Chapter 40: มันไม่ใช่สตรอเบอร์รี่เหรอ
“ห้ะ ฉันออกเรือไม่ได้เหรอ”
เสี่ยวฉินกล่าวว่า “เนื่องจากคุณได้พบกับกระแสน้ำของปลาสองครั้งและเรือของคุณได้รับความเสียหายหนักมาก ทางเราเชื่อว่าอาจมีใครวางแผนโจมตีคุณ ดังนั้นคุณจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่มหาสมุทร นอกจากนี้ยังมีเวลาเหลืออีกเพียงเก้าวันก่อนการทดสอบตกปลาของคุณ ฉันขอแนะนำให้คุณมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนตัวเองในขณะนี้ดีกว่า”
หานเฟยถามว่า “คุณพอจะรู้มั้ยว่าใครเป็นคนทำ”
เสี่ยวฉินกล่าวว่า “ม้นไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่เรามีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าพยัคฆ์อยู่เบื้องหลัง”
“พยัคฆ์งั้นหรอ”
หานเฟยไม่แปลกใจกับคำตอบ ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำลายเรือในท่าเรือได้โดยไม่ทำให้คนอื่นตกใจเลย เขารู้สึกว่าค่าตอบแทนที่เขาขอจากหลี่จื๊อนั้นไม่เพียงพอซะแล้ว
“อืม งั้นฉันลาล่ะพี่สาว”
เนื่องจากเขาไม่สามารถไปที่มหาสมุทรได้เขาจึงไม่ได้พลังวิญญาณซึ่งหานเฟยไม่สามารถทนได้
ตลาดเริ่มคึกคักแล้วแม้ว่าจะยังเช้าอยู่ก็ตาม
ทันใดนั้นมีคนตะโกนว่า “น้ำฝนจ้า! น้ำฝน น้ำฝนสะอาด! กิโลกรัมละยี่สิบเหรียญ! มีเพียงห้าร้อยกิโลกรัมเท่านั้น!”
ลูกค้าเจรจา: “โถ่เฮีย ยี่สิบเหรียญทะเลมากเกินไป ฝนพึ่งตกไปเมื่อหลายวันก่อนนี่เอง ราคาของเฮียสูงเกินไปแล้ว!”
มีคนอื่นเห็นด้วยกับเขา “นี่เฮียฉิน ผมจะซื้อเลยสิบกิโลกรัมถ้าเฮียขายได้ในราคาสิบแปดเหรียญทะเลต่อกิโลกรัม”
อย่างไรก็ตามฉินหัวเราะเบา ๆ “พวกคุณคิดว่ามันแพงเหรอ ไม่มีฝนตกมาครึ่งเดือนแล้วและเนื่องจากอากาศดีแบบนี้มันคงจะไม่มีฝนตกอีกจนกว่าจะอีกครึ่งเดือนนับจากนี้ น้ำก็จะยิ่งแพงไปอีก ยี่สิบเหรียญทะเลต่อกิโลกรัมเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดของฉันแล้ว”
ฝูงชนเริ่มเงียบ
ในไม่ช้าก็มีคนพูดว่า เฮียฉินฉันขอยี่สิบกิโลกรัม”
“ฉันเอาสิบโลเฮีย”
“ฉันห้าสิบโลเลยเฮีย”
…
หานเฟยตกใจมากที่ได้เห็นน้ำห้าร้อยกิโลกรัมถูกซื้อหมดในเวลาเพียงสองนาที เขาไม่รู้ว่าใครจะทำเงินได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ด้วยน้ำ
แต่มันก็สมเหตุสมผล แหล่งน้ำเพียงแหล่งเดียวสำหรับเกาะนี้คือฝนซึ่งมันตกไม่บ่อยนัก เป็นผลให้มีความต้องการน้ำอยู่เสมอ
หานเฟยนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่นี่มีน้ำทะเลไม่จำกัดนี่! เขาจะไม่ร่ำรวยเลยหรอถ้าเขากลั่นน้ำเอง
หานเฟยกำลังคิดอย่างเรื่อยเปื่อยทันใดนั้นเขาก็เดินผ่านขอทาน..
เอ๊ะ..เดี๋ยวก่อนนะ…
ทุกคนบนเกาะนี้มีพลังมีความสามารถหาปลานี่ ทำไมเขาถึงมาขอทานล่ะ
ขอทานคนนั้นเดินไปมาพร้อมกับชามที่แตกและเต็มไปด้วยฝุ่น
ทันใดนั้นเขาถอยหลังด้วยความกลัวเมื่อเห็นหานเฟยและพยายามจะหนีหานเฟย
หานเฟยตะโกน “คุณหยุดแค่นั้น!”
ขอทานร้องว่า “เมตตาฉันด้วย เมตตาฉันด้วย ฉันถูกไล่ออกแล้ว!”
หานเฟยตะลึง “คุณคือ…หลี่กัง..หรอ”
ขอทานส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “เสี่ยวกัง โปรดเรียกฉันว่าเสี่ยวกัง” (1)
หานเฟย:“ …”
หานเฟยถามว่า “คุณยังไม่ตายเหรอ”
ขาของหลี่กังสั่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณต้องการให้ฉันตายจริงๆเหรอ หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าหานเฟยเป็นพี่น้องของถังเกอ เขาก็ถูกแขวนอยู่บนเสาเสากระโดงเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน เขาไม่ได้ถูกฆ่าเพราะเขามีเพื่อนมากมายในตลาดตะวันออก อย่างไรก็ตามเนื่องจากหัวใจของเขาเจ็บปวดเมื่อเขาถูกไล่ออกจากแก๊งค์พยัคฆ์ หลี่กังมีพละกำลังเพียงหนึ่งในสิบของก่อนหน้านี้และชีวิตของเขาก็ค่อนข้างน่าสังเวช
หลี่กังกอดขาของหานเฟยร้องว่า “พี่ชายโปรดช่วยฉันด้วย ฉันตายไม่ได้! ฉันต้องทำมาหากินเพื่อแฟน! ถ้าฉันตายใครบางคนจะพาเธอไป!”
หานเฟยหมดคำพูด “ใครจะฆ่าคุณกัน ฉันเป็นคนใจดีจะตาย”
หลี่กังบ่นกับตัวเอง คนใจดี? ฉันจะไม่ลงเอยแบบนี้หรอกถ้าไม่ใช่เพราะนาย
หานเฟยถามว่า “คุณถูกพยัคฆ์ไล่ออกหรอ”
หลี่กังพยักหน้าด้วยความกลัว เขาไม่สามารถทำให้หานเฟย โกรธได้ในตอนนี้!
หานเฟยคิดแผน “แล้วถ้า คุณจะต้องติดตามฉันล่ะ ฉันจะทำให้คุณมีชีวิตที่สนุกสนานเลย”
“หือ…หือ”
หลี่กังคิดว่าหูของเขาฝาด มันเป็นกลลวงอะไรหรือเปล่านะ
หานเฟยกล่าวว่า “ทำความสะอาดตัวเองแล้วไปพบฉันที่บ้าน ฉันยื่นโอกาสให้คุณแล้ว ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณจะรับมันมั้ย”
หลี่กังเป็นนักเลงที่ฉลาด แน่นอนว่าเขาต้องติดตามหานเฟย เขาเป็นพี่น้องของถังเกอ และอนาคตของเขาก็ไม่เลวร้ายเกินไป อย่างไรก็ตามทำไมหานเฟยถึงสนใจเขาล่ะ หานเฟยต้องการเก็บค่าคุ้มครองจากเขาหรือเปล่า
เมื่อนึกถึงการที่หานเฟยถูกทำร้ายถึงสองครั้งหลี่กังก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้มาก
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหลี่กังก็มาถึงด้วยใบหน้าซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ฝุ่นบนใบหน้าได้รับการทำความสะอาดแล้ว
เมื่อหลี่กังมาถึงหานเฟยกำลังเล่นกับขวดหลายใบและย้ายหม้อยักษ์ออกมา ไม่มีการบอกว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
เมื่อเห็นว่าหลี่กังอยู่ที่นี่หานเฟยจึงถามว่า “นายมีพละกำลังเหลือเท่าไหร่”
หลี่กังตัวสั่นตอบว่า “ฉันเก่งพอๆกับ…นักตกปลาระดับสอง”
หานเฟยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ฮะ ตอนนี้นายพิการอะไรหรือเปล่า”
หลี่กังตอบอย่างไม่เต็มใจว่า “ไม่…ไม่เชิง แต่ยาสำหรับการฟื้นฟูของฉันแพงเกินไป มันราคาไข่มุกคุณภาพกลางสิบเม็ด…”
หานเฟยดูถูก “ก็คนเลวที่ทำงานให้คนเลวก็อาจถูกทอดทิ้งได้ทุกเมื่อนั่นแหละ”
จากนั้นหานเฟยวางไข่มุกคุณภาพระดับกลางโหลหนึ่งต่อหน้า หลี่กังและพูดว่า “ฉันสามารถรักษานายได้ แต่คุณต้องไม่ทรยศฉันมิฉะนั้นคุณจะต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าบาดแผลในตอนนี้ แฟนของนายอาจจะถูกพรากไปจริงๆ”
หลี่กังเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ไข่มุกคุณภาพกลางหนึ่งโหลสำหรับเขาหรอ
หลี่กังรู้สึกอบอุ่นจนน้ำตาไหล “เจ้านายฉันจะเป็นของคุณทั้งตัวและหัวใจเลย ฉันจะทำทุกอย่างที่คุณขอ…”
หานเฟยโบกมือและพูดว่า เอาล่ะพอแล้ว! ทำไมนายไม่บอกฉันก่อนว่ามีเครื่องปรุงรสน่าสนใจอะไรบนเกาะของเราบ้าง”
“คะ..เครื่องปรุงรส”
หานเฟยกล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้อาหารมีรสชาติที่น่าสนใจมากขึ้นเช่นเกลือน่ะ”
หานเฟยไม่เคยทานอาหารที่ดีเลยตั้งแต่เขามายังโลกนี้ มีเกลือ แต่เกลือเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะขจัดกลิ่นเหม็นของอาหารทะเลได้
หลี่กังเข้าใจแล้ว “โอ้! เจ้านายคุณกำลังพูดถึงเครื่องเทศ! มีแต่คนรวยเท่านั้นที่สามารถจ่ายได้!”
หานเฟยประหลาดใจทันที “คำตอบคือมีใช่มั้ย”
หลี่กังกล่าวว่า “ใช่แล้ว แต่คนธรรมดาไม่สามารถจ่ายได้หรอก เครื่องเทศส่วนใหญ่สามารถซื้อได้กับไข่มุกคุณภาพปานกลางเท่านั้น”
หานเฟยผิดหวังเล็กน้อย มันแพงเกินไป เขาวางแผนที่จะเปิดร้านอาหารบาร์บีคิวและทำน้ำกลั่นเอง แต่ถ้าเครื่องปรุงรสแพงมากเขาอาจทำได้แค่ทำบาร์บีคิว
“แล้วแอลกอฮอล์ล่ะ”
หลี่กังกล่าวว่า “แอลกอฮอล์มีราคาถูกมาก เหล้าหัวปลามีมูลค่าเพียงสามสิบเหรียญทะเลต่อกิโลกรัม เจ้านายคุณอยากดื่มไหม”
หานเฟยกล่าวว่า “ไปกันเถอะ ขอดูเครื่องเทศก่อน”
…
มีพื้นที่เพาะปลูกหนึ่งพันเอเคอร์ทางตอนใต้สุดของเกาะซึ่งติดกับหน้าผา
หานเฟยตกใจกับต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ในบริเวณนั้น “ฉันไม่รู้ว่ามีชาวนาอยู่บนเกาะนี้ด้วยนะเนี่ย”
หลี่กังเกาหัวของเขา “พวกเขาไม่ใช่ชาวนาอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่ปลูกสมุนไพรวิญญาณในช่วงเริ่มต้น แต่อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีเกินไปสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดจึงถูกปรับสภาพให้เป็นเครื่องเทศ ถึงกระนั้นหลายคนเชื่อว่าเครื่องเทศยังคงเป็นสมุนไพรวิญญาณ นั่นคือสาเหตุที่เครื่องเทศยังคงมีราคาแพง”
ชายชรากำลังอาบแดดพร้อมกับขวดเหล้าในอ้อมแขน เขาไม่ตอบสนองเมื่อหานเฟยและลี่กังเดินเข้าไปในไร่
หานเฟยเดินไปข้างหน้าและถามว่า “คุณปู่เรามาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องเทศ”
ชายชราเหลือบมองหานเฟยและอาบแดดต่อไป “คุณไม่สามารถจ่ายได้หรอก”
หานเฟยมืดมน คุณรู้ได้อย่างไร ฉันมีไข่มุกคุณภาพปานกลางเหลืออยู่ห้าสิบเม็ดเลยนะ
ชายชรายกมือขึ้นชี้ไปที่ชั้นไม้บางส่วนที่อยู่ไม่ไกล “พวกมันทั้งหมดอยู่ที่นั่น แต่ละเม็ดมีราคามุกคุณภาพปานกลางหนึ่งชิ้น”
หานเฟยเดินไปอย่างอยากรู้อยากเห็นเพียง แต่ต้องตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น
“คุณเรียกมันว่าเครื่องเทศเหรอ มัน..ไม่ใช่..สตรอเบอร์รี่เหรอ”
(1) เสี่ยว : น้อย; ด้อยกว่า