนั่นโผล่หัวออกมาอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากที่ได้ล่วงรู้ข่าวนี้ เย่เมิ่งเหยาก็สะดุ้งตกใจ ก่อนหน้านี้เธอได้แกะรอยตามที่อยู่ของเจ้าอู๋ตี่ ทว่ากลับไม่พบเบาะแสใดๆเลย เธอก็เกรงกลัวว่าเจ้าอู๋ตี่นี่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีวันที่จะตามหาได้อีก ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าเจ้าบัดซบนี่จะยโสโอหังอย่างมาก กล้าที่จะจัดงานแถลงข่าวขึ้นมา อีกทั้งสถานที่จัดงานแถลงข่าวนั้นก็ยังเป็นเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น
“ต้องการที่จะตีพิมพ์หนังสือ ต้องการที่จะลบล้างความผิดของตนเองหรือ? ช่างไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด ข้าจะรอดูว่าครั้งนี้เจ้าจะมีกลอุบายอะไร” เย่เมิ่งเหยากัดริมฝีปาก ดวงตาที่งดงามของเธอเผยให้เห็นถึงแสงที่หนาวเหน็บ