Chapter 121: การแข่งขันชิงทรัพยากร
หูคุนลุกขึ้นยืน เขายังคงเกลียดหานเฟยไม่เคยเปลี่ยนแปลงดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสทําให้หานเฟยดูแย่ เขาจะไม่พลาด
ทุกคนขมวดคิ้วและจําวต้าเปยพูดเสียงดัง “เฮ้ คุณอยู่ในเมืองมานานแค่ไหนแล้ว? แล้วคุณเคยไปตกปลาระดับหนึ่งมากี่ครั้งแล้ว? คุณจะบอกว่าคุณมีคุณสมบัติมากกว่าหานเฟยหรอ”
เฉาเฟยตอบว่า “เด็กชายถ้าคุณมีโอกาสคุณสามารถไปที่การประมงระดับหนึ่งสําหรับการต่อสู้จริง หากคุณยังไม่เคยสัมผัสกับการต่อสู้จริงอย่าพูดเรื่องไร้สาระ
หูคุนพูดไม่ออกสักครู่และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
เซียว่ฉาง,หวังไป่ยูและคนอื่นๆต่างประหลาดใจ ดูเหมือนว่าหานเฟยรู้จักคนเหล่านี้เป็นอย่างดี และมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายในการประมงระดับหนึ่ง
หานเฟยไม่สนใจหูคุน แต่ถามว่า “นําทีมเยาวชนเหรอ? ไม่ใช่แค่ให้ฉันเข้าร่วมการแข่งชิงทรัพยากรหรอกหรอ”
เฉาเฟยอธิบายว่า “การแข่งขันชิงทรัพยากรที่เรียกว่าเป็นการแข่งขันเพื่อแสดงศักยภาพและแย่งชิงสิ่งจําเป็นของแต่ละหมู่บ้าน ยิ่งตัวแทนหมู่บ้านแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็จะแสดงให้เห็นศักยภาพของหมู่บ้านมากขึ้นเท่า นั้นดังนั้นก็จะสามารถรับของเหลวปลุกวิญญาณได้มากขึ้นไปด้วย”
จางเผิงเดินเข้า “ยิ่งไปกว่านั้นการแข่งขันชิงทรัพยากรส่วนใหญ่ดําเนินการใต้น้ําซึ่งสามารถทดสอบความแข็งแกร่งของแต่ละหมู่บ้านได้ดีที่สุด”
“ใต้น้ํางั้นหรอ?”
จางเผิงกล่าวอย่างจริงจังว่า “ไม่งั้นคุณคิดว่าการแข่งขันด้านทรัพยากรเป็นเพียงแค่การต่อสู้เท่านั้นหรอ? ความสามารถที่สําคัญที่สุดของนักตกปลาของเราคืออะไร? มันคือการตกปลาและการสํารวจมหาสมุทร การต่อสู้เป็นเพียงเพื่อให้เราอยู่รอดในการประมงได้ดีขึ้นและการตกปลาเป็นหน้าที่สําคัญของเรา
หัวหน้าหมู่บ้านเข้ามา “ตกลง! รุ่นน้องเหล่านี้ไม่เคยสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้มาก่อนขออธิบายสั้นๆ สิ่งที่เรียกว่าการแข่งขันด้านทรัพยากรประกอบด้วยการแข่งขันสามรายการ อย่างแรกคือการตกปลาในทะเล ยิ่งหมู่บ้านใดจับปลาวิญญาณที่หายากได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น อย่างที่สองคือการสํารวจใต้น้ํา หมู่บ้านใดค้นพบสิ่งที่มีค่าที่สุดจะเป็นผู้กําหนดว่าหมู่บ้านใดชนะ อย่างที่สาม คือการต่อสู้ซึ่งไม่ใช่จุดจบในตัวมันเอง แต่เพื่ออารมณ์ผู้เข้าร่วม
หวังไป่ยูถามว่า “ผู้นําทีมเยาวชนถูกสร้างขึ้นเพื่อวัดความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหมู่บ้าน และศักยภาพใช่มั้ย”
หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้า “ใช่คุณคืออนาคตของหมู่บ้านน้ําสวรรค์ ตราบใดที่คุณไม่ได้ออกไป เมืองทะเลครามคุณมักจะเข้าร่วมการแข่งขันชิงทรัพยากรอีกในอนาคต”
เมื่อได้ยินเช่นนี้วัยรุ่นเหล่านี้ก็ตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเข้าร่วมงานใหญ่ในหมู่บ้าน จากนี้ไปจะไม่มีใครปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนเด็กๆอีกแล้ว
หานเฟยไม่รังเกียจที่จะเข้าร่วมการแข่งขันด้านทรัพยากร นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะวัดสิ่งที่เรียกว่า ” อัจฉริยะ” ในหมู่บ้านอื่นๆ
ตอนเที่ยงหานเฟยพาปรมาจารย์ตกปลาจํานวนมากไปทานอาหารเย็นที่ร้านหม้อไฟของเขา เหอเสี่ยวยูไม่มีเวลาพูดอะไรขณะที่เธอเอาแต่ยัดอาหารเข้าปาก
คนอื่นๆก็ยิ่งถูกดึงดูดโดยอาหาร เหอเสี่ยวยูเคยได้ชิมบาร์บีคิวมาก่อน แต่คนอื่นๆไม่สามารถจ่ายได้ในตอนนนั้นดังนั้นพวกเขาจึงแทบไม่เคยได้กิน
เซียวู่ฉางถามว่า “หานเฟย คุณอยู่ระดับไหนแล้วหรอ?”
หานเฟยคิดกับตัวเองว่าฉันจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉันดีไหมนะ
“ฉันเป็นปรมาจารย์ตกปลาระดับกลางน่ะ” หานเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ว้าว”
เหอเสี่ยวยูมองต่ําลง “ฉันเป็นแค่ปรมาจารย์ตกปลาขั้นต้นเท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าแม้หานเฟยจะอยู่ในหมู่บ้าน แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ดีสินะ!” หวังไป่ยูสังเกต
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก! ฉันคงไม่ได้เรียนอะไรเจ๋งๆแบบที่ทุกคนเรียนในเมืองได้” หานเฟยพูดอย่างถ่อมตัว
เสียงดังของจําวต้าเปยดังขึ้นจากโต๊ะถัดไป “หานเฟยคุณไม่รู้สถานการณ์ในเมือง ในเมืองก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น พวกเขาต้องมีช่วงเวลาที่ยากลําบากเนื่องจากพวกเขาเพิ่งไปที่เมืองนี้”
หานเฟยมองไปที่พวกเขาทันทีด้วยสายตาที่งุนงง
เหอเสียวยูกล่าวเสริมว่า “บางคนเป็นพวกชอบรังแก พวกเขาดูถูกเราเพราะเรามาจากหมู่บ้าน”
เซียงหนานเห็นด้วย “ฮี! พวกเขาส่วนใหญ่เป็นเด็กในท้องถิ่นในเมืองหรือไม่ก็เป็นเด็กจากสามหมู่บ้านของจันทราสวรรค์, ตะวันสวรรค์และดวงใจสวรรค์
หานเฟยมองอย่างงงงวย “พวกคุณมักจะถูกพวกเขารังแกหรอ?”
เหอเสี่ยวยูกัดฟันของเธอ “เรามีปัญหาให้ปะทะกันบ่อย”
“คุณชนะหรือแพ้ล่ะ?”
ทุกคน: “…”
หานเฟยทุบโต๊ะทันที “ฉันจะล้างแค้นให้พวกคุณเองเมื่อฉันไปที่เมือง”
หูคุนที่เงียบไปชั่วขณะก็ตะคอก “คุณคิดว่าคุณสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรอ? คุณเป็นแค่ปรมาจารย์ตกปลาระดับกลาง! คุณรู้หรือไม่ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในนั้นเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่เลยนะ”
เซียว่ฉางพยักหน้า “ อันที่จริงนักเรียนสิบอันดับแรกของสถาบันการศึกษาทั้งสามแห่งในเมือง ล้วนแล้วแต่เป็นปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงหรือไม่ก็เป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาเก่งมากจริงๆ”
เปลือกตาของหานเฟยกระตุก “พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
หวังไป่ยูพยายามผ่อนคลายความตึงเครียด “อันที่จริงเราไม่ต้องกังวลมากเกินไป เท่าที่เรารู้ในแปดหมู่บ้าน ยังไม่มีใครกลายเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นปรมาจารย์ตกปลาเท่านั้น”
เซียนอู่ฉางหยุดเคี้ยว “ไม่! คุณลืมผู้ชายคนนั้นจากหมู่บ้าน ดวงใจสวรรค์ที่กลายมาเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่เมื่อวันก่อน”
ทุกคนต่างตกตะลึงคนหนุ่มสาวในปัจจุบันแข็งแกร่งมากจนกลายเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อยช่างน่ากลัวจริงๆ
“ครั้งนี้เราอยู่ทีมเดียวกันดังนั้นเราควรคิดเกี่ยวกับวิธีจับปลาวิญญาณที่หายากกันดีกว่า” หวังไป่ยูต้องการให้พวกเขากลับมามีสมาธิ
“บางที่การใช้เหยื่อพิเศษน่าจะดี ฉันได้ยินมาว่าชาวเมืองในเมืองไม่นิยมใช้หนอนสีเขียวมากนัก” เหอเสี่ยวยูสงสัย
“แต่เหยื่อพิเศษมีน้อยมาก เป็นเรื่องยากที่จะหาฝูงปลิงทะเล, ลูกปัดกุ้ง และไส้เดือนทองและฉันกลัวว่าเราไม่สามารถซื้อไข่มุกคุณภาพสูงได้แล้วจะตกปลาได้ด้วยพลังทางจิตวิญญาณของเราเองเท่านั้น แต่มันจะใช้พลังงานทางจิตวิญญาณมากเลยทีเดียว”
หานเฟยกระพริบตา “คุณเรียนรู้ที่จะเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณในเมืองหรือเปล่า? หวังไป่ยู ฉันจําได้ว่าคุณมีทักษะการจดจ่อวิญญาณด้วยนี่นา”
หวังไป่ยูยิ้มอย่างขมขื่น “แต่ฉันยังไม่ได้เริ่มฝึกเลย ฉันคงจะให้พลังวิญญาณแก่ผู้อื่นไม่ได้หรอก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
คนอื่นๆในโต๊ะอื่นๆต่างก็หัวเราะและหวังไปหยู่กล่าวว่า “ผู้เก็บเกี่ยววิญญาณและผู้นําเป็นสองอาชีพที่ยากที่สุดในห้าอาชีพหลัก เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะยังไม่ได้เริ่มฝึกใช่ไหมนะ”
เฉินหลิงหัวเราะคิกคัก “ถ้าอย่างนั้นคุณสามารถถามหานเฟยได้! เขาเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณอยู่แล้ว”
” อะไรนะ?”
ที่โต๊ะของหานเฟยทุกคนตกตะลึงและแม้แต่หูคุนก็เบิกตากว้าง
เหอเสี่ยวยูมองไปที่หานเฟย “คุณกลายเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณแล้วหรอ”
“อย่าตื่นเต้นมากน่า กินอาหารเถอะ”
ทุกคน: “…”
หวังไป่ยูถามอย่างอยากรู้ “หานเฟยคุณกลายเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณเร็วขนาดนี้เลยหรอ?”
เหอเสี่ยวหยู่กระพริบตาราวกับคิดอะไรบางอย่าง
หานเฟยแอบพอใจกับตัวเอง โฮโฮฉันเจ๋งมากใช่มั้ย? ตกใจกันล่ะสิ? ตอนนี้คุณรู้ไหมว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน?
ดวงตาของเชีว์ฉางสว่างขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเหยื่อที่เราใช้”
เซียงหนานกล่าวเสริมว่า “ฉันไม่ขัดข้องที่หานเฟยจะมาเป็นหัวหน้าทีมของเรา”
หูคุนตกตะลึง อะไรกัน?! หานเฟยกลายเป็นผู้เก็บเกี่ยววิญญาณแล้วหรอ?! นี่มันเป็นเรื่องตลกหรือยังไง?
หานเฟยโบกมือ “ไม่มีปัญหาคุณสามารถขอพลังวิญญาณได้มากเท่าที่คุณต้องการ!”
…หลังอาหารเย็น
เหอเสี่ยวยูและคนอื่น ๆ จึงกลับบ้านเพื่อไปพบพ่อแม่ของพวกเขาดังนั้นหานเฟยจึงอยู่กับแก๊งปลามังกรและเล่นไพ่กับหลี่กัง, หลี่ชิงและหลี่กาน
หลี่กาน “ฟะฟูลเฮ้าส์
หลี่ชิงพึมพํา “ผ่าน”
“ปั้ม”
หานเฟยมองไพ่ในมือของเขาและพูดอย่างหมดหนทาง “ผ่าน”
หลังจากผ่านไปสองสามรอบหานเฟยพูดด้วยน้ําเสียงที่มๆ “ อากังคุณคิดว่าในเมืองดีกว่าหมู่บ้านของเราหรือเปล่า?”
วันนี้หานเฟยแปลกใจเล็กน้อยเพราะเขาพบว่าทุกคนดูเหมือนจะเปลี่ยนไปรวมถึงหูคุนด้วย แม้ว่าเขาจะยังคงเป็นศัตรูกับเขามาก แต่นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไป เหอเสี่ยวยูซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่เรียบง่าย แต่ก็ฉลาดขึ้นมากในเวลานี้ เฉพาะเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปมากผู้คนก็จะเปลี่ยนไปมาก
หลี่ชิงตอบ “เรายังไม่เคยไปที่เมืองเลยลูกพี่! แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะดีกว่าที่นี่! มิฉะนั้นทําไมไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงที่เก่งกาจในหมู่บ้านของเราบ้างล่ะ?”
“ฉันเคยเคย…เคยไปครั้งหนึ่ง…มัน…สะ…สุดยอดมาก”
หานเฟยต้องการถามถี่กานมากกว่านี้ แต่แล้วเขาก็ยอมแพ้ เขาคงจะหลับไปก่อนที่หลี่กานจะพูดจบ
หานเฟยโยนไฟลงบนโต๊ะ “ฉันขอพักดีกว่า คุณสามารถหาคนอื่นมาเล่นแทนได้ฉันขอตัวไปพักผ่อนดีกว่า”
ที่บ้านของเกอเสี่ยวยู
เหอหมิงถังเหลือบมองหานเฟยและขมวดคิ้ว “หานเฟยทําไมคุณยังไม่ลดน้ําหนักอีกล่ะ”
หานเฟย: “???”
“คุณไม่ได้รับอนุญาตให้พาเสี่ยวยูออกไปก่อนที่คุณจะลดน้ําหนัก”
หานเฟยเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่ฉันจะลดน้ําหนัก? ทําไม มันทําไม้?!
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ว่างๆก็เลยเอานิยายมาแปลไทย