ซินหยาได้สลัดความคิดที่แสนออกไป เขาต้องจดจ่ออยู่กับช่วงปัจจุบันของที่นี่และตอนนี้
นี่เป็นโอกาสที่สองที่เขาได้รับ เขาจะใช้มันทำในสิ่งที่ถูกต้อง คราวนี้เขาไม่จำเป็นต้องไปคุ้ยขยะเพื่อหาของกินหรือนอนข้างถนนท่ามกลางความหนาวเหน็บเป็นเวลาหลายเดือน
สิ่งที่แรกเขาทำหลังจากที่สงบใจได้ก็คือคว้าโทรศัพท์แล้เปิดแอพริเคชั่นธนาคาร จากนั้นเขาก็ได้โอนเงินที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้เขา ย้ายออกมาจากบัญชีเก่า
ในชีวิตเก่านั้น เขารอจนถึงวันเกิดของเขาเพื่อที่จะใช้เงินก้อนนี้ แต่แม่เลี้ยงใจร้ายกลับรู้เรื่องนี่ซะก่อนและนำเงินก้อนนี้ไปไว้รวมกับบัญชีของครอบครัว
พอเขาได้รู้ว่าแม่เลี้ยงได้ทำอะไรกับเขาไว้ เขารู้สึกโกรธมาก เขาอยากจะแก้แค้นแต่สภาพของเขาไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ เขาต้องหางานหาเงินมาดำรงชีวิตทำแต่งานที่เขาจะทำได้นั้นจำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือทักษะที่มากกว่านั้น
เขาต้องเจอวันเวลาที่ยากลำบากเป็นเวลาหนึ่งปีต่อมา จนกระทั่งเขาได้เจอกับเพื่องพียงคนเดียวของเขาในระหว่างที่เข็นรถเข็นอยู่ฟุตบาท
เธอชื่อว่า แพนเว่ย เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาสามารถทนได้โดยอาการไม่กำเริบ เธอเป็นลูกสาวของแม่บ้าน แต่แม่เลี้ยงได้ไล่เธอกับแม่ออกจากบ้าน เนื่องจากแม่เลี้ยงทนเห็นเขาสนิทกับเธอไม่ได้
ซินหยาไม่ได้คุยกับเธอเลยแถมแม่เลี้ยงยังสั่งห้ามเขาออกจากบ้านและยึดโทรศัพท์ของเขาไปอีก
เมื่อได้พบเธออีกครั้ง เขารู้สึกว่าอะไรหลาย ๆ อย่างได้เปลี่ยนไปแต่เธอก็ช่วยเหลือเขาตลอดมา เธอคอยดูเรื่องการกิน ความเป็นอยู่ในเขาและยังแนะนำให้เขาไปหาเงินในเกมมาเลี้ยงชีพด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาคงจะตายไปก่อนหน้านั้นไปนานแล้ว
แต่น่าเศร้า หลังจากนั้นอีกสองปี เว่ยได้จากไปเนื่องจากอาการใช้ VR มากเกินไป โดยปกติแล้ว เราสามารถอยู่ในเกมได้เป็นเวลา 24ชั่วโมง ตราบใดที่ใช้อาหารเหลวเอาไว้ แต่วันนั้นรูมเมทของเธอได้ออกไปซื้อของและได้เจอกับมิจฉาชีพระหว่าง เขาได้หลอกขายของหมดอายุให้กับเธอ เธอเห็นว่ามันถูกก็เลยซื้อมา ทำให้เว่ยที่ได้รับอาหารเหลวที่หมดอายุไปได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เธอตายเพราะความเห็นแก่ตัวของรูมเมทของเธอ ถ้าหากเธอไม่ร้องไห้เสียใจในวันนั้น ก็คงไม่มีใครรู้ว่าเว่ยตายเพราะอะไร
ซินหยากำหมัดแน่น เขาสัญญากับตัวเองว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องเกิดขึ้นอีกซ้ำสอง
เขากดไปดูรายชื่อติดต่อ จากนั้นเขาไดเกดโทรออกไป
“ซินหยา..นั่นนายเหรอ?” เสียงใสปานระฆังได้กล่าวออกมา
น้ำตาของเขาได้ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้ยินเสียงของเธอมานานแค่ไหนแล้วนะ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้ยินเสียงเธออีกครั้ง
“ใช่แล้ว ฉันเอง” ซินหยาตอบ
พวกเขาทั้งสองได้พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เขาได้เล่าให้ฟังเรื่องที่แม่เลี้ยงของเขาทำ รวมถึงตอนนี้ที่เขาตอนนี้ไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว
“นังสารเลว!! ก็ว่าแล้วทำไมนายถึงทำตัวแปลก ๆ เวลาเธอเข้ามาใกล้ ๆ” เว่ยตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ฉันน่าจะสังเกตเห็นมันตั้งแต่เนิ่น ๆ”
“อย่าโทษตัวเองเลย มีหลายคนที่ไม่ได้สังเกตมัน รวมถึงพ่อของฉันด้วย”
“แต่ฉันควรจะรู้นะ ฉันเป็นถึงเพื่อนสนิทของนายนะ แล้วอีกอย่างนังผู้หญิงคนนั้นได้ห้ามฉันติดต่อนายและเธอหลอกฉันว่าที่นายยอมเป็นเพื่อนกับฉันเพราะฉันหลอกง่ายใช้งานได้สะดวกซึ่งมันทำให้ฉันโมโหและไม่สนใจเรื่องของนายอีกเลย…บ้าเอ๊ย! ฉันนี่มันโง่จริง ๆ” เว่ยตอบอย่างเศร้า ๆ
ในที่สุด ซินหยาก็รู้ว่าทำไมเว่ยถึงถึงทำดีกับเขามากขนาดนี้ เนื่องจากเธอคงจะรู้สึกผิดที่สงสัยเขา
“ไม่เป็นไร ฉันโอเค และอีกอย่าง ได้ออกจากบ้านหลังนั้นมันก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้อยู่ห่าง ๆ ผู้หญิงคนนั้นด้วย”
“นั่นก็จริง แต่ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนเหรอ” เว่ยถามอย่างเป็นห่วง
“อยู่ห้องเช่าเล็ก ๆ ในสลัมน่ะ”
เว่ยอ้าปากค้าง ซินหยากลัวว่าเธอจะโวยวายอีกจึงพูดขัดไปว่า
“ตอนนี้ฉันแทบไม่มีเงินติดตัวเลยหาที่ ๆ ดีกว่านี้ไม่ได้น่ะแต่ไม่ต้องกัวลไป ฉันเพิ่งได้เงินก้อนหนึ่งที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉันด้วย” ซินหยาตอบ
“อืม..วันนี้มันเป็นวันเกิดของนายด้วยนี่” เว่ยพูดเบา ๆ
“ใช่ แต่ไว้ค่อยฉลองปีอื่นดีกว่านะ ปีนี้คงไม่สะดวกจริง ๆ”
ด้วยคำพูดนั้นทำให้ความโกรธของเว่ยพุ่งขึ้นมา
“ก็ได้! ไว้ปีหน้าเราจะจัดปาร์ตี้กัน เอาให้สนุกสุดเหวี่ยงเป็นสองเท่าไปเลย เอาล่ะ บอกฉันทีว่านายอยู่ที่ไหน ฉันจะได้เอานายมาอยู่กับฉัน”
“ได้ ๆ แต่ฉันจะไม่อยู่ที่แบบฟรี ๆ หรอกนะ” เขาพูดขณะบอกที่อยู่ของเขาให้กับเธอ
“เดี๋ยวฉันจะไปหา เตรียมของเตรียมอะไรให้พร้อมล่ะ” เธอพูดอย่างเจ้ากี้เจ้าการ
“ไม่ต้องห่วงมีแค่กระเป๋าใบเดียวและฉันก็เก็บของเรียบร้อยแล้ว”
“กระเป๋าใบเดียว? พวกเขาไล่นายออกมาโดยให้ของแค่กระเป๋าใบเดียว”
“ใช้แล้วล่ะ…”
“ยิ่งรู้อะไรแบบนี้ก็ทำให้ฉันเกลียดนังนั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ เรื่องนั้นช่างมันก่อน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงพยายามยั่วยวนนายนักหนีนักหนากันนะ ก็ในเมื่อนายเป็นเกย์นี่ นายคงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้หรอก”
“เดี๋ยว ๆ เธอพูดอะไรน่ะ” เขาถามอย่างตกใจ
“โธ่ ถ้านายไม่เคยลองมีอะไรกันฉัน นั่นก็แปลว่านายเป็นเกย์ไงล่ะ~”
ซินหยาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมากับคำพูที่ไร้สาระของเธอ
“ดีใจจังที่ได้ยินเสียงหัวเราะของนายอีกครั้ง นี่มันก็นานแล้วนะที่ฉันไม่ได้ยินมัน” เว่ยพูดเบา ๆ
จากคำพูดนี้ทำให้ซินหยาได้รู้ว่าเว่ยเป็นห่วงเขามากขนาดไหน ทำให้น้ำตากำลังจะไหลออกมาแต่เขาต้องเก็บมันไว้
“ใช่ มันนานมากจริง ๆ” เขากล่าวในที่สุด
“ฉันไปถึงที่นั่นในอีก หนึ่งชั่วโมง แล้วเจอกัน” เธอพูดก่อนวางสาย
ซินหยาได้วางมือถือลง เขาได้เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารู้สึกดีที่สิ่งต่าง ๆ ที่เคยเกินขึ้นในตอนชีวิตเก่านั้น ตอนนี้มันได้เริ่มเปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อยแล้ว