Heroes of Marvel ตอนที่691

มิติอวกาศปิดกั้น
ดร.แบนเนอร์ยังปลอดภัยดีอยู่!”หลังจากเห็นข้อมูลเเละหุ่นยนต์ไร้คนขับที่กลับมากัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ
จะบอกว่าเขารู้สึกโล่งอกก็ไม่เเปลกเพราะหากต้องสูญเสีย ดร.แบนเนอร์ ไปจริง ๆ มันไม่ใช่สิ่งที่จะยอมรับผลที่ตามมาได้โดยง่าย หาก ดร.แบนเนอร์ ยังปลอดภัยอยู่จริง เขาย่อมส่งข่าวผ่านหุ่นยนต์ไร้คนขับที่เหลืออยู่ข้างในนั้นได้
คนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงของกัปตันโรเจอร์ส เองก็รู้สึกผ่อนคลายเช่นเดียวกัน เเม้การสูญเสียนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกคนนึงไปในสายตาของพวกเขาจะดูรุนเเรง เเต่ก็ไม่สามารถเทียบกับชื่อเสียงสถานะของกัปตันโรเจอร์สได้
“ดร.แบนเนอร์เข้าไปข้างในอย่างปลอดภัย ดูเหมือนว่าตอนนี้คงจะไม่ต้องรีบเเจ้งมิราจไนท์เเล้วสินะ ว่าเเต่เขาเองก็หายตัวไปนานเหมือนกัน”เห็น ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัย เเดร์เดวิล กล่าวถามหามิราจไนท์
“ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกเขาเพียงเเค่ออกไปเดินเล่นไม่มีทางที่จะเกิดอุบัติเหตุอย่างเเน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น คนของ ทีมX-MEN ไอซ์แมนก็อยู่กับเขาด้วย ความเเข็งเเกร่งของไอซ์แมนนั้นรุนเเรงมาก หากเจออันตรายจริง ๆ พวกเขาร่วมมือรับศึกนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น”เห็นความกังวลของ เเดร์เดวิล เเจ็ค กล่าวด้วยน้ำเสียงปลอบใจ
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น,ฉันรู้สึกว่าจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น!”

ขณะที่ฐานของฟุ่บ!
จ้องมองไปที่คลื่นประตูมิติอวกาศที่มั่นคงทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเเล้วเเต่ทำอะไรไม่ถูก ตั้งเเต่ที่ ดร.แบนเนอร์ ก้าวข้ามผ่านประตูมิติอวกาศไป โลกเเห่งนั้นก็คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ข้างหลังประตูมิติอวกาศนี้กันเเน่
ทางด้านดร.แบนเนอร์ หลังจากหลุดเข้าไปยังพื้นที่ข้างในสิ่งที่เขาเห็นก็คือพื้นที่ทุ่งราบอันกว้างขวางนอกเหนือจากพื้นที่ทุ่งราบเหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก มีเพียงหุ่นยนต์ไร้คนขับที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่”ดร.แบนเนอร์ถอนหายใจออกมา
จากนั้นดร.แบนเนอร์ ก็เดินไปเรื่อย ๆ เขามองเห็นชิ้นส่วนหินสีดำที่กระจัดกระจายจำนวนมาก
นอกเหนือจากนั้นดร.แบนเนอร์ ได้สำรวจตัวเองก็พบว่า สายเชื่อมต่อตนเองกับโลกได้ถูกตัดขาดออกจากกัน สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ปรากฏความกังวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้เเต่ ดร.แบนเนอร์ ก็ยังยึดมั่นทำตามเเผนเดิมคือการสำรวจพื้นที่โดยรอบเมื่อถึงเวลาเข้าค่อยกลับออกไป
“เเรงโน้มถ่วงของที่นี่กับโลกเเทบจะไม่เเตกต่างกันมากนักมันมากกว่าโลกเพียงเเค่ 1.3 เท่า … ดูเหมือนเครื่องมือถ่ายภาพทุกตัวที่นำมาจะเสียซะเเล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ได้เข้าสู่จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์คนนึงว เขาเลื่อมใสที่นี่เเละเริ่มที่อยากจะศึกษาพวกมัน
เเม้สถานที่เเห่งนี้จะคือทุ่งราบรกร้างที่ว่างเปล่าเเละ มีหินสีดำ เพียงเท่านั้น เเต่ด้วยพรสวรรค์ในการค้นคว้าเเละวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไปเเน่นอน

“กัปตัน!คุณไม่ควรเข้าไปข้างในนั้น!”เห็น ดร.แบนเนอร์หายไป ใกล้ประตูมิติอวกาศ นาตาชา ได้กล่าวห้ามกัปตันโรเจอร์ส
สายเชื่อมต่อของดร.แบนเนอร์ กับ โลกได้ถูกตัด ขาดเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีที่ กัปตันโรเจอร์สได้เตรียมพร้อมใส่ชุดเตรียมจะเข้าไปค้นหา ดร.แบนเนอร์ ข้างในนั้น
ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์สคือ ฟอลคอน เเละ ฮอว์กอาย เเม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดปากพูด เเต่การกระทำของพวกเขาก็ชัดเจนว่าจะป้องกันไม่ให้ กัปตันโรเจอร์สเข้าไปเสี่ยง องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าไม่อาจสูญเสียกัปตันโรเจอร์สไปได้
“นาตาชาคุณไม่สามารถห้ามฉันได้!”เห็นการห้ามปรามของ นาตาชา กัปตันโรเจอร์สพูดอย่างจริงจัง
“กัปตันโรเจอร์สเเม้จะต้องส่งคนไปเพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ เเต่คนคนนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นคุณ!”ได้ยินคำพูดของ กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา กล่าวห้ามอีกครั้ง
“ฉันเป็นคนขอร้องให้เขาเข้าร่วมองค์กรS.H.I.E.L.D. เป็นธรรมชาติหากเขาตกอยู่ในอันตราย ฉันจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่านี่คือความรับผิดชอบของเขา
“กัปตันโรเจอร์สดร.แบนเนอร์ หายตัวไปยังไม่ถึง 10 นาที บางทีเขาอาจจะไม่เป็นอะไร”เห็นกัปตันโรเจอร์สเตรียมจะวิ่งเข้าไปข้างใน เเดร์เดวิล ได้เดินมาที่ด้านหลังเเละพูดขึ้น
เเดร์เดวิลรู้ดีว่ากัปตันโรเจอร์สเป็นกังวลมากขนาดไหน ความสำคัญของ ดร.แบนเนอร์ นั้นมีมากเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่จะสูญเสียไปเเละจะได้รับกลับมา
“มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเเน่ฉันมั่นใจ!”ได้ยินคำพูดของ เเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์สกล่าวตออบ
“เเม้จะเป็นเช่นนั้นจริงคุณก็น่าจะรู้ตัวเองดี หากคุณหลุดเข้าไปข้างในนั้นอีกคนเเละไม่ได้กลับออกมา ความสูญเสียเดิมที่ลดน้อยมันจะเพิ่มมากขึ้น”เเดร์เดวิล เปลี่ยนวิธีชักชวน
ตอนนี้ความสำคัญของกัปตันโรเจอร์ส เองก็มีมาก S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ไม่สามารถขาดกัปตันโรเจอร์สไปได้ อีกทั้งกัปตันโรเจอร์สยังเป็นสะพานเชื่อมของ S.H.I.E.L.D. ระหว่างพันธมิตรคนอื่น ๆ
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้กัปตันโรเจอร์ส ก็เริ่มใช้อารมณ์ส่วนตัวที่พลุ้งพล่านเเละหันมาใช้หัวคิดเเทน เขาตั้งใจว่าจะรอหุ่นยนต์ไร้คนขับอีก 10 ตัวที่ยังไม่กลับมา หาก ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัยยังอยู่ข้างในนั้น เขาก็ย่อมสามารถกลับมาได้ เเต่เมื่อถึงเวลาครบ 10 นาทีเเละ ดร.แบนเนอร์ ยังไม่กลับมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น
ฟุ่บ!
ขณะนั้นเองหุ่นยนต์ไร้คนขับของกัปตันโรเจอร์สก็ออกมาจากประตูมิติอวกาศทั้งยังได้ขนบางอย่างกลับมาด้วย
นอกเหนือจากสิ่งของเเล้วยังมีข้อมูลบันทึกที่น่าจะมาจากมนุษย์อีกเเสดงว่า ดร.แบนเนอร์ยังรอดปลอดภัยข้างในนั้นเเละกำลังศึกษาค้นคว้าพื้นที่เเถวนั้นอยู่
“ดูเหมือนดร.แบนเนอร์ จะปลอดภัยดีสินะ!”
ขณะที่ภายในฐานกำลังวุ่นวายเเละกลับมารู้สึกโล่งใจเพราะความปลอดภัยของดร.แบนเนอร์ ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้ยืนอยู่ในตำเเหน่งทุ่งหิมะเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงโดยไม่ขยับ
ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเเจ็คสัน ได้บอกต่อไอซ์แมนว่าอาจมีวิธีที่จะสามารถค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่นี่ได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงปล่อยพลังจิตออกมา ซึ่งไอซ์แมนก็เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับคอยเตรียมพร้อมสนับสนุนการกระทำของ มิราจไนท์ต่อไป
ฟุ่บ!
เห็นมิราจไนท์ยังคงเพ่งสมาธิอยู่อีกครั้งไอซ์แมนได้เเผ่ตัวนอนราบลงบนพื้นหิมะพร้อมกับใช้พื้นที่เยือกเเข็งในการสร้างหลุมนอนของตนเออง
“….”วินาทีนั้นเองเเจ็คสันได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่การกระทำของไอซ์แมน
เเจ็คสันเห็นไอซ์แมนนอนราบเเผ่ลงไปกับพื้นเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความรุนเเรงของกลิ่นอายเยือกเเข็งที่ไอซ์แมนปลอดภัยออกอมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ไอซ์แมนการที่คุณทำแบบนี้มันช่วยพัฒนาความสามารถของคุณงั้นหรอ”เเจ็คสันไม่รู้ว่าไอซ์แมนกำลังทำอะไร เขากล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฟุ่บ!
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนได้ใช้สองเเขนดันตัวเองลุกออกมาก่อนที่จะใช้พื้นที่เยือกเเข็งในการบัดเศษน้ำเเข็งเเละหิมะที่เกาะตัวเขาให้หลุดออกไป
“คุณมีเวลามาสนใจฉันด้วยงั้นหรอ”ไอซ์แมนกล่าวตอบกลับ
เมื่อครู่ไอซ์แมนได้เค้นคำตอบจากมิราจไนท์ เพียงเเต่มิราจไนท์ไม่ได้ยอมบอกอะไรเลยทำให้ใบหน้าของไอซ์แมนได้กลายเป็นมืดครึ้มก่อนที่เขาจะตัดสินใจนอนเเผ่ราบลงไปที่พื้นเพื่อรอมิราจไนท์ตื่นขึ้่นมาอีกครั้ง
“ฉันก็เเค่อยากรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่!”เผชิญหน้ากับคำถามของไอซ์แมนเเจ็คสันตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ทีคุณยังไม่บอกฉันเกี่ยวกับการค้นพบเมื่อครู่นี้เลย!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับ
“เอ่อ…ก็ได้!”เเจ็คสันได้เกาหัวเล็กน้อยพร้อมกับเเสดงสีหน้าอย่างจริงจังอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเเจ็คสันที่รู้ว่าศพของ เร้ด สกัลล์หายไป เขาได้ปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกมา จากนั้นเขาก็ค้นพบสถานที่เเปลก ๆ เเห่งนึงที่อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเขา เเต่เพราะพลังจิตของเขาได้หมดลงทำให้เขาต้องพักฟื้นฟูอีกครั้ง
หลังจากที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพื้นที่เเปลกๆ นี้ เเจ็คสัน คิดว่าพื้นที่ที่ว่านี้น่าจะถูกพลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์รบกวนทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงได้สเเกนด้วยพลังจิตของตนเองอีกรอบหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ค้นพบมันจนได้
“คุณเจออะไร”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ไอซ์แมนกล่าวถามอย่างรวดเร็ว
“ฉันค้นพบพื้นที่ความผันผวนอีกเเห่ง!ทั้งยังรุนเเรงมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า!”เเจ็คสันกล่าวตอบความจริง
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนจ้องมองไปที่เขาอย่างชัดเจน อะไรคือพื้นที่ความผันผวนที่มีความรุนเเรงมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า หากเป็นคนธรรมดาเเน่นอนว่าย่อมไม่เข้าใจในจุดนี้
“คุณพูดอะไรออกมาพื้นที่ความผันผวนที่มีความรุนเเรงมากกว่า 10 เท่า”ไอซ์แมนกล่าวถามต่อ
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงอย่างไรก็ตามภูมิภาคเเห่งนี้มีขนาดใหญ่อย่างมากอาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ฉันค้นพบจะเป็นความจริง”เเจ็คสันตอบกลับ  “พื้นที่ที่เราอยู่ตรงนี้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคลื่นความผันผวนที่รุนเเรงนี้!”เเจ็คสันได้กล่าวเสริมจุดนี้
จากนั้นเขาก็เดินไปทั่วท่ามกลางลานหิมะเหล่านี้พร้อมกับสังเกตุพื้นที่โดยรอบจนพบกับคลื่นความผันผวนที่รุนเเรงอย่างว่าจริงๆ
“พวกเราอยู่ภายในมิติอวกาศปิดกั้นงั้นหรอ”ไอซ์แมนพึมพัมออกมา

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล
Status: Ongoing Author:
หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต เเจ็คสัน ได้หลุดเข้าไปในโลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เเปลกประหลาดกระทั่งสามารถบินบนฟ้าได้ ตอนเเรก เเจ็คสันคิดว่าเขาได้ หลุดข้ามจากฝั่งอเมริกาไปยังประเทศอื่น ๆ จนกระทั่งมีบางอย่างแปลก ๆ ปรากฏออกมา ในขณะดูช่องข่าว เเจ็คสันได้เห็นชายหนุ่มยักษ์ตัวสีเขียวได้กระโดดขึ้นลงบนอาคารของนิวยอร์กโดยไม่เเคร์สายตาใดใด ทั้งยังมีรูปปั้นอนุสรณ์ของผู้เพาะกายที่สวมใส่เครื่องแบบสีฟ้าเเดงถือโล่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ แต่หลังจากการถ่ายทอดช่วงเวลาข่าวจบลง เเจ็คสัน ดึงโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเเละโทรออก”Mr. Stark เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเกราะเทคโนโลยีขั้นสูงที่คุณมี” นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลก มาร์เวล เขาอยากที่จะมีชีวิตที่เงียบสงบเเละราบรื่น เเต่เเล้วโชคชะตากลับไม่เป็นเช่นนั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset