“อ๊า!!!”
เสียงกรีดร้องที่ดังก้องไปทั่วห้องนอนที่ดูทรุดโทรมตามมาเสียงของร่างกายที่กระแทกลงที่พื้นไม้
*ตึง!!*
ชายหนุ่มม.ปลายผมสีดำที่นอนเขาได้ล้มลงอยู่ที่พื้นห้องขนาดเล็ก เขานอนนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ใบหน้าหน้าของเขาดูตื่นตระหนกราวกับว่าไดัรับรู้เรื่องที่น่าตกใจมาก
หลังจากนั้นเขาก็ได้ลุกขึ้นจากพื้นที่รกเต็มไปข้าวของมากมาย เขานั่งมองรอบๆด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแน่ แต่ สิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้คือเขากำลังก้าวไปหาความตายและได้ล้มลงมากลางถนนในขณะที่กำลังช่วยเด็กผู้หญิงอยู่
เขาพยายามนั่งนึกย้อนไปว่าก่อนหน้านี้เขาทำอะไรบ้าง เขาจำได้ว่าเขาพึ่งออกจากเกม VRMMO ที่เขากำลังเล่นอยู่ เนื่องจากชุดหูฟังเครื่องเล่น VR ของเขาต้องพักเครื่องเป็นเวลา 1ชั่วโมงให้เย็นหลังลง จากที่เล่นมา 4ชั่วโมง
มันเป็นแค่ของถูกๆ จะเอาอะไรมากแค่เล่นได้ก็บุญโขแล้ว
ระหว่างที่รอให้เครื่องของเขาเย็นลง เขาจึงตัดสินใจออกไปซื้ออะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน
หลังจากซื้อเสร็จเขาได้เดินทางกลับบ้าน เขาได้เห็นเด็กผู้หญิงได้วิ่งไปที่ท้องถนน ในขณะเดียวกันที่มีรถบรรทุกที่ขับมากำลังจะชนเธอ
ตัวเขาก็ไม่ได้ทำตัวเป็นฮีโร่หรอก แต่เขาทำไปโดยอัตโนมัติ เขาพุ่งออกผลักให้เด็กผู้หญิงให้พ้นทาง ในขณะกำลังจะออกจากถนน เขาได้สะดุดหินที่อยู่แถวนั้นทำให้ล้มไปลงที่พื้น
สิ่งสุดท้ายที่เขานึกได้ก็คือ รถบรรทุกได้หักหลบไปยังมุมถนน โดยไม่เฉียดไปโดนเด็กเลยแม้แต่น้อย จากนั้นก็มีเสียงอะไรบางอย่างมาหาเขา จากนั้นโลกก็กลายเป็นสีดำ
เมื่อได้รู้อย่างนี้เขาก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
หลังจากที่ชายหนุ่มออกมาจากความคิด เขาก็รู้สึกสับสนอย่างมาก เขามั่นใจว่าตัวเองตายไปแล้ว
‘นี่มันแปลกมาก อย่างน้อย ๆ ฉันก็ต้องฟื้นที่โรงพยาบาลสิ’
ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างออก เขาได้ตรวจสอบร่ากายของเขาอย่างร้อนรน นอกจากขาที่เป็นเป็นอัมพาตที่เป็นมาหลายปีแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็ปกติดี
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เขาพยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด เขาพยายามพาตัวเองกลับขึ้นไปบนเตียงและหันไปมองรอบ ๆ
เด็กหนุ่มผมดำยังไม่หายตกใจ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลแต่อยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ในสลัม เขาจำได้ว่าอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน หลังจากนั้นก็ถูกไล่ออกเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า
เขาคิดว่าที่นี่เป็นความจริงหรือว่าความฝันกันแน่ แต่เขาก็ได้ตัดเรื่องความฝันทิ้งไปทันที ถ้านี่เป็นความฝันจริง ๆ ทำไมขาของขายังเป็นอัมพาตอยู่
เขาได้พลิกหมอนขึ้นมาก็เจอกับโทรศัพท์มือถือของเขาเมื่อ 3ปีก่อน มันมีรอยขีดข่วนไปทั่วเนื่องจากเขาได้ขว้างใส่กำแพงเพราะตอนนั้นเขาโกรธพ่อของเขา
เขากดเข้าไปดูวันที่ข้างใน สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาวางโทรศัพท์ลงด้วยความตกใจ เขาได้กดเปิดทีวี สิ่งที่ผู้ประกาศข่าวได้รายงานออกมาก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์
“ดูเหมือนว่าหยินซินหยาคนนี้จะเดินทางข้ามเวลากลับมาเมื่อ 3ปีก่อน..” พอเขาหายจากอาการตกใจแล้ว เขาก็ขำให้กับโชคชะตาของตัวเอง “การตายของฉันมันตลกมากงั้นเหรอถึงทำให้พระเจ้าสงสารและมอบโอกาสที่สองให้กับฉัน”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันทำให้โอกาสที่ฉันได้รับมาเกิดประโยชน์สูงสุด” หยินซินหยากล่าวด้วยความมุ่งมั่น
ในขณะที่หยินซินหยากำลังตั้งท่ามุ่งมั่นอยู่นั้น ตรงที่ไหนสักแห่งในอวกาศอันไกลโพ้น ได้มีดวงดาวดวงหนึ่งส่องแสงระยิบระยับราวกับว่าจะให้กำลังเขา