Househusband-wannabe Boy and Idol Girl – ตอนที่ 4.1

“รินทาโร่…….นายเป็นอะไรรึป่าว” (ยูกิโอะ)

“หืม……? ก็สบายดีนะไม่เป็นอะไร” (รินทาโร่)

“แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ” (ยูกิโอะ)

ยูกิโอะที่นั่งด้านหน้าผม แล้วมองผมด้วยสีหน้ากังวล

ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา ก็เวลา 10.30 น. แล้ว

ดูเหมือนว่าต่อไปจะเป็น คาบที่ 3 แล้ว

จากที่ผมจำอะไรไม่ได้เลย ดูเหมือนว่าผมจะหลับไปตั้งแต่มาถึงโรงเรียนจนตอนนี้

“มีอะไรเกิดขึ้นกับนายรึป่าว? ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานายดูจะเหนื่อยกว่าปกตินะ” (ยูกิโอะ)

“ไม่มีอะไรน่า เมื่อวานต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ พอกลับมาก็ยุ่งกับการจัดของใส่กล่อง ……. ขอโทษทีแต่ช่วยจดงานใว้ให้ทีดิ” (รินทาโร่)

“อ่า แต่……จะย้ายเหรอ” (ยูกิโอะ)

“อื้ม มีเรื่องนิดหน่อย…….ย้ายมาอยู่ใกล้ๆโรงเรียนกว่าเดิมนิดนึง” (รินทาโร่)

“อ๋อ เข้าใจแล้ว งั้นวันนี้งดไปเที่ยวก่อนละกัน” (ยูกิโอะ)

“ขอโทษที” (รินทาโร่)

“ไม่เป็นไร ผมคิดว่านายควรไปนอนที่ห้องพยาบาลนะ นายยังดูง่วงๆอยู่เลย” (ยูกิโอะ)

“ไม่ละ ไม่อยากไปนอนที่ห้องพยาบาล เลยจะนอนที่นี่เอาเลย” (รินทาโร่)

“พูดอะไรของนายเนี่ย ถ้าอยู่ที่นี่จะไม่ได้นอนเอานะ” (ยูกิโอะ)

“ห๊ะ……?” (รินทาโร่)

“ฟังนะ คาบสามสี่ เป็นคาบเรียนคหกรรม”

――――เวรละผมลืมไปเลย

ผมเดินไปที่ห้องคหกรรมและดูเมนูบนกระดานดำ

ดูเหมือนจะเป็นสเต็กแฮมเบอร์เกอร์ ซุปไข่ และสลัด

“ ขอให้จับกลุ่มทำงานกันกลุ่มละ 6 คน ตอนนี้มีวัตถุดิบอยู่บนโต๊ะแล้วขอให้ทุกคนทำอาหารตามสูตรที่จะให้นะ กลุ่มไหนทำเสร็จแล้วกินก่อนได้เลย”

ทันทีที่อาจารย์คหกรรมให้สูตร เพื่อนร่วมชั้นที่ยืนเรียงกันไม่เป็นระเบียบก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อรวมกลุ่มหกคน อืม…… พูดตรงๆ นะ เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากที่ต้องมาทำงานเป็นกลุ่ม

” รินทาโร่ เรามาจับกลุ่มกันเถอะ” (ยูกิโอะ)

“อินาบะคุง! มาเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเราไหม……?”

“เอ๊ะ……?” (ยูกิโอะ)

กลุ่มสาวห้าคนเรียกยูกิโอะที่อยู่ข้างๆผม

มีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่เห็นได้ชัดว่าแอบชอบยูกิโอะอยู่

ผมคิดว่าเธอน่าจะชื่อ มิยาโมโตะ ผมเข้าใจล่ะ อีกสี่คนดูเหมือนจะต้องการสนับสนุนความรักของเธอ

” แต่……” (ยูกิโอะ)

“ไปเถอะ ถึงเราสองคนจะรวมตัวกัน การจะหาอีกสี่คนก็ยุ่งยากใช่ไหมล่ะ” (รินทาโร่)

“อื้มก็จริงนะ……แต่ผมอยากเห็นรินทาโร่ทำอาหารมาตั้งนานแล้ว” (ยูกิโอะ)

“เอาไว้ทำให้ดูตอนมาบ้านรอบหน้าละกัน” (รินทาโร่)

“อื้มก็ได้” (ยูกิโอะ)

ยูกิโอะไปร่วมกลุ่มกับสาวห้าคนด้วยสายตาที่ค่อนข้างหดหู่

ยูกิโอะอาจเป็นคนเดียวในห้องนี้ที่ไม่ชอบให้ผู้หญิงชวน

แต่ผมก็เหมือนกัน [ผู้แปล : ทำไมได้กลิ่น Y หรือรู้สึกไปเองกันนะ]

(เอาล่ะ…… ผมจะหากลุ่มได้ไหมนะ)

ผมหันหลังให้กลุ่มของยูกิโอะแล้วมองไปรอบๆ

กลุ่มที่มีแค่ผู้หญิงหรือผู้ชายล้วน และกลุ่มอื่นๆ ส่วนมากสมาชิจะครบหกคนแล้ว

แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเพราะห้องเรียนนี้มี 36 คน เพราะงั้นจะมีที่ว่างแน่นอน

“เฮ้ ชิโดะ! ถ้ายังไม่มีกลุ่ม ทำไมไม่เข้าร่วมกลุ่มของพวกเราล่ะ?”

“หืมม?” (รินทาโร่)

เมื่อผมหันไปมอง สิ่งแรกที่ผมเห็นคือใบหน้าที่ความหล่อพุ่งมาใส่ตาผม

คากิฮาระ ยูสุเกะ ชายหนุ่มรูปงามที่ได้รับความนิยมที่สุดในชั้น ปี 2

ตามที่ผมได้ยินมา เขาเพิ่งถูกแมวมองมาเชิญไปเป็นนายแบบ

เราเรียนอยู่ชั้นเดียวกันตั้งแต่ม.ต้น และความประทับใจของผมที่มีต่อเขาก็คือ เป็นเพียงแค่ “ผู้ชายที่ดี” เขาใจดีจนผมรู้สึกอึดอัดที่เวลาอยู่ด้วยกัน

“คากิฮาระคุง แน่ใจนะว่าจะให้ผมอยู่ด้วย?” (รินทาโร่)

“ แน่นอน กลุ่มเรามีกันแค่ห้าคน ยังขาดอีกหนึ่งคนอยู่พอดี” (ยูสุเกะ)

“ งั้น ผมเข้าด้วยละกัน” (รินทาโร่)

“อื้ม” (ยูสุเกะ)

คากิฮาระพาผมไปที่โต๊ะที่มีสมาชิกอีกสี่คนที่นั่งอยู่

“ในที่สุดก็ได้ สมาชิกคนสุดท้ายแล้ว” (อาซึสะ)

ผู้หญิงผมยาวสีดำที่ยิ้มอ่อนๆ ให้ผม คือ นิไคโด อาซึสะ เธอเป็นหัวหน้าห้องของห้อง 2A

เธอเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นที่สวยและมีสไตร์การแต่งตัวแตกต่างไปจาก เรย์ และถึงเธอจะเล่นกีฬาไม่เก่ง แต่เธอก็เรียนเก่งจนผมไม่เคยเห็นเธออันดับต่ำกว่าที่ 5 ของชั้นปีเลย

” อืม…… นายชื่อ ชิโดะคุง! ใช่ไหม พอดีฉันยังจำชื่อเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ไม่ค่อยได้”

สาวผมสีน้ำตาลที่นั่งอยู่ข้างๆ นิไคโดะ คือโนกิ โฮโนกะ

เธอมักจะสวมชุดนักเรียนไม่เป็นระเบียบ เธอเลยมักดึงดูดสายตาของเด็กผู้ชาย ผมไม่เห็นชื่อเธอในการอันดับการสอบของชั้นปี ผมเลยรู้ว่าเธอเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่เธอมีทักษะด้านกีฬาที่ดี ผมมักจะเห็นคนมาดูเธอรอบๆโรงยิม

“เอาล่ะ อัตราส่วนเพศตอนนี้ก็กำลังพอดี!”

คนที่ยิ้มอย่างร่าเริงคือ โดโมโตะ ริวจิ

เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในปีสองและอยู่ในชมรมยูโด และเลยเป็นอันดับหนึ่งที่ไม่มีใครอยากสู้ด้วย อีกอย่างผมเห็นเขาหลับตอนเรียนตลอด ตามที่ผมได้ยินมา เขาเกือบได้ตัวแดงในการสอบเมื่อปีที่แล้ว

คากิฮาระ นิไคโดะ โนกิ และโดโมโตะ สี่คนนี้คือคนที่อยู่ในชั้นสูงสุดในสายตาของผม ส่วนมากทั้งสี่คนจะอยู่ด้วยกันและไปเที่ยวด้วยกันตลอด

ทำไมผมถึงรู้มากเกี่ยวกับพวกเขา———อย่าคิดว่าผมเป็นสตอล์กเกอร์ แต่ข้อมูลพวกนี้เป็นความรู้ทั่วไปในหมู่ปีสอง

นี่คือความโดดเด่นของพวกเขา

เป็นกลุ่มหนุ่มหล่อหน้าตาดี

และคนสุดท้ายที่อยู่ข้างหน้าผมคือ

“ริ……ชิโดะคุง ยินดีที่ได้รู้จัก” (เรย์)

“……โอโตซากิซัง ยินดีที่ได้รู้จัก” (รินทาโร่)

โอโตซากิ เรย์ ผมคงไม่ต้องอธิบายแล้ว

เธอคงถูกเรียกโดยคากิฮาระ ตามกฎที่ทุกคนรู้กัน คนในชั้นล่างไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับคนในชั้นสูงได้

แน่นอนว่าคนที่สามารถคุยกับเรย์ที่อยู่ชั้นสูงได้ก็คือคนที่อยู่ในชั้นเดียวกัน แน่นอนว่าไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน เพียงแต่ยากที่จะเข้าไปพูดด้วย

“เอาล่ะ พวกเราทั้งหกคนมาช่วยกันทำให้ดีที่สุด ว่าแต่……มีใครทำอาหารเก่งบ้าง?”

คากิฮาระได้สวมบทบาทเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ มองไปรอบๆ และถาม

แต่ไม่มีใครยกมือขึ้น

ถึงผมจะมีความมั่นใจในทักษะการทำอาหาร แต่ผมจะไม่ยกมือขึ้นที่นี่

สิ่งสำคัญที่สุดในการเข้าสังคมกับเพื่อนร่วมชั้นคือการอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

มีความเป็นไปได้ที่จะมีคนที่ไม่ชอบคนโอ้อวด ดังนั้นหลังจากผ่านไปสักพัก ผมจะบอกว่า “ผมไม่คิดว่าทำเก่งนะ แค่พอได้พื้นฐาน”

ผมยังไม่อยากถูกตราหน้าว่าไร้ประโยชน์

และเรย์ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบ “เร็วเข้า ยกมือขึ้นสิ”

“อ่า…ฉันเคยทำแฮมเบอร์เกอร์สเต็กและของแบบนั้นมาก่อน แต่ฉันไม่ได้ทำอาหารเก่งขนาดนั้น” (อาซึสะ)

“อย่างที่คาดหวังไวเลย อาซึสะ! วันก่อนเอาคุกกี้ทำมือมาให้ฉันกินและมันอร่อยมาก! ฉันตกใจมากเลย” (โฮโนกะ)

“อื้ม แต่เธอพูดเกินจริงไปนะ โฮโนกะ” (อาซึสะ)

“ไม่ๆ….ฉันคิดว่า คุ้กกี้พวกนั้นคุณสมบัติที่จะทำให้อาสึสะเป็นภรรยาที่ดีได้ในอนาคตได้เลยนะ ฉันแน่ใจจริงๆ เพราะนั้นคือสิ่งที่ฉันคิดจริงๆ!” (โฮโนกะ)

“อื้ม” (อาซึสะ)

นี่เป็นวิธีที่ผู้หญิงล้อเล่นกันหรอ ผมตามไม่ทันจริงๆ

ผมแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างมีความสุข แต่ผมก็ยกมือขึ้นด้วยความกลัว

“ผมพอทำอาหารขั้นพื้นฐานได้ ไม่ใช่ว่าผมทำไม่ได้เลย” (รินทาโร่)

“โอ้ ผมรอดแล้ว ไม่ใช่ว่าผมทำไม่ได้แต่ส่วนใหญ่ผมช่วยได้แค่หั่นผัก จากนั้นให้อาซึสะและชิโดะมีบทบาทสำคัญในการทำอาหาร แต่…สำหรับโฮโนกะและริวจิ……อืม” (ยูสุเกะ)

ดวงตาของคากิฮาระหันไปทางโนกิและโดโมโตะด้วยท่าทางที่อธิบายไม่ได้

“หยุดนะ! อย่ามาคาดหวังการทำอาหารของฉันนะ!” (โฮโนกะ)

“อื้ม เธอพูดถูก! เราสองคนเชี่ยวชาญเรื่องการกินเท่านั้น!” (ริวจิ)

“เรา” หมายความว่ายังไง 

 

ฉันมั่นใจว่าฉันทำได้ดีกว่านายนะ! (โฮโนกะ)

“โกหก! เธอเผาปลายผมตัวเองในวันวาเลนไทน์ที่ปีแล้ว!” (ริวจิ)

“เอ่อ นั่นมันอุบัตติเหตุต่างหาก!” (โฮโนกะ)

แน่นอนว่าสองคนนี้อยู่ชั้นเดียวกันตั้งแต่ปีแรก ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาสนิทกันมาก

‘ทิ้งสองคนนี้ไว้เถอะ…..แล้วเธอล่ะ โอโตซากิซัง?” (ยูสุเกะ)

“ฉัน? (เรย์)

ไม่อร่อย เมื่อผมคิดอย่างนั้น ปากของผมก็เปิดออก

“พูดถึงเรื่องนั้น! ผมได้ยินมาว่าโอโตซากิซังทำอาหารกลางวันเองเสมอนะ ? น่าประทับใจจัง! มันต้องลำบากทุกเช้าใช่ไหม” (รินทาโร่)

“อ่า…… ใช่ ฉันทำอาหารกลางวันเอง” (เรย์)

“ก็ทำอาหารได้ ไม่ต้องเจียมตัวขนาดนั้นก็ได้” (ยูสุเกะ)

ผมมองเข้าไปในดวงตาของ เรย์ และเตือนเธอว่า “อย่ามาสร้างเรื่องให้ฉันสิ” เธอพยักหน้าหลายครั้งเพื่อให้มีเพียงผมเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งที่เธอรู้สึก

” แต่…… ฉันไม่ค่อยมั่นใจกับสเต็กแฮมเบอร์เกอร์เท่าไหร่” (เรย์)

“อย่างที่ผมบอกเลย ผมอยากให้โอโตซากิซังคอยช่วยเหลือชิโดะคุงและอาซึสะ มันจะดีมากถ้ามีคนช่วยพวกเขาได้ ” (ยูสุเกะ)

“ฉันเข้าใจแล้ว” (เรย์)

 

สามารถติดตามผลงานได้ที่ เพจ  เเปลเรื่องที่สนใจ 

ลงหน้าเพจก่อน 1 วันนะครับ

 

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

Status: Ongoing
อ่านนิยาย จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปีได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset