โกวชิยืนอยู่ที่ทางเข้าลานด้วยความกังวล
นายน้อยกำลังจะทำอะไร?
หรือเป็นเพราะว่าเขารู้ว่าหัวหน้าตระกูลกำลังจะมาถึง เขาจึงคิดจะหยิบดาบขึ้นมาฝึกฝน และหวังว่าหัวหน้าตระกูลจะไม่โกรธเมื่อเขาเห็นมัน
ตอนนี้วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตมันอยู่ในระดับพื้นฐานแล้ว
เพิ่มคะแนนลงไปอีก
คะแนนความโกรธของเขาลดลงจาก 1,175 เป็น 875
เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (ผ่านเข้า)
ทันใดนั้น หลิน ฟานก็รู้สึกราวกับว่ามีเวทมนต์บางอย่างถูกฉีดเข้าที่แขนของเขา ก่อนที่มันจะกระจายไปส่วนอื่นๆที่เหลือของร่างกาย
สิ่งนั้นมันหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขา และกลายเป็นประสบการณ์
ความเข้าใจของเขาที่มีต่อวิชาดาบเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขามีคะแนนเหลืออีก 875
เทคนิคการเพาะปลูกมันยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงใส่คะแนนลงไปอีกครั้ง
เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (รอบรู้)
มันใช้คะแนนไป400
เขายังเหลืออีก 475 คะแนน
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเพิ่มคะแนนลงในวิชาดาบของเขาได้อีกต่อไป อาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่มีคะแนนความโกรธมากพอ
อย่างไรก็ตาม ระดับของวิชานี้มันก็ค่อนข้างน่าสนใจ
เริ่มต้นด้วยพื้นฐาน จากนั้นเป็นผ่านเข้า และรอบรู้
แล้วต่อไปมันจะเป็นอะไร?
สมบูรณ์แบบ และผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงงั้นเหรอ?
“นายน้อย นายท่านกำลังจะมาถึงแล้ว” โกวชิพยายามพูดให้เบาที่สุด เขาไม่กล้าพูดดังเกินไปเพราะเขากลัวว่าหัวหน้าตระกุลจะได้ยิน
เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนายน้อย
นายน้อยยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นและไม่ขยับไปไหน
“ลืมมันไปซะ ไม่เห็นจะต้องคิดมากขนาดนั้นเลย ข้าก็แค่ต้องลงทั้งหมดไปที่ร่างกาย”
เขาลงคะแนนที่เหลืออยู่กับร่างกาย
ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นจาก 20 เป็น 24
เมื่อมันเพิ่มขึ้นถึง 24
เขาก็รู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
มันร้อน
กล้ามเนื้อแต่ละมัดของเขามันดูราวกับว่ากำลังถูกเผาด้วยเปลวไฟ
เสียงต่ำดังขึ้นในร่างกายของเขา
“ผู้อื่นต้องใช้ความพยายามมากมายในการฝึกฝน แต่ข้าสามารถทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นได้เพียงแค่เพิ่มคะแนนลงไปเท่านั้น แล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับข้า มันคือการเปลี่ยนแปลงภายในใช่รึไม่?”
หลิน ฟานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขานั้นไม่มีความสนใจในเรื่องการเพาะปลูกจริงๆ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนอื่นบังคับเขา สิ่งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น
จากเส้นทางการต่อสู้ทั้งสิบสอง
ตอนนี้เขาอยู่ส่วนไหนของมัน?
“เจ้าลูกไม่รักดี ออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้นเสียงคำรามที่เหมือนฟ้าร้องก็ดังขึ้นมา เสียงมันทำให้ดอกไม้และต้นไม้รอบตัวเขาสั่นเล็กน้อย
“ข้าจะไม่ออกไป ท่านต้องเข้ามาหาข้าแทน” หลิน ฟานตอบกลับไป
โกวชิยืนอยู่ตรงนั้น ขาของเขากำลังสั่น และเขาก็รู้สึกราวกับว่าจะเป็นลม
นายน้อยกำลังคิดจะต่อต้าน
และมันก็ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
“ความโกรธ +80”
หลิน วานยี่ที่กำลังเดินเข้ามาในลานบ้าน เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น เขาก็เลิกคิ้วขึ้น แส้อ่อนนุ่มที่อยู่ในมือของเขาก็ส่งเสียงออกมา
ผู้จัดการเฉินคุกเข่าลงกับพื้น
ใบหน้าของเขาข่มขื่น
ทำไมนายน้อยต้องทำให้หัวหน้าตระกูลโกรธแบบนี้ด้วย?
ท่านเพียงแค่ต้องยอมรับความผิดของท่าน
จากนั้นก็ปล่อยให้หัวหน้าตระกูลระบายความโกรธของเขา และให้ทุกอย่างมันจบลงตรงนั้นได้ไหม?
นายน้อยท่านจะสามารถทำอะไรเขาได้?
“เมื่อสักครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” เมื่อหลิน วานยี่เดินเข้ามา อากาศที่เดิมร้อนก็กลายเป็นเย็นจัดทันที
ลมหนาวที่พัดผ่านตัวทำให้เขารู้สึกขนลุก
แต่เมื่อหลิน ฟานกระพริบตา ทุกอย่างก็ได้หายไปแล้ว
เขารู้สึกไร้อำนาจเมื่อยู่ต่อหน้าพ่อที่ดูเด็กคนนี้
“ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย” เสียงของหลิน ฟานอ่อนลงเล็กน้อย
คะแนนความโกรธที่เขาได้ส่วนใหญ่นั้นมาจากพ่อราคาถูกคนนี้
เขากลัวจริงๆว่าสักวันหนึ่งเมื่อเขาหลับ พ่อของเขาจะแอบเข้ามาและฆ่าเขา
หลิน วานยี่มองไปที่หลิน ฟาน สายตาของเขาทำให้รู้สึกกดดันอย่างมาก “ใครให้สิทธ์เจ้าในการเปลี่ยนแปลงภาษีฟาร์ม? เจ้ามีความสามารถอะไรที่ไปสงสารผู้อื่น? ถ้าไม่นับข้า เจ้าจะสามารถทำอะไรได้?”
“เจ้ามันก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้ลี้ภัยข้างนอกนั่น!”
โจว เชียงเหมาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และพยายามพูดเพื่อลูกพี่ลูกน้องของเขา “ท่านลุง ลูกพี่ลูกน้องเขา…”
“หุบปาก!” ตอนนี้หลิน วานยี่โกรธมาก
เมื่อได้ยินแบบนั้นโจว เชียงเหมาก็ส่ายหัวและไม่กล้าพูดอะไรอีก เขามองหน้าของลูกพี่ลูกน้องด้วยความสงสาร
แม้ว่าเขาจะกังวล แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
ลูกพี่ลูกน้องท่านสามารถทำได้เพียงแค่พึ่งพาตนเองเท่านั้น
ตอนนี้ความโกรธของท่านลุงมันมีมากจนยากที่จะห้ามปราม
หลิน ฟานมองไปที่ชายชราแล้วส่ายหน้า เขาผิดหวังเล็กน้อยจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา
การถอนหายใจครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ที่เจ้าส่ายหัวแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง?” หลิน วานยี่ถาม
ในเวลาแบบนี้เจ้าเด็กนี่ก็ยังส่ายหัวและถอนหายใจ หรือว่าเขาจะไม่คิดว่าตัวเองผิด?
หลิน ฟานพูด “คำพูดของท่านมันรุนแรงเกินไป มันไม่เหมือนกับสิ่งที่คนเป็นพ่อควรจะพูดเลยสักนิด ท่านรู้หรือไม่ว่าคำพูดของท่านอาจจะทำให้เด็กคนนี้มองโลกในแง่ร้าย”
เมื่อเขาพูดแบบนั้น
ใบหน้าของเขาก็ดูเจ็บปวด
“ฮาฮา” หลิน วานยี่หัวเราะ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและดูหมดหนทาง
มันคือความผิดหวังของพ่อที่มีต่อลูกชาย
“ข้าไม่ต้องการคุยกับเจ้าอีกต่อไป” หลิน วานยี่โบกมือของเขา และกระแทกแส้ลงบนพื้น “ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ข้าไม่เคยบังคับให้เจ้าฝึกฝน แต่เจ้ากลับทำให้ข้าผิดหวังมากเกินไป และวันนี้จะไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้ ”
การฟาดครั้งนั้นมันแรงมากๆ
มันสามารถทำให้อิฐบนพื้นแยกออกจากกันได้เลย
หากมันกระทบเข้ากับร่างกาย บาดแผลคงจะไม่เล็กแน่
หลิน ฟานตื่นตระหนก นี่มันเลวร้ายเกินไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขายังคงสงบสติอารมณ์และพูดออกไปว่า “มีเพียงคนที่ไม่มั่นใจเท่านั้นที่ใช้ความรุนแรงเพื่อทำให้ผู้อื่นยอมแพ้”
“ท่านพ่อ ข้าหวังว่าท่านจะไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ความโกรธ +100”
เมื่อเขาพูดไปแบบนั้น เขาก็ได้รับคะแนนความโกรธมากขึ้น
นี่มันแสดงให้เห็นว่าพ่อของเขาคิดยังไงเกี่ยวกับสิ่งที่หลิน ฟานพูด
ผู้จัดการเฉินกลัวจนไม่กล้าขยับ
นี่นายน้อยกำลังทดสอบขีดจำกัดของหัวหน้าตระกูลอยู่รึไง
แม้ว่าเขาจะไม่ตายจากการลงโทษ แต่เขาต้องได้รับบาดเจ็บหนักแน่นอน
ใบหน้าของหัวหน้าตระกูลตอนนี้กลายเป็นน่าเกลียด และมันก็ดูราวกับว่าเขาสามารถกลืนนายน้อยเข้าไปได้ทั้งตัว
หลิน ฟานไม่สนใจ เขายังคงทำตัวสงบและพูดด้วยเหตุผล “ข้าจะไม่ขอโทษท่านเรื่องภาษีฟาร์ม เพราะข้าไม่คิดว่าข้าทำอะไรผิด ท่านเก็บภาษีมากเกินไปและท่านกำลังบังคับให้พวกเขาตาย!”
นายน้อยหยุดพูดเถอะ
ตอนนี้ผู้จัดการเฉินต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าและปิดปากนายน้อย
เพราะการที่เขาทำแบบ นี้มันไม่ต่างจากการราดน้ำมันลงบนกองไฟ
“ความโกรธ +200”
“บังคับให้พวกเขาตาย? เยี่ยมมากเจ้าเด็กไม่เอาไหน! เจ้าคงจะมีปีกที่แข็งแรงพอที่จะเถียงกับข้าแล้วอย่างนั้นใช่ไหม? เจ้าคงจะลืมไปแล้วสินะ ว่าที่เจ้ามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้มันเป็นเพราะความพยายามของข้า!”
“ถ้าเจ้ามีฝีมือจริงๆละก็ งั้นก็ออกจากตระกูลและใช้กำลังของเจ้ายืนหยัดด้วยตัวเองซะ!” หลิน วานยี่พูดด้วยความโกรธ
การแสดงออกของเขาเป็นหนึ่งในความผิดหวัง
ตระกูลหยวนกับตระกูลเหลียงล้วนมีบุตรชายทีดีกว่าของเขา
ทำไมพวกนั้นถึงได้ทายาทที่ดี แต่ของเขากลับกลายเป็นแบบนี้?
“นายน้อย ขอโทษนายท่านเถอะ หยุดต่อต้านท่านได้แล้ว” ผู้จัดการเฉินพูดอย่างรวดเร็ว เขากลัวว่านายน้อยจะไม่พอใจ และออกไปจากตระกูลไปจริงๆ โลกภายนอกมันไม่ปลอดภัยมากนัก
หลิน ฟานพูด “ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ตอนนี้ข้าเป็นลูกชายที่ร่ำรวย ถ้าข้าออกไปข้าจะอาศัยอยู่ที่ไหน? ข้าจะกินอยู่ที่นี่และรอความตายโดยไม่ทำอะไรเลย เพราะการทำแบบนั้นมันทำให้ข้ามีความสุข และแม้ว่าท่านจะตีข้าจนตาย ข้าก็จะไม่จากไปไหน!”
ตุบ!
ผู้จัดการเฉินล้มลงกับพื้นทันที
เขาคิดว่าตอนนี้นายน้อยต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
มิฉะนั้นแล้วเขาจะพูดแบบนี้ทำไม?
ไม่ต้องพูดถึงผู้จัดการเฉิน เพราะแม้แต่โกวชิและลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ตกตะลึงเช่นกัน
พวกเขามองไปที่หลินฟานด้วยความตกใจ
ราวกับว่าพวกเขากำลังมองผีอยู่
ความจริงแล้วที่หลิน วานยี่พูดอะไรที่ดูโหดร้ายเป็นเพราะว่าเขาต้องการจะดูว่าบุตรชายของเขาจะตอบอย่างไร
แต่ใครมันจะไปคิดว่าเขาจะพูดแบบนั้น
กินและก็ตาย?
ไม่ทำอะไรเลย?
แม้ว่าจะถูกตีจนตาย เขาก็จะไม่จากไปไหน?
ปัง!
มันเหมือนภูเขาไฟในร่างกายของเขาระเบิด
“ความโกรธ +666”
“โอ้?” หลิน ฟานตกตะลึง ครั้งเดียวได้ความโกรธตั้ง666คะแนน? นี่มันไม่มากเกินไปใช่ไหม?
เขาเงยหน้าขึ้น
เขาสังเกตเห็นว่าสายตาที่พ่อของเขามองมาที่เขามันแปลกๆ
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกลัว
ดูเหมือนว่าเขาจะทำเกินไปหน่อย
มันราวกับว่าเขายื่นหัวของเขาออกไปให้พ่อตัด