หลังจากนั้นเมลติ้งสโนว์ก็กลับไปตกปลาต่อ ในขณะเดียวกันซินหยาก็ปรุงยาต่อไป โดยซินหยาตัดสินใจใช้ผลเนตรหยาดน้ำค้าง 40ลูก จาก 50ลูก ซึ่งตอนแรกเขากะจะใช้มันทั้งหมด แต่เขาทําไม่ได้เนื่องจากผลเนตรหยาดน้ำค้างไม่เติบโตในภูมิภาคนี้ดังนั้นเขาจึงตั้งใจเก็บบางส่วนไว้เพื่อนําไปปลูกในภายหลังแบบเดียวกับดอกไม้เรืองแสง
ซินหยาตั้งใจจะหาพื้นทําการเกษตรเล็ก ๆ เพื่อปลูกพวกสมุนไพรและพวกพืชผักต่าง ๆ ที่ไว้ใช้ทําอาหารกับปรุงยา
เขาตั้งใจจะหาซื้อบ้านที่มีที่ดินประมาณ 3ไร่ ซึ่งการซื้อบ้านแต่ละหลังในแพทช์อนาคตนั้นต้องใช้เงินมากกกว่า 200,000เหรียญทอง ราคานี้แป็นราคาที่ถูกที่สุดแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้แพทซ์ยังไม่อัพเดท ราคาน่าจะประมาณ 2-5,000เหรียญทอง ซึ่งซินหยาก็พอจะรู้ว่าสามารถหาซื้อได้ที่ไหน
ในขณะที่ซินหยากําลังวางแผนเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองนั้น เขาก็กําลังปรุงยาละอองฝันอยู่ เขาพบว่ามันปรุงได้ยากกว่าที่เขาคิดไว้มาก แม้ว่าเขาจะเคยที่ประสบการณ์ปรุงยาในชีวิตที่แล้วก็ตาม
เมื่อล้มเหลวสองครั้งติด เขาจึงทําใจให้เย็นและทําตามคําแนะนำทีละขั้นตอน
โดยการทําตามคําแนะนํานั้นมันจะแตกต่างจากการใช้โปรแกรมช่วย การใช้โปรแกรมมันจะคอยคุมร่างกายให้ผู้เล่นคุ้นชินกับการปรุงซึ่งจะเป็นประโยชน์มากสําหรับมือใหม่แต่หากใช้ไปเรื่อย ๆ จะทําให้ผู้เล่นไม่สามารถปรุงยาระดับสูงได้
ตัวเขานั้นจะต้องทําด้วยตัวเองโดยการจดจําวิธีการต่าง ๆ ที่ภาพโฮโลแกรมฉายให้เขาดู โดยมันจะทําหน้าที่สอนให้ผู้เล่นเห็นวิธีการที่ถูกต้อง
หลังจากที่ซินหยารู้วิธีการต่าง ๆ จนเข้าใจ เขาได้เริ่มพยายามปรุงมันอย่างจริงจัง เรื่องนี้ทําให้ซินหยาตระหนักว่าแค่ความรู้ในชีวิตที่แล้ว มันอาจไม่ดีเสมอไป ดังนั้นเขาไม่ควรลําพองตัวเอง
คืนนั้นได้ผ่านพ้นไปโดยมีซินหยาที่กําลังปรุงยาและเมลติ้งสโนว์ที่กําลังตกปลาอยู่
เมื่อดวงอาทิตย์ได้โผล่พ้นขอบฟ้า
ซินหยาได้สร้างยาละอองฝัน 22ขวด ทําให้เลเวลการปรุงยาของเขาพุ่งขึ้นเป็น เลเวล 10
แม้ว่าการเพิ่มถึงเลเวล 10 จะไม่ได้อะไรมากมาย แต่มันต้องใช้ค่าประสบการณ์ที่มหาศาลถึงจะสามารถเพื่อเลเวลได้ถึงขนาดนี้ มันต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ถึงเขาจะสามารถยกระดับเลเวลทักษะได้อีกครั้ง
……
หลังจากที่พวกเขาได้จัดเก็บที่ตั้งแคมป์เสร็จแล้ว พวกเขาก็ได้ออกเดินทางไปในป่า
ในระหว่างทางที่พวกเขาเดินไปทางเข้าป่า
เมื่อไปถึงพวกเขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา เนื่องจากในปามีหมอกหนากระจายไปทั่วและได้ยินเสียงร้องแปลกๆ ดังจากภายใน
ซินหยาเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาสังเกตเห็นว่าหมอกมันหนามากจนแสงไม่สามารถส่องผ่านลงมาด้านล่างได้เลย
ซินหยาหันกลับไปหาเมลทิ้งสโนว์และพูดว่า
“ข้างในมันมืดมากเลย”
“แล้วเราจะทํายังไงดีล่ะ ถ้ามองไม่เห็นแบบนี้เราจะจะเดินผ่านปาอย่างปลอดภัยได้ยังไง” เมลติ้งสโนว์ถามอย่างกังวล
ซินหยาเห็นแบบนั้นก็เดาว่าเด็กหนุ่มตรงน้อยต้องกลัวความมืดแน่นอน มันทําให้เขาคิดอยากจะแกล้งเขา แต่คิดไปคิดมาเขาไม่ควรทําแบบนั้น ไม่ว่าใครก็มีสิ่งที่กลัวกันทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่เขาเอง
“ไม่ต้องกังวลไป” ซินหยาพูดขณะหยิบดอกไม้เรืองสงออกจากคลังเก็บของของเขา “สิ่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้เรา”
เมลติ้งสโนว์ถอนหายใจอย่างโล่งอก “โอเค อย่างน้อยเราก็มีแสงนำทางแล้ว”
ซินหยาเอาดอกไม้เรืองแสงมัดเข้าด้วยกันและทําเป็นสร้อยข้อมือให้เมลติ้งสโนว์ เนื่องจากเด็กหนุ่มต่อสู้ด้วยดาบคู่จึงทําเป็นสร้อยข้อมือแบบนี้น่าจะทําให้เขาต่อสู้ได้อย่างอิสระมากกว่า ไว้เผื่อกรณีเจอมอนเตอร์กลางทางซึ่งซินหยาก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เจอพวกมัน
“ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องพึ่งพากล้ามเนื้อของเธออีกครั้งแล้วสินะ” ซินหยาพูดติดตลก
“ทําไมพี่ถึงพูดแบบนั้นล่ะ” เมลติ้งสโนว์ถาม
“เพราะฉันจะนําทางเองเพื่อเพิ่มเลเวลทักษะแผนที่ของฉัน” ซินหยาตอบ
“ทําไมพี่ถึงชอบเสียแต้มทักษะลงไปในทักษะแบบนั้นกันนะ จริงอยู่ว่ามันมีประโยชน์แต่ถ้าเราไม่ไปดันเจี้ยนบ่อย ๆ ทักษะแผนที่แทบจะไม่จําเป็นต้องใช่เลย”
“ถึงเธอจะมองว่ามันไม่มีประโยชน์แต่สําหรับฉับมันมีประโยชน์มาก หากฉันได้ทักษะแผนที่เลเวล 3 เมื่อไหร่ มันจะแสดงให้เห็นถึงพวกสมุนไพร ผัก และผลไม้ป่าได้ในบริเวณไหน”
“โอ้จริงสิ ผมลืมคุณสมบัตินั้นไป แต่การที่จะอัพมันไปให้ถึงเลเวล 3 ต้องทิ้งแต้มไปตั้ง 15แต้ม ซึ่งแต่ละแต้มนั้นมันก็ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ด้วย”
“ฉันรู้ตัวเองดีว่าตัวเองกําลังทําอะไร แต่ก็ขอบใจมากนะที่เธอเป็นห่วง” ซินหยากล่าวอย่างสงบ “เอาล่ะ รีบไปในป่ากันเถอะ ยิ่งเราเข้าไปเร็วเท่าไหร่เราก็จะยิ่งออกจากปาเร็วขึ้นเท่านั้น”
“งั้น ไปกันเล้ย!!” เมลติ้งสโนว์กล่าวพร้อมกับเดินไปเข้าหน้าโดยมีซินหยาตามหลัง