ตอนที่ 103 หมวกเขียว
หอคอยประชันสวรรค์เงียบสนิท ทันทีทันใด ความตกใจก็ปรากฏบนหน้าของอัจฉริยะหลายคน
กู่ฉางเกอมาที่นี่?!
“ในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงสุดของวังเต๋าอมตะสวรรค์ ทำไมน้องชายกู่ถึงจะไม่มา?”
เย่หลางเทียนยืนขึ้น
ความขุ่นมัวบนหน้าเขาหายไป และรอยยิ้มสดใสก็ประทับบนหน้าเขาขณะเดินไปทักทายผู้มาใหม่
“กู่ฉางเกอมาแล้ว?!”
ความสุขแวบผ่านตาของเย่หลิวลี่ และนางก็รีบเดินตามพี่ชายนางไป เพราะอิทธิพลของขวดสมบัติเต๋า เรื่องมากมายที่เกิดในอาณาจักรเบื้องล่างจึงถูกลบหายไปในความทรงจำนาง นางจำได้แค่ว่ากู่ฉางเกอรังแกนางด้วยเหตุผลบางอย่าง และบังคับให้เรียกเขาว่า’นายท่าน’
แม้เขาจะทำเช่นนั้น นางก็ไม่เกลียดเขา ตรงกันข้าม นางอยากเจอหน้าเขาทุกวัน
อัจฉริยะที่เหลือ โดยเฉพาะพวกที่มีกลิ่นอายหนาแน่นรีบลุกขึ้นทีละคน
ต้องยอมรับความจริงที่ว่าในอาณาจักรเบื้องบน มีแค่กู่ฉางเกอถึงทำให้พวกเขาเกรงกลัวได้
“นายน้อยตระกูลกู่?กู่ฉางเกอ?”
ไป่เล่ย นายน้อยตระกูลพยัคฆ์ขาวขมวดคิ้ว
เขารู้จักกู่ฉางเกอ และยังเคยเจอกับเขาบ้าง แต่ไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดจากการพบกันในอดีต
มันแค่ว่าไป่เล่ยไม่คิดว่ากู่ฉางเกอจะมางานด้วย เหนือสิ่งอื่นใด อัจฉริยะรุ่นเยาว์มากมายกับเจ้าหญิงของราชวงศ์เซียนต่างรังเกียจที่จะเข้าร่วมงานทำนองนี้
แต่หลังคิดสักพัก เขาก็ตระหนักว่าวังเต๋าอมตะสวรรค์เหมือนสวนหลังบ้านของกู่ฉางเกอ มันเป็นปกติที่เขาจะมา
ด้วยความคิดเหล่านี้ ไป่เล่ยจึงมองไปด้านหน้าเขาด้วยคิ้วที่ขมวดเป็นปม
ชายรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา เขาสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ไร้สิ่งสกปรกปนเปื้อน และก็มีแสงสบายตาคลุมตัวเขา
เขาดูเหมือนคนไม่แยแสอะไร และมีความสง่างามในทุกท่วงท่า แค่เห็นก็พอบอกได้ว่าเขาพิเศษแค่ไหน
ที่ตามหลังกู่ฉางเกอคือกลุ่มศิษย์จากวังเต๋า คู่หมั้นของเขา หยินเม่ยแห่งเผ่าจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางเองก็ด้วย
ใบหน้าของไป่เล่ยบิดเบี้ยวจนน่าเกลียดขณะมองหยินเม่ยเดินมาพร้อมกับกู่ฉางเกอ แม้ทั้งสองจะไม่ได้เดินบ่าชนบ่า และหยินเม่ยก็ก้าวตามตูดกู่ฉางเกออย่างเห็นได้ชัด เขาก็ยังรู้สึกขมเปรี้ยวในปาก
ร่างน่ามองของหยินเม่ยอยู่ในชุดสีแดง และใบหน้าทรงเสน่ห์ของนางทำให้ชายใดก็ตามที่เหลือบแลต้องมนตร์เสน่ห์
คิ้วของนางโค้งเหมือนกิ่งไม้ และดวงตาคล้ายพลอยก็เปล่งประกาย จมูกโด่งได้รูปนางดูน่ารัก และริมฝีปากแดงก็เหมือนกลีบดอกกุหลาบ นางมีฟันขาวเหมือนผลึก และผมเรียบเนียนเหมือนผ้าไหม
ไม่ว่าใครจะมองยังไง พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าหยินเม่ยกับชายในชุดขาวข้างนางเหมือนคู่ฟ้าประทาน
หัวใจของไป่เล่ยแผดเผาและรู้สึกไม่ดี ต่อให้กู่ฉางเกอจะถูกแทนด้วยชายอื่น เขาก็ยังรู้สึกไม่ดี เหนือสิ่งอื่นใด เขาต้องรู้สึกยังไงที่เห็นคู่หมั้นตัวเองเดินข้างชายอื่น?
รอยยิ้มประหลาดปรากฏบนหน้าของอัจฉริยะต่างๆพอพวกเขาเหลือบมองสีหน้าของไป่เล่ย ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็ดูเหมือนคนที่สวมหมวกเขียว
ไม่กี่วินาทีก่อน ไป่เล่ยยังแหกปากอย่างหยิ่งยโสถึงคู่หมั้นเขา แล้วตอนนี้?
มันดูเหมือนคู่หมั้นเขาจะไม่สนใจเขาเลย!
“น้องชายกู่ ในที่สุดเจ้าก็มา!ข้าเพิ่งบอกคนอื่นไปว่าไม่มีทางที่เจ้าจะไม่มา”
เย่หลางเทียนเดินไปทักทายกู่ฉางเกอด้วยรอยยิ้ม
คนที่ไม่รู้ดีจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อนกับกู่ฉางเกอ แต่ความจริงคือทั้งคู่เพิ่งพบกันครั้งแรก
เย่หลางเทียนได้ยินเกี่ยวกับกู่ฉางเกอมามากจากน้องสาวเขา เย่หลิวลี่ ความจริงที่กู่ฉางเกอไม่ได้รังแกน้องสาวเขามากสำหรับการกระทำที่หยาบคายในอาณาจักรเบื้องล่างทำให้เขามีความประทับใจที่ดี
แถม ในสายตาของคนอาณาจักรเบื้องบน กู่ฉางเกอคือเซียนแท้จริงกลับชาติมาเกิด ส่วนเขาคือจักรพรรดิโบราณกลับชาติมาเกิด ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็เป็นปกติที่พวกเขาต้องทำความรู้จักกัน
“กู่ฉางเกอ ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
เย่หลิวลี่เองก็ทักทายกู่ฉางเกอด้วยใบหน้าเขินอาย
อัจฉริยะส่วนใหญ่ที่เห็นฉากนี้รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเจ็บปวดรวดร้าว ตอนนี้ พวกเขากำลังคิดจะขโมยหัวใจดวงน้อยของเย่หลิวลี่ แต่มันกลายเป็นว่ามีคนขโมยไปแล้ว
กู่ฉางเกอกวาดมองทุกคนและยิ้ม”พี่ชายเย่ ไม่จำเป็นต้องสุภาพนัก!คุณหนูหลิวลี่ ไม่เจอกันนานจริงๆ”
แม้กู่ฉางเกอจะไม่เคยเจอเย่หลางเทียนมาก่อน มันก็ไม่ยากที่เขาจะเดาตัวตนได้ แน่นอน เขาไม่สนใจตัวตนของอีกฝ่ายในฐานะจักรพรรดิโบราณกลับชาติมาเกิด นับประสาอะไรกับแค่กลับชาติมาเกิด เขาจะถลกหนังทั้งเป็นด้วยซ้ำต่อให้จะเป็นจักรพรรดิโบราณที่ยังมีชีวิตถ้ามาทำให้เขาไม่พอใจ
แต่ ทัศนคติของเย่หลางเทียนดีมาก เขาจึงทักทายกลับ
หลังจากนั้น อัจฉริยะที่เหลือก็เริ่มแนะนำตัวเองและแสดงเจตนาอันดีต่อหน้ากู่ฉางเกอ
อัจฉริยะสูงสุดคนอื่นเองก็ทักทายกู่ฉางเกอด้วยความระมัดระวัง ทำให้มั่นใจว่าจะไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง
แน่อนน กู่ฉางเกอไม่ได้มางานเลี้ยงนี้เพราะเขาสนใจ เขาแค่มาลองเสี่ยงโชค
ปัจจุบัน วังเต๋าได้ดึงดูดความสนใจของตระกูลนับไม่ถ้วนและทั้งหมดก็ส่งคนของตัวเองมาเมืองโบราณเต๋าสวรรค์ เมืองโบราณเต๋าสวรรค์ตั้งอยู่ที่ตีนเขาวังเต๋าอมตะสวรรค์และมีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนมายังเมืองนี้
การปรากฏของบุตรฟ้าประทานคนใหม่แสดงถึงการกำเนิดของกระเทียมหอมต้นใหม่ที่พร้อมให้เขาเก็บเกี่ยว สำหรับเขา บุตรฟ้าประทานคือเรื่องสำคัญ
แถม ระหว่างทางมายังหอคอย เขาได้รับภารกิจจากระบบมาอีกด้วย!
[ติ้ง!ทำลายความสัมพันธ์ของบุตรฟ้าประทาน]
[รางวัล : หนึ่งพันโชคลาภ ห้าพันค่าโชคชะตา
กู่ฉางเกอสามารถประเมินรางวัลที่เขาอาจได้รับจากบุตรฟ้าประทานครั้งนี้ได้แล้ว แค่งานสุ่มจากระบบก็ยังมีรางวัลหอมหวานเช่นนี้ รางวัลจริงต้องไม่แย่
มันชักน่าสนใจ!
พูดก็พูด บุตรฟ้าประทานในอาณาจักรเบื้องล่างเหมือนพวกของเล่น การเรียกพวกเขาว่าเครื่องมือยังมากเกินไป พวกเขาไม่คู่ควรด้วยซ้ำ
มีแค่บุตรฟ้าประทานเกิดใหม่จากอาณาจักรเบื้องบนถึงมีคุณสมบัติเป็นเครื่องมือให้เขา
ตอนนี้ เขาต้องทำลายความสัมพันธ์ระหว่างบุตรฟ้าประทานกับบางคนในเมืองโบราณ เขาจึงเดาว่าคนคนนั้นต้องเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่มายังงาน
กู่ฉางเกอชินกับเรื่องแบบนี้ดี ย้อนกลับไปในอาณาจักรเบื้องล่าง เขาได้ทำลายนิกายหนึ่งไปแล้ว
อา เดี๋ยว มันเรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจียโหลว!
งานทำนองเดียวกันปรากฏขึ้นอีก
“พลังของน้องชายกู่ยากจะหยั่งถึง!ข้าอดชื่นชมเจ้าไม่ได้จริงๆ”
เย่หลางเทียนถอนหายใจ
หลังพบกับกู่ฉางเกอ เขาก็ตระหนักว่าข่าวลือนั้นไม่ได้เกินจริง
อาณาจักรจักรพรรดิขั้นกลาง!
ต่อให้เขาจะใช้ไพ่ตายทั้งหมด เขาก็อาจสู้กู่ฉางเกอไม่ได้!
“ท่านก็ถ่อมตัวเกินไป พี่เย่ ในความคิดข้า มีน้อยคนที่จะสู้กับท่านได้”
กู่ฉางเกอยิ้ม
เขาไม่สนใจจะตอแยอัจฉริยะสูงสุดคนอื่นด้วยคำพูด การชมเชยเย่หลางเทียนเป็นเรื่องเล็ก เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือนายน้อยตระกูลเย่และยังเป็นพี่ชายของเย่หลิวลี่
กู่ฉางเกอกำลังพิจารณารัดเขาเข้ามา
ในทางกลับกัน เย่หลางเทียนกลับเผยรอยยิ้มขมขื่น”น้องกู่ ข้าไม่คู่ควรกับคำชมเช่นนั้น มีอัจฉริยะมากมายในโลกนี้ ใครจะอ้างได้ว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น?”
ดวงตาของกู่ฉางเกอไหววูบและถาม”หรือจะมีคนที่ทำให้พี่เย่ประทับใจมากจนอดพูดเช่นนี้ไม่ได้?”
คำพูดเช่นนี้กลับมาจากปากอัจฉริยะสูงสุด ผู้ยังเป็นนายน้อยตระกูลเย่ นี่ไม่สมเหตุสมผล
ความสนใจของกู่ฉางเกอพุ่ง และเขาก็รู้สึกเหมือนว่าบุตรฟ้าประทานคนใหม่อยู่ไม่ไกลจากเขา
เย่หลิวลี่เผยความรำคาญตอนได้ยินและอธิบาย”เร็วๆนี้ มีคนจากตระกูลสาขาได้สร้างปัญหาให้กับพี่ใหญ่!คนคนนั้นชื่อเย่หลิง เขาคอยใช้ลูกไม้ยุ่งกับเราตลอด”
“โอ้!ข้าอยากได้ยินรายละเอียด”
กู่ฉางเกอรีบถามหาคำอธิบายด้วยน้ำเสียงสนใจ
ความขัดแย้งระหว่างนายน้อยกับคนของตระกูลสาขา…เรื่องแบบนี้กลับเกิดในตระกูลเย่
ไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็คือโครงเรื่องสำหรับตัวเอกใหม่!
เย่หลางเทียนส่ายหัวและเผยรอยยิ้มขมขื่น
ตอนนี้ เขารู้สึกหดหู่จนมีเมฆมืดลอยเหนือหัว
‘เย่หลางเทียนคงหลุดการควบคุมและไปทำร้ายพ่อตัวเอกโดยไม่ตั้งใจ และคนคนนั้นที่ชื่อเย่หลิงก็ต้องมาทวงความยุติธรรมให้พ่อเขาแน่ เขาใช้วิธีการประหลาดบางอย่าง โน้มน้าวคนของตระกูลให้ยอมให้เขาสู้กับเย่หลางเทียนและเสมอกัน ยิ่งไปกว่านั้น เขาเกิดมาสกุลเย่’
กู่ฉางเกอชั่งน้ำหนักหลังฟังรายละเอียด
มีโครงเรื่องมากมายในโลก แต่ทั้งหมดคือขยะถุงเก่าที่เขาคุ้นเคยดี
พูดก็พูด กู่ฉางเกอรู้สึกว่าเขาต้องให้ความสนใจกับคนสกุลเย่เป็นพิเศษในอนาคต ในฐานะสกุลอันดับหนึ่งที่นิยายชอบใช้ตั้งชื่อให้พระเอก มันกว้างขวางมาก
เขาเดาว่าอาจมีบุตรฟ้าประทานสกุลเย่อีกมากในโลกนี้
งั้นรายละเอียดก็เป็นแบบนี้’ในการประลองกระชับมิตรของตระกูลระหว่างสาขาต่างๆ เย่หลางเทียนหลุดการควบคุมและทำให้คนดูได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้เชื้อสายนั้นถดถอยอย่างรวดเร็ว’
ย้อนกลับไป เชื้อสายของเย่หลางเทียนได้ชดเชยไปมากสำหรับความผิดพลาด และพวกเขาก็ยอมรับมันไปแล้ว
แต่หลังผ่านไปไม่กี่ปี ลูกชายของคนจากเชื้อสายนั้นกลับมาและทวงหาความยุติธรรม ในคราวเดียว เขาได้อันดับหนึ่งในการประลองกระชิบมิตรของตระกูลและฉวยโอกาสท้าเย่หลางเทียน
ในฐานะนายน้อยของตระกูล เย่หลางเทียนต้องพิจารณาความรู้สึกของตระกูลสาขา..แถม เรื่องตอนนั้นเป็นความผิดเขาจริง
สุดท้าย เขาก็ระงับฐานบ่มเพาะและต่อสู้กับเย่หลิง
ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นตัวชั่วช้าที่แกล้งทำเป็นหมูเพื่อกินเสือ ทำให้ตัวเองดูอ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้มาก
โชคดี เย่หลางเทียนไม่ธรรมดา ถึงแม้จะสะกดฐานบ่มเพาะ เขาก็สามารถสู้ได้อย่างสูสี
การต่อสู้ได้เพิ่มชื่อเสียงของเย่หลิง และนั่นก็ดึงดูดความสนใจของพวกระดับสูงในตระกูล แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดเฒ่าบางคนที่แทบไม่เผยหน้าก็ยังออกมา ทั้งหมดรู้สึกว่าพรสวรรค์ของเขาเหนือกว่าเย่หลางเทียน พวกเขาจึงต้องเลี้ยงดูเขาเป็นพิเศษ
‘แค่นี้ก็บอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเย่หลิงนั่น’
กู่ฉางเกอพลันสรุปทันทีว่าบุตรฟ้าประทานคนใหม่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเย่หลิง
แกล้งทำเป็นหมูกินเสือ ตบหน้านายน้อย เรียกความยุติธรรม และทั้งหมดที่ลงตัวกับบุตรฟ้าประทานและไม่สามารถหลอกเขาได้
จากมุมมองของเย่หลางเทียน เย่หลิงเป็นนักวางแผนที่เต็มไปด้วยไพ่ชั่วร้ายนับไม่ถ้วนในแขนเสื้อ
ทำไมถึงยอมรับค่าชดเชยตอนนั้นถ้าคิดจะทวงความยุติธรรมแบบนี้?
แน่นอน กู่ฉางเกอถือว่านั่นเป็นพฤติกรรมปกติของบุตรฟ้าประทาน บุตรฟ้าประทานก็ต้องชอบรีบไถผลประโยชน์แม้ว่าจะไม่สมควรได้รับอยู่แล้ว
แถม กู่ฉางเกอเชื่อว่าลักษณะของบุตรฟ้าประทานคนใหม่นี้ไม่ค่อยดี
‘มีเหตุผลที่ข้าไม่เคยเจอกับเย่หลิงหรืออะไรก็ตาม แล้วข้าไปทำให้บุตรฟ้าประทานคนนี้ขุ่นเคืองได้ไง?’
‘อย่างไรก็ตาม เขากับข้าเกิดมาเพื่อปะทะกันอยู่แล้ว’
กู่ฉางเกอสงสัยในใจ
แน่นอน แค่เพราะเขาไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองตอนนี้ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่
ในเมื่อเขาคือบุตรฟ้าประทาน งัน้มันก็คือชะตากรรมของเขาที่ต้องเก็บเกี่ยวอีกฝ่ายไม่ช้าก็เร็ว ไม่ว่าเขาจะไปตอแยอีกฝ่ายไหม มันก็ไม่สำคัญ ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ตัดกระเทียมที่เปิดเผยตัวต่อหน้า
มันแค่ว่าเขาต้องทำให้เรื่องราวสมเหตุสมผลก่อน
“หยินเม่ย”
จากนั้น เสียงไม่พอใจก็ดังจากด้านข้าง และทำให้กู่ฉางเกอได้สติ
ความสนใจแวบผ่านตาเขาทันที
คนที่พูดไม่ใช่ใครนอกจากไป่เล่ย นายน้อยตระกูลพยัคฆ์ขาว
ไป่เล่ยคือชายกำยำที่มีลายสีขาวบนหน้าผาก และเขาก็สวมชุดหนังสัตว์อะไรก็ไม่รู้
ถึงแม้เขาจะนั่งกับที่ไม่ขยับ มันก็สามารถรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่แผ่จากตัวเขา
อัจฉริยะใกล้เขาเดินออกห่างเขาทันที กลัวว่าเขาอาจกระโจนใส่
ตระกูลพยัคฆ์ขาวมีพรสวรรค์กำเนิดอย่างวิชาทำลายล้างทองคำ ซึ่งสามารถติดสามอันดับแรกในอาณาจักรเบื้องบนได้ด้านพลังทำลายล้าง
น้อยคนจะกล้ายั่วยุไป่เล่ย
กู่ฉางเกอสนใจมากในความสามารถนี้
แถม ไม่เหมือนอัจฉริยะคนอื่น ไป่เล่ยผู้นี้เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจเขาเลย
เขาได้เรียนรู้แล้วจากเย่หลางเทียนว่าไป่เล่ยผู้นี้คือพี่ชายของเย่หลิง เขาเดาว่าไป่เล่นนี่น่าจะเป็นกุญแจทำภารกิจให้สำเร็จ
“ศิษย์น้องหยินเม่ย เจ้าควรตอบรับพี่ชายไป่เล่ยไม่ใช่หรือ?เขาเรียกหาเจ้าโดยเฉพาะ”
จากนั้น กู่ฉางเกอก็แสดงรอยยิ้ม และพูดกับหยินเม่ยด้วยใบหน้าอ่อนโยน ในเวลาเดียวกัน เขาก็จับหางจิ้งจอกนางด้วยมือหนึ่งและลูบอย่างเบามือ
ใบหน้าของหยินเม่ยเขียวปั้ดขณะมองฉากตรงหน้า
อัจฉริยะที่เหลือเองก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจและไม่พูดสักคำ