GMC ตอนที่ 690 การสอบเข้าวิทยาลัยอีกครั้ง
ในอาณาจักรสวรรค์ทุกคนล้วนมาถึงคอขวด ภายใต้พลังงานและคำแนะนำของชิหมิงซวน ทุกคนได้พัฒนาขึ้น ภายใต้อิทธิพลของพลเมืองของอาณาจักรสวรรค์ชายชุดดำยอมจำนนต่อชะตากรรมของพวกเขามานานแล้วและกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร พวกเขาบ่มเาพอย่างจริงจังและทำงานร่วมกับทุกคน
ในความเป็นจริงสัตว์ร้ายที่ถูกจับมาเหล่านั้นก็เติบโตขึ้นเช่นกัน!
สูงสุด!
หลายคนอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรมืออาชีพ!
ไม่ต้องพูดถึง มีเอสเปอร์โดเมนสูงสุดหลายคนซึ่งรวมถึง ปิงหยางและจางเย่ติง ทุกคนใกล้จะทะลวงและสิ่งที่พวกเขาต้องการคือบรรไดขั้นสุดท้าย
เมื่อพวกเขาทะลวงทั้งอาณาจักรสวรรค์จะเปลี่ยนไปอีกครั้ง!
นอกเหนือจากนี้การวิเคราะห์แบบจำลองของซูฮ่าวไม่มีพื้นที่ให้ปรับปรุงอีกต่อไป ประเด็นสุดท้ายภาพลวงตากำลังก้าวยังอาณาจักรใหม่ ซึ่งซูฮ่าวคิดไว้อยู่แล้ว
ตราบใดที่เขาสามารถมีโอกาสเขาสามารถทำให้สำเร็จได้ทันที
จากนั้นเขาจะทำระบบความจริงเสมือนให้สมบูรณ์!
“ เหลืออีกหนึ่งขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะบรรลุความจริง”
“ ทุกคนในอาณาจักรสวรรค์มาถึงคอขวดแล้ว”
“ บางทีคงถึงเวลาที่จะออกไปแล้ว”
บูม!
ดวงตาของซูฮ่าวสว่างขึ้นและเขาก็ลุกขึ้นยืนทันที ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวที่ล้อมรอบเขาเข้าไปรวมตัวกันอย่างรวดเร็วก่อนหายเข้าไปในตัวของเขาก่โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้
ดิ้ง ดิ้ง ~
อุปกรณ์สื่อสารของเขาดังขึ้น
ซูฮ่าวเหลียวมองและมีรอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเขา
“เดือนมิถุนายนแล้ว…”
“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ”
“คงจะถึงเวลาที่หลิงเอ๋อเข้าสอบ คงถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปเยี่ยมแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ ซูฮ่าวก็จัดระเบียบตัวเองและเดินออกจากห้องบ่มเพาะ หลังจากผ่านไปครึ่งปีซูฮ่าวยังคงเป็นเอสเปอร์มืออาชีพสูงสุดแต่ก็ไม่ควรตัดสินจากภายนอก หากมีใครเห็นแผนที่ 2 มิติของซูฮ่าวพวกเขาจะตระหนักว่าพลังชีวิตของซูฮ่าวเพิ่มขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ
อย่างน้อยสิบเท่ากว่าเมื่อก่อน!
ในขณะเดียวกัน เมืองเจียงเหอ
หลังจากหนึ่งปีผ่านไปมันก็กลายเป็นเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่และได้รับฉายาว่าเป็นบ้านเกิดของอัจฉริยะ นักเรียนหลายคนมาเข้าโรงเรียนที่นี่ ตอนนี้คงสามารถจินตนาการได้ว่าการสอบเข้าวิทยาลัยในปีนี้จะมีการแข่งขันกันมากเพียงใด
กองกำลังเดิมในเมืองเจียงเหอก็เจริญรุ่งเรืองเช่นกัน อย่างไรก็ตามในเวลาเพียงหนึ่งปีการพัฒนาของพวกเขาก็มาถึงคอขวด ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดสามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรมืออาชีพจากอาณาจักรพิเศษซึ่งเป็นขีดจำกัดแล้ว เมื่อตระกูลจากที่อื่นย้ายมาที่เมืองเพื่อสร้างรากฐานก็ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้!
ท้ายที่สุดนี่คือยุคที่ความแข็งแกร่งได้รับความเคารพ
เมืองเจียงเหอสถานที่ซึ่งแต่เดิมมีแต่เอสเปอร์พิเศษเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากการพัฒนาที่วุ่นวายนี้มันก้าวข้ามอาณาจักรมืออาชีพและตรงเข้าสู่อาณาจักรโดเมน ในบรรดากองกำลังใหม่ที่จัดตั้งขึ้นในเมือง กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดคือเอสเปอร์โดเมนทั้งหมด!
สิ่งที่เรียกว่าสามยักษ์ใหญ่ในก่อนหน้านี้ได้ถูกลดขนาดลงเป็นสามกองกำลังขนาดเล็ก
กองกำลังที่มีเอสเปอร์มืออาชีพผู้ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานจะสร้างคลื่นใหม่ในเมืองเจียงเหอ ซึ่งในตอนนี้มีปลาและมังกรปะปนกันอยู่ ในความเป็นจริงถ้าไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของพวกเขาในฐานะกองกำลังเดิมและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล พวกเขาคงจะถูกลบหายไปนานแล้ว
กองกำลังท้องถิ่นนำโดยตระกูลเฉินได้ตอบปฏิเสธ
ขุมพลังแห่งเดียวในท้องถิ่นที่ยังคงทรงพลังคือตระกูลไป่ เนื่องจากไป่หลิงเฟิงกลายเป็น CEO ของกลุ่มตระกูลไป่และด้วยชื่อเสียงของหนึ่งในสิบตระกูลอันดับแรก มันจึงกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทันที ว่ากันว่าเมืองเจียงเหอกำลังประสบกับความวุ่นวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไป่หลิงเฟิงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียน
พวกเขามีจุดประสงค์อะไรในการมาที่เมืองเจียงเหอ?
เพื่อฝึกฝนอัจฉริยะ!
ความสำเร็จอันเลืองชื่อของเมื่องเจียงเหอ ในปีที่ผ่านมาทำให้ทั้งสหพันธ์อยู่ใต้เท้า วิธีการบ่มเลี้ยงอัจฉริยะ? สิบตระกูลอันดับแรกของอาจไม่สนใจแต่สำหรับกองกำลังธรรมดานี่เป็นโอกาสที่ดีในการเสริมความแข็งแกร่งของตระกูลซึ่งทำให้เมืองเจียงเหอตกมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน
และศูนย์กลางก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจากโรงเรียนมัธยม!
หากคุณไม่ได้มาจากเมืองเจียงเหอ คุณจะไม่เคยนึกภาพว่าสถานที่ที่วุ่นวายที่สุดในเมืองคือวิทยาเขตของโรงเรียน!
โรงเรียนปัจจุบันแบ่งออกเป็นฝ่ายต่างๆ
ตั้งแต่นักเรียนปีแรกจนถึงนักเรียนปีสามทุกชั้นล้วนแต่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ด้วยกองกำลังต่างแดนและกองกำลังท้องถิ่นมารวมกันแม้แต่ห้องเรียนคัดเลือกอัจฉริยะก็ไม่อาจหนีพ้นความสับสนวุ่นวายไปได้ การไหลเข้าของนักเรียนที่มีความสามารถจากที่อื่นๆได้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉลี่ยของโรงเรียน
นี่อาจไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลท้องถิ่นคาดหวัง
“ จงตอบฉันมาตาตรง!”
ในห้องเรียนอาจารย์หยางฉีชิงกระแทกโต๊ะขณะที่จ้องไปที่กลุ่มนักเรียน “ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนสอบ พวกคุณพร้อมกันหรือยัง?”
“ อาจารย์วางใจได้ ก็แค่การสอบเข้าวิทยาลัย” กลุ่มนักเรียนหัวเราะออกมา “ก่อนที่ซูฮ่าวจะสอบ ไม่ใช่ว่าเขาแค่พึ่งจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรพิเศษหรือไง ลองดูพวกเราสิ เราเป็นเอสเปอร์พิเศษมานานแล้ว”
“ใช่ๆ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ถูกพูด จางฉีชิงได้แต่ส่ายหัว
นักเรียนเหล่านี้โง่งมกันเกินไป การสอบเข้าวิทยาลัยมีหลายสิ่งที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น โชค ความแข็งแกร่งหรือเวลา ในยุคของความสามารถต้นกำเนิดนี้เนื่องจากพลังงานต้นกำเนิดมีอยู่มากขึ้นนักเรียนใหม่ชุดล่าสุดจึงแข็งแกร่งกว่าชุดที่ผ่านมา ดังนั้นความแข็งแรงของพวกเขาจึงสูงกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ทำไมพวกเขาต้องเปรียบเทียบตัวเองกับซูฮ่าว
การสอบปีที่ผ่านมาสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไง
เมื่อเฉินอี้เฟิงเข้าสอบรอยนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน? ไม่มีแม้แต่อาณาจักรพิเศษ! เมื่อถึงคราวของซูฮ่าวเอสเปอร์พิเศษก็เริ่มปรากฏขึ้น! ปีที่แล้วชั้นเรียนที่เธอเป็นดูแลนั้นถูกวัดคะแนนต้นกำเนิด เธอยังคงจำได้ดีว่าเมื่อซูฮ่าวเข้าสู่ปีที่สาม ความสามารถต้นกำเนิดของเขานั้นมีเพียง 3 คะแนน
และตอนนี้…
หยางฉีชิงมองไปที่นักเรียนของเธอซึ่งเป็นเอสเปอร์พิเศษกันทุกคนและยิ้มอย่างขมขื่น สถานที่แห่งนี้เป็นเครือข่ายที่รวบรวมอัจฉริยะจากสถานที่ใกล้เคียงทั้งหมด ปัจจุบันเมืองเจียงเหอกลายเป็นเมืองหลวงที่แท้จริงแล้ว!
เนื่องจากการสอนซูฮ่าวเธอจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นครูในชั้นดรียนคัดเลือกอัจฉริยะ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า…
ไม่ว่าจะเป็นต้นกำเนิดหรือการก้าวเข้าสู่อาณาจักรมืออาชีพ พวกเขาก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวและขาดประสบการณ์จริง
“ พวกคุณทุกคนแย่กว่าซูฮ่าวมาก” หยางฉีชิงส่ายหัวและมองไปที่ชั้นเรียนตรงหน้าเธอ เด็กสาวคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างโดยไม่สนใจเสียงรอบข้าง เธอยังคงฝึกฝนในโลกของตัวเองเหมือนกับที่ซูฮ่าวเคยทำมาก่อน
“ เด็กน้อยซูหลิงคนนี้…” หยางฉีชิงแสดงความชื่นชมในสายตาของเธอ “เธอพยายามอย่างหนักเหมือนพี่ชายของเธอ ไม่ต้องพูดถึงความสามารถของเธอที่เป็นถึงเกรด A อย่างไรก็ตามการจะโดดเด่นในการสอบในปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
การสอบเข้าวิทยาลัยมีความสัมพันธ์กับโชคชะตาอย่างมาก
การจัดอันดับในการสอบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
สำหรับซูฮ่าวการได้รับอันดับ 1 เมื่อปีที่แล้วใครจะไม่รู้ว่ามีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นกี่ครั้ง ตัวอย่างเช่นการปฏิรูปรูปแบบการสอบชั่วคราว สำหรับกองกำลังที่ทรงพลังเช่นสิบตระกูลแรก การปฏิรูปชั่วคราวหมายความว่าการเตรียมการก่อนหน้าของพวกเขาทั้งหมดนั้นไม่ผิดไป
สำหรับปีนี้
การปฏิรูปการสอบได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากรูปแบบดังกล่าวเป็นที่รู้จักภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จึงสามารถจินตนาการได้เลยว่ามีทรัพยากรจำนวนเท่าใดที่ถูกเทลงไปกับอัจฉริยะของแต่ล่ะตระกูล ความสามารถของซูหลิงนั้นทรงพลังมาก เธอพยายามอย่างหนัก เธอก้าวเข้าสู่อาณาจักรพิเศษนานมาแล้วและมุ่งหน้าสู่จุดสูงสุด แต่ด้วยผลลัพธ์เช่นนี้…
การได้อันดับ 1 ยังเป็นไปไม่ได้
ในช่วงปีที่สองของเธอนักเรียนชั้นนำที่แท้จริงได้ไหลเข้าจากที่อื่นๆ เธอเริ่มจืดจางเมื่อเทียบกับนักเรียนเหล่านั้น แม้หลังจากหนึ่งปีของการดิ้นรนพยายามซูหลิงก็ทำได้เพียงแค่รับตำแหน่งอันดับที่สิบของโรงเรียน!
ความสำเร็จดังกล่าวค่อนข้างน่าทึ่งมากๆ
อย่างไรก็ตามในฐานะน้องสาวของซูฮ่าวผู้สร้างตำนาน ซูหลิงได้รับการวิจารณ์และแรงกดดันจำนวนมาก
“ เด็กคนนี้…” หยางฉีชิงถอนหายใจ “หวังว่าเธอจะทนไหว”
ชั้นเรียนจบลง
ซูหลิงออกจากชั้นเรียน แต่หยุดลงครึ่งก้าว คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อยเมื่อซูหลิงเงยหน้าขึ้น “ หวูเฟิง เป็นคุณอีกครั้ง ฉันคิดว่าฉันเคยบอกให้คุณหยุดรบกวนฉันไปแล้วนะ”
หวูเฟิงหัวเราะอย่างซุกซน ด้วยแสงไฟในมือของเขาดอกไม้ก็ปรากฏขึ้น “หลิงเอ๋อความรักที่มีต่อเธอจะคงอยู่ตลอดไป การสอบจะเกิดขึ้นในเพียงไม่กี่วัน เธอเป็นแฟนของฉันได้ไหม แม้ว่าพี่ชายของเธอจะทิ้งทรัพยากรบางอย่างเอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้มาก เมื่อเธอติดตามฉัน… ”
หวูเฟิงทุบหน้าอกของเขา “ตระกูลของฉันจะจัดหาทรัพยากรที่ไม่มีที่สิ้นสุดให้กับเธอเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะมีโอกาสได้อันดับหนึ่งในสิบของสหพันธ์ไม่ใช่อันดับหนึ่งในสิบของโรงเรียน”
“ ฮึ่ม” ซูหลิงฮึ่มแล้วหันจากไป
“ เธอควรพิจารณาถึงโอกาสนี้” เสียงของหวูเฟิงแปลกออกไป “ เพราะเธอเป็นน้องสาวของซูฮ่าว หากเธอไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีฉันกลัวว่าเธอจะทำให้พี่ชายเสียหน้าได้”
ร่างของซูหลิงหยุดชั่วครู่หนึ่ง เธอหันมาพูดด้วยความโกรธ “ฉันจะจัดการเรื่องของฉันเอง! นอกจากนี้ฉันจะไม่นำความอับอายไปสู่พี่ชายของฉัน!”
“ ฮ่ะ เธอคิดอย่างนั้นหรอ?” หวูเฟิงยิ้มเยาะ “โอ้ฉันลืมบอกเรื่องนี้ พี่ชายของเธอไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีนัก ฉันได้ยินมาว่าทุกกองกำลังกำลังเพ่งเล็งเขา หลังจากสามารถหลบหนีจากความตายเขาได้ถูกกำหนดเป้าหมายอีกรอบ ต่อมาเมื่อเขาทำภารกิจในเมืองเกาหยวนเสร็จเขาก็สามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น เขาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ยังไม่รู้”
“ อะไรนะ?” ใบหน้าของซูหลิงเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ โอ้เธอไม่รู้หรอ” หวูเฟิงแสร้งทำเป็นแปลกใจ “ดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอจะซ่อนตัวไว้ค่อนข้างดี เธอคิดว่าวิทยาลัยจานเจียงเป็นสถานที่ที่คนที่ทำตัวอวดดีสามารถมีวันดีๆโดยไม่มีภูมิหลังงั้นหรอ? ส่วนพี่ชายของเธอมีนิสัยแบบไหนฉันเชื่อว่าเธอคงรู้ดี ในฐานะที่เป็นคนที่ไม่เคยเคารพผู้อื่นเลย ฮ่าๆ…”
“ คุณกำลังโกหก” ซูหลิงพูดอย่างเฉยเมย
“ ทำไมต้องโกหก” หวูเฟิงหัวเราะเสียงดัง “ฉันคิดว่าหอพักของคุณมีกองกำลังต่างแดนหรือเด็กผู้หญิงจากที่อื่นๆค่อนข้างมาก ทำไมคุณไม่ลองถามพวกเขาให้ได้ความจริงล่ะ”
“ ในช่วงเวลานี้เธอได้รับข่าวใดๆจากพี่ชายของเธอหรือไม่”
“ เรื่องนี้ฉันจะจัดการด้วยตัวเอง” ซูหลิงหันจากไป
“ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องรีบแล้ว” หวูเฟิงยิ้มเยาะ “ ถ้าในระหว่างการสอบเธอได้เข้ามาเป็นตัวแทนของตระกูลของเรา บางทีเธออาจช่วยพี่ชายของเธอได้ แต่หากคุณพลาดโอกาสนี้… ”
“ พี่ชายของเธออาจตกอยู่ในอันตราย”
ซูหลิงกำกำปั้นของเธอและไม่มองย้อนกลับไป เธอจากไปโดยไม่ลังเล
หวูเฟิงมองร่างที่จากไปอย่างยิ้มแย้ม ข้างหลังเขามีเงาๆหนึ่ง ชายวัยกลางคนตัวผอมคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น “มันเหมาะสมหรือที่ทำเช่นนั้น นายน้อย?”
“ อะไรที่ไม่เหมาะหรอ?” หวูเฟิงหัวเราะเยาะ
ชายวัยกลางคนถอนหายใจ “ ตามข่าวซูฮ่าวไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เพียงปิดปะตูบ่มเพาะชั่วคราว”
“ หืม… การที่ไม่มีข่าวของเขามากว่าครึ่งปีถ้าไม่รักษาอาการบาดเจ็บแล้วเขาจะทำอะไรล่ะ? มีข่าวลือว่าเขาได้ใช้ทักษะห้ามหลายอย่างในเมืองเกาหยวน ความจริงเขาอาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ก็ได้ในตอนนี้” หวูเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมย “ อีกอย่างถ้าฉันไม่ทำเช่นนี้ ฉันจะเข้าหาซูหลิงได้อย่างไร? คุณคิดว่าในสมองของฉันมีแต่น้ำ?”
“เพราะยังไงเธอก็เป็นถึงลูกสาวของซูเทียนเฉิง…”