ตอนที่ 89 มีแค่ข้าที่รังแกเจ้าได้
[โฮก!!]
พื้นที่ด้านนอกประตูวังเต๋ายังเงียบสงัดขณะที่มังกรเก้าตัวผ่านไปเหมือนมันสามารถปล่อยระเบิดลงมาได้ทุกเมื่อ
คนที่นี่ต่างหัวใจเต้นแรง
ถ้า’กู่’บนรถม้าไม่พอจะบอกตัวตนของคนในนั้น งั้นความจริงที่รถม้าถูกลากด้วยมังกรเก้าตัวเช่นนั้นก็บอกได้ว่า’คนที่อยู่ภายในนั้นคือศิษย์แท้จริงของวังเต๋าอมตะสวรรค์ นายน้อยแห่งตระกูลกู่ กู่ฉางเกอ!เขากลับมาแล้ว!”
ข่าวลือมากมายเกี่ยวกับกู่ฉางเกอได้ลอยไปทั่ว ลือกันว่าเขาคือเซียนแท้จริงที่กลับชาติมาเกิด เทพโบราณที่จุติลงมา บุตรแห่งเต๋า และฉายาอื่นๆอีกมาก มันไม่สามารถประเมินความสำเร็จในอนาคตของเขาได้
ผู้อาวุโสบางคนของวังเต๋าคาดหวังในตัวกู่ฉางเกอไว้สูงมาก และเชื่อว่าเขาคือคนที่เหมาะสมสุดที่จะเป็นผู้สืบทอดวังเต๋าอมตะสวรรค์
ศิษย์แท้จริงมีห้าคน และศิษย์ที่เหลือก็ล้วนอิจฉาเขา
ผู้บ่มเพาะหลายคนในโลกรู้เรื่องนี้
แถม กู่ฉางเกอยังแสดงพรสวรรค์สูงส่งตั้งแต่เด็ก เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ’อัจฉริยะสูงสุด’ จากวินาทีที่เขาปรากฏบนโลก เขาไม่เคยแพ้ ตรงกันข้าม มีหลายคนที่ลิ้มรสความพ่ายแพ้ในมือเขา แม้กระทั่งเหล่าอัจฉริยะจากตระกูลใหย่
โดยรวม กู่ฉางเกอคือดาวเจิดจรัสที่ส่องแสงไร้แสงใดกลบ และผู้คนก็ได้แต่แหงนหน้ามองเขา
ถ้านั่นไม่พอ งั้นตัวตนของกู่ฉางเกอในฐานะนายน้อยตระกูลกู่ก็มาพอจะเทียบกับตัวตนของผู้สืบทอดวังเต๋าอมตะสวรรค์แล้ว!
แต่ด้วยความที่วังเต๋าคือสถานที่พิเศษในอาณาจักรเบื้องบน หลายราชวงศ์ ตระกูล สำนักและเผ่าจึงส่งศิษย์ตัวเองมาสู้เพื่อแย่งอำนาจกันในนี้
แม้มันจะไม่ใช่อะไรที่ผิดปกติ แต่การที่กู่ฉางเกอเข้าร่วมวังเต๋าก็มากพอจะดึงดูดความสนใจของทุกคน
ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ยินว่าจู่ๆกู่ฉางเกอก็ออกวังเต๋าอมตะสวรรค์ไป และนั่นก็ทำให้หลายคนตกใจ เขาหายตัวไปครึ่งปีเต็ม และหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาไปไหน?
หลายคนในโลกสนใจที่อยู่ของเขา และก็จับตาดูตลอดเวลา
ตอนนี้ที่กู่ฉางเกอปรากฏตัว พวกเขาจะไม่แปลกใจได้ไง?พวกเขามองมังกรเก้าตัวเหนือหัวพวกเขาและคุยกัน
“กู่ฉางเกอกลับมาแล้วหลังหายไปครึ่งปี!”
“เขาไปไหนมา?”
ชายในชุดทองที่ชื่อจินอวี่เองก็โดนกู่ฉางเกอดึงดูดสายตาและอดขมวดคิ้วไม่ได้ กู่ฉางเกอคือคนที่เขาไม่อยากเจอสุดเนื่องจากแม้แต่พี่ชายเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหัวให้
โดยธรรมชาติ เขาย่อมไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเขา
แต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่ทันสังเกตคือสีหน้าของกู่เซียนเอ๋อร์ ใบหน้าเย็นชาของนางยิ่งเย็นยะเยือกเข้าไปใหญ่และก็ไม่สามารถระงับความเกลียดชังได้ กลิ่นอายน่ากลัวพวยพุ่งออกมารอบตัวนาง และดวงตาก็เปล่งแสงน่ากลัว
“คุณหนู!”
ข้ารับใช้ชราข้างนางร้องเรียก เขากลัวว่านางจะทำอะไรหุนหันพลันแล่น
ไม่ต้องสงสัยว่ากู่เซียนเอ๋อร์รู้ว่าใครนั่งในรถม้า มีแคคนเดียวที่กล้าเข้าวังเต๋าด้วยความเอิกเกริกเช่นนี้
กระดูกเต๋าของนางยังอยู่ในตัวเขา และทั้งสองก็มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาด นางจะไม่รับรู้ถึงเขาได้ไง?
หลังผ่านไปกว่าสิบปี นางก็ได้เจอเขาอีก ทันทีทันใด นางรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่นางรู้สึกตอนโดนขุดกระดูกเต๋าออกไป
“คุณหนู เรายังไม่พบผู้อาวุโสใหญ่ ท่านต้องไม่ดึงดูดความสนใจเขา วังเต๋าอมตะสวรรค์ก็เหมือนสวนหลังบ้านเขา.
ข้ารับใช้ชราโน้มน้าวนาง
กู่เซียนเอ๋อร์เข้าใจความกังวลของเขาดี และพยักหน้าตอบ
“มานี่ จัดการกับนางแพศยานี่ที่ไม่รู้สูงต่ำก่อน!”
สีหน้าของจินอวี่เปลี่ยนเป็นเย็นชาและหันไปหากู่เซียนเอ๋อร์พร้อมสั่ง
กลุ่มข้ารับใช้ของเขาที่มีเขาและเกล็ดเดินไป
กู่เซียนเอ๋อร์จ้องพวกเขาอย่างเย็นชา นางไม่อยากสร้างความวุ่นวายที่นี่ แต่ความวุ่นวายมาหานางเอง
[โฮก!!]
จากนั้น มังกรก็คำรามอีกครั้งจากบนฟ้าและทำให้หลายคนตกใจ
“หนีเร็ว!เขากำลังมาทางเรา”
พวกเขาอดกรีดร้องไมได้ตอนพบรถม้าที่มีมังกรเก้าตัวลากกำลังวกกลับมาหลังเข้าวังเต๋าไปแล้ว ไม่เพียงจะมุ่งตรงมาทางพวกเขา แต่มันกำลังทะยานลงมาถ้ากำลังจะเหยียบย่ำพวกเขา
‘โอ้ ไม่!เขาต้องรู้สึกได้ถึงข้าแล้ว!’
กู่เซียนเอ๋อร์เดาออกและหน้าสลด ไม่มีอะไรจะอธิบายได้ว่าทำไมกู่ฉางเกอถึงกลับมาและตรงมาทางนางในเมื่อเขาเข้าวังเต๋าไปแล้ว
“ทำไมกู่ฉางเกอถึงตรงมาทางนี้?”
สีหน้าของจินอวี่บิดเบี้ยวจนน่าเกลียด เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมกู่ฉางเกอถึงตรงมาทางเขา?
เพราะเขา?
เหนือสิ่งอื่นใด เขากับกู่ฉางเกอรู้จักกันและถือได้ว่ามีความบาดหมางกัน เพราะพี่ชายเขา เขาจึงเจอกับกู่ฉางเกอหลายครั้งในดอีต
ตอนนี้ ใบหน้าของเขาดำมืด
“คุณหนู เราต้องไปแล้ว!”
ใบหน้าของข้ารับใช้ชราก็ซีด และรีบโน้มน้าวกู่เซียนเอ๋อร์
ในทางกลับกัน กู่เซียนเอ๋อร์กลับสงบและส่ายหัว”เราไม่สามารถหนีได้แล้ว ยังไงซะ เราก็ต้องเผชิญหน้ากับเขาไม่ช้าก็เร็ว ทำไมไม่ทำมันตอนนี้ละ?”
นางไม่คิดเลยว่าจะเจอกับกู่ฉางเกอเร็วขนาดนี้ แต่นางไม่สนใจอีกแล้ว
ผู้บ่มเพาะในตลาดต่างจับจ้อง ก่อนหน้านี้ มีแค่ไม่กี่คนที่เฝ้าดูทางนี้ แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างมุงมาทางนี้
“นายน้อยกู่มาทำอะไรที่นี่?ปาฏิหาริย์หรือเปล่า?”
“หรือเขาจะมาเพราะจินอวี่?ข้าได้ยินมาว่าพี่ชายของเขาถูกนายน้อยกู่ซ้อมมา และก็บาดเจ็บสาหัสด้วย!”
ผู้บ่มเพาะใกล้ๆพูด
ไม่ช้า มังกรกับรถม้าก็ลงพื้น และเสียงน่าฟังของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“ไม่เจอกันนานเลยนะ…ดูเหมือนว่าเจ้าจะสบายดี!”
“นายน้อยกู่ก็พูดเกินไป!ไม่ว่าข้าจะสบายดียังไง มันจะไปเทียบกับท่านได้อย่างไร?”
จินอวี่ผงะตอนได้ยินคำพูดของกู่ฉางเกอ แต่ในเมื่อกู่ฉางเกอทักทายเขาอย่างเป็นมิตร เขาก็ทำได้แค่ยิ้มและตอบกลับ
“หลังแยกจากกันเป็นสิบปี ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะโตมาสูงและงดงามถึงเพียงนี้”
เขาไม่หยุดพูด และเดินออกจากรถม้าด้วยความแปลกใจในดวงตา มันราวกับเขากำลังพูดกับตัวเองและไม่สนใจจินอวี่ที่เขาเดินผ่านมาเลย
ใบหน้าของจินอวี่แข็งทื่อพอได้ยินคำพูด และใบหน้าก็บิดเบี้ยว เขารู้สึกอับอายมาก!
ผู้บ่มเพาะใกล้ๆเองก็ผงะและตกใจ คำพูดนั้นไม่ได้พูดกับจินอวี่ชัดๆ เขากำลังพูดกับเด็กสาวในชุดฟ้า?
กู่เซียนเอ๋อร์รู้ว่ากู่ฉางเกอกำลังพูดกับนาง แต่ใบหน้างามของนางก็ยังแสดงความเย็นชา และไม่พูดอะไรตอบสักคำ นางแค่จ้องเขาเขม็ง
“กู่ฉางเกอ เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?!”
จินอวี่แทบขาดสติตอนเห็นกู่ฉางเกอเดินผ่านเขาไปแบบไร้ตัวตน เขาเสียหน้ามาก และอดคำรามเพื่อทวงศักดิ์ศรีคืนไม่ได้
เหนือสิ่งอื่นใด ความอับอายนี้ไม่ใช่น้อย กู่ฉางเกอไม่คิดจะคุยกับเขาด้วยซ้ำ
“เจ้าเป็นบ้าอะไร?ไม่เห็นหรือไงว่าข้ากำลังคุยกับน้องสาวข้า?กล้าดียังไงถึงมาขัด?”
สุดท้ายกู่ฉางเกอก็เหลือบมองเขาและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก
“เจ้า!!!”
จินอวี่แทบกระอักเลือด เลือดลมของเขาพุ่งขึ้นหัว
กู่ฉางเกอไม่สนใจใครหน้าไหน เขาหันไปมองกู่เซียนเอ๋อร์ต่อ เขาเองก็คาดไม่ถึงว่าจะสัมผัสได้ถึงนางที่หน้าประตูวังเต๋าตอนเขากลับมา นั่นทำให้เขาสั่งให้เฒ่าหมิงขับกลับมา
ยังไงซะ การทักทายนางตอนนี้ก็ไม่มีผลเสียอะไร ต่อให้นั่นจะทำให้นางโกรธ ฐานบ่มเพาะของนางด้อยกว่าเขามาก ไม่มีทางที่นางจะทำร้ายเขาได้ แม้นางจะมียอดฝีมือที่ทรงอำนาจเบื้องหลัง แต่ตราบเท่าที่ชีวิตนางไม่ตกอยู่ในอันตราย คนเหล่านั้นจะไม่เผยตัว
สำหรับการแก้แค้นของนาง?ตราบเท่าที่ฐานบ่มเพาะของเขาเหนือกว่านาง นางจะไม่มีโอกาส
เรื่องเดียวคงเป็นความเกลียดที่โดนขุดกระดูกเต๋า กู่ฉางเกอคิดทางออกไว้นานแล้ว และถ้าไม่ได้ผล เขาก็ยังมีใจมารให้โทษ
หลังจากนั้น เขาก็ใช้ระบบตรวจค่าโชคของนาง และอดสูดหายใจลึกไม่ได้ ค่าโชคของนางไม่น้อยกว่าเยวี่ยหมิงคงเลย ไม่สิ มันยังมากกว่า
หมื่นแต้ม!
เขาต้องยอมรับว่าบุตรฟ้าประทานของอาณาจักรเบื้องล่างนั้นไม่ต่างจากขยะเลย
“ฮี่ๆ กู่ฉางเกอ พี่ชายแสน’รัก’ของข้า ท่านรู้สึกละอายใจกับคำพูดบ้างไหม?ถ้าท่านยังมองข้าเป็นน้องสาว งั้นตอนนั้นท่านทำลงไปทำไม?”
กู่เซียนเอ๋อร์ไม่คิดว่ากู่ฉางเกอจะแสดงท่าทีเช่นนี้ต่อนาง แต่คำพูดกับใบหน้าไม่แยแสของเขาก็ทำให้นางไม่สบายใจ นางกัดฟัน และจ้องกู่ฉางเกอด้วยสายตาเย็นชา
รอยยิ้มหวานเบ่งบานบนหน้านาง ถ้าคนนอกที่ไม่รู้ความบาดหมางมาเห็นฉากนี้ พวกเขาจะคิดว่านางสนิทกับกู่ฉางเกอ
ตอนนี้ นางอยากชกหน้าเขา
ผู้บ่มเพาะใกล้ตกใจตอนเห็นฉากด้านหน้า พวกเขาไม่คิดเลยว่าสาวน้อยในชุดฟ้าจะมีภูมิหลังใหญ่โตเช่นนี้ ไม่มีใครคิดว่านางจะเป็นน้องสาวของกู่ฉางเกอ!
มันแค่ว่าทั้งสองดูเหมือนจะมีเรื่องบาดหมางกัน?
เกิดอะไรขึ้นตอนนั้น?
สีหน้าของจินอวี่เองก็เปลี่ยนไป เขาไม่คิดเลยว่านางแพศยานี่จะเป็นคนตระกูลกู่!เหนือสิ่งอื่นใด เขารู้จักเด็กตระกูลกู่ทุกคน เขาจึงสงสัยว่านางโผล่มาจากไหน?
กู่เซียนเอ๋อร์ไม่พูดอะไรอีก และแค่จ้องกู่ฉางเกอ เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องนี้มีแต่จะนำความอับอายมาสู่ตระกูลกู่ และนางก็ไม่สามารถทำได้
นางไม่อยากทำให้ตระกูลกู่เสียหน้า
“เราไม่เจอกันตั้งนาน แต่เจ้าก็ยังปฏิบัติกับข้าด้วยท่าทีเช่นนี้..เจ้ารู้ไหมว่ามันทำให้พี่ใหญ่เจ็บปวดใจแค่ไหน!”
กู่ฉางเกอพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่มีใครสามารถเห็นความเสียใจบนหน้าเขาเลย
แน่นอน มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจ มันแค่ว่าเขาไม่สามารถขอโทษกู่เซียนเอ๋อร์ได้ ถ้าเขาแสดงความเสียใจและขอโทษนาง งั้นนางก็ต้องรู้สึกว่าเขากำลังวางแผนร้ายแน่
เขาต้องไม่ทำให้ความสัมพันธ์แย่ไปกว่านี้
“งั้นข้าควรปฏิบัติต่อท่านอย่างไร?ตอนนี้ข้าอยากซัดหน้าท่านเหลือเกิน!”
กู่เซียนเอ๋อร์คำราม นางรู้สึกว่ากู่ฉางเกอมาหานางแค่เพื่อถูเกลือใส่แผล
“ได้ งั้นก็ซัดเลยสิถ้าเจ้าทำได้”
กู่ฉางเกอหัวเราะและไม่อยากพูดอะไรอีก ในเวลาเดียวกัน เขาก็หันไปหาจินอวี่ และพูดอย่างเย็นชา”เจ้ากล้าดียังไง?มีแค่ข้าถึงรังแกน้องสาวข้าได้ ถ้ามีใครพยายามทำร้ายนาง งั้นก็เตรียมตัวตายไดเลย!”
พอสิ้นคำพูด เขาก็ยกมือและเหวี่ยง อักขระสว่างบรรจบกันเป็นฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ในท้องฟ้าที่ตบลงมาด้วยความเร็วสูง!
“กู่ฉางเกอ เจ้า”
สีหน้าของจินอวี่เปลี่ยนไป ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น พวกเขาอยู่ที่หน้าประตูวังเต๋า กู่ฉางเกอจะกล้าฆ่าเขาได้ไง?
ข้ารับใช้ด้านหลังเขาเองก็ตื่นตระหนกและพยายามหนี แม้พวกเขาจะเป็นเทพเสมือนกัน พวกเขาก็ไม่สามารถรวมพลังเพื่อต่อต้านการโจมตีของกู่ฉางเกอได้เลย
ฝ่ามือของกู่ฉางเกอเหมือนมือของพระเจ้าที่บดบังโลก
[พุฟ!]
ข้ารับใช้ของจินอวี่ตัวระเบิดเป็นหมอกเลือด ตัวจินอวี่เองก็กระอักเลือด และตัวระเบิดไปตาม แต่วิญญาณของเขาก็ยังหลบหนีได้ด้วยความช่วยเหลือของสมบัติป้องกันที่โอบรอบวิญญาณเขาและพามันหนีไป
สภาพแวดล้อมตกอยู่ในความเงียบ ผู้บ่มเพาะทั้งหมดรู้สึกว่าหนังศีรษะชาด้าน
พวกเขากลืนน้ำลาย และขาสั่นด้วยความกลัว
“กู่ฉางเกอ อย่าคิดว่าข้าจะขอบคุณเจ้า!”
กู่เซียนเอ๋อร์เองก็ตะลึง แต่ก็รีบตอบสนอง
นางไม่ต้องการให้กู่ฉางเกอมาช่วยเพราะนางสามารถจัดการจินอวี่เองได้ ก่อนหน้านี้ นางแค่กลัวว่าจะสร้างปัญหาและเป็นที่สังเกต ตอนนี้ที่กู่ฉางเกอพบนางแล้ว นางจึงไม่ต้องซ่อนตัวอีก
“ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาขอบคุณ”กู่ฉางเกอส่ายหัว”ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้ว่ามีแค่ข้าที่รังแกเจ้าได้ คนอื่นไม่สามารถ!เจ้าต้องไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”