ทุกสิ่งที่หลิน ฟานทำไปในตอนเช้าทำให้เขารู้สึกถึงความสำเร็จ
เขาได้ช่วยพลเรือนจากความโหดร้ายของภาษี
ในฐานะนายน้อยของตระกูลหลิน มันเป็นสิ่งที่เขาควรเข้าไปแทรกแซง และพูดบางสิ่งเพื่อลดมันหรือไม่ก็ลบมันออกไป
“นายน้อย ข้ารู้สึกว่าพ่อบ้านชราของตระกูลซูดูเหมือนว่าจะรู้อะไรบางอย่าง”
ผู้จัดการเฉินพูดเบาๆ
สำหรับคุณหนูเจ็ดคนนั้น เขารู้สึกว่าเธออาจจะตาบอดก็ได้
เธอนั้นถูกทำร้ายอย่างรุนแรง
แต่เธอก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครทำร้ายเธอ
หลิน ฟานไม่ได้สนใจ “ถ้าเกิดเขารู้ขึ้นมางั้นเหรอ? งั้นก็ปล่อยให้พวกเขามาพบเราสิ”
ตอนนี้เขาเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวย
เขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ
เขาเพิ่งเอาชนะคนที่ไม่ได้มาจากที่นี่ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เขาแสดงความเป็นห่วงต่อเธอ และดูเหมือนว่าเธอก็ชอบมันด้วย
ผู้จัดการเฉินไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เขาควรพูดอะไรกับนายน้อย
“ลูกพี่ลูกน้อง ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ข้าพาเจ้าออกมาข้างนอกและเอาชนะผู้คน ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?” หลิน ฟานตบไหล่ของโจว เชียงเหมาและถามออกมา
โจว เชียงเหมาสั่น ลูกพี่ลูกน้องตบไหล่ของเขาจริงๆ สิ่งนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว
เขาชอบบรรยากาศปัจจุบันมาก
“ลูกพี่ลูกน้อง มันรู้สึกดีมาก การได้ติดตามท่านออกมามันช่วยพัฒนาความรู้ของข้า ใครจะไปสนเรื่องตระกูลซู ข้าจะไม่เห็นด้วยกับใครก็ตามที่มีปัญหาลูกพี่ลูกน้อง” โจว เชียงเหมาพูด
หลิน ฟานยิ้มและตบไหล่อีกครั้ง “นั่นมันเยี่ยมมาก ในอนาคตมันอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ยิ่งกว่านั้นเมืองหยูฉางก็เป็นดินแดนของเรา ดังนั้นจะไปสนใจคนนอกทำไม และถ้าหากพวกเขาไม่มีความสุข เราก็แค่เอาชนะพวกเขาเท่านั้น”
โจว เชียงเหมาพยักหน้า
สิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาพูดนั้นถูกต้อง
เขาจะติดตามโดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาเดินในเส้นทางแห่งการฝึกฝน?
นั่นก็เพื่อปกป้องลูกพี่ลูกน้อง และไม่มีใครได้รับอนุญาตให้รังแกลูกพี่ลูกน้องของเขา
ทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลหลิน
“ผู้จัดการเฉิน ยังไงเราก็ไม่สามารถซ่อนเรื่องภาษีได้อยู่แล้ว ไปรายงานพ่อของข้าและบอกให้เขาทำตามความต้องการของข้า และถ้าหากเขาต้องการลงโทษ ก็ให้เขามาหาข้าเอง” หลิน ฟานพูด
“นายน้อย….เฮ้อ ข้าเข้าใจแล้ว” ผู้จัดการเฉินต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาได้แค่เห็นด้วยเท่านั้น
เขามีสถานะต่ำ และเขาจะไม่สามารถเดินออกจากตระกูลหลินได้แน่นอน ถ้าเขารับผิดชอบเรื่องนี้
เขาอาจจะถูกทุบตีจนตายหรือไม่ก็นอนเป็นผักนานกว่าครึ่งเดือน
หลิน ฟานไม่เคยทำอะไรที่ขัดกับหัวใจของเขา แม้ว่าเป้าหมายของเขาจะเป็นคะแนนความโกรธ แต่เรื่องนั้นมันไม่ใช่เหตุผลหลัก
เขาไม่สามารถทนได้
ถ้าตระกูลหลินต้องพึ่งพาภาษีที่เก็บจากชาวบ้านอย่างไร้เหตุผล เขาคิดว่าเขาคงไม่สามารถทนอยู่กับมันได้
แม้ว่าเขาจะใช้เงินอย่างอิสระ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดี
“ลูกพี่ลูกน้อง ทำไมไม่ให้ข้ารับผิดชอบแทนท่านล่ะ? แม้ว่าท่านลุงจะโกรธ แต่ท่านคงไม่ดีข้าจนตายหรอก” โจว เชียงเหมาต้องการที่จะรับผิดชอบแทน
ลูกพี่ลูกน้องของเขาทำให้ท่านลุกผิดหวังและโกรธ มันเป็นสิ่งที่สะสมมานานแล้ว และก็ไม่แน่ว่าครั้งนี้มันอาจจะระเบิดออกมาก็ได้
หากสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงๆ มันจะต้องแย่มากๆแน่
“เจ้ากำลังพูดอะไร? มันเป็นข้าที่ทำ เจ้าคิดว่าข้าดูเหมือนคนขี้ขลาดงั้นรึ?”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ทำในสิ่งที่เจ้าอยากทำ ข้าจะกลับไปที่ลานบ้านของข้า”
หลิน ฟานโบกมือลา และพาโกวชิจากไป
คะแนนความโกรธของเขามันเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
เขาต้องใช้มันเพื่อเพิ่มสถานะของเขา
โจว เชียงเหมาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลิน ฟานก็เดินออกไป และไม่ได้ให้โอกาสเขาพูดเลย
“ผู้จัดการเฉิน ข้าจะไปกับเจ้า และจำไว้ว่าถ้าท่านลุงโกรธขึ้นมา เจ้ากับข้าต้องพูดแต่สิ่งดีๆ เข้าใจไหม? มิฉะนั้นลูกพี่ลูกน้องของข้าจะต้องตายแน่”
“ข้าเข้าใจ” ผู้จัดการเฉินตอบ
เขาเป็นเพียงแค่ข้ารับใช้ระดับต่ำ คำพูดของเขามันจะไปมีประโยชน์อะไร? และถ้าพูดถึงเรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับท่านมากกว่า
“นายน้อย ทำไมท่านไม่ไปหาหัวหน้าตระกูลและยอมรับความผิดของท่านละ? เพราะเรื่องนี้มันใหญ่มาก และเขาจะต้องกำลังโกรธอยู่อย่างแน่นอน” โกวชิพูดอย่างกังวล
ในอดีตเมื่อนายน้อยไม่ต้องการฝึกฝน มันก็ได้ทำให้หัวหน้าตระกูลโกรธจริงๆ อย่างไรก็ตามนายน้อยของเขาก็ไม่เคยต่อต้านท่านเลย
แต่วันนี้เขากลับลดภาษี และบอกพวกเกษตรกรว่าปีนี้ภาษีได้รับการยกเว้น
หากหัวหน้าตระกูลรู้เรื่อง เขาจะต้องโกรธแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะนี้ หลิน ฟานไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกใดๆออกมาเลย แต่ข้างในเขากลับกังวลเล็กน้อยเพราะพวกเขาย้ำเรื่องนี้บ่อยมาก
มันก็ถูกต้องล่ะนะ
แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชาย แต่ถ้าเขาทำผิดเขาก็จะต้องถูกลงโทษ
“โกวชิ ไปหาดาบมาให้ข้า” หลังจากที่หลิน ฟานจมลงไปกับความคิด เขาก็บอกให้โกวชิไปหาดาบมาให้เขา
โกวชิตกใจ จากนั้นเขาก็พูดอย่างร้อนรนใจ “นายน้อย อย่าฝืนตัวเอง”
“ฝืนอะไร? รีบไปหามาได้แล้ว อย่าถามมาก” หลิน ฟานเร่งเขา
เขาคิดว่าข้าจะใช้ดาบต่อสู้กับหัวหน้าตระกูลงั้นเหรอ?
นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องตลก
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าหัวหน้าตระกูลแข็งแกร่งแค่ไหน แต่สำหรับคนที่สร้างตระกูลหลินมาด้วยตัวเองจะอ่อนแอได้ยังไง?
ในลานบ้าน หลิน ฟานก็ยังคงนอนอยู่บนเก้าอี้
แม้ว่าท้องฟ้าจะตกลงมาเขาก็ต้องใจเย็น
เขาดูสถานะของเขา
หลิน ฟาน
ร่างกาย : 18
กำลังภายใน : 0
เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : ไม่มี
เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (พื้นฐาน)
คะแนนความโกรธ : 1,025
“ร่างกายของข้าอยู่ที่18 ส่วนเทคนิคดาบของข้าอยู่ในระดับพื้นฐาน และหลังจากนี้ข้าจะต้องแสดงให้เขาดู” ตอนนี้เขากำลังคิดว่าควรจะไปเพิ่มตรงไหนดี
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเพาะปลูก เพราะเขาจะถูกทุบแน่ถ้าเขาไม่แสดงอะไรดีๆออกมา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้น
เขาเพียงแค่ดูจำนวนความโกรธที่เขาสามารถใช้ได้
ไม่นานหลังจากนั้น
“ความโกรธ +150”
“ความโกรธ +200”
นี่มันไม่ดีแล้ว
เขาได้รับคะแนนความโกรธ 150ตั้งแต่ต้น นี่มันแสดงให้เห็นว่าพ่อของเขาโกรธจริงๆ
ห้องโถงตระกูลหลิน
หลิน วานยี่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้อารมณ์
“นายท่าน เรื่องมันเป็นอย่างนี้” ผู้จัดการเฉินอธิบายสถานการณ์พร้อมกับกลัวไปด้วย
เขาก้มหน้า และไม่กล้าจ้องตา
เขารู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าตระกูลจะโกรธ
ห้องโถงเงียบสนิท
มันไม่มีเสียงอะไรเลยจริงๆ
โจว เชียงเหมาและผู้จัดการเฉินรู้สึกประหลาดใจ ทำไมหัวหน้าตระกูลถึงไม่พูดอะไรเลย?
“เจ้าเด็กไร้ความสามารถคนนี้”
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงชายตรงหน้ากัดฟัน และพูดคำนั้นออกมา พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่าเขากำลังโกรธ
ผู้จัดการเฉินเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าใบหน้าของหัวหน้าตระกูลเป็นสีเขียว สายตาของเขามันราวกับว่าสามารถฆ่าคนได้เลย
ตุบ!
“นายท่าน มันเป็นความผิดของข้าเองที่ไม่สามารถหยุดเขาได้ ได้โปรดอย่าโกรธไปมากกว่านี้เลย” ผู้จัดการเฉินคุกเขาลง มีเหงื่อเย็นไหลออกมาจากใบหน้าของเขา
ในตระกูลหลิน
มีเพียงแค่นายน้อยเท่านั้นที่ไม่กลัวหัวหน้าตระกูล
“ข้าคิดว่า ลูกพี่ลูกน้อง เขาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น เขาคงเห็นว่าปีนี้มันแห้งแล้งมาก และหัวใจที่อ่อนโยนของเขาก็บอกให้เขาทำเช่นนั้น” โจว เชียงเหมาพูดอย่างเร่งรีบ
หลิน วานยี่พูดด้วยความโกรธ “เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นคนดี”
ขณะที่เขาพูดแบบนั้น เขาก็เดินมาที่หน้าผู้จัดการเฉิน “เอาแส้ของเจ้ามา”
ผู้จัดการเฉินไม่ได้พูดอะไร และส่งแส้นุ่มๆที่พันอยู่รอบเอวของเขาไปให้
หลิน วานยี่รับมันมาจากนั้นเขาก็เดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก
เขากำลังตามหาเจ้าเด็กคนนั้น
“ท่านลุง ได้โปรดใจเย็นๆ” โจว เชียงเหมา รีบเดินตามมาให้ทัน
ตอนนี้ในหัวของหลิน วานยี่มีแต่ความโกรธ
เขากำลังจะทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
ทำไมเขาถึงให้กำเนิดเด็กคนนี้กันนะ
ภาษีฟาร์มเป็นสิ่งที่เขาสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตนเองงั้นเหรอ?
แม้แต่ตระกูลหยวนและเหลียงยังไม่กล้าที่จะเปลี่ยนได้ง่ายๆแบบนี้เลย
เด็กคนนี้ถูกตามใจจนเสียนิสัย
ลานด้านหลัง
“นายน้อย นายท่านอยู่ที่นี่แล้ว” โกวชิหอบขณะที่เขาวิ่งเข้ามา เขาฟังนายน้อยและรออยู่ข้างนอก เขาต้องรายงานนายน้อยทันทีที่เห็นหัวหน้าตระกูล
หลิน ฟานนอนอยู่บนเก้าอี้ และค่อยๆนำผลไม้เข้าไปในปากของเขา
เขามาจริงๆเหรอ?
เขากำลังคิดว่าอยู่เลยว่าโอกาสที่หัวหน้าตระกูลจะมามันไม่สูงมากนัก
หากเขาไม่มามันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบเพิ่มสถานะ
เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว ตอนนี้เขาควรจะต้องเพิ่มสถานะไม่งั้นมันจะสายเกินไป
เขาใช้คะแนนความโกรธอย่างรวดเร็ว
เขาใช้คะแนนความโกรธ200คะแนน
1
ร่างกายของเขาเปลี่ยนจาก 18 เป็น 20
หลังจากนั้นเขาก็เพิ่มคะแนนบางส่วนลงไปที่เทคนิคการเพาะปลูก
เขาต้องใจเย็นๆ
หัวหน้าตระกูลกำลังโกรธ หากเขาไม่สามารถสร้างความประทับใจได้จริงๆ เขาคงจะต้องพูดว่า ถ้าหากท่านต้องการจะลงโทษข้า ข้าก็จะตอบโต้กลับ