ตอนที่ 96 เจ้าคิดถึงเขา?
การกระทำของกู่เซียนเอ๋อร์ทำให้ทุกคนตกใจ และความเงียบก็ปกคลุมก่อนปะทุ ทุกคนจ้องนางและพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่นางทำ เหนือสิ่งอื่นใด นางยอมแพ้โอกาสเช่นนั้นที่จะมีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก!
สายตาของศิษย์นับไม่ถ้วนเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างอิจฉา ลมหายใจพวกเขาหอบหนัก
มีกี่คนที่ไปถึงขั้น18ได้?
ทำไมนางไม่ไปต่อ?
ความวิตกเกาะกุมหัวใจพวกเขา ถ้าพวกเขาเป็นนาง พวกเขาคงไปต่อแม้จะต้องจ่ายทุกอย่าง เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ก้าวข้ามกู่ฉางเกอ และได้รับคำชมจากคนนับล้าน
แม้กระทั่งผู้อาวุโสก็ยังอดส่ายหัวและถอนหายใจไม่ได้ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมกู่เซียนเอ๋อร์ถึงทิ้งโอกาสเช่นนั้น และจงใจสูสีกับกู่ฉางเกอ
ในความคิดของพวกเขา ตัวตนของกู่เซียนเอ๋อร์จากวันนี้ต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง นางต้องได้เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสใหญ่แน่
ทว่า!นางกลับพลาดโอกาสที่จะก้าวข้ามกู่ฉางเกอ และจะไม่ได้โอกาสเช่นนั้นอีก
แม้กระทั่งผู้อาวุโสใหญ่ที่ดูทุกอย่างจากระยะไกลก็อดงุนงงไม่ได้ เขาได้ดูการต่อสู้ระหว่างกู่ฉางเกอกับฉู่อู่จื่อ และผลของการปะทะก็ทำให้เขาแปลกใจมาก เขาไม่คิดเลยว่ากู่ฉางเกอจะบดขยี้ฉู่อู่จื่อได้โดยไม่ต้องเสียเหงื่อ
กู่ฉางเกอคืออัจฉริยะที่เก่งกาจสุดในรอบแสนปีแน่นอน จากนี้ไป เขาไม่สามารถพึ่งพาฉู่อู่จื่อกับคนอื่นเพื่อรักษาตำแหน่งผู้สืบทอดจากเขาได้เลย เขาจึงตัดสินใจทุ่มความหวังกับกู่เซียนเอ๋อร์
ต่อให้นางจะไม่สามารถทำลายสถิติของกู่ฉางเกอได้ เขาก็ได้ตัดสินใจรับนางเป็นศิษย์แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสใหญ่สับสนคือทางเลือกของนาง เพราะมันชัดเจนว่านางสามารถก้าวไปได้อีกขั้น
มีเรื่องระหว่างกู่เซียนเอ๋อร์กับกู่ฉางเกอที่เขาไม่รู้?
หรือนางมีข้อพิจารณาอื่น?
กู่เซียนเอ๋อร์ค่อยๆเดินลงถนนเต๋าสวรรค์ หน้าดูเหมือนเทพธิดา
ทุกก้าวที่นางเดินนั้นมั่นคงและนางก็แสดงใบหน้าสงบ
นางไม่เสียใจหรือรู้สึกไม่เต็มใจที่ไม่ได้ทำลายสถิติของกู่ฉางเกอ นางแค่ส่ายหัวตอนเห็นสีหน้าของทุกคนรอบนาง
นางสามารถบอกได้ว่าเหตุผลที่กู่ฉางเกอมั่นใจในตัวนางมากเพราะเขาไม่สนใจสถิติของเขา ถ้ากู่ฉางเกอก้าวบนนถนนเต๋าสวรรค์ตอนนี้ เขาจะต้องปีนได้สูงกว่าเดิมแน่
แม้พรสวรรค์จะถูกลิขิตและหลายคนก็ใช้ชีวิตโดยไม่ก้าวหน้ามาก แต่กู่ฉางเกอนั้นแตกต่าง ไม่งั้นเขาจะได้รับคำชมตั้งแต่เกิดหรือไง?
ไม่เพียงกู่ฉางเกอจะครอบครองกระดูกเต๋าของนาง แต่เขายังมีพรสวรรค์แต่กำเนิดของตัวเองด้วย!สำหรับว่ามันคืออะไร?ไม่มีใครบอกได้
แล้วนางจะไปพิสูจน์อะไรได้ต่อให้นางทำลายสถิติ/
จำเป็นที่นางต้องพิสูจน์ว่านางเหนือกว่ากู่ฉางเกอในปีนั้นเหรอ?
ไม่จำเป็นเลย
“เซียนเอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงหยุด?พี่ใหญ่เชื่อว่าเจ้าจะเดินได้อีกสองสามก้าว”
แม้กู่ฉางเกอจะรู้เหตุผลเบื้องหลังการกระทำนาง เขาก็ยังส่ายหัวด้วยความเสียใจตอนเห็นกู่เซียนเอ๋อร์เดินลงมา มันราวกับเขาเสียใจจริงๆที่กู่เซียนเอ๋อร์ไม่ไปเกินขั้น18 และเชื่อว่านางจะก้าวได้มากกว่านี้
กู่เซียนเอ๋อร์แค่เหลือบมองกู่ฉางเกออีกครั้ง และไม่คิดตอบเขา
นางอยากหยุดเขาจากการเรียนนางว่าเซียนเอ๋อร์นั่น เซียนเอ๋อร์นี่ แต่ตอนนางคิด นางก็รู้สึกไม่สบายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง
เขาถือเป็นศัตรูที่นางเกลียดเข้ากระดูก นางอยากบดกระดูกเขา อยากกินเนื้อและดื่มเลือด แต่นางก็ทำอะไรไม่ถูกต่อหน้าเขา เขามักปรากฏตัวต่อหน้านางและจงใจทำให้นางหงุดหงิด
อาจารย์นางเป็นพวกหน้าด้านกันก็จริง แต่พวกเขาเทียบไม่ได้กับกู่ฉางเกอเลย
ความหน้าด้านของกู่ฉางเกอนั้นไร้สิ้นสุด
ถ้านางสามารถกระทืบกู่ฉางเกอได้ งั้นนางก็คงเมินทุกอย่างตอนนี้ไป และบดขยี้เขาจนเละ
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะคิดยังไง!”
นางสะบัดหน้าหนี
“ข้าก็ไม่ได้อยากสนใจเจ้าเช่นกัน แต่เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง!ข้าหวังจากเจ้าไว้มาก แต่นี่คือดีสุดที่เจ้าทำได้ฦ.
รอยยิ้มบนหน้ากู่ฉางเกอหายไปพอเขาได้ยินคำพูดนางและตอบด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“กู่ฉางเกอ อย่าคิดว่าเจ้าจะรังแกข้าได้ตามใจชอบ…”
กู่เซียนเอ๋อร์ไม่สามารถสงบได้อีกหลังได้ยินคำพูดของเขา และสุดท้ายก็ระเบิด นางเหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง
เขาพูดไร้สาระอะไร?
แม้นางจะรู้ว่ากู่ฉางเกอจงใจปั่นหัวนาง นางก็ทนไม่ได้อยู่ดี
คนอื่นพูดได้ แต่เขาไม่ได้!
มันราวกับนางทำให้เขาผิดหวังและเป็นดั่งที่เขาพูด
ถ้านั่นไม่พอ งั้นคำพูดของเขายังเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ราวกับกำลังบอกนางว่า’เจ้าอยากแก้แค้นข้าด้วยความสามารถเช่นนี้?ฝันไปเถอะ!”
กู่เซียนเอ๋อร์มีอีโก้ นางไม่มีวันยอมให้กู่ฉางเกอพูดเช่นนั้น
“ทำไมข้าจะคิดไม่ได้?เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้ามีโอกาสหยุดข้าได้?
ใบหน้าเย้ยหยันของกู่ฉางเกอไม่เปลี่ยน เขากำลังแกล้งนาง และเขาก็สนุกไปกับมัน
ใบหน้าของกู่เซียนเอ๋อร์แดงก่ำจนแทบระเบิด
ไม่มีใครสามารถคิดได้ว่าแค่คำพูดไม่กี่คำจากปากกู่ฉางเกอจะทำให้นางโกรธได้ขนาดนี้ นางปรารถนาจะนำมีดที่อาจารย์นางมอบให้มาผ่าชำแหละกู่ฉางเกอบัดเดี๋ยวนี้
ความคิดต่างๆแวบผ่านหัวของผู้อาวุโสกับศิษย์ขณะมองฉากตรงหน้าพวกเขา มันชัดเจนสำหรับพวกเขาว่ากู่เซียนเอ๋อร์มีความแค้นกับกู่ฉางเกอ แต่กู่ฉางเกอก็ยังดูแลนาง
คำพูดของเขาแสดงให้เห็นชัดว่าเขาเสียใจที่กู่เซียนเอ๋อร์ไม่ทำลายสถิติที่เขาทำไว้ตอนนั้น
สำหรับว่าทำไม?มันต้องเพราะกู่ฉางเกอ!นางพิจารณาเกี่ยวกับเขาและเลือกหยุด
ทั้งสองเหมือนพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกัน และศิษย์หลายคนก็รู้สึกอิจฉาในความสัมพันธ์ของพวกเขา
ไม่ช้า รายละเอียดของทั้งเหตุการณ์ก็กระจายไปทั่ววังเต๋าอมตะสวรรค์ และก็สร้างความตกใจให้ใครหลายคน
โดยเฉพาะ ความจริงที่กู่เซียนเอ๋อร์สามารถไปถึงขั้น18ได้ นี่ทำให้หลายขุมอำนาจเริ่มสืบต้นกำเนิดนาง
สุดท้าย พวกเขาก็รู้ว่านางมาจากตระกูลกู่จริงและดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องใหญ่โตในตระกูล สำหรับว่าเรื่องอะไร?พวกเขาไม่พบรายละเอียด
มันไม่ยากสำหรับตระกูลกู่ที่จะปิดข่าว เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขายืนหยัดมาหลายยุคสมัย พวกเขาจะไม่มีความสามารถเล็กน้อยแบบนี้ได้ไง?
ชั่วขณะนั้น ชื่อของกู่เซียนเอ๋อร์กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและไปถึงหูของอัจฉริยะสวรรค์หลายคน
สำหรับการกระทำของกู่ฉางเกอที่บดขยี้ฉู่อู่จื่อ อัจฉริยะสูงสุดอีกคนและศิษย์แท้จริงของวังเต๋าอมตะสวรรค์?นั่นก็ทำให้หลายคนตกใจเช่นกันและพวกเขาก็รู้สึกว่ากู่ฉางเกอน่ากลัวกว่าเดิม
คู่แข่งหลายคนของเขารู้สึกกดดัน อัจฉริยะสูงสุดกับผู้สืบทอดสำนักต่างๆพิจารณากู่ฉางเกอเป็นศัตรูตัวฉกาจสุดและไม่กล้าประมาทเขา
ทายาทของราชวงศ์เซียน สำนัก ตระกูลโบราณกับเผ่ารู้สึกดดันมากและควานหาโอกาสเพิ่มพลังกันยกใหญ่ บ้างรีบปิดด่านบ่มเพาะ หวังจะทะลวงผ่าน
..
[ตระกูลเซียนเย่ สวรรค์ฟ้าคราม]
บนเกาะศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมด้วยแสงเจิดจ้ากับพลังปราณเอ่อล้น สาวสวยสวมชุดกะโปรงสีม่วงกำลังนั่งอยู่ในวังและรับฟังข่าวโลกภายนอก
สีหน้านางเปลี่ยนไปไม่หยุด บางครั้ง นางจะแสดงความสับสน บางครั้งก็อึ้ง
“คุณหนู ท่านยังหดหู่เพราะเรื่องของเย่เฉินอีกหรือ?มันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ท่านควรปล่อยวางได้แล้ว”
สาวงามวัยกลางคนที่มีสีหน้ากังวลยืนข้างเด็กสาวและพยายามเกลี้ยกล่อม
ทั้งสองไม่ใช่ใครนอกจากเย่หลิวลี่กับป้าเสวี่ย ผู้กลับมาตระกูลเย่จากอาณาจักรเบื้องล่าง หลังแยกจากกู่ฉางเกอในอาณาจักรลับสวรรค์โบราณ พวกนางก็อยู่ในอาณาจักรเบื้องล่างสักพักและค่อยกลับมา
สภาพของเย่หลิวลี่ที่ผ่านมาทำให้ป้าเสวี่ยวิตก บางครั้ง นางจะนั่งเหม่อลอย บางครั้ง นางจะยืนเฉยๆเหมือนคนไม่มีสติ ตอนป้าเสวี่ยถามถึงอาการ นางจะบอกว่านางไม่เป็นอะไร ป้าเสวี่ยจึงเดาว่าสภาพนางตอนนี้น่าจะเป็นเพราะการตายของเย่เฉิน
คุณหนูของนางอาจใจสลายและไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้
เย่หลิวลี่พลันได้สติหลังฟังคำพูดของป้าเสวี่ย นางผงะ และอดพูดไม่ได้”ป้าเสวี่ย ท่านพูดอะไร?เย่เฉินก็แค่มด การตายของเขาจะมาส่งผลต่อข้าได้ไง?ทำไมข้าต้องหดหู่เพราะเขา?”
ป้าเสวี่ยตกตะลึง และสงสัยว่าคุณหนูของนางใจสลายจนลืมเย่เฉินไปแล้ว?
แต่นั่นถือเป็นเรื่องดี
การลืมคนไปแบบนี้นั้นดีสุด เหนือสิ่งอื่นใด คุณหนูนางเกือบไปตอแยนายน้อยกู่เพราะเย่เฉิน นางได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับกู่ฉางเกอและอดรู้สึกกลัวไม่ได้ ต่อให้เย่เฉินจะไม่ตายในอาณาจักรเบื้องล่าง แต่เขาก็ต้องฉี่ราดแน่หลังขึ้นมาอาณาจักรเบื้องบนและรับรู้ถึงพลังแท้จริงของกู่ฉางเกอ
ป้าเสวี่ยอดมีความสุขไม่ได้
“คุณหนู ท่านพูดถูกแล้ว!เย่เฉินก็แค่มด ทำไมท่านต้องไปสนใจคนอย่างเขา?”
เย่หลิวลี่ตอบด้วยการพยักหน้า ในเวลาเดียวกัน นางก็พึมพำกับตัวเอง’ทำไมข้าถึงสนใจข้อมูลเกี่ยวกับกู่ฉางเกอนัก?แถม ทำไมข้าถึงเรียกเขาว่านายท่านโดยไม่รู้ตัว?’
เย่หลิวลี่มีความรู้สึกว่านางลืมเรื่องสำคัญไป แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน นางก็นึกไม่ออก
จากนั้น เสียงหนึ่งก็ดังด้านนอกวัง และชายหนุ่มสวมชุดเกราะทองก็เดินเข้าม เขาดูเหมือนจะห่อหุ้มด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์เหมือนดวงอาทิตย์ และแม้กระทั่งเส้นผมก็ยังสะท้อนแสง เขาเหมือนจักรพรรดิหนุ่ม
“เสี่ยวหลิวลี่ เจ้าเหม่ออะไรอยู่?เจ้าไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นข้ามา”
ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม มอบความรู้สึกสบายใจให้กับใครก็ตามที่ได้ยินเสียงเขา
“พี่ใหญ่?ท่านมาทำอะไรที่นี่?ท่านได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับกู่ฉางเกอบ้างหรือไม่?”
เย่หลิวลี่ยิ้มตอนเห็นคนที่มา และจากนั้นก็ถามคำถามในใจนาง ชายหนุ่มตรงหน้านางคือพี่ชายของนาง เย่หลางเทียนผู้เป็นนายน้อยของตระกูลเย่
แม้เขาจะไม่แสดงพลังของเขาต่อโลกภายนอก แต่ตำนานนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับเขาก็ยังมีอยู่
เขาเป็นที่รู้จักในฐานะจักรพรรดิโบราณผู้กลับชาติมาเกิด และก็ว่ากันว่าเขาคือคนไม่กี่คนที่สามารถประชันกับกู่ฉางเกอได้
แสงแวบผ่านตาของเย่หลางเทียนพอเขาได้ยินคำถามของน้องสาวเขา”น้องพี่ ทำไมเจ้าถึงเอาแต่พูดถึงกู่ฉางเกออีกแล้ว?ข้าดูเหมือนจะได้ยินว่าเขาลงไปอาณาจักรเบื้องล่างเพื่อหาบางอย่าง เจ้าต้องเจอกับเขาที่นั่นสินะ?”
“อย่าบอกข้านะว่าเจ้าคิดถึงเขาแล้ว?”
มันไม่ยากที่เขาจะได้ข้อสรุปนี้ แถม เขายังได้ยินบางอย่างมาจากป้าเสวี่ยด้วย