ตอนที่ 842 ย้อนกลับ : ระบบโลก 1
ในเวลาเดียวกันเมื่อตระกูลเทียนลงนามในกฎแห่งศักดิ์ศรี ในหนังสือที่ว่างเปล่า ในสหพันธ์ค่อยๆ มีตัวอักษรปรากฏขึ้น นี่คือคุณธรรมทางทหารของสหพันธ์และเป็นตัวแทนของเกียรติยศสูงสุด!
คุณธรรมทางทหารของสหพันธ์
นี่คือหนังสือที่สมาคมความสามารถต้นกําเนิด, สหพันธ์, ทุกตระกูล และแม้แต่ทุกกองกําลังสามารถเข้าถึงได้ ข้างในเป็นรายชื่อของผู้ที่ก่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ เมื่อลงนามในกฎแห่งศักดิ์ศรีไม่ว่าใครจะเคยเป็นอะไรมาก่อน การมีส่วนร่วมของเขาในสนามรบสัตว์ร้ายจะถูกบันทึกไว้
ในเวลาเดียวกันนับจากนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์หรือความเกลียดชังอย่างไร สมาชิกของตระกูลเทียนก็จะจะบริสุทธิ์และได้รับการปกป้องจากกฏแห่งศักดิ์ศรี ตราบใดที่พวกเขาไม่แสวงหาความตายเองก็จะไม่มีปัญหาใดๆ นี่คือสิทธิพิเศษของกฏแห่งศักดิ์ศรี เพราะพวกเขาเป็นทายาทของเอสเปอร์โลกที่ทรงพลัง
ว่ากันว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งที่พยายามมาสิบปีเต็มก่อนที่ในที่สุดจะสามารถฆ่าเอสเปอร์โลกได้ด้วยแผนการของเขา ขณะที่เขากําลังจะทําการแก้แค้น อีกฝ่ายได้ลงนามในกฎแห่งศักดิ์ศรีและความพยายามอย่างหนักทั้งหมดของเขาจึงสูญเปล่า
นี่ไม่ยุติธรรม…
ไม่มีอะไรที่ยุติธรรมเพราะนี่คือความเป็นจริง!
เอสเปอร์โลกสามารถทําให้เกิดภัยพิบัติที่ไม่สามารถจินตนาการได้แก่สัตว์ร้ายและการลงมือของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่สามารถตอบแทนได้โดยการใช้คุณธรรมทางทหารเพียงอย่างเดียว ดังนั้นในขณะที่เอสเปอร์โลกกําลังยอมเสียเลือดเสียเนื้อในสนามรบสัตว์ร้ายลูกหลานของเขาจึงได้รับสิทธิ์การคุ้มครอง
“ตระกูลเทียนจบสิ้นแล้ว” ซูฮ่าวมองไปที่เหล่าเอสเปอร์โลกของตระกูลเทียนที่หายไปและพึมพํากับตัวเอง
เขารอมานานวันๆ นี้มานาน!
กฏแห่งศักดิ์ศรี?
เขาไม่สนใจ การถูกเนรเทศออกจากดินแดนของมนุษย์มันยังหมายถึงการถูกทําลายของตระกูลเทียน ในหลายกรณี การถูกเนรเทศนั้นอาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือตอนนี้ตระกูลเทียนจบสิ้นแล้ว!
เขารอมานานเท่าไหร่แล้ว?
ซูฮ่าวพึมพํากับตัวเอง
การหายไปของ เสี่ยวเดีย หลี่เตียนเตียน จางเย่ติงและคนอื่นๆ ในอาณาจักรสวรรค์เป็นรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันจางหายไปจากหัวใจของเขา เขายังจําช่วงเวลาที่พลเมืองของอาณาจักรสวรรค์เสียสละตัวเอง! การเสียสละของพวกเขาได้มอบความแตกต่างเพียงเล็กน้อยต่อเขา
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจนานแค่ไหน!
มันเป็นภาระหนักหนาสาหัสมาก!
ถ้าตระกูลเทียนไม่ถูกทําลาย มันคงเป็นหนามในใจของเขาตลอดไป แม้ว่าหลี่เตียนเตียนและ คนอื่นๆ จะฟื้นคืนชีพขึ้นมา แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงเป็นเงาในใจของเขาตลอดไป
และตอนนี้
ในที่สุดมันก็จบลง
“เราชนะ!” ดวงตาของซูฮ่าวสว่างขึ้น ความคิดของเขาชัดเจนขึ้น
ฝูงชนตื่นขึ้นหลังจากได้ยินเสียงของซูฮาว พวกเขาชนะแล้วจริงๆ! หลังจากพลิกในพลิกที่สุด ในสงครามครั้งนี้พวกเขาก็ได้รับชัยชนะ!
“พวกเราชนะจริงๆ!”
ทุกคนกล่าวอย่างมีกําลังใจ
เมื่อพวกเขาเข้าร่วมสงครามครั้งแรก พวกเขาต่างเตรียมใจที่จะตาย ท้ายที่สุดในสงครามเช่นนี้ ไม่มีใครมั่นใจว่าเขาจะกลับมาอย่างมีชีวิต!
และตอนนี้พวกเขาชนะ
ทุกคนช่วยไม่ได้ที่จะรื่นเริง!
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าคนชุดขาวที่ช่วยพวกเขาเหล่านั้นหายตัวไปอย่างเงียบๆ ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมาที่นี่ตั้งแต่เริ่ม
ในขณะเดียวกันหน้าจอก็โผล่ขึ้นมาบนอุปกรณ์สื่อสารของซูฮ่าว
“พวกเขากลับมาแล้ว จากไป่หลู่เฟิง”
ปากของซูฮ่าวเผยรอยยิ้มเล็กน้อย
ชายลึกลับในชุดขาวเหล่านั้นมาจากตระกูลไป ภายใต้คําแนะนําของซูฮ่าวพวกเขาซ่อนตัวตน และช่วยเหลือห้าตระกูลใหญ่ ไม่มีใครคิดว่าพวกเขามาจากตระกูลไปที่ล่มสลายไป! พวกเขาจะไม่มีทางรู้ว่ามีขุมพลังที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
“ขอบคุณมาก”
ซูฮ่าวปิดอุปกรณ์สื่อสารของเขาหลังจากตอบกลับ
ฝูงชนฉลองกันเป็นเวลานาน
ชัยชนะที่ฉับพลันนี้ทําให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อย่างไรก็ตามหลังจากงานรื่นเริง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริง การแบ่งชิ้นเค้ก ตระกูลเทียนเป็นขุมทรัพย์ขนาดใหญ่เทียบได้กับทั้งห้าตระกูลใหญ่รวมกัน แม้จะไม่มีเอสเปอร์โลกที่อข็งแกร่งความร่ํารวยในด้านทรัพยากรของตระกูลเทียนก็เพียงพอที่จะทําให้ทุกคนตะลึง!
ดังนั้น
ในเมื่อตระกูลเทียนถูกทําลายไปแล้ว พวกเขาจะแบ่งรางวัลกันอย่างไร
นอกจากนี้ในสงครามครั้งนี้ยังมีตระกูลจางเพิ่มเข้ามา! แม้ว่าพวกเขาจะกบฏแต่ตระกูลจางก็มีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้ครั้งนี้!
ดังนั้นแล้ว
พวกเขาควรแบ่งทุกอย่างอย่างไร
โดยไม่รู้ตัวทุกคนมองที่ซูฮาว เขาเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่และมากที่สุดในสงครามนี้ เหล่าเอสเปอร์โลกที่ลึกลับเหล่านั้นเป็นคนของเขาอย่างแน่นอน ในสายตาของทุกคน ซูฮ่าวและคนในชุดขาวนั้นไม่ได้อ่อนแอกไปว่าทุกตระกูลที่นี่!
คนคนหนึ่งเป็นตัวแทนทุกตระกูล เขามีคุณสมบัตินั้น!
” ท่านคิดอย่างไร?” เอสเปอร์โลกคนหนึ่งมองที่ซูฮ่าว
ซูฮ่าวจ้องมองทุกคน “ข้าไม่สนใจ นอกจากนี้ข้าไม่ได้เป็นคนของกองกําลังใดๆ ข้าแค่ออกหน้าช่วยเจิ้งเหวิน เรียกเพื่อนไม่กี่คนมาเล่นกัน”
เจิ้งเหวิน…
เขาหมายถึงซูเจิ้งเหวิน
ทุกคนเช็ดเหงื่อ
ซูเจิ้งเหวินเหลือกตา
“ข้าจะไม่มีส่วนร่วมในความสนุกนี้” ซูเจิ้งเหวินยิ้ม “พวกคุณทุกคนต่างก็ตระหนักดีเกี่ยวกับตระกูลซูของเรา เราไม่ได้มีคนมากมายและมีเพียงดินแดนเล็กๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะมีทรัพยากรมากมาย ในเมื่อความทะเยอทะยานของตระกูลเทียนล้มเหลว เราก็จะถอนตัว”
วูป!
บรรพบุรุษของตระกูลซูพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะนําาทุกคนออกไปรวมถึงซูฮ่าว
“พวกเขาจากไปทั้งอย่างนี้งั้นเหรอ?”
ทุกคนตะลึง
ในการเอาชนะตระกูลเทียน ตระกูลซูถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมมากที่สุด เมื่อถึงเวลาแบ่งเค้ก พวกเขากลับจากไปเหรอ? เป็นไปได้จริงๆ? พวกเขาไม่ได้มีคนจํานวนมากและไม่ต้องการทรัพยากรเพิ่มเติม? ไม่มีความจําเป็นต้องโกหก! แต่แล้วยังไงไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเท็จตระกูลซูก็ได้อกจากที่เกิดเหตุแล้ว พวกเขาคงไม่ไล่ตามตระกูลซูและขอให้พวกเขามาแบ่งทรัพยากรหรอกใช่มั้ย
“ฮ่าๆๆ ในเมื่อทั้งตระกูลซูและผู้บัญชาการของเราไม่ต้องการมัน ตระกูลอื่นๆ ที่เหลือจะแบ่งมันเท่าๆ กัน” ผู้นํากล่าวออกมา
“ตกลง”
“ เราต้องการ…”
ทุกคนยุ่งอยู่กับการถกเถียงกันเอง แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นลักษณะที่ผิดปกติของตระกูลจางที่อยู่รอบตัวพวกเขา
***
ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนในตระกูลซูก็กลับมาที่พื้นที่อยู่อาศัยของตระกูลซูอย่างรวดเร็ว
“เราเพิ่งกลับมาทั้งอย่างนั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสใหญ่มองที่ซูเจิ้นเหวิน เขาไม่รู้ว่ายาอะไรที่ลูกชายเขาทาน หากผู้บังคับบัญชาไม่ต้องการทรัพยากรมันไม่สําคัญ ซูเจิ้นเหวินทําอะไร อ้างเป็นคนใจบุญ?!
“เจิ้งเหวิน เจ้าทําอะไรลงไป?”
ซูเจิ้งเหวิน “…”
พ่อของเขาพูดแบบปกติจะได้ไหม
ซูเจิ้งเหวินไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาแต่จ้องมองที่ซูฮ่าว ผู้อาวุโสใหญ่ยังไม่ตระหนักและปากของเขายังคงบ่มต่อไป “ต้องมีทรัพยากร ให้ข้าบอกอะไรเจ้าทรัพยากรครึ่งหนึ่งของตระกูลซูของเราถูกโกงไปโดยเจ้าเด็กหัวขโมยซูฮ่าว นั่นคือสิ่งที่น่าสังเวช และเราจําเป็นต้องเติมเต็มโดยเร็วที่สุด!”
ซูฮ่าวยิ้มอย่างเชื่องช้า
“ผู้อาวุโส ท่านรู้ไหวว่า…” ผู้อาวุโสใหญ่คว้าซูฮ่าวเพื่อทําการบ่นของเขาต่อ “เจ้าเด็กซูฮ่าวอวดดีนั่น…”
“นั่น…”
ซูเจิ้งเหวินขัดจังหวะคําพูดของพ่อของเขาทันทีก่อนที่จะมองซูฮ่าวด้วยรอยยิ้มอันขมขึ้น “เจ้าทําเสร็จแล้ว?”
“หืม?” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้ว
“ค็อก ค็อก”
ซูฮ่าวโคจรพลังงานภายในร่างกายของเขาและไม่ช้าก็กลับสู่สภาพเดิม เขามองทุกคน “ไม่ได้เจอกันนาน”
“ซูฮ่าว!” ดวงตาของผู้อาวุโสใหญ่เบิกกว้างทันที “เป็นไปได้อย่างไร”
“ ทําไมถึงเป็นข้าไม่ได้” ซูฮ่าวพูดด้วยความไม่พอใจ “ข้าแค่พยายามทําให้ดีที่สุดเพื่อชัยชนะ แต่ถึงกระนั้นท่านผู้อาวุโสแก่ๆ ท่านกลับยกเรื่องที่ข้าใช้ทรัพยากรไป?”
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ! ข้าจะทําได้อย่างไร?” เอสเปอร์ใหญ่ฝืนยิ้ม “โอ้หลังจากการสู้รบครั้งใหญ่ อากาศดีเสียจริงๆ ข้าไม่ได้เห็นสภาพอากาศแบบนี้ในตระกูลซูมานานมากแล้ว”
ถึงต้องการเปลี่ยนหัวข้อเรื่องแต่แบบนั้นไม่เกินไปงั้นเหรอ!
เส้นสีดํากําลังก่อตัวขึ้นบนหน้าผากของทุกคน
“นั่นสิแล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
ในท้ายที่สุดเนื่องจากพ่อของเขากังวล ซูเจิ้งเหวินจึงเปลี่ยนการสนทนากลับมา
“สิ่งที่เลวร้ายกําลังจะเกิดขึ้น” ซูฮ่าวพูดเบา ๆ “ลืมเกี่ยวกับคนชุดขาว รู้ไหมทําไมข้าถึงถือไพ่ใบสุดท้ายไว้จนจบ? เพราะมันเป็นระเบิดเวลาซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า! หากตระกูลเทียนไม่ได้ขอความช่วยเหลือข้าก็ไม่ต้องการใช้มัน แน่นอนว่าสําหรับตระกูลจางนั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าคาดคิด”
“สิ่งที่เจ้าเรียกว่าไม่ใช่ตระกูลจาง”
“ไม่” ซูฮ่าวส่ายหัว “ข้าติดต่อสหพันธ์!”
“นั่นหมายความว่าตระกูลจางร่วมมือกับสหพันธ์? หรือตระกูลจางเป็นสมาชิกของสหพันธ์มานานแล้ว” เมื่อได้ยินอย่างนี้ซูเจิ้งเหวินก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ไม่เพียงแค่นั้น” ซูฮ่าวยิ้ม “การล่มสลายของตระกูลเทียนเป็นไปตามคาด ไม่ใช่เพราะเราแข็งแกร่ง แต่เพราะมีหลายกองกําลังรวมกันเพื่อกําจัดตระกูลเทียนไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรืออย่างลับๆ! และหลังจากนั้นเมื่อศัตรูอย่างตระกูลเทียนหายไป ห้าตระกูลใหญ่จะร่วมกันอยู่อีกได้อย่างไร ตระกูลเทียนเป็นตระกูลเดียวที่ทะเยอทะยานหรือไม่”
“เพียงแค่ตอนนี้เพื่อนของข้าได้ส่งข่าวมาบอกให้ฉันนําตระกูลซูจากไป ถ้าไม่เดาผิด…”
ซูฮ่าวหยุดพักหนึ่งวินาที “สถานที่ก่อนหน้านี้คงกลายเป็นสนามรบ!”
“อะไรกัน?!”
ทุกคนตกใจ
ก่อนที่เขาจะตอบสนองเขาได้เห็นประกายแสงสดใสเปล่งออกมาจากระยะไกลลมที่ทรงพลังโหมกระหน่ําอย่างรุนแรง
“กฎแห่งพลัง!”
“ย่อมแน่นอน!”
“มันคือเขา…” บรรพบุรุษของตระกูลซูมองจากระยะไกล “คณบดีของวิทยาลัยจานเจียง ไอ้แก่นั่นในที่สุดก็ไม่สามารถนั่งเฉยได้อีกต่อไป เขาถูกเชิญจากสหพันธ์งั้นเหรอ?”
บูม!
ซูฮ่าวเฝ้าดูความผันผวนจากระยะไกลและแอบพูดอย่างเงียบๆ ว่ากองทัพเหล่านี้ต่าง ไม่ซื่อสัตย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหพันธ์ นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมเขาสามารถรู้ผลลัพธ์ได้ทันทีแม้จะมองจากที่ไกลๆ สําหรับผลที่ได้ ตระกูลใหญ่ทั้งสี่เป็นเหมือนกระต่ายสีขาวตัวเล็กๆ ที่บริสุทธิ์ต่อหน้าสหพันธ์ที่มีความทะเยอทะยาน
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บรรพบุรุษของตระกูลซูเอื้อมมือมาวางไว้บนไหล่ของซูฮ่าว
ต้องขอบคุณกฏแห่งพลัง ในที่สุดซูฮ่าวก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น มันเป็นการต่อสู้ที่ทรงพลัง ระหว่างเอสเปอร์โลก แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือนอกเหนือจากตระกูลจางยังมีอีกหลายคนจากสี่ตระกูลที่ร่วมโจมตีด้วย พวกเขาก่อกบฏในขณะนี้!
สมกับเป็นสหพันธ์
ซูฮ่าวคิดเกี่ยงกับจู่เสี่ยวโยว่
หากจู่เสี่ยวโยว์ไม่ตาย ในอนาคตเมื่อสหพันธ์โจมตีตระกูลเทียน เขาจะเป็นคนแรกที่ก่อกบฏ! หากสหพันธ์สามารถส่งเสริมจู่เสี่ยวโยว่ได้ พวกเขาจะไม่มีเอสเปอร์โลกหลายคนได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ไม่เคยคิดเลยว่าเอสเปอร์โลกของพวกเขาจะเป็นคนของสหพันธ์
แสงกระพริบ
ตระกูลจางที่ทรงพลัง เอสเปอร์โลกที่ก่อกบฏและลําแสงสุดท้ายที่เป็นการปรากฏตัวของคณบดีวิทยาลัย จานเจียง
การต่อสู้สงบลง
ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ยอมจํานน!
ณ จุดนี้สิบตระกูลที่เหลืออยู่เกือบทั้งหมดถูกทําลาย มีเฉพาะตระกูลซูเท่านั้นที่ไม่ได้ความเสียหาย! เนื่องจากตระกูลซูยอมปล่อยทุกอย่างและเก็บรักษาทรัพย์ชิ้นเล็กๆ ไว้
สิ่งที่ตระกูลเทียนกล่าวไว้เป็นความจริง!
เมื่อสงครามที่วุ่นวายสิ้นสุดลงจะมีเพียงเสียงเดียวที่เหลืออยู่! แต่พวกเขาคงจะไม่นึกว่าเสี งนั้นจะเป็นสหพันธ์! ด้วยการวางแผนอย่างพิถีพิถันมากว่าทศวรรษ ในที่สุดสหพันธ์ก็กําจัดตระกูลใหญ่หลายตระกูลที่เริ่มสงครามเพื่อกลายเป็นรัฐบาลกลางที่แท้จริง!
ซูฮ่าวตกตะลึง โลกนี้กําลังจะรวมเป็นหนึ่ง
Related