“ท่าน โปรดละเว้นเราด้วย!เรามีแต่ แต่กลับไม่เห็นไท่ซาน…”
สิ่งมีชีวิตของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เคยหยิ่งจองหองก่อนหน้าคุกเข่ากับพื้นด้วยใบหน้าไร้สีเลือด
มันราวกับพวกเขาเจอนักล่า
ความหยิ่งและข่มเหงก่อนหน้าของพวกเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง!
คนของตระกูลหลินโบราณรู้สึกว่าหัวใจเบ่งบานด้วยความสุขขณะมองฉากตรงหน้าพวกเขา ไม่ว่าภูมิหลังของศัตรูจะร้ายกาจแค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องคุกเข่าต่อคุณชายกู่?
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้…”
ใบหน้าของเย่หลิวลี่ขาวซีดและมือคล้ายหยกของนางก็บีบกระบี่ในมือแน่น นางไม่ได้โง่ ตรงกันข้าม นางฉลาดกว่าใคร บทสนทนาระหว่างป้าเสวี่ยกับกู่ฉางเกอทำให้นางเข้าใจความจริงข้อหนึ่ง’กู่ฉางเกอมีสถานะสูงกว่านาง!’
แม้นางจะมาจากตระกูลเย่ นางก็ไม่ใช่ลูกสาวคนเดียวของท่านพ่อต่อให้นางจะเป็นที่รักสุด ตรงกันข้าม กู่ฉางเกอคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของผู้นำตระกูลกู่ แถมยังเป็นบุตรชาย
มันเป็นไปได้ว่ากู่ฉางเกอจะเป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูลกู่ นางไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้!
เย่หลิวลี่อดรู้สึกหดหู่ไม่ได้พอตระหนักถึงความจริง ทำไมพี่ชายเฉินถึงไปยั่วยุคนแบบนี้เข้า?
นางคิดว่านางจะสามารถจัดการกับศัตรูของพี่ชายเฉินได้ง่ายๆด้วยภูมิหลังของนาง แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าความคิดของนางจะเป็นความคิดของเด็กไร้เดียงสา
ใบหน้าของเย่หลิวลี่ซีดกว่าเดิม และความกล้าหาญก่อนหน้าก็หายไปแล้ว
“คุณหนู นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่!ท่านควรขอโทษคุณชายกู่!”
ป้าเสวี่ยตัดสินใจโน้มน้าวเย่หลิวลี่”ทำไมคุณชายกู่ถึงต้องไปสนใจคนอย่างเย่เฉินด้วย?ต่อหน้าเขา เย่เฉินไม่ต่างอะไรจากฝุ่นผงที่ไม่ควรชายตาแลมองด้วยซ้ำ”
ในความคิดของป้าเสวี่ย การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายกู่สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น นางไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมคุณหนูของนางถึงโง่จนมองไม่เห็นความจริง?
นางรู้สึกสเยใจและตระหนักว่านางควรไปหาเย่เฉินและกระทืบเขาให้ตายไปนานแล้วลับหลังคุณหนูของนาง คนโง่อย่างเขาที่กล้าไปยั่วโมโหคุณชายกู่ไม่สมควรมีชีวิต!
“ป้าเสวี่ย ท่านไม่ต้องพูดแล้ว!มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะขอโทษคนที่ทำให้พี่ชายเฉินต้องหนีหัวซุกหัวซุนจนเหมือนเด็กกำพร้าไร้บ้าน..”
เย่หลิวลี่ยังรั้น ดวงตาของนางแสดงความไม่เต็มใจ และก็ปฏิเสธที่จะขอโทษกู่ฉางเกอ
บทสนทนาระหว่างทั้งสองย่อมอยู่ในสายตาของกู่ฉางเกอ ใบหน้าของเขายังสงบและไม่แยแส แต่ในใจ เขาหัวเราะไม่หยุด
เหนือสิ่งอื่นใด เย่หลิวลี่ไม่ต่างอะไรจากเด็กสาวตัวน้อย นางจะทนลมกับคลื่นได้สักแค่ไหน?
สำหรับตัวตนของเย่หลิวลี่ในฐานะเจ้าหญิงน้อยของตระกูลเย่?กู่ฉางเกอรู้สึกว่าเขาสามารถใช้นางได้
จะวิเศษแค่ไหนถ้าหวานใจวัยเด็กของเย่เฉินสยบแทบเท้าเขา?แถมเย่เฉินดันเป็นจุดอ่อนของนางด้วย
พูดก็พูด อิทธิพลของตระกูลเย่ในอาณาจักรเบื้องบนไม่ได้น้อย ในฐานะตระกูลที่ใกล้ชิดกับเซียนแท้จริงท่ามกลางตระกูลโบราณ ว่ากันว่าพวกเขามีสายเลือดของเซียนอยู่ด้วย
พอคิดแบบนี้ มุมปากของกู่ฉางเกอก็กระตุก และแผนในใจก็ยิ่งมีเค้าโครง
แต่อย่าลืมว่าเขาคือผู้สืบทอดวิชาต้องห้ามที่เกิดมาพร้อมใจมาร ไม่มีทางที่เขาจะขาดวิธีการชั่วร้าย
การควบคุมเย่หลิวลี่จะไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับเขา
ตอนนี้ เขาแสดงสีหน้าหมดความอดทน และพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ”งั้น เจ้ามาหาข้าทำไม?ถ้าเจ้าไม่ให้คำอธิบายกับผู้แซ่กู่ ต่อให้เจ้าจะมาจากตระกูลเย่..”
“เฒ่าหมิง!”
โดยไม่พูดให้มากความ กู่ฉางเกอสั่ง
“นายน้อย บ่าวพร้อมรับบัญชา!”
[ซวบ!]
เฒ่าหมิงปรากฏตัวออกจากความว่างเปล่าด้วยรอยยิ้มเย็น เขาปลดปล่อยพลังน่ากลัวเพื่อกดขี่ทุกคนโดยรอบทันที
เย่หลิวลี่ถึงกับหายใจไม่ออก!
นี่คือทาสชราที่นางคิดว่าสู้ป้าเสวี่ยไม่ได้?เขาทรงพลังเกินไป!
“คุณชายกู่ โปรดใจเย็นๆ!มันเป็นความผิดของคุณหนูข้าจริง และนางก็ไม่ควรทำให้ท่านไม่พอใจเช่นนี้…”
สีหน้าของป้าเสวี่ยเปลี่ยนไปและรีบขวางกลิ่นอายกดขี่ของเฒ่าหมิง ชายชราตรงหน้านางทรงพลังมาก!
ทั้งสองทำได้แค่แสดงพลังของเทพเสมือนในอาณาจักรเบื้องล่าง แต่อาณาจักรเทพเสมือนของอีกฝ่ายสูงส่งกว่านาน ถ้าสู้กันจริง งั้นนางอาจรับมือได้ไม่กี่กระบวนท่าก่อนจะเสียท่า!
นางมั่นใจว่านางสามารถพาคุณหนูหลบหนีไปได้ แต่นั่นจะขัดกับเจตนานางและนางจะทำให้กู่ฉางเกอไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“อย่าบอกข้าว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อคุย?ผู้แซ่กู่เห็นคนมากมายที่มา….”
“เฒ่าหมิง ฆ่าหนึ่งในนั้นให้ข้า!’
กู่ฉางเกอสั่ง
ทันทีที่สิ้นคำพูด สิ่งมีชีวิตของภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณเบื้องหลังเย่หลิวลี่ก็หน้าซีด พวกเขาเริ่มคุกเข่าขอความเมตตา
“คุณหนู ช่วยเราด้วย!เราไม่อยากตาย”
“คุณชาย โปรดละเว้นเราด้วย!”
“กู่ฉางเกอ เจ้ามันหน้าด้านไร้ยางอาย..”
ใบหน้าของเย่หลิวลี่ขาวซีดและตัวก็สั่นสะท้านพอได้ยินเสียงร้องของพวกเขา นางไม่คิดเลยว่ากู่ฉางเกอจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อบังคับให้นางคุกเข่า
น่าเสียดาย กู่ฉางเกอไม่คิดชายตาแลมองนาง
ในทางกลับกัน ซูชิงเกอกลับส่งถ้วยชาให้เขาและพูดด้วยรอยยิ้มหวาน”คุณชาย ชาพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”
กู่ฉางเกอผงกหัวให้นาง นางเลี้ยงไม่เสียข้าวสุกจริงๆ!
“คุณหนู โปรดขอโทษคุณชายกู่!ทำไมท่านยังไม่เข้าใจ?ถ้าคุณชายกู่ปรารถนาจะฆ่าเย่เฉิน เขาจะหนีรอดมาได้หรือไง?”
“เย่เฉินจะมีความสามารถหลบหนีจากคนยิ่งใหญ่แบบคุณชายกู่ได้ไง?”
“ทั้งหมดนี้ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่!”
“ท่านคือเจ้าหญิงของตระกูลเซียนเย่ ส่วนคุณชายกู่ก็คือนายน้อยของตระกูลเซียนกู่ เขาจะไม่ทำให้ท่านต้องลำบากขอแค่ท่านขอโทษเขา..”
ป้าเสวี่ยถอนหายใจและยังคงโน้มน้าวเย่หลิวลี่
แค่เย่เฉินจะมาเทียบเคียงกับคุณชายกู่ได้ไง?
“คนอย่างเขาไม่มีทางเป็นคนดีได้หรอก..”
เย่หลิวลี่ยังแสดงใบหน้าดื้อรั้นและโกรธ นางจ้องกู่ฉางเกอตาเขม็ง ดวงตานางพ่นไฟและปรารถนาจะเผากู่ฉางเกอให้เป็นจุล
“ลงมือ”
กู่ฉางเกอจิบชาและพูด
“ขอรับ นายน้อย!”
เฒ่าหมิงรับคำสั่ง และตบฝ่ามือออกไปและมิติโดยรอบพวกเขาก็สั่น
[โผละ!]
สิ่งมีชีวิตจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์โดนตบตายคาที่ด้วยใบหน้าสิ้นหวัง การตายของเขาทำให้ที่เหลือตกใจ!
“คุณหนู โปรดเมตตา!เราไม่อยากตาย!”
“คุณหนู เรามาที่นี่กับท่าน ท่านจะทำแบบนี้กับเราไม่ได้…”
พวกเขาไม่พอใจเย่หลิวลี่ มันชัดเจนว่านางสามารถช่วยพวกเขาได้ตราบเท่าที่แสดงทัศนคติที่ดีและขอโทษ!แต่ ทำไมนางถึงไม่ทำ?
ชีวิตพวกเขาไม่มีค่าเทียบแม้แต่คำขอโทษจากปากนาง?
กู่ฉางเกอจ้องอย่างไม่แยแส ตั้งแต่ต้นจนจบ ใบหน้าของเขาล้วนเฉยเมย
เย่หลิวลี่ได้แต่กัดฟันขณะเห็นความไม่แยแสของเขา ตัวของนางสั่น และความโกรธก็สุมในอก นางถูกบังคับให้จนมุม และทำได้แค่เสียใจกับการกระทำของตัวเอง
นางจะไปทำอะไรได้?ขอให้ป้าเสวี่ยลงมือ?
มันเห็นได้ชัดจากการกระทำของป้าเสวี่ยว่านางอยู่ข้างกู่ฉางเกอ และจะไม่ฟังคำสั่งของนาง
เย่หลิวลี่รู้สึกอับอายถึงขีดสุด และพูดผ่านไรฟัน”ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้…เป็นความผิดของหลิวลี่…ข้าขอโทษ!ข้าหวังว่าคุรชายกู่จะสามารถให้อภัยหลิวลี่ได้..”