Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 20.1 ลูกศรชี้ชะตา (1)

“บ้าเอ้ย! นี่มันทักษะอะไรกันเนี่ย? ฝ่าบาท รีบหนีกันเถอะ เร็วเข้า” ลูกไฟจำนวนหนึ่งลอยขึ้นไปในอากาศในฝั่งตรงข้ามของเขา คราวนี้มีลูกไฟทั้งหมด 5 ลูก แม้ว่าจะเล็กกว่าครั้งก่อน แต่ก็ยังมีสีส้มแดง
คราวนี้โจวเหว่ยชิงไม่ได้พยายามที่จะยิงลูกไฟพวกนั้นแล้ว เขาง้างธนูราชันจนสุดแรง และยิงลูกธนูออกไปทีเดียว 3 ดอกอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เมื่อใดที่ว่าง เขาก็มักจะไปเรียนรู้ทักษะการยิงธนูเร็วจากเซียวหรูเซ่อเสมอ แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่แม่นยำเท่าอีกฝ่าย แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถเพิ่มอัตราความเร็วในการยิงของตนเองให้มากขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อความแข็งแกร่งของธนูราชันรวมเข้ากับความสามารถในการระเบิดทำลายล้างเป้าหมายของมัน เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องแม่นยำขนาดนั้น ตราบใดที่สามารถยิงธนูในระยะที่เหมาะสม นั่นก็เพียงพอแล้ว
ตามที่คาดไว้ เมื่อลูกธนูทั้ง 3 ถูกยิงออกไป ศัตรูก็ราวกับถูกโยนลงไปในหม้อน้ำร้อน ลูกไฟทั้งหมดที่ถูกบังคับให้ลอยขึ้นไปเริ่มร่วงหล่นลงมา แต่ไม่มีสักลูกเดียวที่พุ่งโดนเป้าหมายเช่นโจวเหว่ยชิง
ขณะนี้ ในระยะเพียง 50 หลาจากโจวเหว่ยชิง มีเด็กหนุ่ม 2 คนกำลังอยู่ในสภาพสกปรกมอมแมมราวกับโดน    เทกระจาด

หนึ่งในนั้นแต่งกายด้วยชุดสีขาวล้วนไร้ชุดเกราะ เขาถือธนูสั้นสีทองส่องสว่างในมือของเขา และบนข้อมือขวาก็ยังเรืองรองไปด้วยมณียุทธ์ 4 ดวง มณียุทธ์ทำจากหยก 2 ชนิด ชนิดแรกคือหยกหินมังกรที่เสริมความว่องไว และความคล่องตัว ส่วนอีกชนิดคือหยกอำพันที่เสริมความยืดหยุ่น ชายหนุ่มคนนี้มีรูปโฉมค่อนข้างหล่อเหลา แต่ทว่าในขณะนี้เขากำลังตกอยู่ในภาพที่ค่อนข้างน่าอนาถไปเสียหน่อย ผมสีทองจะค่อนข้างดึงดูดความสนใจและเข้ากันได้ดีกับธนูสั้นสีทองบนมือ
ที่ด้านข้างของชายหนุ่มคือคนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกกระจ๊อกของเขา ชายคนนั้นแต่งกายด้วยชุดผ้าฝ้ายธรรมดาทั่วไป ดูเหมือนว่าเขาจะอายุประมาณ 20 ปีเช่นเดียวกับผู้เป็นนาย และบนข้อมือซ้ายก็มีมณีธาตุทับทิมสีแดง 3 ดวงลอยวนอยู่ ส่วนลูกไฟสีส้มแดงเหล่านั้นก็น่าจะเป็นเขาที่ปล่อยออกมา
ภายใต้ความโกรธของโจวเหว่ยชิงที่ส่งผ่านมาทางธนูราชัน เจ้านาย และลูกน้องคู่นี้ต่างก็ตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงทุลักทุเลอย่างถึงที่สุด พวกเขาเกลือกกลิ้งไปมาขณะหนีหัวซุกหัวซุนออกจากที่เกิดเหตุ
ในขณะที่โจวเหว่ยชิงประสบความสำเร็จในการกำราบ ‘ศรไร้เสียง’ จากด้านนี้ อีกด้านหนึ่งของสนามรบกลับกลายเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ภายใต้การกำกับสั่งการของเซียวหรูเซ่อ กองทหารของอาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์ไม่ยุ่งเหยิงโกลาหลอีกต่อไป เหล่าทหารต่างถูกจัดระเบียบเพื่อเตรียมพร้อมสู้กลับ อนิจจา กลุ่มศัตรูที่มีมากกว่า 10 คนนั้นล้วนเป็นจ้าวมณี และการต่อสู้กับคนที่มีปราณสวรรค์และทักษะธาตุนั้นค่อนข้างยากเกินไปสำหรับทหารธรรมดาๆ พวกเขาจึงไม่มีทางจะทำอะไรอีกฝ่ายได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้
“ผู้บัญชาการกองพัน หนีไป!” ในขณะนี้เสียงของเซียวหรูเซ่อก็ดังขึ้น การคุกคามของศรไร้เสียงได้หายไปแล้ว และในที่สุดซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็สามารถผ่อนคลายได้เล็กน้อย
แม้ว่าพวกเขาจะชอบแข่งขันกันเอง แต่เซียวหรูเซ่อก็รู้ว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์สำคัญเพียงใดต่ออาณาจักรเกาทัณฑ์สวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นคนรักของเหว่ยน้อยอีกด้วย
แม้คำเตือนของเซียวหรูเซ่อจะมาถึงพอดิบพอดี แต่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็ต้องกลับเข้าสู่สถานะเตรียมสู้รบอีกครั้ง ไม่ใช่เธอไม่ต้องการจะล่าถอย แต่ทันทีที่ศรไร้เสียงหยุดยิงไปแล้ว จ้าวมณียุทธ์ 3 คนจากฝั่งตรงข้ามก็ได้พุ่งเข้ามาล้อมรอบเธอไว้แทนในชั่วพริบตา ในบรรดาคนที่รุมล้อมเธออยู่นั้น มี 2 คนเป็นจ้าวมณียุทธ์ที่มีทักษะประเภทความว่องไว และยังมีมณี 4 ดวงอีกด้วย
แม้ว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์นั้นเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะประเภทความว่องไวแบบคู่ที่หายาก แต่เธอก็ยังคงมีมณีสวรรค์แค่ 2 ชุดและเป็นแค่จ้าวมณีสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับกลางเท่านั้น เมื่อเทียบกับศัตรูที่แต่ละคนที่มีมณีถึง 4 ดวง พวกเขาเหนือกว่าเธอทั้งในระดับปราณสวรรค์ และจำนวนศาสตรามณียุทธ์ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือยิงกงจักรวายุออกไปอย่างรวดเร็วโดยใช้ความเร็วของเธอควบคู่ไปกับประสิทธิภาพของรองเท้าวายุประสานเพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตี อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะหนีออกไปจากวงล้อมนี้ได้ ในเวลาเดียวกัน จ้าวมณีคนอื่นๆ ก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทันทีที่อีก 1 หรือ 2 คนเข้ามาร่วมวงต่อสู้ในครั้งนี้ ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็อาจจะไม่สามารถปกป้องชีวิตของตนไว้ได้อีกต่อไป
เซียวหรูเซ่อก็เป็นกังวลมากเช่นกัน ในกองทัพของพวกเธอ ตอนนี้ไม่มีจ้าวมณีคนอื่นๆ เลย การซุ่มโจมตีของศัตรูเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและพวกมันก็โผล่มาเมื่อพวกเขากำลังจะถึงที่ตั้งค่ายทหาร ซึ่งนี่เป็นจุดที่การเฝ้าระวังของพวกเขาหละหลวมที่สุด หากไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณระวังภัยและปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วของโจวเหว่ยชิง ลูกศรดอกแรกก็อาจจะทำร้ายซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไปแล้ว และตอนนี้กองทหารของพวกเราก็น่าจะถูกกำจัดไปอย่างไม่เหลือซากแล้ว
*เพล้ง* *เพล้ง* เกิดเสียงอาวุธประทบกันดังสะท้อนไปมาอย่างไม่หยุดหย่อนในขณะที่หน่วยทหารราบหนักซึ่งกำลังต้านศัตรูไว้ถูกกระแทกกลับอย่างต่อเนื่องด้วยค้อนสงครามขนาดมหึมาคู่หนึ่ง จ้าวมณียุทธ์ดับปรมะขั้นกลางที่ครอบครองมณี 5 ดวงผู้นั้นแข็งแกร่งเกินไป อีกทั้งพละกำลังและพลังป้องกันของเขาก็มีเหลือเฟือจนน่าตกใจ ค้อนสงครามทั้งสองชิ้นปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวขณะที่ชักนำปราณสวรรค์มายังศาตราวุธของเขา เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มทะลวงผ่านปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐานมาแล้วและกำลังอยู่ในขั้นทะลวงพิภพ เขาจึงแค่กำลังเล่นขายของกับกองทหารราบหนักที่ยอดเยี่ยมของอีกฝ่ายได้อย่างสบายๆ มีเพียงลูกศรเร็วของเซียวหรูเซ่อเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาเดือดร้อนได้บ้าง แต่ชายหนุ่มก็ยังคงเดินลากน่องช้าๆเพื่อมุ่งสู่เวทีการต่อสู้เล็กๆของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เมื่อเขามาถึงตัวเธอได้จริงๆ เวลานั้นทุกคนย่อมสามารถจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้
ทันใดนั้น จู่ๆ จ้าวมณียุทธ์ดับปรมะขั้นกลางคนนั้นก็ตะโกนส่งเสียงดังในขณะที่เขาเหวี่ยงค้อนคู่ของตนออกไป ร่างกายก็ดูเหมือนจะหมุนวนราวกับลมพายุ กองทหารราบหนักที่อยู่รอบตัวเขาถูกเหวี่ยงและลอยคว้างออกไป  จากนั้นชายหนุ่มก็กระโจนขึ้นสูง และพุ่งตัวเคลื่อนที่เข้ามาปิดระยะทางระหว่างทั้งคู่ได้ในชั่วพริบตาอย่างไม่น่าเชื่อ ค้อนสงครามทั้งสองชิ้นก็ถูกเหวี่ยงลงไปที่กลางศีรษะของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ทันที ในขณะเดียวกันจ้าวมณียุทธ์อีก 2 คน ก็พุ่งเข้ามาร่วมวงด้วย เมื่อรวมกับจ้าวมณียุทธ์ทั้ง 3 คน ที่ล้อมอยู่รอบๆ ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ พวกเขาทั้งหมดจึงกลายเป็นวงล้อมที่สมบูรณ์แบบ ปิดกั้นการหลบหนีของเธอไว้ได้ทุกทิศทาง
พวกเขาร่วมมือกันได้ราบรื่นอย่างไม่น่าเชื่อ และการโจมตีของคู่แฝดค้อนสงครามที่ฟาดลงมาพร้อมกับการโจมตีจากคนอื่นๆ ในทุกทิศทางนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการตัดสินชะตาชีวิตของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไว้แล้ว
“ไม่…มันจบแล้ว…” เซียวหรูเซ่อหลับตาอย่างสิ้นหวัง แม้ว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะเป็นคู่แข่งของเธอ แต่เธอก็ทนดู   ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ถูกทุบเป็นเนื้อเละๆ ไม่ไหว
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์เองก็สิ้นหวังเช่นกัน เธอลองคิดถึงทุกกลยุทธ์ในหนังสือแล้ว แต่ก็ไม่มีข้อไหนเลยที่สามารถช่วยเธอได้ในสถานการณ์เช่นนี้ เป้าหมายของพวกมันก็คือเธอ และฝ่ายตรงข้ามก็ได้วางแผนการซุ่มโจมตีไว้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น เธอเองก็ค่อนข้างขาดประสบการณ์การต่อสู้ ในชั่วพริบตานี้ ราวกับว่ากลิ่นหอมกำลังเลือนหาย หยกก็พลันจะแตกสลาย[1]
ทว่าช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังก้องขึ้นบนท้องฟ้าทันที เสียงระเบิดดังปะทุขึ้นเมื่อลูกศรสีดำพุ่งเข้ามากระแทกเข้ากับค้อนสงครามที่กำลังเหวี่ยงลงมาหาเธออย่างพอดิบพอดี แรงกระแทกที่รุนแรงนั้นหยุดทุกการคุกคามของศัตรูได้ในได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้นที่ใจกลางของการระเบิดนั้นยังมีหนวดสีดำ 12 เส้นระเบิดออกมาพร้อมกันกับลูกธนูดอกนั้นราวกับสายฟ้า นั่นจึงทำให้ศัตรูทั้งหมดอยู่ในรัศมี 25 หลา รวมถึงจ้าวมณียุทธ์ระดับปรมะขั้นกลางถูกหนวดพวกนั้นเลื้อยรัดเอาไว้แน่น จ้าวอัญมณีฝั่งตรงข้ามทั้งหมดถูกการซุ่มโจมตีนั้นถูกกักตัวไว้ชั่วขณะหนึ่ง
สำหรับจ้าวมณียุทธ์ดับปรมะขั้นกลางนั้น เขายังค่อนข้างจะอยู่ดีเนื่องจากตัวเขาเป็นศูนย์กลางของแรงดึงจากหนวดพวกนั้น อย่างไรก็ตาม อีก 6 คนที่อยู่รอบๆ ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากการจู่โจมอย่างกะทันหัน จ้าวมณี 3 คนถูกดึงเข้ามาใกล้ทันทีด้วยทักษะธาตุมืดของโจวเหว่ยชิง และโชคร้ายที่หนึ่งในนั้นดันเอาหัวไปกระแทกกับค้อนสงครามขนาดใหญ่ของฝ่ายเดียวกัน แม้ว่าร่างกายของจ้าวมณียุทธ์นั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่หากหัวกระแทกโดนโลหะแข็งๆ ก็ยังกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสยดสยองได้อยู่ดี พริบตาหลังจากนั้นเขาก็หมดสติไปและมีเลือดไหลออกจากศีรษะทันที อีก 4 คนที่เหลือนั้นแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานแรงดึงไว้ได้ แม้ว่าการโจมตีของพวกเขาจะถูกขัดจังหวะไปเล็กน้อย อีกทั้งยังสะดุด 2-3 ก้าวเข้าไปใกล้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์มากขึ้น
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะไม่คว้าโอกาสดีๆที่จะได้กำจัดศัตรูเช่นนี้ได้อย่างไร ราวกับภูเขาไฟที่อยู่เฉยๆรอวันปะทุมาเนิ่นนานเกินไป จู่ๆเธอก็ระเบิดพลังออกมาทันที
…………………………………………………….
[1]กลิ่นหอมเลือนหาย หยกกำลังแตกสลาย หมายถึง ถึงคราวจะต้องล้มหายตายจาก

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset