“คาราวะท่านอาวุโสฮูเหยียน” ซ่างกวนปิงเอ๋อร์หันไปเคารพผู้มาใหม่ มือของเธอก็ผลักโจวเหว่ยชิงให้รีบคำนับชายชราร่างท้วมเพื่อแสดงความเคารพ
ตาขีดเล็กๆ ของชายชรากรอกไปมาขณะที่เขาโบกไม้โบกมือ “ไม่จำเป็นต้องมากความ เข้าเรื่องเถิด เจ้าต้องการม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ใช่หรือไม่? งั้นดูซะ นี่คือแผ่นแสดงรูปลักษณ์ ตอนนี้ข้ามีขายอยู่ทั้งหมด 3 ชิ้น เจ้าอยากได้อันไหนล่ะ?” ในขณะที่กล่าว เขาก็สะบัดแขนทีหนึ่ง จากนั้นกระดาษสามแผ่นก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะทรงสี่เหลี่ยม
โจวเหว่ยชิงขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไป ทว่าเขากลับไม่รู้เลยว่ากระดาษสามแผ่นนั้นมาปรากฏอยู่บนโต๊ะตัวนี้ได้อย่างไร
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์บีบมือของโจวเหว่ยชิงแน่น ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตปรามเขาว่าห้ามพูดอะไรไร้สาระ และผลักเขาไปที่โต๊ะเหลี่ยมตัวนั้น
โจวเหว่ยชิงที่เพิ่งถูกผลักโดยมืออ่อนนุ่มคู่นั้นรู้สึกสุขใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาก็ยังค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ ดังนั้นเขาจึงพยายามจะไม่พูดอะไรไร้สาระและตามเธอไปที่โต๊ะโดยดี
กระดาษ 3 แผ่นนั้นแท้จริงแล้วคือรูปวาด 3 รูป แต่ละรูปบ่งบอกอาวุธแต่ละชนิดที่แตกต่างกัน สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของโจวเหว่ยชิงคือภาพซ้ายสุดซึ่งเป็นภาพของโล่กลม พื้นผิวของโล่นั้นมีลวดลายคล้ายกับกระดองเต่า ส่วนตรงกลางเว้าลงไปเป็นวงกลมเล็กๆ แม้ว่านั่นจะเป็นเพียงรูปวาด แต่ทว่าโล่นั้นก็ดูสง่างามและแข็งแกร่งมาก สำหรับคนที่ขี้ขลาดและกลัวตายเช่นโจวเหว่ยชิง แน่นอนว่าเจ้าสิ่งนี้ย่อมดึงดูดความสนใจเขามากที่สุด ข้างๆ รูปนั้นยังมีตัวอักษรเขียนกำกับไว้แถวเดียวว่า
โล่ซวนอู่ เฉพาะจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะธาตุจำเพาะเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง ความทนทาน หรือความอึดของร่างกายเท่านั้น สามารถเพิ่มระดับมณีธาตุได้
โจวเหว่ยชิงนั้นพอจะเข้าใจประโยคด้านหน้าๆ อยู่บ้าง แต่ประโยคหลังเกี่ยวกับการเพิ่มพลังมณีนั้นเขาไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น โล่นี้ยังจำกัดการใช้เฉพาะกับจ้าวมณีสวรรค์เท่านั้น นั่นทำให้เขาสับสนเป็นอย่างมาก
ภาพด้านขวานั้นเป็นรองเท้าคู่หนึ่ง แม้ว่ามันจะมีรูปลักษณ์ค่อนข้างเรียบๆ แต่จริงๆ แล้วมันกลับให้ความรู้สึกเบาสบายและมีชีวิตชีวา ที่บริเวณส่วนข้อเท้ายังมีรอยเว้าเล็กๆ อีกหนึ่งจุด คำอธิบายของมันคือ:
รองเท้าวายุประสาน เฉพาะจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะธาตุจำเพาะเกี่ยวกับความว่องไว สามารถเพิ่มระดับมณีธาตุได้
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จ้องมองภาพนี้อยู่ซักพัก ก่อนจะหันไปหาภาพกลาง เป็นจังหวะเดียวกันกับโจวเหว่ยชิงที่หันไปมองภาพกลางด้วยพอดี
รูปนั้นเป็นรูปของธนูยาวคันหนึ่ง รูปลักษณ์ภายนอกดูเรียบง่าย และธรรมดาอย่างถึงที่สุด ตัวคันธนูแทบจะไม่มีความโค้งใดๆ อีกทั้งยังไม่มีสายธนูอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีรอยเว้าเล็กๆ เหมือนอาวุธชิ้นอื่นๆ ปรากฏอยู่ตรงบริเวณที่จับ ธนูทั้งคันประกอบไปด้วยลวดลายสายหนึ่งลากยาวตั้งแต่ส่วนหัวจรดท้าย ให้ความรู้สึกกดดันราวกับลางร้ายกำลังมาเยือน เสมือนรอยเลือดที่ปรากฏอยู่บนคมมีดเล่มหนึ่ง
คำอธิบาย ธนูราชัน เฉพาะจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะธาตุจำเพาะเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง สามารถเพิ่มระดับมณีธาตุได้ *ลดราคา 1 ใน 10 ส่วน สำหรับจ้าวมณีสวรรค์ระดับปฐมขั้นสูงสุด
โจวเหว่ยชิงจ้องมองธนูราชันนั้นสักพักก่อนจะวกสายตากลับไปที่โล่ซวนอู่อีกครั้ง ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกชอบโล่นี้มากขึ้นเรื่อยๆ ในใจของเขานั้นคิดว่า หากโล่นั้นใหญ่พอ เขาก็สามารถใช้มันเพื่อให้ตนรอดพ้นจากลูกธนูในสนามรบได้
“ผู้อาวุโสฮูเหยียน ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ของธนูราชันนี้ราคาเท่าไหร่หรอเจ้าค่ะ?” หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดสายตาของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็แน่วแน่
ชายชราร่างท้วมจ้องมองเธอก่อนจะพูดว่า “แม่นางน้อย ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้ามีทักษะธาตุเกี่ยวกับความว่องไวไม่ใช่หรือ เจ้าควรจะรู้กฏของข้าดีนะ เจ้าไม่สามารถซื้อม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ธนูราชันได้”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์พยักหน้าก่อนจะกล่าว “แน่นอนว่าข้าย่อมรู้กฏของท่านผู้อาวุโส แต่ข้าจะซื้อสิ่งนี้ให้กับเพื่อนของข้าคนนี้ เขามีมณีธาตุที่มีทักษะเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง”
ชายแก่ร่างท้วมจึงเอ่ยปากอย่างเยือกเย็น “200,000 เหรียญทอง”
ใบหน้าของซ่างกวนปิงเอ๋อร์เปลี่ยนสีชั่วพริบตา คิ้วเรียวบางของเธอขมวดขึ้นขณะที่กำลังกรุ่นคิดอย่างหนักหน่วง โจวเว่ยชิงรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที ใบหน้าของเขาดูตกใจเป็นอย่างมาก แม้เขาจะคาดเดาไว้ว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์จะต้องมีราคาแพง แต่ราคานี้ก็ออกจะเหนือความคาดหมายของเขาไปเสียหน่อย ตั้ง 200,000 เหรียญทองเชียวแน่ะ! ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเพียงแค่ศาสตรามณียุทธ์ชิ้นแรกของเขาอีกด้วย! หากเขาต้องซื้อม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์แบบนี้อีก 12 ใบเพื่อให้พอดีกับจำนวนมณียุทธ์ทั้งหมด 12 ดวง เขาจะต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าสักไหร่กัน!?
ดวงตาของเด็กหนุ่มกรอกไปมาอย่างใช้ความคิด จากนั้นโจวเหว่ยชิงก็คิดบางสิ่งได้ เขาถามด้วยใบหน้าซื่อๆ “ท่านอาวุโส งั้นโล่ซวนอู่นี้ราคาเท่าไหร่หรือขอรับ?”
“120,000 เหรียญทอง”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์หันกลับไปจ้องเขาด้วยสายตาเยียบเย็น “ไม่ เจ้าห้ามเลือกโล่นั่น ธนูราชันนี้เหมาะสมกับเจ้ามากกว่า”
โจวเหว่ยชิงพูดด้วยสีหน้าอับจนหนทาง “ผู้บัญชาการกองพัน ข้าคิดว่ารองเท้าวายุประสานนั่นเหมาะกับท่านมากกว่า! เอาแบบนี้ดีหรือไม่ คราวนี้ท่านซื้อคัมภีร์ของท่านก่อน ส่วนข้านั้นยังไม่รีบร้อนเท่าไหร่” ทว่าในใจของเขามีแผนลับบางอย่าง เด็กหนุ่มวางแผนจะกลับไปขอเงินจากบิดาของตนแล้วแอบกลับมาที่นี่อย่างลับๆ เพื่อซื้อเกราะซวนอู่ภายหลัง
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ส่ายหัวก่อนจะกล่าว “ข้ามีศาสตรามณียุทธ์ชิ้นแรกแล้ว แค่นั้นก็เพียงพอที่จะป้องกันตนเองได้ แต่เจ้ากลับตรงกันข้าม เจ้าไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ผู้อาวุโสฮูเหยียน ตอนนี้ข้ามีแค่ 150,000 เหรียญทอง ข้าจะขอมอบเงินส่วนนี้ให้ท่านก่อน จากนั้นข้าจะกลับไปเอาอีก 50,000 เหรียญทองมาให้ท่าน ดังนั้นตอนนี้ท่านช่วยเก็บม้วนคัมภีร์ของธนูราชันนี้ไว้สักสองสามวันก่อนได้หรือไม่? ได้โปรดเถิด”
เมื่อฟังคำพูดของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ โจวเหว่ยชิงก็ตกอยู่ในความเงียบ เมื่อมองเธอ ใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ จริงๆ แล้วเขาเพียงแค่หยอกล้อให้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ซื้อม้วนคัมภีร์ให้เท่านั้น ภายในใจย่อมรู้ดีว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์นั้นเป็นคนมัธยัสถ์แค่ไหน ดังนั้นโจวเหว่ยชิงจึงคิดว่าเธอต้องไม่ยอมควักเงินซื้อของแพงๆ ให้คนอื่นอย่างแน่นอน คาดไม่ถึงว่าเธอถึงกับตัดสินใจจะซื้อม้วนคัมภีร์ธนูราชันอย่างแน่วแน่ ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ได้ซื้อให้กับตนเองเสียด้วย เธอซื้อคัมภีร์แสนแพงนี้ให้กับเขา!
จู่ๆ โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกดวงตาแสบร้อนทั้งสองข้าง และสายตาที่จ้องมองซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อนั้นถูกเขากำจนแน่น
ชายชราร่างท้วมส่งเสียงหึในลำคอ “จองงั้นรึ? เจ้าไม่รู้กฏของข้าหรืออย่างไร? วันนี้เจ้าถือว่ามีโชคมากที่ได้พบข้าพร้อมม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ถึง 3 แผ่น ในปีนี้ข้าสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์มาแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น และภายใน 3 วันนี้ก็คงขายหมดแล้ว ทำไมข้าต้องเก็บไว้ให้เจ้าด้วย? หากไม่มีเงิน พวกเจ้าก็ออกไปได้แล้ว” หลังจากพูดจบเขาก็หันหลับเตรียมตัวจากไป คำพูดของเขานั้นแสนเย็นชาและเย่อหยิ่งอย่างไม่ไว้หน้าผู้ใดทั้งนั้น
ใบหน้าของซ่างกวนปิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความกังวล เธออ้อนวอน “ท่านผู้อาวุโส ท่านช่วยเมตตาผ่อนปรนกฏสักหน่อยได้หรือไม่? ข้าจะทิ้งธนูอุษาม่วงไว้เป็นประกันที่นี่ด้วย ข้าจะกลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุดแน่นอน”
ชายชรากล่าวอย่างเหลืออด “พูดไปก็ไร้ประโยชน์ กลับไปเถิด”
จู่ๆ โจวเหว่ยชิงก็ก้าวไปดักหน้าชายชราร่างท้วมเอาไว้ ในเวลาเดียวกันเขาก็พูดอย่างจริงใจ “ท่านอาวุโส ช่วยผ่อนปรนให้พวกเราด้วยเถิด พวกเราเดินทางมาไกลมากเพื่อมาพบท่าน ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ของท่านนั้นยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ได้โปรดให้โอกาสพวกเราด้วยเถิด”
ชายชรายังคงส่งเสียงหึในลำคอ “ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ธนูราชัน ตอนนี้ขึ้นราคาเป็น 300,000 เหรียญทองแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเจ้ายอมแพ้ซะเถอะ ไสหัวออกไปซะ!”
โจวเหว่ยชิงตกตะลึงชั่วขณะ ชายชราผู้นี้จะไร้เหตุผลเกินไปแล้ว! จู่ๆ ก็ขึ้นราคาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยตั้ง 100,000 เหรียญทอง! ทันใดนั้นเอง โจวเหว่ยชิงก็เริ่มคุกกรุ่นไปด้วยอารมณ์โกรธ “ท่านต้องโหดร้ายกับพวกข้าถึงขนาดนี้เลยหรือ? หากท่านให้โอกาสกับผู้อื่นหนึ่งครั้ง ภายภาคหน้าย่อมได้กลับคืนร้อยเท่าพันเท่า!”
อาวุโสฮูเหยียนยังคงยืนกรานด้วยใบหน้าเย็นชา “งั้นตอนนี้ 400,000 เหรียญทองแล้ว”
……………………………………………………………….
Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 12.4 ธนูราชัน (4)
Posted by ? Views, Released on September 19, 2021
, Heavenly Jewel Change
Type: Web Novel Author: Tang Jia San Shao, 唐家三少
ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ
มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์
ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม
ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล
ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?
ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…
หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!
ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา
ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา
มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!
สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…
แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?
ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา
สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!
นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร
Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power.
Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels.
Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters.
Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes.
Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.
Recommended Series
Comment
Facebook Comment