ผู้จัดการเฉินมองไปยังผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ข้างหน้า
เขาต้องการที่จะเอาหัวโขกกับพื้นและตายอยู่ตรงนี้เลย
นายน้อยนี่มันมากเกินไปแล้ว!
ตอนนี้เขาสามารถนึกถึงหน้าของหัวหน้าตระกูลที่กำลังโกรธอยู่ได้เลย
ก่อนหน้านี้เมื่อหัวหน้าตระกูลเห็นนายน้อยท่านจะแค่ผิดหวังเท่านั้น แต่ตอนนี้ความผิดหวังมันได้กลายเป็นความโกรธไปเรียบร้อยแล้ว
การเปลี่ยนแปลงมันค่อนข้างหน้ากลัว
หลังจากนั้นไม่นาน
“โอ้พระเจ้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีพื้นที่ทำฟาร์มเยอะขนาดนี้!”
ภายใต้การนำของผู้จัดการเฉิน ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงยังพื้นที่ที่ยังว่างอยู่ของตระกูลหลิน
มันไกลสุดลูกหูลูกตา
มันว่างเปล่าจนเกือบจะสามารถเรียกได้ว่ารกร้าง ส่วนพื้นที่เพาะปลูกมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียว
ไม่ใครรู้ว่ามันเป็นต้นอะไร แต่แค่ส่วนสูงของมันก็เท่ากับครึ่งตัวของคนแล้ว
หลิน ฟานมองไปข้างหน้าและพูดออกมา “ผู้จัดการเฉิน ดูสิ นี่คือดินแดนอุดมสมบูรณ์ที่เจ้าพูดถึงใช่ไหม ช่างน่าเสียดายอะไรเช่นนี้! แต่อย่างไรก็ตามมันช่างโชคดีที่ข้าเป็นคนที่มองการณ์ไกลและสังเกตเห็นถึงปัญหา ข้าจึงสามารถแก้มันได้ทันเวลา มิฉะนั้นแล้วหลังจากนี้มันจะกลายเป็นเพียงแค่ขยะเท่านั้น”
“ข้ายอมรับว่าพ่อของข้านั้นแข็งแกร่ง แต่ถ้าเทียบกันในแง่ของการเพิ่มมูลค่าสิ่งของ เขาไม่สามารถเทียบกับข้าได้”
คำพูดของเขาทำให้ผู้จัดการเฉินเต็มไปด้วยความสับสน
เขารู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่น่ากลัวมันจะเกิดขึ้นเมื่อเรื่องนี้ดังไปถึงหัวหน้าตระกูล
“นายน้อยได้โปรดพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง” ผู้จัดการเฉินเตือนเขา
ตอนนี้นายน้อยโตแล้ว และท่านจะต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวท่านเอง เพราะทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของท่านมันเปรียบเสมือนเป็นคำพูดของตระกูลหลิน
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ถึงแม้ว่าหัวหน้าตระกูลจะโกรธเรื่องที่นายน้อยยกเลิกภาษีของตระกูลหวัง แต่ท่านก็ไม่ได้เปลี่ยนมันกลับ
เพราะมันเป็นคำพูดของนายน้อย การเปลี่ยนมันจึงเป็นการทำลายชื่อเสียงของเขา
“พิจารณา? ข้าคิดเกี่ยวกับมันมาทั้งคืนแล้ว และไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร” หลิน ฟานพูด
โจว เชียงเหมาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
ไม่ว่าหลิน ฟานจะทำอะไร เขาก็ยังคงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาอยู่ดี
ตอนนี้ผู้ลี้ภัยรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็เจ็บปวดไปด้วยในเวลาเดียวกันเมื่อมองไปยังพื้นที่ข้างหน้า
มันมีพืชป่าสีเขียวจำนวนมากเติบโตอยู่บนพื้นที่เพาะปลูก
พื้นที่เพาะปลูกที่ดีเช่นนี้แต่กลับไม่มีใครค่อยดูแล
มันจึงทำให้พวกเขาเสียดายมาก
และถ้าหากว่ามีฝนตก พวกเขาก็มั่นใจเลยว่ามันจะมีข้าวอยู่เต็มนาและจะไม่มีใครต้องหิวอีกต่อไป
ผู้จัดการเฉินไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากนั้น เพราะนายน้อยได้ตัดสินใจไปแล้ว เมื่อรู้ว่ามันเป็นนั้นเขาจะพูดอะไรได้อีก?
เขาต้องการจะถามอะไรบางอย่างแต่ก็เหมือนเดิมเขาจะไปพูดอะไรได้?
หลิน ฟานหันหลังกลับและมองไปทางผู้ลี้ภัย “พวกเจ้าทุกคนฟังข้า ข้าจะแบ่งที่ดินผืนนี้ให้กับพวกเจ้าทุกคน จงพยายามให้ดีที่สุด และอย่าทำอะไรเกินตัวเพียงเพราะเห็นว่ามีที่ดินเยอะ”
“ข้าต้องการของมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันการผลิตได้200กิโลกรัมต่อหนึ่งหมู่นั้นไม่เลวร้ายเกินไป”
“อย่างไรก็ตามถ้าใครสามารถผลิตได้300กิโลกรัมต่อหนึ่งหมู่ ข้าจะให้ที่ดินมันคนนั้นไปเลยหนึ่งหมู่ มันจะเป็นของเขาอย่างถาวร และไม่มีใครสามารถเอามันไปจากมือของเขาได้”
ในฐานะนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวยเขาต้องวางแผนสำหรับอนาคต
เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและยาวนาน เขาต้องสร้างแรงจูงใจให้แก่พวกเขา
เราจะปล่อยให้พวกเขาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและความปลอดภัย
ส่วนลูกพี่ลูกน้องก็ดีกับเขามาก และเขาจะต้องปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังมีระบบสนับสนุน เขาจะใช้มันเพื่อเพิ่มสถานะของเขาเมื่อเขาไม่มีอะไรทำและสนุกไปกับชีวิตของเขา
มนุษย์ทุกคนต้องมีความฝัน
บางทีถ้าเขายกระดับสถานะของเขาต่อไปแบบนี้จนถึงอายุเจ็ดสิบหรือแปดสิบปี เขาอาจจะสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเลยก็เป็นได้
โกลาหล
ผู้ลี้ภัยต่างมองหน้ากันราวกับว่าได้ยินสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดในชีวิต
ท่านไม่เพียงให้พื้นที่ทำการเกษตรแก่พวกเขาเท่านั้น แต่ยังให้รางวัลมากมายอีกด้วย
แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิ่มจาก200มาเป็น300กิโลกรัมต่อหนึ่งหมู่
แต่พวกเขาทุกคนที่อยู่ตรงนี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร และพวกเขาก็มีวิธีเพิ่มผลผลิต เพียงแค่ว่าตอนนี้พวกเขายังไม่พบมันก็เท่านั้น
ผู้จัดการเฉินเห็นว่าสิ่งต่างๆได้ตัดสินใจไปแล้วก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร
“นายน้อยเมตตาต่อพวกเจ้าขนาดนี้แล้วทำไมพวกเจ้าถึงยังไม่คุกเข่าและขอบคุณท่านอีก” ผู้จัดการเฉินตวาด
ในความคิดของเขาเขาไม่สามารถทำตัวดีต่อคนพวกนี้ได้ เขาจะต้องมีน้ำเสียงที่รุนแรงและดูเย็นชาอยู่ตลอดเวลา
เขาต้องการให้พวกมันกลัวเพื่อที่จะสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น
นายน้อยท่านเป็นคนที่มีเมตตา และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของนายน้อย แต่ในฐานะที่เป็นคนรับใช้ของท่านเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง
ในตอนนั้นเองที่ผู้ลี้ภัยทั้งหมดก็ได้ก้มหัวลงและกล่าวขอบคุณ
“ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า เพียงแค่พวกเจ้าตั้งใจทำฟาร์มให้ดี ข้าก็จะสามารถเพลินเพลินไปกับชีวิตได้ ส่วนมันจะดำเนินไปนานแค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้า สำหรับภาษีข้าจะเก็บเท่ากับหมู่บ้านตระกูลหวัง”
“ผู้จัดการเฉิน”
ผู้จัดการเฉินพูดด้วยความเคารพ “ขอรับนายน้อย ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”
หลิน ฟานโบกมืออย่างสง่าผ่าเผยและพูดว่า “ข้าจะให้เจ้ารับผิดชอบเรื่องการลงทะเบียนพื้นที่การเกษตรและชื่อของพวกเขา”
“แยกพื้นที่ตามจำนวนคน เราจะให้ห้าหมู่ต่อหนึ่งคน ส่วนคนแก่ที่อ่อนแอและเด็กจะไม่ถูกนับ”
“แต่ถ้ามีใครรับคนแก่ เด็กกำพร้าและเด็กเล็กไป ข้าจะให้ที่ดินเขาเพิ่มอีก2หมู่”
“และที่นี่เรายังมีบ้านให้อีกด้วย นั่นคือข้อตกลงทั้งหมดที่ข้าจะให้”
ผู้จัดการเฉินตกตะลึงเพราะข้อเสนอของนายน้อย
แม้แต่คนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี เขายังไม่ทำแบบนั้นเลย
เมื่อผู้ลี้ภัยได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็รู้สึกขอบคุณจริงๆและบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นเต้น
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีตระกูลที่ดีแบบนี้ในเมืองหยูฉาง
หลิน ฟานเขามีแผนของตัวเอง
เขาได้รับแผนนี้มาจากการดูละครใช่ไหม?
ถูกแล้ว เพราะเขาได้รับมันมาจากพวกละครเก่าๆหลายเรื่อง ในละครตระกูลชนชั้นสูงเป็นพวกชอบรังแกคนอื่น และเมื่อพวกเขาเจอเข้ากับปัญหา พวกเขาจึงต้องหลบหนีไปพร้อมอาการบาดเจ็บสาหัส
ในเวลานั้นตราบใดที่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาก็จะรอด
อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญคือพวกเขามักจะเป็นฝ่ายที่รังแกผู้อื่น และด้วยเหตุนั้นเองมันจึงทำให้ไม่เพียงแต่คนธรรมดาจะไม่ช่วยพวกเขาแต่ยังคิดที่จะพวกเขาฆ่าด้วย
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
เขาจึงต้องทำให้ชื่อของเขามีชื่อเสียงจนคนเหล่านี้จำได้
สำหรับตระกูลชนชั้นสูงและพวกพ่อค้ามันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น
เพราะยังไงพวกเขายังคงรังแกคนที่มีตำแหน่งที่ต่ำกว่าพวกเขาอยู่ดี และนั่นมันก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ไปอีกนาน
“นายน้อยข้าไม่กล้าทำแบบนั้น” ผู้จัดการเฉินคุกเข่าลงกับพื้น เรื่องที่มันร้ายแรงแบบนี้เขาจะไปกล้าทำได้ยังไง?
หากหัวหน้าตระกูลรู้เรื่องนี้เข้าเขาจะต้องถูกฉีกเป็นชิ้นๆแน่
“โกวชิ เจ้าทำแทนเขาได้ใช่ไหม?” หลิน ฟานพูดอย่างใจเย็น
“ขอรับ นายน้อยข้าจะทำมันให้ดีที่สุด” โกวชิตอบแบบไม่ลังเล เขารู้สึกว่างานที่ท่านมอบให้เขามันใหญ่มาก และเขาต้องทำมันให้สำเร็จแม้ว่าเขาจะต้องตายก็ตาม
หลิน ฟานตบไหล่ผู้จัดการเฉิน “ผู้จัดการเฉิน เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง”
ผู้จัดการเฉินมองลงไปข้างล่าง
เขาลังเล
เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะต้องไปแตะเส้นล่างของหัวหน้าตระกูลและท่านจะต้องไม่เมตตาแน่
แต่นายน้อย…
“นายน้อยข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวข้าจะเป็นคนทำมันเอง” ผู้จัดการเฉินพูด
เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
แล้วถ้าเขาตายขึ้นมาล่ะ?
เพราะเขานั้นเป็นเพียงแค่คนต่ำต้อย
หลิน ฟานหัวเราะ “ผู้จัดการเฉินข้าหวังกับเจ้าไว้สูงนะ”
“ไปกันเถอะ”
ผู้ลี้ภัยมายืนส่งขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป
หลิน ฟานกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองทำ
เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมันถูกแล้ว
และแม้ว่าตอนนี้พ่อของเขาจะโกรธกับสิ่งที่เขาทำลงไป แต่ในอนาคตท่านต้องเข้าใจแน่
ผู้จัดการเฉินที่เดินตามมารู้สึกไม่สบายใจ
เขากำลังตื่นตระหนก
ทันใดนั้นหลิน ฟานก็หยุดกะทันหันและหันหลังกลับมาจากนั้นก็ยิ้ม “พวกเจ้าหิวไหม? ข้ากำลังจะไปที่ศาลาเสาวธารเมามายพวกเจ้าก็ตามข้ามาสิเดี๋ยวข้าจะเป็นคนเลี้ยงเอง”
ตุบ!
“นายน้อย ผู้จัดการเฉินหน้ามืด!”
“มีฟองสีขาวออกมาจากปากของเขาด้วย!”
โกวชิตะโกนออกมา
ผู้จัดการเฉินที่กำลังเดินอยู่ดีๆก็ล้มลง มันจึงทำให้ทุกคนตื่นตระหนก
“ลูกพี่ลูกน้องแบกผู้จัดการเฉินด้วย” หลิน ฟานพูดและมองไปที่กลุ่มคนตรงหน้าเขา “พวกเจ้าดูเหมือนว่าจะไม่ได้กินอะไรมาค่อนข้างนานแล้วใช่ไหม ไปกันเถอะ ตราบใดที่พวกเจ้าตั้งใจทำฟาร์มมันก็จะเป็นตัวสร้างความมั่งคั่งให้กับข้า พวกเจ้าจะตั้งใจทำงานกันใช่ไหม?”
ผู้ลี้ภัยมองหน้ากัน
ทันใดนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกมา
“ขอบคุณ นายน้อย!”
หลิน ฟานยิ้มและเดินไปข้างหน้า
นี่คือชีวิต
เขาจะทำสิ่งที่เขาต้องการ
การใช้เงินเพื่อซื้อความสุขมันทำให้เขารู้สึกดีมาก
ส่วนพ่อจะทำโทษเขาไหมมันก็อีกเรื่องหนึ่ง