สาวน้อยสวมชุดม่วงมีใบหน้าที่สามารถทำให้ชายใดลืมหายใจได้ นางสวยและสง่า หุ่นเพรียว ขายาวและมีกลิ่นอายสูงส่ง
นางดูไม่แก่เลย และดูเหมือนคนอายุ 17-18 เท่านั้น ดวงตานางต่างจากมนุษย์ ดูเหมือนลูกปัดหลากสี
นางคือผู้นำของสิ่งมีชีวิตของภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณ ตัวตนของนางไม่ธรรมดาและก็ยืนสูงในภูเขา
ทุกคนมองนางด้วยความเคารพ
พอได้ยินคำพูดนาง สิ่งมีชีวิตที่มีปีกบนหลังก็โบกมือ”คุณหนูหลิวลี่ วางใจได้!เจ้าสารเลวที่มาจากอาณาจักรเบื้องบนอาจมีภูมิหลัง แต่เขาไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าข้าและภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณของเรา!”
“ในเมื่อเข้ากล้าทำให้คุณหนูไม่พอใจ เขาก็สามารถลืมเรื่องการกลับรังไปได้เลย!”
“ฮ่าๆ!ภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณเราไม่ได้เพิ่งเกิด อาณาจักรฟ้าครามอาจลืมการดำรงอยู่ของเราไปหลังเราเก็บตัวมานาน แต่เมื่อเราเคลื่อนไหว พวกมันจะรู้ว่าใครที่เป็นผู้ปกครองอาณาจักรฟ้าคราม!ทั้งหมดไม่ต่างอะไรจากทาสของเรา..”
“เจ้าสารเลวนั่นและทาสของเขากล้าดียังไงมาทำเรื่องแบบนี้ในแคว้นกลางใต้จมูกเรา?”
สิ่งมีชีวิตที่เหลือพยักหน้าตามตอนได้ยิน พวกเขายืนเชิดหัวสูง และพูดเกี่ยวกับทุกอย่างด้านนอกภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณด้วยความดูถูก
ในความคิดพวกเขา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับตระกูลโบราณของแคว้นกลางไม่ต่างอะไรจากมดปลวก
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณเกี่ยวข้องกับอาณาจักรเบื้องบน พวกเขามีเทพเสมือนมากมายซ่อนตัว
ยังมีตระกูลใหญ่บางแห่งหนุนพวกเขา(จากอาณาจักรเบื้องบน) แม้กระทั่งปกครองอาณาเขตพวกเขา พวกเขาดำรงอยู่มาตั้งแต่โบราณและมรดกพวกเขาก็สืบย้อนกลับไปตอนอาณาจักรฟ้าครามยังไม่มีอยู่ด้วยซ้ำ แม้กระทั่งสำนักเต๋าสูงสุดหรือนิกายอมตะก็ยังต้องไว้หน้าพวกเขา
สาวน้อยในชุดม่วงได้ยินคำพูดพวกเขา พยักหน้าและไม่พูดอะไร
แต่นางกลับยิ่งเย็นชาขึ้น
หลังจากนั้น สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็เริ่มพูด และตัดสินใจพาชายหนุ่มจากอาณาจักรเบื้องบนมามอบให้นาง
แต่นางส่ายหัว”ข้าอยากไปเจอเขาเอง มันเป็นใครกัน?กล้าดียังไงมาทำร้ายพี่ชายเย่เฉินขนาดนี้”
“แค่พึ่งพาทาสชราในอาณาจักรเทพเสมือน เขากล้าดียังไงถึงมาทำอะไรแบบนี้”
“ข้าจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ”
ตอนทุกคนได้ยินคำพูด พวกเขาก็เห็นด้วย
“ต่อหน้าคุณหนูหลิวลี่ ภูมิหลังของมันจะนับเป็นอะไร?เขาจะต้องคุกเข่าและขอความเมตตาเป็นแน่..”
สาวน้อยในชุดม่วงนั้นมีฐานะสูงส่งมาก นางคือทายาทสายตรงของตระกูลใหญ่ที่น่ากลัวในอาณาจักรเบื้องบน
ชื่อนางคือเย่หลิวลี่
ตอนนางอายุสามขวบ นางถูกส่งมาอาณาจักรเบื้องล่างด้วยเหตุผลบางอย่าง
แต่ตอนนางอายุหกขวบ กลับมีความวุ่นวายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณที่นางอยู่ นางจึงถูกส่งไปตระกูลของทายาทของทาสชราผู้หนึ่ง
และตระกูลที่ว่านั่นก็คือตระกูลเย่ที่เย่เฉินอยู่
ระหว่างนั้น นางกับเย่เฉินโตมาด้วยกันและมีความผูกพันธ์
ตอนอายุ 13 เย่หลิวลี่ถูกพากลับไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณเพื่อฝึก และการฝึกนี้ก็กินเวลาถึงห้าปี
ครั้งนี้ เย่หลิวลี่กำลังจะไปหาเย่เฉิน แต่นางกลับได้ยินข่าวร้ายที่ไม่อยากได้ยินซะก่อน
มันทำให้นางตกใจ ปั่นป่วนและโกรธ!
พี่ชายเย่เฉินได้ไปยั่วยุคุณชายที่มาจากอาณาจักรเบื้องบนเข้า และต้องหลบหนีตลอดทางจากแดนบูรพามายังแคว้นกลาง
และข่าวลือก็ทำให้นางไม่อยากเชื่อ
หมายปองสาวงามอันดับหนึ่งแห่งแดนบูรพา?
คางคกอยากกินเนื้อห่าน?
พี่ชายเย่เฉินคือคนตรงๆ จิตใจดีและเป็นคนมุ่งมั่น มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเรื่องแบบนั้น
นั่นต้องเป็นข้อกล่าวหาที่ผิด!
แถมที่ร้ายแรงสุดคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจียโหลวที่เกี่ยวข้องกับพี่ชายเย่เฉินยังโดนทำลาย ซึ่งทำให้นางโกรธแค้นมาก
หลังสงบอารมณ์ลง เย่หลิวลี่ก็มาเมืองโบราณท้าจันทร์ รู้ว่าคุณชายที่ว่านั่นอยู่นี่
นางกำลังจะไปพบหน้าคุณชายนั่น นางอยากแก้แค้นให้พี่ชายเย่เฉิน
“ป้าเสวี่ย ข้าอยากรู้ว่าพี่ชายเย่เฉินอยู่ได้”
ทันใดนั้น เย่หลิวลี่ก็พูดขึ้นกับอากาศด้านหลังนาง เสียงของนางเย็นชามาก
ฮึ่ม!
เกิดระลอกคลื่น และหญิงสาววัยกลางคนก็ปรากฏ
นางซ่อนตัวในมิติ หลบซ่อนฟ้าดิน
วิธีการนี้ถือเป็นขอบเขตของเทพเสมือน
พอได้ยินแบบนี้ หญิงวัยกลางคนที่ชื่อป้าเสวี่ยก็พูดเสียงเบาอย่างหน่ายใจ”คุณหนู ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเย่เฉินซ่อนตัวอยู่ไหน ข้ารู้แค่ว่าเขาอยู่แคว้นกลาง”
ถึงนางจะพูดตอบไป แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สนใจจริงๆ
เย่เฉินนั้นไม่อยู่ในสายตานางเลย
หลังค้นหาเย่เฉิน สิ่งแรกที่นางจะทำคือกันเย่เฉินออกห่างจากคุณหนูของนางในอนาคต
ด้วยสถานะของคุณหนู เย่เฉินไม่คู่ควรเลย และก็ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมองหน้าคุณหนูของนางด้วยซ้ำ
ทั้งสองอยู่คนละโลก และจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกในอนาคต
“จริงหรือ?”เย่หลิวลี่พูดด้วยความเศร้าใจ”พี่ชายเฉินต้องลำบากมากแน่”
นางสับสนเล็กน้อย
ความคิดนี้ทำให้นางนึกถึงภาพในอดีต
สถานะของนางสูงส่ง และคนตระกูลเย่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะคุยกับบนาง พวกเขากลัวนางกันมาก มีแค่พี่ชายเฉินถึงไม่กลัวนาง
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดเขามีความสนใจอะไร เขาจะแบ่งปันมันกับนาง
ถ้ามีอะไรที่อร่อย เขาจะให้นางก่อนทันที
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อจะเก็บผลไม้ให้นาง เขาเดินเข้าลึกไปในป่าหลังภูเขาและเกือบตาย
..
พอคิดแบบนี้ เย่หลิวลี่ก็รู้สึกเศร้ากว่าเดิม ทั้งเป็นห่วงและไม่สบายใจ
นางกัลวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ชายเฉิน ซึ่งจะทำให้นางรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต
“คุณหนู ท่านจะต้องกลับอาณาจักรเบื้องบนไม่ช้าก็เร็ว ท่านถูกลิขิตให้เป็นฟีนิกส์ที่จะทะยานขึ้นสวรรค์ชั้นเก้า เย่เฉินอาจไม่แม้แต่จะไปถึงอาณาจักรเทพเสมือนในชีวิตนี้ ข้าแนะนำ…”
พอเห็นแบบนี้ หญิงวัยกลางคน ป้าเสวี่ยก็อดโน้มน้าวนางไม่ได้
และจากมุมมองนาง เด็กที่ชื่อเย่เฉินไม่ใช่คนดี
ตั้งแต่ยังเด็ก เขาก็รู้จักวิธีเอาใจสาวแล้ว
มีเพียงคนหนุ่มมากพรสวรรค์จากอาณาจักรเบื้องบนถึงคู่ควรกับคุณหนู
แต่เย่หลิวลี่กลับส่ายหัว ขัดนางและพูดอย่างหนักแน่น”ป้าเสวี่ย ท่านไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ข้ารู้ว่าท่านดูถูกพี่ชายเฉินมาตลอด แต่ข้าเชี่อในตัวเขา เขาจะต้องทะยานขึ้นฟ้าในสักวัน”
“ข้ายังจำสิ่งที่เขาพูดได้ ว่าอย่ารังแกคนอ่อนแอ..”
ป้าเสวี่ยพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะโน้มน้าวยังไง
พอคุณหนูได้เห็นคนหนุ่มในอาณาจักรเบื้องบนเข้าสักวัน นางคงจะเข้าใจเองว่าเย่เฉินไม่นับเป็นอะไร ละมั้ง?
‘แม่น้ำไหลไปทางตะวันออกสามสิบปี และไหลกลับไปทางตะวันตกสามสิบปี!เจ้ากล้ารังแกข้าแค่เพราะตอนนี้ข้าตกต่ำ!’ เขาพูดงั้นใช่ไหม?
แต่ถ้าแม่น้ำไหลเป็นเวลาสามหมื่นปีละ?
บางคนเกิดมายืนเหนือคนอื่น ไม่เคยตกต่ำสักครั้ง
“ป้าเสวี่ย ไปกัน ไปดูว่าคุณชายที่ว่าเป็นคนยังไง ข้าขอฝากทาสอาณาจักรเทพเสมือนของเขาให้ท่านด้วย”
สีหน้าของเย่หลิวลี่เปลี่ยนเป็นเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็ง และนางก็ออกคำสั่ง นางจะไปตระกูลหลินโบราณเพื่อจัดการกับคุณชายที่ว่านั่นเพื่อแก้แค้นให้กับพี่ชายเฉินของนาง