“สิ่งที่เรียกว่าศาสตรามณียุทธ์ก็คือการที่มณียุทธ์ของเราสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นอาวุธ ชิ้นส่วนเกราะ หรือแม้แต่รูปร่างอื่นๆ ได้ เมื่อมันเปลี่ยนรูปร่างแล้ว มันก็จะมีพลังลักษณะเดียวกันกับมณียุทธ์ของเจ้า ซึ่งนั่นสามารถสร้างอาวุธที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับเราได้ “ตัวช่วยภายนอก” ที่ข้าบอกก็คือสิ่งนี้
สำหรับตัวข้านั้น ศรติดตามไร้เสียงของข้าสามารถโจมตีศัตรูได้จากทุกมุมในรัศมี 500 เมตรจากตัวข้า และความเร็วของมันคือ 3 เท่าของลูกธนูทั่วไป นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการเจาะทะลวงเกราะอีกด้วย ดังนั้นตราบใดที่ข้ามีพลังปราณสวรรค์เพียงพอ ข้าก็สามารถใช้มันได้ซ้ำเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ระดับปราณสวรรค์ของข้าอยู่ขั้นพื้นฐานระดับ 8 ดังนั้นข้าจึงใช้ลูกศรนี้ได้สูงสุด 12 ดอก”
ศรติดตามไร้เสียงคืนร่างเป็นหยกหินมังกรก่อนจะกลับไปลอยวนอยู่บนข้อมือของซ่างกวนปิงเอ๋อร์อีกครั้ง ในขณะนี้ โจวเหว่ยชิงกำลังสูดหายใจเข้าลึก แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าจ้าวมณีนั้นช่างเป็นบุคคลที่น่าเกรงขาม แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าพลังของพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาโชคดีที่ในวันนั้น ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่ได้อยากจะฆ่าเขาจริงตามแรงอาฆาตของเธอ ไม่เช่นนั้น…
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่ได้แสดงความรู้สึกภาคภูมิใจอะไรหลังจากแสดงศรติดตามไร้เสียงของเธอให้เขาดู ตรงกันข้ามเธอกลับดูเหมือนจะค่อนข้างสิ้นหวัง “ตอนนี้เจ้ารู้ถึงความแตกต่างของพลังมณีระหว่างการมีตัวช่วยกับไม่มีตัวช่วยแล้วสินะ ในการจะสร้างศาสตรามณียุทธ์ของเรานั้น จำเป็นต้องซื้อม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ที่สอดคล้องกันมาเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ราคาของม้วนคัมภีร์เหล่านั้นแพงหูฉี่มากๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือ อัตราสำเร็จในการสร้างศาสตรามณียุทธ์นั้นก็ต่ำมากเช่นกัน อาณาจักรเล็กๆ อย่างเกาทัณฑ์สวรรค์นั้น ไม่มีใครมีเงินมากพอจะออกค่าใช้จ่ายมากมายขนาดนั้นได้นอกเหนือจากราชวงศ์ นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจำนวนของจ้าวมณีในอาณาจักรเราถึงน้อยมาก เนื่องจากจ้าวมณีเกือบทั้งหมดต่างไม่สามารถซื้อตัวช่วยภายนอกนั้นมาใช้ได้ ดังนั้นข้าจึงเลือกที่จะเป็นนักธนู เพราะหากไม่มีกำลังพอจะซื้อตัวช่วยได้เต็มที่ นักธนูยังสามารถใช้มณีพลังของพวกเขาได้เหนือกว่าอาชีพอื่นๆ เช่นนี้”
ขณะที่เธอกล่าว ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็ง้างธนูอุษาม่วงของเธออีกครั้ง แต่คราวนี้เธอใช้ลูกศรขนนกธรรมแทน และเมื่อธนูอุษาม่วงถูกง้างจนสุด มณีธาตุราชันแห่งทุรมาลิน 2 ดวงบนมือซ้ายของเธอก็สว่างวาบเป็นแสงสีแดงเจิดจ้า ก่อนจะค่อยๆ ลุกลามไปยังธนูอุษาม่วง และลูกธนูอย่างรวดเร็ว เสียงสายธนูสั่นกึกก้อง ก่อนลูกธนูจะถูกปล่อยออกไปเป็นเส้นตรงสีแดง และพุ่งทะลุผ่านต้นดาราที่อยู่ไกลออกไป 50 เมตรได้อย่างแม่นยำ
“มณียุทธ์ของข้านั้นมีความสามารถเพิ่มความเร็ว ทำให้ข้าสามารถยิงธนูออกไปได้เร็ว และแรงกว่านักธนูธรรมดาๆ และขณะเดียวกัน มณีธาตุลมของข้าก็ยังช่วยให้ลูกธนูที่ยิงออกไปมีความเร็วและการทะลุทะลวงเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นเมื่อรวมพลังมณียุทธ์และมณีธาตุของข้าแล้ว ประสิทธิภาพของมันจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นการเลือกเป็นนักธนูจึงทำให้ข้าใช้ความสามารถของมณีพลังทั้งคู่ได้ดีกว่า”
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าพูดว่า “แล้วทักษะกักเก็บธาตุมณีล่ะ?”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กล่าวว่า “หากศาสตรามณียุทธ์มอบอาวุธให้เราแล้ว ทักษะกักเก็บธาตุมณีจะมอบพลังธาตุที่ทรงพลังให้เรา เจ้าดูนี่”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ยกมือซ้ายขึ้นมา ราชันแห่งทุรมาลินหนึ่งดวงค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปในฝ่ามือของเธอเงียบๆ ทันใดนั้น แสงสีเขียวก็พุ่งขึ้นจากมือซ้ายของเธอก่อนจะลอยวนรอบนิ้วของเธอ ขณะที่เธอสะบัดนิ้ว กงจักรวายุสีเขียว 3 อันที่มีลักษณะรูปร่างเป็นพระจันทร์เสี้ยวและมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 หลาก็ลอยอยู่ตรงหน้าเธอ วินาทีต่อมาพวกมันก็เริ่มหมุนรอบพวกเขาทั้งสองคน อากาศราวกับถูกเฉือนเป็นชิ้นๆ ทำให้เกิดเสียงเสียดสีดังขึ้นอย่างแสบแก้วหู นั่นทำให้โจวเว่ยชิงที่ได้ยินถึงกับขนลุก
“นี่เป็นทักษะธาตุมณีที่เก็บไว้ในมณีธาตุชิ้นแรกของข้าเรียกว่า “กงจักรวายุ” ”มันเป็นทักษะที่ใช้ต่อสู้ระยะประชิด มีระยะการโจมตี 30 เมตร โดยทั่วไปแล้ว อาวุธจากมณียุทธ์และทักษะของมณีธาตุนั้นสามารถเติมเต็มซึ่งกัน และกันได้ดี พวกมันสร้างสมดุลในการโจมตี และการป้องกันทั้งในระยะประชิด และระยะไกล และสิ่งเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจ้าวมณีสวรรค์อีกด้วย แม้ว่าจ้าวมณีธาตุหรือจ้าวมณียุทธ์ธรรมดาก็สามารถสร้างศาสตรามณียุทธ์หรือทักษะกักเก็บธาตุมณีได้ แต่สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้นย่อมแตกต่างกับสิ่งที่จ้าวมณีสวรรค์สร้างขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงในแง่ของจำนวน ตัวอย่างเช่น กงจักรวายุ 3 อันที่ข้าใช้ หากเป็นจ้าวมณีธาตุลมธรรมดาที่ใช้ทักษะเดียวกัน แน่นอนว่าเขาสามารถสร้างกงจักรวายุได้แค่อย่างมากแค่ 1 อันเท่านั้น
การสร้างศาสตรามณียุทธ์ต้องใช้ม้วนคัมภีร์ที่สร้างโดยอาจารย์คัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ และราคาของมันก็ถือว่าสูงเกินไปมาก อย่างไรก็ตาม การกักเก็บทักษะธาตุสำหรับมณีธาตุนั้นยุ่งยากมากกว่าเนื่องจากต้องใช้มณีธาตุกักเก็บทักษะธาตุจากเหล่าสัตว์อสูรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น มณีธาตุ 1 ดวง สามารถกักเก็บได้ทักษะเดียว แต่พวกอสูรสวรรค์นั้นมีทักษะหลากหลายมากๆ นี่ยังไม่รวมถึงความยากลำบากในการจัดการกับอสูรสวรรค์พวกนั้นด้วยนะ และหากเจ้าต้องการจะกักเก็บทักษะจากพวกมัน แต่ทักษะของพวกมันไม่เข้ากันกับทักษะธาตุของเจ้า เจ้าก็จะต้องสูญเสียพื้นที่กักเก็บทักษะในมณีดวงนั้นไปเปล่าๆ และมณีธาตุดวงนั้นก็จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น เมื่อจ้าวมณีคิดจะกักเก็บทักษะไว้ที่มณีธาตุ พวกเขาจะต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะจ่ายเงินในราคาที่สูงมากเพื่อเข้าร่วมวังกักเก็บทักษะ เพราะอย่างน้อยก็รับประกันว่าพวกเขาจะได้ทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาแน่ๆ”
ในที่สุดตอนนี้โจวเหว่ยชิงก็เข้าใจว่าการเป็นจ้าวมณีสวรรค์นั้นยากเพียงใด ความยากลำบากไม่ได้มีเพียงแค่การฝึกปราณเท่านั้น แต่ยังมีทั้งอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ ทั้งวังกักเก็บทักษะอีก เพียงแค่ฟังทุกสิ่งที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กล่าวออกมาก็ทำให้เขาเวียนหัวแล้ว อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยคำพูดของเธอก็ทำให้เขาเข้าใจสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือจ้าวมณีสวรรค์ที่ไม่มีศาสตรามณียุทธ์หรือทักษะกักเก็บธาตุนั้นอ่อนแอกว่าจ้าวมณีคนอื่นๆ มาก
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์มองดูใบหน้าสุขุมและมุ่งมั่นของโจวเหว่ยชิงและรู้สึกค่อนข้างพึงพอใจ แม้ว่าเธอจะยังคงไม่สามารถยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ แต่ทุกอย่างที่เธอมีอยู่ในตอนนี้ทั้งหมดก็ได้รับมาจากอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์ ฉะนั้นเธอจึงหมายมั่นว่าจะจงภักดีต่ออาณาจักรอย่างสุดหัวใจ และเธอก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์มีจ้าวมณีสวรรค์ที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง เพราะหากไม่ต้องการเช่นนี้ เธอคงไม่ปล่อยโจวเหว่ยชิงไปในคืนนั้นแน่ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้เห็นความเคร่งขรึมและตัวตนอีกด้านที่หาได้ยากจากตัวเขา หัวใจของเธอก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
“อ้วนน้อยโจว ถ้าหากข้าให้เจ้าสร้างศาสตรามณียุทธ์ เจ้าจะสร้างอะไร?” ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ถามอย่างใจเย็น
โจวเหว่ยชิงตอบโดยไม่ลังเลว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดเกราะทั้งตัว!! รวมถึงหมวกเกราะด้วย! ข้าต้องหุ้มตัวเองด้วยของแข็งๆ และสิ่งที่ดีที่สุดย่อมเป็นเกราะที่คงทนฟันแทงไม่เข้า วะฮ่าๆ!!!”
ใบหน้าของซ่างกวนปิงเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นสีเขียวในทันใด จากนั้นเท้าของเธอก็เหวี่ยงเข้าที่บั้นท้ายของโจวเหว่ยชิงอีกครั้งหนึ่ง “เจ้าทำตัวน่ารังเกียจให้น้อยลงได้หรือไม่? อยากตายมากใช่ไหม!?”
โจวเหว่ยชิงยกมือกุมบั้นท้ายราวกับว่าเขากำลังทุกข์ทรมานจากความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก “มนุษย์ที่ไม่กลัวความตายย่อมต้องถูกลงโทษโดยทั้งสวรรค์ และนรก! อายุขัยของพวกเราก็มีแค่ไม่กี่สิบปี แต่ข้ายังใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่นานเลยนะ!”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าควรหยุดฝันกลางวันให้เร็วที่สุดจะดีกว่าเพราะว่าความคิดของเจ้ามันเป็นไปไม่ได้ จำนวนศาสตรามณียุทธ์สำหรับมณียุทธ์แต่ละดวงนั้นมีจำกัด อย่างมากที่สุดเจ้าก็สามารถสร้างได้แค่ดาบยาวหนึ่งเล่มหรือธนูยาวหนึ่งคันต่อมณีหนึ่งดวง การสร้างชุดเกราะทั้งตัวแบบครบชุดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย!”
โจวเหว่ยชิงกระพริบตา และพูดว่า “ท่านจะฟันธงไปแบบนั้นไม่ได้ สำหรับมณียุทธ์ดวงแรกของข้า ข้าจะสร้างหมวกเกราะ ส่วนดวงต่อไปก็สร้างเกราะป้องกันส่วนหัวใจ เมื่อเป็นดังนี้ ข้าจึงจะสร้างเกราะได้ทั้งชุดในสักวันหนึ่งได้แน่ๆ!”
“เจ้า…” ซ่างกวนปิงเอ๋อร์โกรธจนตัวสั่น เธอจ้องมองไปที่ใบหน้าไม่สะทกสะท้านของโจวเหว่ยชิง ความโกรธแค้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้รวมกับไปกับความรู้สึกอยุติธรรมที่ปะทุอยู่ในใจของเธอทำให้จู่ๆ น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอกัดริมฝีปากล่างของตนเองแน่น พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้ส่งเสียงออกมา
“ เอ่อ…” เมื่อเห็นว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์เริ่มร้องไห้ โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างยิ่ง เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เธออย่างระมัดระวัง “อย่าร้องไห้เลย ตกลงไหม? ท่านรู้หรือไม่ว่ายิ่งร้องก็ยิ่งขี้เหร่นะ…”
……………………………………………………………….
Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 10.2 ทักษะกักเก็บธาตุมณี (2)
Posted by ? Views, Released on September 19, 2021
, Heavenly Jewel Change
Type: Web Novel Author: Tang Jia San Shao, 唐家三少
ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ
มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์
ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม
ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล
ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?
ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…
หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!
ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา
ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา
มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!
สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…
แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?
ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา
สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!
นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร
Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power.
Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels.
Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters.
Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes.
Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.
Recommended Series
Comment
Facebook Comment