Chapter 53: เคารพกันหน่อยได้มั้ย
ทุกคนแทบคลั่งกันในอีกชั่วโมงที่เหลือ
ผู้ที่มีคะแนนเพียงพอแล้วต้องการมีมากขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะได้มีตำแหน่งที่สูงขึ้นในพิธีกปลุกพลัง ผู้ที่มีคะแนนน้อยกว่าหวังว่าจะทำให้ถึงร้อยอันดับแรก ผู้ที่ถูกปล้นคะแนนกำลังวางแผนที่จะเอาคืน
อย่างไรก็ตามมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะสิ้นสุดการทดสอบตกปลานี้และไม่มีใครที่อ่อนแอเหลืออยู่เลย การปล้นยากขึ้นมาก
ที่สำคัญพันธมิตรที่ร่วมมือตั้งแต่แรกเริ่มแตกสลาย บางคนถูกพันธมิตรตัวเองลอบกัดและบางคนประกาศสงครามอย่างเปิดเผย พวกเขาประหารสมาชิกคนอื่นๆ ในพันธมิตรทั้งหมดและแย่งคะแนนทั้งหมด
แน่นอนว่าพันธมิตรบางส่วนขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การนำของคนบางกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นพรสวรรค์จากสวรรค์ที่สัญญาว่าจะตอบแทนผู้อื่น
เซียวู่ฉางจากวิทยาเขตตะวันตกเป็นตัวอย่างทั่วไปของคนเหล่านี้ มรดกทางจิตวิญญาณของเขาคือระดับสี่คุณภาพต่ำซึ่งบ่งบอกถึงอนาคตที่สดใส จึงมีคนมาเสนอคะแนนให้เขามากมาย
ทางด้านของหานเฟยเขาและเหอเสี่ยวยูพวกเขาครอบครองเรือสี่ลำที่เต็มไปด้วยคะแนน ทุกคนจากวิทยาเขตทางตะวันออกจะวิ่งหนีเมื่อพวกเขาเห็นหานเฟยและเหอเสี่ยวยูแต่เซียวู่ฉางไม่ได้มาจากที่นั่นและไม่รู้จักหานเฟย
เซียนวู่ฉางรู้ดีว่าหานเฟยและเหอเสี่ยวยูอาจแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถแข็งแกร่งไปกว่าระดับแปดได้ เนื่องจากเขาเป็นระดับแปดและมีคนติดตามมากมายอยู่รอบตัวเขาเขาจะไม่ปล้นพวกเขาได้อย่างไร
เหอเสี่ยวยูรู้สึกสบายๆ หลังจากที่เธอเข้าร่วมกับหานเฟย เธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอที่จะทำคะแนนให้ถึงร้อยอันดับแรก
ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนว่า “เรือกำลังมาเต็มเลย”
หานเฟยกล่าวว่า “ฉันแล้ว ..มีคนมาส่งคะแนนให้เราอีกแล้ว!”
เหอเสี่ยวยู: “???”
หานเฟยมอบยาเติมวิญญาณให้เธอด้วยรอยยิ้ม “คุณจะจัดการพวกลูกน้องและฉันจะจัดการคนที่เป็นหัวหน้าเอง”
“แต่พวกเขามีเป็นสิบคนเลยนะ”
หานเฟยบ่น “เหอเสี่ยวยูคุณเป็นนักตกปลาระดับเจ็ด! คุณสามารถรับมือได้อยู่แล้ว”
เหอเสี่ยวยูมุ่ยริมฝีปากของเธอ “แม้แต่นักตกปลาระดับห้าสิบคนก็ยังสามารถกำจัดนักตกปลาระดับเจ็ดได้! นอกจากนี้ฉันเพิ่งเข้าสู่ระดับเจ็ดเท่านั้น ฉันจะเอาชนะพวกเขาได้ยังไง”
“เอาล่ะเรามาแบ่งพวกมันเท่า ๆ กันดีไหม”
เหอเสี่ยวยูกล่าวว่า “หัวหน้าเป็นของนาย”
“เหอเสี่ยวยูขอบอกก่อนเลยนะ คุณจะไม่เเชี่ยวชาญถ้าไม่ท้าทายตัวเอง”
เหอเสี่ยวยูแย้งว่า “ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ! ฉันต้องกลายเป็นปรมาจารย์ด้านการตกปลาที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น นั่นคือเป้าหมายของพ่อสำหรับฉัน ฉันจะเป็นอิสระหลังจากที่ได้เป็นปรมาจารย์ด้านการตกปลา”
หานเฟยเหงื่อตก “เหอเสี่ยวยูนั่นเป็นความคิดที่อันตราย”
เหอเสี่ยวยูกล่าวว่า “ฉันไม่สน นายแข็งแกร่งกว่าฉันอยู่แล้ว เนื่องจากนายฆ่าผู้ตรวจอย่างน้อยนายก็แข็งแกร่งพอๆ กับนักตกปลาระดับเก้า”
เหอเสี่ยวยูมองไปที่ท้องฟ้า หานเฟยเป็นเพียงนักตกปลาระดับสองเมื่อเดือนก่อน แต่หลังจากนั้นหนึ่งเดือนเขาก็สามารถต่อสู้กับนักตกปลาระดับเก้าได้แล้ว เขาไม่พิเศษเท่าถังเกอหรอ
เหอเสี่ยวยูกล่าวว่า “พวกเขามาจัดการเราแน่นอน! ทำไมเราไม่ยุติการทดสอบล่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้นายอยู่ในสิบอันดับแรกอย่างแน่นอน”
หานเฟยพูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมฉันไม่ไปติดสามอันดับแรกเลยล่ะถ้าฉันติดท็อปเท็นแล้วล่ะ สามอันดับแรกเท่านั้นที่จะได้รับรางวัล”
เหอเสี่ยวยูกล่าวว่า “ส่วนที่เหลือของสิบอันดับแรกตามธรรมเนียมแล้วพวกเขาทุกคนสามารถเลือกเทคนิคการต่อสู้ได้”
หานเฟยพูดอย่างเหยียดหยาม “มีเทคนิคดีๆ ในหมู่บ้านของเราไหม ฉันจะทำให้ติดอันดับหนึ่งในสามดีกว่า!”
เหอเสี่ยวยูมีความคิดที่จะตบผู้ชายคนนี้ลงทะเล เธอกังวลมาก แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังคุยโว
…
เซียวู่ฉางยืนอยู่ที่ด้านหน้าเรือโดยเอามือไพล่หลังและมองดูอย่างไม่เป็นทางการ
เรือแล่นเข้ามาใกล้แล้ว เหอเสี่ยวยูถามหานเฟยว่า “ฉันอยากรู้มาก ทำไมนายไม่หนี”
หานเฟยกล่าวว่า “ฉันมีมือไม่พอที่จะแล่นเรือทั้งหมดนี่น่ะสิ”
เซียวู่ฉางกล่าวว่า “คุณพร้อมจะถูกปล้นหรือเปล่า”
หานเฟยก็โกรธขึ้นมาทันที “คุณช่วยแสดงความเคารพฉันหน่อยได้ไหม”
เซียวู่ฉาง : “???”
หานเฟยกล่าวว่า “เอามือของคุณมาไว้ด้านหน้าสิ คุณเอามือไพล่หลังเมื่อคุณกำลังคุยกับใครสักคนได้อย่างไร”
เซียวู่ฉาง: “…”
เหอเสี่ยวยู: “…”
เหอเสี่ยวยูเกือบจะร้องไห้ ศัตรูก็มาแล้ว ทำไมเขายังมั่นใจและกวนประสาทขนาดนี้
เซียวู่ฉางกล่าวว่า “เอาคะแนนของคุณมาแล้วฉันจะไว้ชีวิตคุณ”
หานเฟยถามว่า “คุณอยู่ในสามอันดับแรกหรือเปล่า”
เซียวู่ฉาง: “???”
เขาพบว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะสื่อสารกับผู้ชายคนนี้ดีๆ เขาตามแนวความคิดของผู้ชายไม่ได้เลย
เซียวู่ฉางกล่าวอย่างอดทน “ฉันใกล้แล้ว”
ตาของหานเฟยเป็นประกาย “ในกรณีนี้ถ้าได้คะแนนของคุณมา ฉันก็อาจจะไปถึงอันดับสามได้น่ะสิ”
เซียวู่ฉาง: “???”
เซียวู่ฉางกล่าวอย่างเศร้าหมอง “คุณปฏิเสธที่จะให้คะแนนของคุณหรอ”
หานเฟยกล่าวว่า “เปล่า ให้สิๆ!”
เซียวู่ฉางแอบโล่งใจ เขาไม่ต้องการต่อสู้กับผู้ชายคนนั้นเพราะร่องรอยบนเรือบ่งบอกถึงการต่อสู้ที่รุนแรง หมายความว่าผู้ชายคนนี่ไม่ได้อ่อนแอ
อย่างไรก็ตามในวินาทีถัดมาหานเฟยพูดว่า “ก็เอาไปสิ!”
ก่อนที่เซียวู่ฉางจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หานเฟยก็กระโดด ก้านเบ็ดไผ่สีม่วงของเขาแวววาวด้วยพลังวิญญาณ
“ระเบิด! “
ใบหน้าของเซียวู่ฉางเปลี่ยนไปการระเบิดพลังวิญญาณต้องอยู่ในระดับเจ็ดอย่างน้อยที่สุด
เซียวู่ฉางพยายามที่จะต่อต้านมันด้วยเบ็ดของเขา แต่เขาช้าเกินไปที่จะถือมัน ทันใดนั้นเขาก็กระโดดและถอยหลบไป
ด้านหลังเซียวู่ฉางนักตกปลาระดับหกสี่คนต่อสู้กลับด้วยเบ็ดของพวกเขา หลังจากการปะทะกันทำให้พวกเขาทั้งหมดล้มลง หนึ่งในนั้นถึงกับหมดสติไป
ทุกคนในฝั่งของเซียวู่ฉางต่างตกตะลึง พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาคือใคร ก่อนที่พวกเขาจะลงมือหานเฟยก็ได้ชิงโดดจากเรือของเซียวู่ฉางและพุ่งไปที่เซียวู่ฉางก่อน
เซียวู่ฉางตกใจมากเขาเพียงแค่คว้าเบ็ดของเขา แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในกลางอากาศคือยกอาวุธขึ้นและสกัดกั้นการโจมตี
โครม!! …
เซียวู่ฉางกระแทกเข้ากับกำแพงห้องโดยสารบนเรือและฟุบลงไปอาเจียนเป็นเลือด
หานเฟยพูดอย่างสบายๆ ว่า “ความสุภาพดีกว่าความหยิ่งยโส ใครทำให้คุณกล้าที่จะเอามือไพล่หลังเมื่อคุณเผชิญหน้ากับศัตรูกัน”
“ฮ่า!”
เซียวู่ฉางคำรามและพุ่งไปที่หานเฟย
เปรี้ยง!
เขาถูกเหวี่ยงกลับเข้าไปในที่เก็บปลาอย่างรวดเร็ว
หานเฟยพูดว่า “ทำไมคุณถึงคำรามล่ะ คุณกำลังจะระเบิดพลังวิญญาณทั้งๆ ที่ร่างกายของคุณยังไม่คงที่หรอ นั่นคือสิ่งที่ครูของคุณสอนคุณหรอ”
ไม่ไกลนักคนอื่นๆ ที่ตั้งใจจะมาล้อมเขาทุกคนก็หยุด บางคนพยายามแอบกลับไปที่เรือของตัวเองด้วยซ้ำ
หานเฟยยกเบ็ดขึ้นและชี้ไปที่หนึ่งในนั้น “คุณเป็นใครฉันจะหักขาของคุณและโยนคุณลงทะเลถ้ายังจะหนีอีก”
ชายหนุ่มกลัวเกินกว่าจะวิ่งเซียวู่ฉางเป็นนักตกปลาระดับแปดและเขาถูกผู้ชายคนนี้โจมตีสองครั้งก็หมดสภาพ ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน
หานเฟยตะโกนบอกเหอเสี่ยวยูว่า “เหอเสี่ยวยูเก็บคะแนนกันเถอะ” โดยไม่สนใจว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
เหอเสี่ยวยูตะลึง เธอพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่โหดร้าย แต่มันจบลงแล้วก่อนที่เธอจะกระโดดขึ้นเรือของศัตรูด้วยซ้ำ
“กะ…”
“แกเป็นใครกัน”
เซียวู่ฉางกำหมัดทุบผนังห้องโดยสารพยายามทรงตัวขึ้นมาและมองไปที่หานเฟยพร้อมปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด
หานเฟยพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันเป็นคนที่คุณไม่สามารถเอาชนะได้ยังไงล่ะ”
เซียวู่ฉาง : “…”