นิยาย Haven Online ผ่าพิภพ พิชิตออนไลน์
HO บทที่ 67 ผัดคะน้ากุ้งผัดซอสถั่วดํา
ซินหยาปรับโหมดของรถเข็นเพื่อให้สะดวกต่อการทําอาหาร รถเข็นนี้เป็นแบบ พิเศษที่เขาสั่งไว้ก่อนหน้านี้มันช่วยให้เขาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นจริง ๆ เขาเคยใช้รถพิเศษแบบนี้ตอนนี้ที่อยู่กับพ่อของเขาแต่แม่เลี้ยงได้เอารถเข็นแบบธรรมดามาแทนที่อันที่เขาใช้อยู่จึงทําให้เขาจําเป็นต้องให้คนรับใช้ที่อยู่ในคฤหาสน์ช่วยเหลือเขามากกว่าปกติที่เคยเป็น
สาเหตุที่แม่เลี้ยงทําอย่างนั้นก็เพื่อกําจัดอิสรภาพของเขาเธอไม่ต้องการให้เขาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกทุกครั้งที่เขานึกเรื่องนี้นี้ มันทําให้เขารู้สึกแย่ขึ้นมาเขาพยายามผลักมันกลับเข้าไปในกล่องและปิดผนึกความทรงจําพวกนั้นไว้เขาพยายามจะไม่สนใจอดีตอีกต่อไปเรื่องมันผ่านไปแล้วและต้องการที่จะเดินหน้าต่อไป
หลังจากที่ซินหยาทําจิตใจให้สงบได้แล้ว เขาก็ไปที่ตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรที่สามารถเอาไปทําอาหารได้บ้าง เขาเจอกุ้ง ซอสถั่วดาและคะน้าเขาจึงตัดสินทําผัดคะน้ากุ้งผัดซอสถั่วดา
เขาหยิบส่วนผสมและเครื่องปรุงที่ต้องใช้ออกมา จากนั้นพวกวัตถุไปจัดเตรียมล้างทําความสะอาด ต่อไปเขาก็ตั้งไฟและใส่เหล้าขาวซอสถั่วเหลืองแป้งข้าวโพดน้ำตาลและเกลือไปใส่ในหม้อเล็ก ๆ และคนพวกมันเข้าด้วยกัน
ต่อไปเขาก็ไปจัดการผักคะน้า เขาเด็ดใบที่เที่ยว ๆ ออกและปอกเปลือกหนา ๆ ต รงก้านออก จากนั้นก็นั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีค่า โดยเขานั่นแยกระหว่างก้านกับใบไว้
เมื่อน้ำซอสที่เขาต้มไว้เริ่มเดือด เขาได้ใส่ก้านคะน้าลงไปและปิดฝาทิ้งไปราว ๆ 4นาที จนก้านคะน้าเริ่มสุก
ในระหว่างที่รอให้น้ำซอสได้ที่ เขาก็ได้ตั้งกระทะและนําใบคะน้าไปผัด เมื่อใบ คะน้าเริ่มสุก เขาก็น่ามันออกมาและเอาไปพักไว้
เมื่อน้ำซอสได้ที่แล้วเขาก็ดับไฟ จากนั้นเขาก็หยิบกุ้งที่เตรียมไว้ออกมา เขา ปิดเตาและตั้งกระทะจนมันร้อนได้ที่
เมื่อกระทะร้อนแล้วเขาจึงใส่น้ำมันลงไป จากนั้นก็ขิงลงไป เมื่อผัดจนได้ที่เขาจึง ใส่ถั่วดา กระเทียมและพริมหยงก จากนั้นก็ผัดพวกมันเข้าด้วยกัน
เมื่อเครื่องเทศส่งกลิ่นหอมขึ้นมาแล้ว เขาได้นํากุ้งลงไปผัดจนได้ดี จากนั้นเขาก็ นํากุ้งที่ผัดไปใส่ในหม้อที่มีน้ำซอสที่ถูกเดี๋ยวไว้ เขาได้คนพวกมันจนเข้ากัน
เมื่อทุกอย่างได้ที่แล้วเขาก็ได้ดับไฟและราดน้ำซอสลงบนใบคะน้าที่ถูกผัดไว้ก่อ นหน้านี้
“หืม อะไรน่ะหอมจัง” เว่ยถามขณะเดินเข้ามาในห้องครัว
ซินหยายิ้มและกล่าวว่า “ฉันทําผัดคะน้ากุ้งผัดซอสถั่วดําน่ะ ฉันทําเสร็จพอดีเลย เธอช่วยฉันจัดโต๊ะหน่อยนะ”
เว่ยเดินไปจัดโต๊ะอย่างมีความสุข “นี่เป็นครั้งแรกแลยนะเนี่ยที่ฉันจะได้กินอาหาร ฝีมือของนายทั้งในชีวิตจริงและในเกมด้วย”
“อีกไม่นานเธอจะได้ลิ้มรสชาติแสนอร่อยจากอาหารของฉัน ตอนที่อยู่ในเกม” ซิ นหยากล่าว
“ทําไมฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลยนะ หวังว่ามันจะกินได้นะ” เว่ยกล่าวอ ย่างตื่นกลัวเล็กน้อย
ซินหยากลอกตาและพูดว่า “อาหารของฉันไม่มีทางที่จะกินไม่ได้หรอกน่ะ”
“หืม..งั้นเหรอ?” เว่ยกล่าวอย่างมีเลศนัย เธอหันไปมองอาหารที่ซินหยาทําออก มา “แม้ว่าอาหารจานนี้จะมีกลิ่นหอมแต่รสชาติอาจจะไม่ดีก็ได้” เว่ยรู้ดีว่าซินหยานั้น เติบโตมาโดยที่คนใช้คอยช่วยเหลือตลอดเวลาจึงทําให้เธอไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถ ทําอาหารได้
“ถ้าเธอไม่แน่ใจ งั้นฉันจะกินทั้งหมดนี่เอง”
ซินหยากล่าวขณะตักอาหารเข้าปาก รสชาติที่หวานของเนื้อกุ้งเข้ากับน้ำซอสได้ เป็นอย่างดี จากนั้นเขาได้ตักคะน้าเข้าปากต่อ รสชาติของผักก็เข้ากับน้ำซอสได้ดีเช่ นกัน
ด้วยรสชาติที่อร่อยจึงทําให้ใบหน้าของซินหยาแสดงความพึงพอใจออกมา
หากเว่ยไม่เต็มใจที่จะกิน เขาก็จะไม่บังคับให้เธอกินอาหารของเขา
หลังจากที่เธอเห็นปฏิกิริยาของซินหยาทานผัดคะน้ากุ้งผัดซอสถั่วดาเข้าไปดูเหมือนเขาจะชอบมันมากนั่นทําให้เธอจึงกับสําลักอากาศทันที
“แค่ก! แค่ก! เฮ้! นายต้องล้อฉันเล่นแน่ ๆ อย่าบอกจะว่าอาหารที่นายทํามันอร่อย”
ซินหยาเมินเฉยกับปฏิกิริยาของเว่ย เขาได้ยื่นจางออกไปและทําท่าบอกเป็นนัย ๆ ว่าให้เธอกินมัน
เว่ยได้มองบนและยอมชิมมันเข้าไป เธอได้ตักกุ้งขึ้นมาและเอาเข้าปากทันทีที่เธอกินเข้าไป มันทําให้เธอประหลาดใจอย่างมากตัวกุ้งที่ผัดเข้ากับน้ำซอสได้อย่างพอดีทําให้มันอร่อยมากเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่โตมาจากคนรับใช้จะสามารถทําอาหาได้อร่อยถึงเพียงนี้
“นายไปเรียนทําอาหารมาตอนไหนเนี่ย” เว่ยถามอย่างสงสัย
ซินหยาไม่สามารถบอกความจริงกับเธอได้ เขาโกหกไปอย่างเนียน ๆ ว่าตัวเขาได้เรียนทําอาหารอย่างลับๆในระกว่างที่เขาซ่อนตัวจากแม่เลี้ยง
เนื่องจากเว่ยกับแม่ของเธอได้ถูกไล่ออกไปช่วงหนึ่ง จึงทําให้มีช่องโหว่งที่เขาสามารถปั้นเรื่องขึ้นมาได้เขารู้ว่าเว่ยจะไม่ถามลึกไปมากกว่านี้เพราะเธอคงกลัวว่าจะไปแตะแผลใจของเขาเข้า
หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเร็จและทําธุระต่าง ๆ ให้เรียบร้อย พวกเขาก็กลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาไปถึง พวกเขาก็พบว่า วอนเดอร์ริ่งซาวด์กาลังรอพวกเขาอยู่เว่ยเดินเข้าไปทักทายเขาอย่างเขิน ๆ ส่วนซินหยาก็ทักทายเขาย่างเรียบ ๆ
หลังจากที่พวกเขาพูดคุยสัพเพเหระต่อเล็กน้อยเสร็จ พวกเขาก็เดินทางไปยังป่าบาดาฮาลอีกครั้ง
เมื่อซินหยาได้ตรวจสอบแผนที่ เขาก็พบว่าพวกเขาอยู่ห่างจากที่หมายเพียงไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น
เขาได้หันไปมองไปที่วอนเดอร์รึ่งซาวด์ เขาหวังว่าการเดินทางครั้งนี้จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าวอนเดอร์รึ่งซาวด์จะสามารถเป็นคนที่เขาสามารถไว้วางใจได้หรือไม่