ธรรมชาตินั้นชั่วร้าย แต่หัวใจเต็มไปด้วยความสว่างและยุติธรรม?เขาจะช่วยคนทั่วไปและนำแสงสว่างสู่ชีวิตของพวกที่ดำดิ่งในความมืด?
เย่หลิวลี่อดรู้สึกละอายใจแทนความหน้าด้านของกู่ฉางเกอไม่ได้ ตอนนางได้ยินคำพูดเขา มันไม่ต่างอะไรกับการฟังหมาป่าที่อ้างว่าตัวเองเป็นชาวบ้าน
แต่ทว่า ใบหน้าของกู่ฉางเกอกลับทำให้เขาดูเหมือนวีรบุรุษตัวจริง พวกที่ไม่คุ้นเคยกับโฉมหน้าแท้จริงของเขาจะคิดว่าเขาคือยอดคน
การแสดงของเขาไร้ที่ติ!
“ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์สามารถพิสูจน์ได้ว่าหัวใจของข้าเต็มไปด้วยความเมตตา และโลกก็สามารถเป็นพยาน..”
ภายในโถง กู่ฉางเกอพูดกับดวงวิญญาณด้วยใบหน้าชอบธรรม เขาอยากดูว่าเขาจะสามารถหลอกวิญญาณโบราณตนนี้ได้ไหม เขาสามารถพิจารณาตัวเลือกอื่นได้ถ้าการแสดงของเขาไม่ได้ผล ในเมื่อเขาไม่ได้ขาดแผน
พูดก็พูด มันดูเหมือนว่าความคิดของวิญญาณจะไม่ได้เฉียบคมนัก มันคิดลึกหลังได้ยินกู่ฉางเกอพูด นี่ช่วยให้กู่ฉางเกอมีความคิดอื่น เหนือสิ่งอื่นใด วิญญาณตรงหน้าเขาคือเสี้ยววิญญาณของกึ่งเทพสูงสุด มันต้องมีแก่นแท้ของกึ่งเทพสูงสุดให้เขากิน
ถ้าเขาสามารถกลืนแก่นแท้ได้ เขาอาจทะลวงผ่านอาณาจักรได้ แม้เขาจะมักเพิ่มฐานบ่มเพาได้โดยใช้ค่าโชคชะตา เขาก็ไม่โง่พอจะพลาดโอกาสดีเช่นนั้นที่ส่งมาหน้าประตู
เหนือสิ่งอื่นใด เคล็ดบ่มเพาะสำหรับเขา[เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน]นั้นต่างจาก[เคล็ดเต๋าอมตะสวรรค์]อย่างสิ้นเชิง หนึ่งต้องพึ่งพาการกลืนกินต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตและทุกสิ่ง ส่วนอีกหนึ่งพึ่งพาการทำความเข้าใจหรือเพิ่มค่าโชคชะตา
ร่างกายของกู่ฉางเกอมีพลังที่ต่างกันสุดขั้ว และทั้งคู่ก็เป็นเคล็ดบ่มเพาะที่ต่างกันมาก มันต้องขอบคุณใจมารที่ช่วยให้เขาทนได้ ผู้บ่มเพาะทั่วไปคงโดนพลังที่ต่อต้านกันในร่างกายปะทุจนตายไปนานแล้ว
ฐานบ่มเพาะที่ประจักษ์ชัดของกู่ฉางเกอย่อมมาจาก[เคล็ดเต๋าอมตะสวรรค์] ส่วนฐานบ่มเพาะจาก[เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน]มักหลบซ่อน และไม่เคยเปิดเผยต่อใครในโลก
เขามักอยากเพิ่มฐานบ่มเพาะของเคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน แต่นั่นเป็นไปไม่ได้เนื่องจากมันทำได้แค่เพิ่มผ่านการกลืนกินสิ่งมีชีวิต
มันมักดีกว่าการมีความสามารถลี้ลับที่ทรงพลังหรือสมบัติ เพราะมันจะช่วยเขาเพิ่มพลังได้อย่างมาก [เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน]ไม่ใช่เคล็ดบ่มเพาะ แต่เป็นสิ่งที่จะเพิ่มฐานบ่มเพาะเขาโดยตรง
[เคล็ดบ่มเพาะก็เหมือนคู่มือ ที่จะบอกวิธีดูดซับพลังปราณ หมุนเวียนมันและเพิ่มฐานบ่มเพาะผ่านการปิดด่านบ่มเพาะ]
แม้กู่ฉางเกอจะคิดแผนร้ายนี้ไว้ในใจ แต่สีหน้ากลับเป็นอย่างที่พูด
“ผู้เยาว์ที่หน้าไม่อาย!”
“กล้าดียังไงถึงมาโกหกข้าและหมายจะครองมรดกข้า?!เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถปกปิดความคิดแท้จริงของเจ้าและหลอกข้าได้หรือไง?”
เสียงอันยิ่งใหญ่ของวิญญาณคำราม และมิติในสภาพแวดล้อมก็สั่นพร้อมกับพลังปราณที่พลุ่งพล่าน
วิญญาณกึ่งเทพสูงสุดในชุดคลุมสีทองและมงกุฏสีทองม่วงเปล่งอำนาจบารมีคล้ายกับจักรพรรดิ ในเวลาเดียวกัน แสงก็ส่องสว่างในดวงตาเขา
เขาจ้องกู่ฉางเกอและคำรามด้วยความโรกธ คำพูดของกู่ฉางเกอไม่สามารถหลอกเขาได้ และแผนร้ายก็เปิดเผยต่อหน้าเขาหมด เขาอาจเป็นแค่เสี้ยววิญญาณของเจ้าของอาณาจักรลับ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีอำนาจของร่างต้น!เขาสามารถเห็นธาตุแท้ของกู่ฉางเกอได้
ไม่เพียงเจ้าหนูตรงหน้าเขาจะมีจิตใจของมารร้าย แต่ยังคิดหลอกเขาด้วย!นี่ทำให้เขาโกรธเกินบรรยาย
“เจ้าหนู เจ้าสมควรตาย!กล้าดียังไงถึงคิดหลอกข้า?แม้กระทั่งประโยคที่ออกจากปากเจ้าก็ยังโกหก หัวใจของเจ้าไม่จริงใจสักนิด!เจ้าควรหุบปากไปซะ!”
เขาพูดเสียงเย็นและโจมตีกู่ฉางเกอโดยตรง
ศพนั้นปลดปล่อยพลังน่าเกรงขามและเปล่งแสงคล้ายดวงอาทิตย์ที่พรี้อมขับไล่ความมืดในโลก!
ความผิดหวังแวบผ่านตาของกู่ฉางเกอ
เขาขี้เกียจเกินกว่าจะพูดไร้สาระกับวิญญาณดวงนี้อีก และใบหน้าก็เย็นเสียยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็ง”คิดจริงๆหรือว่าข้าสนใจมรดกของเจ้า?ถ้าไม่ใช่เพราะง้าว เจ้าคิดว่าข้าจะเสียเวลามาเปลืองน้ำลายกับเจ้าหรือไง?เจ้าคิดจริงๆหรือว่าผีอย่างเจ้าจะมาฆ่าข้าได้?”
เครื่องรางทำลายเขตแดนได้ปรากฏในมือเขาก่อนเขาจะพูดจบ เมื่อสถานการณ์แย่ เขาจะหนีไปทันที
“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!’
คำพูดของกู่ฉางเกอทำให้วิญญาณโกรธกว่าเดิม และกลิ่นอายก็ปะทุอย่างรุนแรง แต่กู่ฉางเกอกลับแค่ยิ้ม
[บูม!]
[เสื้อเกราะห้าสี]บนตัวของเขาปลดปล่อยแสงแสบตา สมบัติป้องกันนี้เขาได้รับมาจากชุดของขวัญมือใหม่ของระบบ ซึ่งสามารถป้องกันการโจมตีสุดแรงจากเทพเสมือนได้
[เสื้อเกราะห้าสี]ระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์และกู่ฉางเกอก็พบว่าวิญญาณตรงหน้าเขาไม่ได้มีพลังมากนัก! [เสื้อเกราะห้าสี]ต้านการโจมตีไว้ได้หมด
มันแค่ว่าเสื้อเกราะอาจไม่ได้ผลอีกหลังรับการโจมตีของอีกฝ่ายไปวันนี้
พลังที่วิญญาณปลดปล่อยคือเทพเสมือน มันสามารถกวาดล้างได้ทุกสิ่งภายในอาณาจักรลับเนื่องจากมันไม่ถูกสะกดพลัง
น่าเสียดาย มันก็มีแค่พลังของเทพเสมือน
การค้นพบนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจของกู่ฉางเกอ
“[ง้าวมารแปดทิศ]คืออาวุธชั้นดี มันคืออาวุธที่หมายถึงการฆ่า แต่เจ้ากลับผนึกมันไว้ที่นี่ ห่างจากโลก ข้าอดรู้สึกปวดหัวแทนชะตากรรมของมันไม่ได้”
กู่ฉางเกอพูดขณะมองง้าว มันกำลังปลดปล่อยพลังมาร ซึ่งหมายมั่นจะฆ่า ราวกับมันรอไม่ไหวที่จะทำลายสวรรค์และนำความโกลาหลมาสู่โลก!
มันทำให้เขาพอใจกว่าเดิม
จากนั้น กู่ฉางเกอก็ก้าวไปข้างหน้า กระดูกของเขาส่งเสียงเนื่องจากแรงกดดันที่วิญญาณปล่อย
เย่หลิวลี่ที่อยู่นอกโถงอดเบิกตากว้างไม่ได้พอเห็นการกระทำของเขา
แทนที่จะยอมถอย กู่ฉางเกอกลับเดินไปข้างหน้าและยังยั่วยุกึ่งเทพสูงสุด
เขามันบ้าเกินบรรยาย นี่ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย
ต้องรู้ว่ากึ่งเทพสูงสุดผู้นั้นคือบุคคลระดับตำนาน แม้กระทั่งในตระกูลเซียนโบราณ เขาก็ยังถือเป็นบรรพชนที่สามารถปกป้องตระกูลได้เป็นล้านปี
พวกเขาคือคนที่นางไม่มีวันพบเห็นได้ในวันปกติ
“[ง้าวมารแปดทิศ]คืออาวุธมารที่สามารถกวาดล้างได้ทุกโลกถ้ามันได้ออกไป!เจ้าพยายามจะช่วยเหลือมารเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดหรือไง?”
วิญญาณหน้าเปลี่ยนสี เขาไม่คิดว่าเขาจะไม่สามารถกำราบผู้เยาว์ได้
ย้อนกลับไปตอนเขามีชีวิต เขาคือกึ่งเทพสูงสุดที่เผ่านับหมื่นบูชา ผู้ที่สามารถทำลายดวงดาวได้โดยการกระดิกนิ้ว เขามีอำนาจปกครองทั่วหมู่ดาว
น่าเสียดาย ตอนนี้เขากลับโดนเด็กรังแก!
“ช่วยมารเข่นฆ่า?น่าเสียดาย ผู้เยาว์คือมารร้ายที่ท่านกำลังพูดถึง ผู้อาวุโส!”
กู่ฉางเกอไม่ปกปิดกลิ่นอายมารออีก และรู้สึกว่าง้าวมารที่เงียบมาจนถึงตอนนี้กำลังสั่นด้วยความตื่นเต้น
การคาดเดาของเขาถูก
เหนือสิ่งอื่นใด ง้าวมารมีสายสัมพันธ์กับใจมาร
“เจ้ามารร้าย!”
ความโกรธของวิญญาณพุ่งทะยาน และปลดปล่อยดวงอาทิตย์น่ากลัวใส่กู่ฉางเกอ หมายจะแผดเผาเขาเป็นจุล แค่รัศมีของดวงอาทิตย์ก็ดูเหมือนจะมีความสามารถแผดเผาเทพเสมือนให้เป็นเถ้าถ่านได้แล้ว
มันโกรธจนถึงขีดสุด และเต็มใจเสียสละวิญญาณตัวเองเพื่อการโจมตีนี้
น่าเสียดาย เสื้อเกราะห้าสีปลดปล่อยแสงที่สว่างยิ่งกว่าเดิมเป็นการสู้กลับ
การก้าวเดินของกู่ฉางเกอไม่หยุด และเขาก็รู้สึกหนักกว่าเดิมเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยสีหน้าสงบ เขาพูด”ข้าไม่สามารถยอมรับคำพูดของผู้อาวุโสได้ ท่านเป็นใครถึงมาตัดสินใจว่าใครดี ใครร้าย?ข้าคือความมืด ท่านคือแสงสว่าง แค่เพราะท่านพูดงั้นหรือ?”
“ในเมื่อท่านเป็นคนตรงไปตรงมาและจิตใจดี งั้นบอกข้าทีทำไมท่านถึงทิ้งร่องรอยของมรดกนี้ไว้ตั้งเยอะ แต่มีแผนที่แค่หนึ่งเดียว?ทำไมท่านถึงตั้งค่ายกลกับสร้างของไว้มากมายรอบวังนี้เพื่อดึงดูดผู้บ่มเพาะ แค่เพื่อปล่อยให้พวกเขามาตายกันที่นี่?”
“นี่คือเต๋าแห่งแสงที่ท่านพูดถึง?”
กู่ฉางเกอแค่นเสียง และคำพูดเขาก็ทำให้อีกฝ่ายตกตะลึง รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกจริงๆ คำพูดของกู่ฉางเกอก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว
“…?”
แต่ไม่ช้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและพูด”พูดจาไร้สาระอะไร!ตั้งแต่โบราณ ผู้บ่มเพาะต้องแข่งขันกันเพื่อโอกาส และมันก็เป็นปกติที่พวกเขาต้องตาย!โอกาสกับอันตรายคือของคู่กัน ข้าทิ้งมรดกข้าไว้เพื่อคนที่เหมาะสมสุด”
วิญญาณจ้องกู่ฉางเกอด้วยสายตาเย็นชามาก เขาเกือบตกหลุมพรางเด็กนี่ และสงสัยตัวเอง ตั้งแต่อดีต โอกาสกับอันตรายคือของคู่กัน นั่นคือความเป็นจริงของโลก
“ท่านอยากพูดว่ามันจะถูกต้องก็ต่อเมื่อข้าได้รับมรดกนี้สินะ?สำหรับท่าน ข้าอาจเป็นมารร้าย แต่สำหรับข้า มรดกนี้คือโอกาสของข้า!”
“แถม คนที่เหมาะสมสุดที่ท่านพูดถึงก็โดนข้าฆ่าไปแล้ว มันเป็นอย่างที่ผู้อาวุโสบอก โอกาสกับอันตรายคือของคู่กัน”
กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้ม
คำพูดของเขาทำให้วิญญาณอึ้งไปอีก นั่นทำให้เขารีบใช้ความสามารถเพื่อควบคุมมิติ ร่างของเขาไหววูบ และปรากฏในส่วนลึกของวังทันที
เขากำลังรอโอกาสนี้!โอกาสทำลายผนึก!
“ง้าวมารแปดทิศ”
กู่ฉางเกอยืนตรงหน้าบัลลังก์และเอื้อมมือไปแตะง้าว แทนที่จะได้รับพลังดีดกลับ เขากลับรู้สึกถึงความอ่อนโยนจากมัน
[ฮึ่ม!]
ทันทีทันใด อักขระน่ากลัวมากมายปรากฏบนง้าวมาร พวกมันคืออักขระและค่ายกลที่ผนึกง้าวมาร และถูกกู่ฉางเกอปลุก
..
“วันนี้ผนึกนี่จะถูกทำลาย.”
แน่นอน กู่ฉางเกอย่อมไม่พลารดโอกาสเช่นนี้ เขารีบปลดปล่อยความสามารถลี้ลับ และพลังปราณของเขาก็พุ่งเข้าผนึกเพื่อทำลาย
ก่อนจะลงมาอาณาจักรเบื้องล่าง เขาได้ศึกษาค่ายกลกับผนึกขยะพวกนี้มาแล้ว อักขระสีดำสนิทมากมายรวมกันและบิดในมือเขา ก่อตัวเป็นวัตถุดูดวิญญาณ
[ขวดสมบัติเต๋า]สีดำสนิทลอยขึ้นลงตรงหน้าเขา ปลดปล่อยแสงลี้ลับที่พุ่งใส่ผนึกบนง้าวมาร
[แคร่ก!เพล้ง!]
อักขระที่ผนึกง้าวแตกทีละหนึ่ง ปลดปล่อยไอมารที่ถูกสะกดไว้
[ง้าวมารแปดทิศ]นั้นเป็นดังชื่อ มันสามารถทำลายได้ทุกสิ่ง และปลดปล่อยหายนะไปทั้งแปดทิศทาง!
หลังกู่ฉางเกอจับมันไว้ในมือ เขาก็รู้สึกว่ามันกำลังยินดี
เนื่องจากทั้งสองมีต้นกำเนิดเดียวกัน เขาจึงไม่ต้องลำบากมาก เห็นได้ชัดว่าพลังปัจจุบันของเขายังไม่พอจะปราบพยศง้าวมารแปดทิศ
แค่นี้พลังมันก็น่ากลัวพอแล้ว เมื่อมันกลับสู่จุดสูงสุด มันจะสามารถทำลายได้ทั้งโลกด้วยการตวัดครั้งเดียว
“ไม่ดีแล้ว”
สุดท้ายวิญญาณก็ได้สติและสังเกตการกระทำของกู่ฉางเกอ สงสัยว่าเจ้าหนูนี่เร็วขนาดนี้ได้ไง?
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป และรีบพุ่งใส่กู่ฉางเกอ!
คำพูดของกู่ฉางเกออาจมีเหตุผล แต่ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเขา การกลับมาของง้าวมารจะนำมาซึ่งหายนะต่อโลก และโลกจะตกอยู่ในความโกลาหล!เขาต้องผนึกมันไว้ที่นี่ นั่นคือสิ่งสำคัญกว่าการหาตัวผู้สืบทอดมรดกของเขา!
“ช้าไป…”
กู่ฉางเกอเหลือบมองเขา และจากนั้นก็ดึงง้าวมารออกจากศพ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เหวี่ยงง้าว และคลื่นพลังสีดำสนิทก็พวยพุ่งออกจากตัวเขา
พลังที่น่าเหลือเชื่อกระจายออกมาจากมัน
ง้าวนั้นไม่ได้ถูกยกย่องว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังสุดตั้งแต่สมัยโบราณ แต่มันมีจุดแข็งของอาวุธอื่น ขณะที่ดุร้ายและครอบงำมากกว่าอาวุธอื่น มันคืออาวุธที่ไม่มีใครเทียบได้!
[พุฟ!]
วิญญาณไม่สามารถเชื่อสิ่งที่มันเห็นได้ ในเวลาเดียวกัน พลังมารน่ากลัวก็กลืนกินเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าพอง้าวฟัน เขาได้ใช้พลังไปมากกับการโจมตีกู่ฉางเกอก่อนหน้านี้ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต้านรับ!
อาณาจักรลับไม่อาจระงับพลังของง้าวมารได้อีกต่อไป!
[ฮึ่ม!]
ในเวลาเดียวกัน ขวดสมบัติเต๋าก็ปรากฏเหนือหัวกู่ฉางเกอและเขาก็กลืนกินวิญญาณโดยตรง!
ด้วยเหตุนั้น วังจึงกลับมาสงบสุข