“
I Don’t Want To Defy The Heavens DTH ตอนที่ 76 หลินฟานเป็นคนมีไหวพริบ
“ลูกพี่ลูกน้อง พวกเขาทั้งหมดเป็นลม” โจวเชียงเหมากล่าว
“ข้าเห็นแล้ว” หลิน ฟานตอบ
สถานการณ์ปัจจุบันมันผิดแปลกไปเล็กน้อย
ข้าควรทําอย่างไรดี?
ทั้งๆที่ข้ายังไม่ได้ทําอะไรเลยแท้ๆ แต่พวกเขาก็ดันหมดสติไปทันที แบบนี้มันดูปลอมไปเล็กน้อย หรือในสถานการณ์นี้ไม่ว่าเป็นใครก็สลบ?
เขาไม่เคยมีประสบกสรเช่นนี้มาก่อนซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้เขาไม่มั่นใจ
“ลูกพี่ลูกน้อง เราจะกลับกันไหม?” โจวเชียงเหมาถาม
เป้าหมายพากันหมดสติกันไปหมด แล้วแบบนี้มันจะไปสนุกอะไร
หลินฟานไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่เนื่องจากเรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ เขาจะทําอะไรได้อีก?
แคร็ก ปัง!
ประตูถูกผลักออก
มันเป็นหยวน เทียนที่บุกเข้ามา ก่อนหน้านี้ขณะที่เขากําลังสนุกสนานกับนางโลมอยู่ห้องข้างๆ อยู่ๆเขาก็เริ่มรู้สึกว่าเสียงตะโกนของห้องถัดจากเขามันดังเกินไป
ในตอนแรกเขาแค่คิดว่านายน้อยหวังกําลังสนุกอยู่ แต่ทันใดนั้นเสียงมันก็หายไป เขาจึงรีบเข้ามาดูด้วยความกังวล
“หลินฟาน มันเป็นเจ้า!” หยวนเทียนชูตะโกนออกมาทันทีเมื่อเห็นหลิน ฟานผ่านช่องกระเบื้องที่ยกออก
“ความโกรธ +123
ชายคนนี้เป็นดั่งสัมภเวสีที่สามารถพบได้ทุกที่ที่เขาไปเหมือนเงาตามตัว
“ใช่ ข้าเอง” หลินฟานค่อยๆดึงปีศาจหยินขึ้น ก่อนที่จะชี้ไปยังหวังหยุนเฟยที่เป็นลม “ที่เขาเป็นลมมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า ลาล่ะ”
หลังพูดจบเขาก็ใส่กระเบื้องเข้าที่เดิมก่อนที่จะจากไป
“เจ้ากําลังมองหาปัญหา!” หยวนเทียนซูตวาดอย่างโกรธเคือง
ชายคนนี้กําลังมองหาความตาย และมันไม่มีใครเลยที่สามารถหยุดเขาได้
เมื่อเห็นหวัง หยุนเฟยนอนนิ่งอยู่บนเตียง เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหวังหยุนเฟยระหว่างที่อยู่ที่นี่มันจะต้องเป็นปัญหามากแน่
เมื่อลองมองดูดีๆเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไร และเพียงแค่เป็นลมไปเท่านั้น แต่ท่าของเขามันช่างไม่สง่างามเอาเสียเลย เพราะขนาดตอนเป็นลม ร่างของทั้งสองก็ยังไม่แยกจากกัน
“ไอหยา นายน้อยหยวน มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่? สงสัยนายน้อยหวังคงจะแข็งแกร่งเกินไปจนทําให้สาวน้อยของเราเป็นลม” ผู้ดูแลไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เข้ามาเธอก็เห็นเด็กสาวและนายน้อยหวังหมดสติอยู่บนเตียง เธอจึงคิดว่ามันน่าจะเกิดจากความเหนื่อย
เธออิจฉาจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะอายุของเธอ เธอก็ไม่รังเกียจเลยที่จะมีช่วงเวลาแห่งความสุขกับนายน้อยหวัง
“ออกไป ออกไปให้หมด” หยวนเทียนชูโบกมือเพื่อบอกให้พวกเธอออกไป
ความจริงแล้วเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย แต่เป็นนายน้อยหวังต่างหากที่ยืนกรานว่าต้องการมาหอนางโลม และคนที่ต้องหวาดกลัวไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเขา
ผู้ดูแลหวาดกลัวเล็กน้อย และพึมพําขณะที่เธอจากไป “นายน้อยหยวน ได้โปรดอย่าฆ่าใคร”
หยวนเทียนชูจ้องมองเธออย่างอุ่นเคือง นั่นเธอกําลังพูดบ้าอะไรกัน?
จากนั้นเขาก็หยิบกาน้ําชาบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนที่จะจิบเล็กน้อยและพ่นใส่หวังหยุนเฟย
“อา?”
หวังหยุนเฟยได้สติกลับมา และมองไปรอบๆ “เกิดอะไรขึ้นกับข้า?”
“นายน้อยหวัง ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หยวน เทียนซูถามออกมา
“ข้าไม่เป็นไร” หวังหยุนเฟยโบกมือ “ข้ากลัวบางสิ่งจนสลบไป ท่านรู้ไหมว่าเป็นฝีมือของใคร?”
หยวนเทียนชูต้องการจะบอกว่าเป็นฝีมือของหลินฟาน แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทําไมหลินฟานถึงต้องสร้างปัญหาให้เขาซ้ําแล้วซ้ําเล่า?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนายน้อยหวังมาที่เมืองหยูฉาง เขาก็รู้สึกว่ามันบ่อยขึ้นมาก มันทําให้เขารู้สึกว่าปัญหามันน่าจะซับซ้อนยิ่งกว่าที่คิดที่นี่คือที่ไหน?
ที่นี่คือหอนางโลมที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ่อของเขาเกลียดมากที่สุด
เท่าที่เขารู้มาตระกูลหวังก็เข้มงวดมากไม่ต่างกัน และเขาก็ยังได้ยินมาอีกว่านายน้อยหวังกําลังจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่ หากตระกูลใหญ่รู้ว่าหวัง หยุนเฟยมาสถานที่แบบนี้การแต่งงานที่รออยู่อาจจะจบลงทันที
แล้วใครเป็นคนพาเขามาที่นี่?
แม้ว่านายน้อยหวังจะเป็นคนที่ต้องการมา แต่ที่นี่คือเมืองหยูฉางดินแดนของตระกูลหยวน และเขาที่มาที่นี่พร้อมกับนายน้อยหวังก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
ตระกูลหวังคงจะไม่ปล่อยเขาไป พ่อของเขาก็เช่นกัน
เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ เหงื่อเย็นก็หลั่งไปทั่วร่างของหยวนเทียนชูน่ากลัว ช่างเป็นคนที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้
ใครมันเป็นคนพูดว่าหลิน ฟานเป็นเพียงขยะที่ไม่มีสมอง? หากเขาเจอเขาจะระเบิดหัวมันผู้นั้นซะ
วิธีการฆ่าโดยไม่เห็นเลือดของเขานั้นช่างน่าสะพรึงกลัว
หลินฟาน เจ้าช่างเป็นคนที่ชั่วร้ายจริงๆ
แม้ว่าตัวข้าหยวน เทียนชูจะมีความขัดแย้งกับเจ้า แต่เจ้าก็ไม่สามารถวางกับดักเพื่อให้ข้าตกหลุมพลางแบบนี้ได้
“พี่หยวน ข้ากําลังถามท่านว่า ท่านรู้ไหมว่าใครเป็นคนทํา?” หวังหยุนเฟยถาม
“ข้าไม่รู้ แต่พี่หวังไม่ต้องกังวล ข้าจะหาคําอธิบายมาให้ท่านอย่างแน่นอน” หยวนเทียนชูกล่าว
หวังหยุนเฟยครุ่นคิด “ข้ารู้สึกราวกับเห็นเจ้าสิ่งนั้นจากที่ไหนสักแห่ง มันดูคลายกับเจ้าตัวที่อยู่บนหลังของลูกพี่ลูกน้องของหลินฟาน”
หยวนเทียนชูตกใจ
ดูเหมือนว่าหลิน ฟานจงใจทําให้นายน้อยหวังรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร ดูเหมือนว่าเล่ห์เหลี่ยมของเขามันจะไม่มีที่สิ้นสุด
“เป็นไปไม่ได้ ข้าว่าพี่หวังคงจะตาฝาดไป เท่าที่ข้ารู้ตอนนี้มันยังเช้าอยู่และหลิน ฟานก็น่าจะยังคงนอนอยู่ที่บ้านของเขา ดังนั้นเขาจะมาที่นี่ได้อย่างไร?” หยวนเทียนชูกล่าว
เขาต้องขจัดข้อสงสัยของหลิน ฟานทั้งหมดไม่งั้นทุกอย่างมันจะเป็นไปตามแผนของเขา
หวัง หยุนเฟยพยักหน้าด้วยสีหน้าครุ่นคิด หลังจากที่เจอเรื่องน่าหวาดกลัวแบบนั้นมา เขาก็หมดความสนใจในทุกสิ่ง
ณ คฤหาสน์ตระกูลหยวน
หลังจากที่หยวนเทียนชูจัดการเรื่องหวังหยุนเฟยเสร็จ เขาก็มุ่งหน้าไปหาพ่อของเขาทันที
“ท่านพ่อ ข้าเพิ่งเผชิญกับบางสิ่งเมื่อเร็วๆนี้ หลินฟานจากตระกูลหลินจงใจวางกับดักเพื่อดึงข้าและหวังหยุนเฟยลงมา เพื่อดึงความวุ่นวายมาสู่เรา”
“ผู้อื่นอาจจะบอกว่าหลิน ฟานนั้นเป็นเพียงขยะที่ไม่มีสมอง แต่จากมุมมองของข้าเขาเป็นคนมีไหวพริบ และสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ต้องหลั่งเลือด หากข้าไม่ได้ระวัง ข้าอาจจะไม่สามารถลุกขึ้นกลับมาได้”
หยวนเทียนชูกล่าวด้วยความกลัว
เขาต้องการบอกเรื่องนี้กับพ่อเพื่อให้ท่านระวังชายคนนี้ในอนาคต เมื่อเทียบกันแล้วหลินฟานนั้นน่ากลัวกว่าหลินวานยี่มาก
หัวหน้าตระกูลหยวนรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดเลยว่าลูกสองของเขาจะประเมินหลินฟานไว้สูงเช่นนี้
เขาคิดเกี่ยวกับมัน และรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้
ในช่วงที่ผ่านมา หยวนเทียนชูต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆมากมายซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่อันตราย อย่างไรก็ตามเขาก็สามารถแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ได้ก่อนที่มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
และตอนนี้เขาก็ประเมินหลินฟานไว้สูง
ทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป เขาก็รู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เขาไม่ตกหลุมพรางไปเสียก่อน
“ข้าเข้าใจแล้ว เอาล่ะตอนนี้เจ้าออกไปก่อน” หัวหน้าตระกูลหยวนโบกมือ
เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกชายพูด
หลินวานยี่เป็นคนบ้าบิ่น โง่เขลา และไม่เคยได้รับการศึกษา ส่วนลูกชายของเขาก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก เพราะวันๆเขาก็ไม่ได้ทําอะไรเลยนอกจากเรื่องไร้สาระ
และตอนนี้เจ้ากําลังจะบอกข้าว่าความจริงแล้วหลิน ฟานเป็นคนฉลาด? ทําไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย?
หยวน เทียนซูต้องการจะกล่าวบางสิ่ง
แต่เมื่อเขาเห็นว่าพ่อไม่เชื่อเขา เขาก็รู้สึกหมดหนทาง
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าเขาโชคดีที่ได้พบเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ
หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในอดีต เขาคงไม่คิดให้มากความ และเข้าต่อสู้กับหลินฟานทันที
เมื่อลองมานึกดูดีๆ บางทีเขาอาจจะตกหลุมพรางไปแล้วก็ได้
หมู่บ้านตระกูลฉินที่เดิมเคยเป็นของพวกเขา แต่ตอนนี้มันกลับตกอยู่ภายใต้ตระกูลหลิน
สิ่งนี้มันอาจดูไม่สําคัญ แต่หลังจากคิดดูให้ดีแล้วหมู่บ้านนี้เป็นทรัพย์สินของตระกูลหยวนที่ถูกตระกูลหลินยึดไปโดยไม่เสียอะไรเลย
“น่ากลัว ช่างน่ากลัวนัก”
หัวใจของหยวน เทียนซูเต้นรัว
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลิน ฟานจะวางแผน และดึงพวกเขาเข้าไปในแผนนั้นมานานแล้ว โดยที่พวกเขาไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ํา
ถ้าหลินฟานคิดเรื่องทั้งหมดนี้ มันก็ควรจะเต็มไปด้วยความน่าสงสัย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะฉลาดจนแม้แต่ข้าก็ยังไม่สังเกตเห็น
”