I am the Fated Villain ตอนที่ 66 มารน้อย

ธรรมชาตินั้นชั่วร้าย แต่หัวใจเต็มไปด้วยความสว่างและยุติธรรม?เขาจะช่วยคนทั่วไปและนำแสงสว่างสู่ชีวิตของพวกที่ดำดิ่งในความมืด?

เย่หลิวลี่อดรู้สึกละอายใจแทนความหน้าด้านของกู่ฉางเกอไม่ได้ ตอนนางได้ยินคำพูดเขา มันไม่ต่างอะไรกับการฟังหมาป่าที่อ้างว่าตัวเองเป็นชาวบ้าน

แต่ทว่า ใบหน้าของกู่ฉางเกอกลับทำให้เขาดูเหมือนวีรบุรุษตัวจริง พวกที่ไม่คุ้นเคยกับโฉมหน้าแท้จริงของเขาจะคิดว่าเขาคือยอดคน

การแสดงของเขาไร้ที่ติ!

“ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์สามารถพิสูจน์ได้ว่าหัวใจของข้าเต็มไปด้วยความเมตตา และโลกก็สามารถเป็นพยาน..”

ภายในโถง กู่ฉางเกอพูดกับดวงวิญญาณด้วยใบหน้าชอบธรรม เขาอยากดูว่าเขาจะสามารถหลอกวิญญาณโบราณตนนี้ได้ไหม เขาสามารถพิจารณาตัวเลือกอื่นได้ถ้าการแสดงของเขาไม่ได้ผล ในเมื่อเขาไม่ได้ขาดแผน

พูดก็พูด มันดูเหมือนว่าความคิดของวิญญาณจะไม่ได้เฉียบคมนัก มันคิดลึกหลังได้ยินกู่ฉางเกอพูด นี่ช่วยให้กู่ฉางเกอมีความคิดอื่น เหนือสิ่งอื่นใด วิญญาณตรงหน้าเขาคือเสี้ยววิญญาณของกึ่งเทพสูงสุด มันต้องมีแก่นแท้ของกึ่งเทพสูงสุดให้เขากิน

ถ้าเขาสามารถกลืนแก่นแท้ได้ เขาอาจทะลวงผ่านอาณาจักรได้ แม้เขาจะมักเพิ่มฐานบ่มเพาได้โดยใช้ค่าโชคชะตา เขาก็ไม่โง่พอจะพลาดโอกาสดีเช่นนั้นที่ส่งมาหน้าประตู

เหนือสิ่งอื่นใด เคล็ดบ่มเพาะสำหรับเขา[เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน]นั้นต่างจาก[เคล็ดเต๋าอมตะสวรรค์]อย่างสิ้นเชิง หนึ่งต้องพึ่งพาการกลืนกินต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตและทุกสิ่ง ส่วนอีกหนึ่งพึ่งพาการทำความเข้าใจหรือเพิ่มค่าโชคชะตา

ร่างกายของกู่ฉางเกอมีพลังที่ต่างกันสุดขั้ว และทั้งคู่ก็เป็นเคล็ดบ่มเพาะที่ต่างกันมาก มันต้องขอบคุณใจมารที่ช่วยให้เขาทนได้ ผู้บ่มเพาะทั่วไปคงโดนพลังที่ต่อต้านกันในร่างกายปะทุจนตายไปนานแล้ว

ฐานบ่มเพาะที่ประจักษ์ชัดของกู่ฉางเกอย่อมมาจาก[เคล็ดเต๋าอมตะสวรรค์] ส่วนฐานบ่มเพาะจาก[เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน]มักหลบซ่อน และไม่เคยเปิดเผยต่อใครในโลก

เขามักอยากเพิ่มฐานบ่มเพาะของเคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน แต่นั่นเป็นไปไม่ได้เนื่องจากมันทำได้แค่เพิ่มผ่านการกลืนกินสิ่งมีชีวิต

มันมักดีกว่าการมีความสามารถลี้ลับที่ทรงพลังหรือสมบัติ เพราะมันจะช่วยเขาเพิ่มพลังได้อย่างมาก [เคล็ดเซียนปีศาจกลืนกิน]ไม่ใช่เคล็ดบ่มเพาะ แต่เป็นสิ่งที่จะเพิ่มฐานบ่มเพาะเขาโดยตรง

[เคล็ดบ่มเพาะก็เหมือนคู่มือ ที่จะบอกวิธีดูดซับพลังปราณ หมุนเวียนมันและเพิ่มฐานบ่มเพาะผ่านการปิดด่านบ่มเพาะ]

แม้กู่ฉางเกอจะคิดแผนร้ายนี้ไว้ในใจ แต่สีหน้ากลับเป็นอย่างที่พูด

“ผู้เยาว์ที่หน้าไม่อาย!”

“กล้าดียังไงถึงมาโกหกข้าและหมายจะครองมรดกข้า?!เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถปกปิดความคิดแท้จริงของเจ้าและหลอกข้าได้หรือไง?”

เสียงอันยิ่งใหญ่ของวิญญาณคำราม และมิติในสภาพแวดล้อมก็สั่นพร้อมกับพลังปราณที่พลุ่งพล่าน

วิญญาณกึ่งเทพสูงสุดในชุดคลุมสีทองและมงกุฏสีทองม่วงเปล่งอำนาจบารมีคล้ายกับจักรพรรดิ ในเวลาเดียวกัน แสงก็ส่องสว่างในดวงตาเขา

เขาจ้องกู่ฉางเกอและคำรามด้วยความโรกธ คำพูดของกู่ฉางเกอไม่สามารถหลอกเขาได้ และแผนร้ายก็เปิดเผยต่อหน้าเขาหมด เขาอาจเป็นแค่เสี้ยววิญญาณของเจ้าของอาณาจักรลับ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีอำนาจของร่างต้น!เขาสามารถเห็นธาตุแท้ของกู่ฉางเกอได้

ไม่เพียงเจ้าหนูตรงหน้าเขาจะมีจิตใจของมารร้าย แต่ยังคิดหลอกเขาด้วย!นี่ทำให้เขาโกรธเกินบรรยาย

“เจ้าหนู เจ้าสมควรตาย!กล้าดียังไงถึงคิดหลอกข้า?แม้กระทั่งประโยคที่ออกจากปากเจ้าก็ยังโกหก หัวใจของเจ้าไม่จริงใจสักนิด!เจ้าควรหุบปากไปซะ!”

เขาพูดเสียงเย็นและโจมตีกู่ฉางเกอโดยตรง

ศพนั้นปลดปล่อยพลังน่าเกรงขามและเปล่งแสงคล้ายดวงอาทิตย์ที่พรี้อมขับไล่ความมืดในโลก!

ความผิดหวังแวบผ่านตาของกู่ฉางเกอ

เขาขี้เกียจเกินกว่าจะพูดไร้สาระกับวิญญาณดวงนี้อีก และใบหน้าก็เย็นเสียยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็ง”คิดจริงๆหรือว่าข้าสนใจมรดกของเจ้า?ถ้าไม่ใช่เพราะง้าว เจ้าคิดว่าข้าจะเสียเวลามาเปลืองน้ำลายกับเจ้าหรือไง?เจ้าคิดจริงๆหรือว่าผีอย่างเจ้าจะมาฆ่าข้าได้?”

เครื่องรางทำลายเขตแดนได้ปรากฏในมือเขาก่อนเขาจะพูดจบ เมื่อสถานการณ์แย่ เขาจะหนีไปทันที

“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!’

คำพูดของกู่ฉางเกอทำให้วิญญาณโกรธกว่าเดิม และกลิ่นอายก็ปะทุอย่างรุนแรง แต่กู่ฉางเกอกลับแค่ยิ้ม

[บูม!]

[เสื้อเกราะห้าสี]บนตัวของเขาปลดปล่อยแสงแสบตา สมบัติป้องกันนี้เขาได้รับมาจากชุดของขวัญมือใหม่ของระบบ ซึ่งสามารถป้องกันการโจมตีสุดแรงจากเทพเสมือนได้

[เสื้อเกราะห้าสี]ระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์และกู่ฉางเกอก็พบว่าวิญญาณตรงหน้าเขาไม่ได้มีพลังมากนัก! [เสื้อเกราะห้าสี]ต้านการโจมตีไว้ได้หมด

มันแค่ว่าเสื้อเกราะอาจไม่ได้ผลอีกหลังรับการโจมตีของอีกฝ่ายไปวันนี้

พลังที่วิญญาณปลดปล่อยคือเทพเสมือน มันสามารถกวาดล้างได้ทุกสิ่งภายในอาณาจักรลับเนื่องจากมันไม่ถูกสะกดพลัง

น่าเสียดาย มันก็มีแค่พลังของเทพเสมือน

การค้นพบนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจของกู่ฉางเกอ

“[ง้าวมารแปดทิศ]คืออาวุธชั้นดี มันคืออาวุธที่หมายถึงการฆ่า แต่เจ้ากลับผนึกมันไว้ที่นี่ ห่างจากโลก ข้าอดรู้สึกปวดหัวแทนชะตากรรมของมันไม่ได้”

กู่ฉางเกอพูดขณะมองง้าว มันกำลังปลดปล่อยพลังมาร ซึ่งหมายมั่นจะฆ่า ราวกับมันรอไม่ไหวที่จะทำลายสวรรค์และนำความโกลาหลมาสู่โลก!

มันทำให้เขาพอใจกว่าเดิม

จากนั้น กู่ฉางเกอก็ก้าวไปข้างหน้า กระดูกของเขาส่งเสียงเนื่องจากแรงกดดันที่วิญญาณปล่อย

เย่หลิวลี่ที่อยู่นอกโถงอดเบิกตากว้างไม่ได้พอเห็นการกระทำของเขา

แทนที่จะยอมถอย กู่ฉางเกอกลับเดินไปข้างหน้าและยังยั่วยุกึ่งเทพสูงสุด

เขามันบ้าเกินบรรยาย นี่ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

ต้องรู้ว่ากึ่งเทพสูงสุดผู้นั้นคือบุคคลระดับตำนาน แม้กระทั่งในตระกูลเซียนโบราณ เขาก็ยังถือเป็นบรรพชนที่สามารถปกป้องตระกูลได้เป็นล้านปี

พวกเขาคือคนที่นางไม่มีวันพบเห็นได้ในวันปกติ

“[ง้าวมารแปดทิศ]คืออาวุธมารที่สามารถกวาดล้างได้ทุกโลกถ้ามันได้ออกไป!เจ้าพยายามจะช่วยเหลือมารเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดหรือไง?”

วิญญาณหน้าเปลี่ยนสี เขาไม่คิดว่าเขาจะไม่สามารถกำราบผู้เยาว์ได้

ย้อนกลับไปตอนเขามีชีวิต เขาคือกึ่งเทพสูงสุดที่เผ่านับหมื่นบูชา ผู้ที่สามารถทำลายดวงดาวได้โดยการกระดิกนิ้ว เขามีอำนาจปกครองทั่วหมู่ดาว

น่าเสียดาย ตอนนี้เขากลับโดนเด็กรังแก!

“ช่วยมารเข่นฆ่า?น่าเสียดาย ผู้เยาว์คือมารร้ายที่ท่านกำลังพูดถึง ผู้อาวุโส!”

กู่ฉางเกอไม่ปกปิดกลิ่นอายมารออีก และรู้สึกว่าง้าวมารที่เงียบมาจนถึงตอนนี้กำลังสั่นด้วยความตื่นเต้น

การคาดเดาของเขาถูก

เหนือสิ่งอื่นใด ง้าวมารมีสายสัมพันธ์กับใจมาร

“เจ้ามารร้าย!”

ความโกรธของวิญญาณพุ่งทะยาน และปลดปล่อยดวงอาทิตย์น่ากลัวใส่กู่ฉางเกอ หมายจะแผดเผาเขาเป็นจุล แค่รัศมีของดวงอาทิตย์ก็ดูเหมือนจะมีความสามารถแผดเผาเทพเสมือนให้เป็นเถ้าถ่านได้แล้ว

มันโกรธจนถึงขีดสุด และเต็มใจเสียสละวิญญาณตัวเองเพื่อการโจมตีนี้

น่าเสียดาย เสื้อเกราะห้าสีปลดปล่อยแสงที่สว่างยิ่งกว่าเดิมเป็นการสู้กลับ

การก้าวเดินของกู่ฉางเกอไม่หยุด และเขาก็รู้สึกหนักกว่าเดิมเล็กน้อยเท่านั้น

ด้วยสีหน้าสงบ เขาพูด”ข้าไม่สามารถยอมรับคำพูดของผู้อาวุโสได้ ท่านเป็นใครถึงมาตัดสินใจว่าใครดี ใครร้าย?ข้าคือความมืด ท่านคือแสงสว่าง แค่เพราะท่านพูดงั้นหรือ?”

“ในเมื่อท่านเป็นคนตรงไปตรงมาและจิตใจดี งั้นบอกข้าทีทำไมท่านถึงทิ้งร่องรอยของมรดกนี้ไว้ตั้งเยอะ แต่มีแผนที่แค่หนึ่งเดียว?ทำไมท่านถึงตั้งค่ายกลกับสร้างของไว้มากมายรอบวังนี้เพื่อดึงดูดผู้บ่มเพาะ แค่เพื่อปล่อยให้พวกเขามาตายกันที่นี่?”

“นี่คือเต๋าแห่งแสงที่ท่านพูดถึง?”

กู่ฉางเกอแค่นเสียง และคำพูดเขาก็ทำให้อีกฝ่ายตกตะลึง รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกจริงๆ คำพูดของกู่ฉางเกอก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว

“…?”

แต่ไม่ช้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและพูด”พูดจาไร้สาระอะไร!ตั้งแต่โบราณ ผู้บ่มเพาะต้องแข่งขันกันเพื่อโอกาส และมันก็เป็นปกติที่พวกเขาต้องตาย!โอกาสกับอันตรายคือของคู่กัน ข้าทิ้งมรดกข้าไว้เพื่อคนที่เหมาะสมสุด”

วิญญาณจ้องกู่ฉางเกอด้วยสายตาเย็นชามาก เขาเกือบตกหลุมพรางเด็กนี่ และสงสัยตัวเอง ตั้งแต่อดีต โอกาสกับอันตรายคือของคู่กัน นั่นคือความเป็นจริงของโลก

“ท่านอยากพูดว่ามันจะถูกต้องก็ต่อเมื่อข้าได้รับมรดกนี้สินะ?สำหรับท่าน ข้าอาจเป็นมารร้าย แต่สำหรับข้า มรดกนี้คือโอกาสของข้า!”

“แถม คนที่เหมาะสมสุดที่ท่านพูดถึงก็โดนข้าฆ่าไปแล้ว มันเป็นอย่างที่ผู้อาวุโสบอก โอกาสกับอันตรายคือของคู่กัน”

กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเขาทำให้วิญญาณอึ้งไปอีก นั่นทำให้เขารีบใช้ความสามารถเพื่อควบคุมมิติ ร่างของเขาไหววูบ และปรากฏในส่วนลึกของวังทันที

เขากำลังรอโอกาสนี้!โอกาสทำลายผนึก!

“ง้าวมารแปดทิศ”

กู่ฉางเกอยืนตรงหน้าบัลลังก์และเอื้อมมือไปแตะง้าว แทนที่จะได้รับพลังดีดกลับ เขากลับรู้สึกถึงความอ่อนโยนจากมัน

[ฮึ่ม!]

ทันทีทันใด อักขระน่ากลัวมากมายปรากฏบนง้าวมาร พวกมันคืออักขระและค่ายกลที่ผนึกง้าวมาร และถูกกู่ฉางเกอปลุก

..

“วันนี้ผนึกนี่จะถูกทำลาย.”

แน่นอน กู่ฉางเกอย่อมไม่พลารดโอกาสเช่นนี้ เขารีบปลดปล่อยความสามารถลี้ลับ และพลังปราณของเขาก็พุ่งเข้าผนึกเพื่อทำลาย

ก่อนจะลงมาอาณาจักรเบื้องล่าง เขาได้ศึกษาค่ายกลกับผนึกขยะพวกนี้มาแล้ว อักขระสีดำสนิทมากมายรวมกันและบิดในมือเขา ก่อตัวเป็นวัตถุดูดวิญญาณ

[ขวดสมบัติเต๋า]สีดำสนิทลอยขึ้นลงตรงหน้าเขา ปลดปล่อยแสงลี้ลับที่พุ่งใส่ผนึกบนง้าวมาร

[แคร่ก!เพล้ง!]

อักขระที่ผนึกง้าวแตกทีละหนึ่ง ปลดปล่อยไอมารที่ถูกสะกดไว้

[ง้าวมารแปดทิศ]นั้นเป็นดังชื่อ มันสามารถทำลายได้ทุกสิ่ง และปลดปล่อยหายนะไปทั้งแปดทิศทาง!

หลังกู่ฉางเกอจับมันไว้ในมือ เขาก็รู้สึกว่ามันกำลังยินดี

เนื่องจากทั้งสองมีต้นกำเนิดเดียวกัน เขาจึงไม่ต้องลำบากมาก เห็นได้ชัดว่าพลังปัจจุบันของเขายังไม่พอจะปราบพยศง้าวมารแปดทิศ

แค่นี้พลังมันก็น่ากลัวพอแล้ว เมื่อมันกลับสู่จุดสูงสุด มันจะสามารถทำลายได้ทั้งโลกด้วยการตวัดครั้งเดียว

“ไม่ดีแล้ว”

สุดท้ายวิญญาณก็ได้สติและสังเกตการกระทำของกู่ฉางเกอ สงสัยว่าเจ้าหนูนี่เร็วขนาดนี้ได้ไง?

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป และรีบพุ่งใส่กู่ฉางเกอ!

คำพูดของกู่ฉางเกออาจมีเหตุผล แต่ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเขา การกลับมาของง้าวมารจะนำมาซึ่งหายนะต่อโลก และโลกจะตกอยู่ในความโกลาหล!เขาต้องผนึกมันไว้ที่นี่ นั่นคือสิ่งสำคัญกว่าการหาตัวผู้สืบทอดมรดกของเขา!

“ช้าไป…”

กู่ฉางเกอเหลือบมองเขา และจากนั้นก็ดึงง้าวมารออกจากศพ ในเวลาเดียวกัน เขาก็เหวี่ยงง้าว และคลื่นพลังสีดำสนิทก็พวยพุ่งออกจากตัวเขา

พลังที่น่าเหลือเชื่อกระจายออกมาจากมัน

ง้าวนั้นไม่ได้ถูกยกย่องว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังสุดตั้งแต่สมัยโบราณ แต่มันมีจุดแข็งของอาวุธอื่น ขณะที่ดุร้ายและครอบงำมากกว่าอาวุธอื่น มันคืออาวุธที่ไม่มีใครเทียบได้!

[พุฟ!]

วิญญาณไม่สามารถเชื่อสิ่งที่มันเห็นได้ ในเวลาเดียวกัน พลังมารน่ากลัวก็กลืนกินเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าพอง้าวฟัน เขาได้ใช้พลังไปมากกับการโจมตีกู่ฉางเกอก่อนหน้านี้ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต้านรับ!

อาณาจักรลับไม่อาจระงับพลังของง้าวมารได้อีกต่อไป!

[ฮึ่ม!]

ในเวลาเดียวกัน ขวดสมบัติเต๋าก็ปรากฏเหนือหัวกู่ฉางเกอและเขาก็กลืนกินวิญญาณโดยตรง!

ด้วยเหตุนั้น วังจึงกลับมาสงบสุข

I am the Fated Villain

I am the Fated Villain

Me! The Heavenly Destined Villain, The Villain of Destiny, 我!天命大反派 I Am Fated Villain
Score 8.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I am the Fated Villainทันทีหลังจากที่ Gu Changge ตระหนักว่าเขาได้ล่วงละเมิดเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ตัวเอกของโลกและโชคชะตาได้เลือกไว้ สาบานว่าจะแก้แค้นเขา ทุกคนอิจฉาเขา ไม่เพียงแต่จะมีนางเอกหัวโล้นสำหรับเขาเท่านั้น แต่เขาก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นแขกผู้มีเกียรติไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม โชคดีที่ศักดิ์ศรีและอำนาจของ Gu Changge นั้นเหนือกว่าใครๆ ดังนั้นจึงไม่ควรจะง่ายที่จะเหยียบย่ำโชคชะตาที่เลือกไว้? เดี๋ยวก่อน… มีระบบที่ทุ่มเทให้กับการรีดนมและการเก็บเกี่ยวจากตัวเอก? Gu Changge ยิ้มเยาะ “ดูเหมือนว่าโชคชะตาต้องการให้ฉันเติมเต็มชะตากรรมของฉันในฐานะวายร้ายแห่งโลกนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset