…….
ยาซุโอะ เดินไปข้างหลังเธอแล้วสร้างอาเขตขยายรอบตัวเธอ โดยสังเกตกิจกรรมของร่างกายและเน็น เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี…
โมเรน่า หลับตาลง ขณะที่รู้สึกว่าปริมาณเน็นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนร่างกลายเป็นมัมมี่แห้งสนิท “แค่ประมาณ 12%”
ยาซุโอะ เฝ้าสังเกตอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่เห็นความยุ่งยากใด ๆ “ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นทำต่อไป”
เธอพยักหน้าแล้วทำแบบเดียวกันกับร่างของหัวหน้า ยกเว้นปริมาณออร่าของเธอที่ไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้ม ขณะที่เธอดูดเลือดต่อไป
ยาซุโอะ เดินไปหาศพแล้วใช้กุหลาบม่วงลบพวกเขาทิ้งพร้อมกับถามว่า “เธอได้ความสามารถเหรอ?”
รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอยกมือขึ้น ขณะที่จดจ่ออยู่กับออร่า
ออร่าเริ่มเข้มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นควันสีดำสนิท ขณะที่เธอจัดการให้ไหลไปรอบ ๆ “เขาเป็นสายเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนออร่าของเขาให้กลายเป็นก๊าซพิษ มันไม่อ่อนแอแต่ก็ไม่แรงเช่นกัน”
ยาซุโอะ เลิกคิ้วอย่างสงสัย “เธอยังได้รับประสบการณ์ด้านความสามารถของเจ้าของคนก่อนด้วยหรือเปล่า?”
โมเรน่า พยักหน้า “ใช่ ถึงแม้ว่าฉันจะได้ชิ้นส่วนมาสองสามชิ้น แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่ามันทำงานอย่างไร…”
…
ฮัตสึสายปรสิต (สายแปรสภาพ): ปรสิตปล้นสะดม
เมื่อผู้เป็นเจ้าของแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นด้วยปรสิต ซึ่งสามารถทำได้ผ่านทางเลือดของเธอในการติดต่อกับเป้าหมาย ความสามารถจะเริ่มมีผล
ปรสิตจะเริ่มเสริมความแข็งแกร่งให้กับเป้าหมาย โดยใช้อายุขัยของเป้าหมายมากขึ้นตามระยะเวลาหนึ่งเดือนและเป้าหมายจะทราบตำแหน่งของเจ้าของมัน (โมเรน่า) ตลอดเวลาหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงจากการติดเชื้อ
การเสริมความแข็งแกร่งจะขึ้นอยู่กับอายุขัยและศักยภาพที่เหลืออยู่ของเป้าหมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน
วิธีเดียวที่จะยกเลิกความสามารถได้ คือ การฆ่าเจ้าของมันหรือถ้าเจ้าของมันตัดสินใจที่จะยกเลิก หากเป้าหมายสามารถฆ่าเจ้าของมันได้สำเร็จ เป้าหมายจะรักษาความแข็งแกร่งทั้งหมดไว้ ในขณะที่ดูดซับพลังชีวิตของเจ้าของมัน
เป้าหมายย่อมรู้ถึงประโยชน์ของการฆ่าเจ้าของมันโดยธรรมชาติ
เป้าหมายมีเวลาเพียง 30 วัน ในการฆ่าเจ้าของมัน หากเป้าหมายไม่สามารถทำได้ ความสามารถทั้งหมดของผู้เป็นเจ้าของหรือ เน็นของเป้าหมายจำนวนเล็กน้อย (จำนวนสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 50%) จะถูกโอนไปยังเจ้าของมัน แต่เธอต้องการสัมผัสกับเลือดของเป้าหมายภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากที่เป้าหมายตาย เพื่อถ่ายโอนความสามารถและพลัง ยิ่งเวลาที่เธอใช้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ประโยชน์น้อยลงเท่านั้นและหากผ่านไป 2 ชั่วโมงก็ไม่มีประโยชน์อะไร
สามารถมีได้เพียง 7 เป้าหมายต่อครั้งเท่านั้น
หากเป้าหมายตายก่อน 30 วัน ความสามารถจะถูกยกเลิกและจะไม่มีประโยชน์สำหรับตัวเจ้าของ
…
ยาซุโอะ ดูครุ่นคิดก่อนที่จะพูดว่า “ถ้าเธอเลือกลูกน้องที่ภักดีเจ็ดคน ทำให้พวกเขาติดเชื้อและยกเลิกฮัตสึของเธอหลังจากนั้นสองสามวัน เธอจะมีผู้ใช้เน็นที่แข็งแกร่งเจ็ดคน”
“นอกจากนี้ จากการสังเกตของฉันเมื่อเดือนที่แล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปเร็วเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งสูญเสียอายุขัยเร็วขึ้นเท่านั้น
นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมการเสริมความแข็งแกร่งจึงช้าในตอนเริ่มต้น ดังนั้น หากเธอทำแบบเดียวกันกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ ในทางทฤษฎีแล้ว เธอจะสามารถบังคับให้พวกเขาเริ่มใช้เน็นได้และทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วไปอีก”
โมเรน่า ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “อีกไม่ถึงเดือนการสอบของฮันเตอร์ก็จะเริ่มขึ้น ฉันจะไปสถานที่นัดหมาย นายจะทำอะไร?”
“ฉันจะอยู่ที่นี่ เพื่อทำการทดลองจนกว่าเธอจะทำเสร็จสิ้น ถ้าเธอต้องการที่จะแพร่เชื้อให้ใครซักคน บอกฉันก่อนเพราะความสามารถนั้นค่อนข้างอันตราย”
“นอกจากนี้ ฉันจะดูว่ามีฮันเตอร์คนใดที่มีความสามารถทำให้คนหลับใหลหรือบังคับให้พวกเขาเข้าสู่สถานะเซ็ตสึ หรือสิ่งที่คล้ายกันสำหรับเธอที่จะจัดการหรือทำให้หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอสร้างความสามารถเช่นนั้น
แม้ว่าการสุ่มเพิ่มจำนวนเน็นหรือการได้รับความสามารถจะเป็นปัญหา ดังนั้น เธออาจต้องลองทำสองสามครั้ง…”
หลังจากพูดไปซักพัก โมเรน่า ก็ปล่อยให้ ยาซุโอะ ยืนอยู่หน้าตู้กระจกขนาดใหญ่ ขณะที่กระจกบานนั้นเริ่มพังทลายลง ทิ้งให้ผู้หญิงคนหนึ่งลอยขึ้นไปในอากาศ โดยมีน้ำล้อมรอบเธอ จากนั้น เขาก็แยกน้ำออกจนตัวเธอจนร่างกายแห้งลง
ยาซุโอะ ควบคุมเนตรสีเพลิงทั้งสองข้างเคลื่อนเข้าไปในเบ้าตา ซึ่งเชื่อมต่อเส้นประสาทตาและหลอดเลือดที่แห้งสนิท เนื่องจากเลือดในร่างกายของเธอจับตัวเป็นลิ่มอย่างสมบูรณ์
เขาสร้างอาเขตขยายของเขา จากนั้น สังเกตพลังงานมืดในดวงตา ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นว่าทุกเซลล์ในร่างกายของเธอมีพลังงานมืด แม้ว่าจะจางหายไปก็ตาม
เขาหยุดอาเขตขยาย‘ฮัตสึ –กุหลาบม่วง– M=-1, T=5‘ จากนั้น เขาก็เริ่มโจมตีร่างกาย ขณะที่เส้นสีม่วงปรากฏขึ้นบนแขนของเขา
เขาใช้เวลาทั้งหมด 5 วินาทีในการโจมตีด้วยความเร็วที่น่าสยดสยอง เขาสังเกตร่างกาย ขณะที่สังเกตเห็นว่าอาการดีขึ้นมาก โดยที่หลอดเลือดค่อย ๆ ฟื้นตัว
ยาซุโอะ หรี่ตาลงแล้วรวบรวมออร่าจำนวนมากที่มือของเขาและเขายังคงทำเช่นนั้นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น ก็เปิดใช้งานกุหลาบม่วงอีกครั้งและขณะที่มือของเขาเคลื่อนผ่านร่างกาย
ออร่าทั้งหมดที่เขารวบรวมอยู่ที่มือของเขาหายไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ในขณะที่เขาโจมตีต่อไปจนกระทั่งหมดเวลา
จากนั้น ยาซุโอะ ก็สังเกตเห็นการเต้นของหัวใจเพียงหนึ่งครั้ง โดยใช้อาเขตของเขา ซึ่งเป็นการเต้นของหัวใจที่มาจากศพที่อยู่ข้างหน้าเขา
เลือดที่จับตัวเป็นลิ่มก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นของเหลวอีกครั้ง ขณะที่หลอดเลือดทั้งหมดในร่างกายของเธอหายเป็นปกติและสิ่งเดียวกันนี้ก็เริ่มเกิดขึ้นกับอวัยวะทั้งหมดของเธอ
เขาสังเกตเห็นพลังงานมืดอีกครั้ง สังเกตว่ามันค่อนข้างว่องไว โดยที่ดวงตามีความกระตือรือร้นมากที่สุด เขาสังเกตเห็นพลังงานมืดที่ปกคลุมประมาณหนึ่งในสี่ของเซลล์ในร่างกายของเธอ
จากนั้น ยาซุโอะ ยังคงใช้กุหลาบต่อไป โดยมีตัวคูณลบกับร่างกายเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจของเธออย่างต่อเนื่องชั่วขณะหนึ่ง
เขาสังเกตพฤติกรรมของพลังงานมืด ในขณะที่สังเกตด้วยว่าความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างร่างกายกับคนที่มีชีวิต คือ การมีอยู่ของวิญญาณที่ร่างกายนี้ไม่มี
แสงระยิบระยับในดวงตาของ ยาซุโอะ ขณะที่เขาลูบที่ต่างหูของเขา “ฉันจะต้องฟื้นฟูจิตวิญญาณของเธออีกนานแค่ไหน? เวลา…ฮัตสึที่ทำลายเหตุและผลหรือ”
หลังจากสังเกตว่าพลังงานมืดมีปฏิสัมพันธ์กับเซลล์ของร่างกายอย่างไรและได้ข้อสรุปบางประการ แหล่งที่มาของพลังงานอยู่ภายในดวงตา เนื่องจากพลังงานแพร่กระจายจากเซลล์เหล่านั้นไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
เขายังทำการทดลองอีกแบบ โดยย้ายดวงตาปกติไปที่ร่างกาย ซึ่งทำให้กิจกรรมทั้งหมดของพลังงานมืดในร่างกายหยุดลง ซึ่งทำให้เขาเชื่อว่าแหล่งที่มาของพลังงานมืด คือ เนตรสีเพลิง
และดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มนั้นเป็นเงื่อนไขในตัวเอง แต่เพื่อให้ดวงตาทำงานได้ พวกมันต้องอยู่ในร่างของสมาชิกเผ่าคูลท์
เรื่องนั้นได้รับการยืนยัน เมื่อเขาปลูกถ่ายเนตรสีเพลิงอื่นที่ไม่ใช่ของร่างกาย แต่เป็นดวงตาคู่ที่เขาขโมยกลับมาในยอร์คชิน ซิตี้
“อืม มันน่าจะเป็นไปได้ ถ้าพลังงานมืดระบุตัวฉันว่าเป็นสมาชิกเผ่าคูลท์ แต่คำถาม คือ มันระบุเจ้าของโดย DNA ของสมาชิกเผ่าคูลท์หรือโดยออร่า?”
แสงสว่างแห่งปัญญาปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ขณะที่เขาคิดว่า “ถ้าเป็นแบบแรก ฉันจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ฉันมั่นใจ 100% แล้วว่าชนเผ่าคูลท์มาจากทวีปมืด…”
