ตุบ!
ข้ารับใช้ที่กำลังตามหลิน ฟานมาอยู่ดีๆเขาก็คุกเข่าลง และขอบคุณเขา เสียงของเขากลายเป็นแหบแห้ง “ขอบคุณนายน้อยสำหรับความเมตตาของท่าน ข้าไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนท่าน นอกจากชีวิตที่ไร้ค่าของข้า”
“ข้าจะไม่ลังเลแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเปลวไฟและคมมีด ถ้าข้ามีความคิดที่จะทรยศท่านแม้แต่เสี้ยว ข้าของให้สวรรค์ลงทัณฑ์ข้าด้วยสายฟ้า!”
หลิน ฟานกลัว แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าผู้คนในโลกนี้มีความภักดี แต่ที่พวกเขาคุกเขาและเอาหัวกระแทกพื้นแบบนั้น พวกเขาไม่เจ็บหัวกันบ้างรึไง?
“เอาล่ะ ลุกขึ้นได้แล้ว ข้าไม่ค่อยชอบที่เจ้าทำแบบนนี้สักเท่าไหร่” เขาช่วยข้ารับใช้จากนั้นก็ถาม “เจ้าชื่ออะไร?”
ข้ารับใช้พูดกลับมาว่า “ข้านั้นเป็นเพียงแค่ทาส ก่อนที่ข้าจะเข้าสู่ตระกูลหลิน ข้าเคยถูกเรียกว่าจ้าว กวงอี้ แต่หลังจากที่ข้าเข้าสู่ที่นี่ ข้าก็ไม่สามารถใช้ชื่อของตัวเองได้อีกต่อไป ข้าสามารถแทนตัวเองได้ในฐานะข้ารับใช้เท่านั้น”
หลิน ฟานส่ายหัว หลังจากที่เขามาที่นี่ได้ไม่นาน เขาก็มีคนของตัวเองแล้ว “หลังจากนี้เจ้าจะมีชื่อว่าโกวชิ ตามข้ามา”
ตุบ!
โกวชิคุกเข้าอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามันจะหนักกว่าครั้งที่แล้ว เพราะน้ำตาของเขามันไหลออกมา สำหรับเขาแล้ว การที่เจ้านายมอบชื่อให้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีเกียรติมาก
“ขอบคุณนายน้อยที่มอบชื่อให้ข้า จากนี้ไปชีวิตข้าเป็นของท่าน หากท่านต้องการให้ข้าตาย ข้าก็จะทำตามท่านแบบไม่คิดสงสัย”
“ลุกขึ้น” หลิน ฟานพูด
นี่มันเป็นโลกแบบไหนกัน? ทำไมมันแปลกแบบนี้?
“โกวชิ ข้ามีบางอย่างที่อยากจะถามเจ้า” หลิน ฟานเดินเข้าไปใกล้โกวชิ “คนที่เจ้าเรียกว่านายท่าน เขาเป็นใครกัน?”
โกวชิค่อยๆฟังอย่างระมัดระวัง แต่คำถามที่เขาได้ยินมันทำให้เขาตกตะลึง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ เขาก็พูดออกมา “เขาคือพ่อของท่าน ชื่อของเขาคือหลิน วานยี่”
ถ้าหากข้ารับใช้พูดชื่อของหัวหน้าตระกูล แล้วมีคนรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน แล้วอีกอย่างหนึ่งการถูกตีจนตายบนโลกนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นเขาก็เป็นพ่อของข้าจริงๆ
แต่ทำไมเขาถึงยังดูเด็กขนาดนั้น
“แล้วเพื่อ-…พ่อของข้าอายุเท่าไหร่?” หลิน ฟานถาม
เขาเกือบจะพูดออกไปว่าเพื่อนเก่าอยู่แล้วเชียว แต่โชคดีที่หยุดได้ทัน
มันไม่ดีแน่ๆเพราะมันหยาบคายเกินไป
มันเป็นเรื่องดีที่เขามีพ่อ
อย่างน้อยก็มีคนที่จะปกป้องเขาได้
“หกสิบ” โกวชิตอบ
“โอ้?” หลิน ฟานมองไปที่โกวชิ สายตาของเขามันราวกับว่ากำลังถามโกวชิว่าล้อเขาเล่นอยู่ใช่ไหม?
ภายนอกเขาเป็นแบบนั้น มันจะไปถึงหกสิบได้อย่างไร?
เพราะเขาดูเหมือนคนอายุแค่18เท่านั้นเอง!
“ตามข้ามา ข้าอยากจะไปเดินเล่นสักหน่อย” ที่หลิน ฟานไม่ถามไปมากกว่านี้เป็นเพราะ ในไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องรู้เรื่องทั้งหมดอยู่ดี
ตอนนี้เขาต้องเข้าใจสภาพแวดล้อมเสียก่อน
หลิน ฟานถามโกวชิ และโกวชิก็ตอบเขาทุกอย่างที่เขาอยากรู้
คนปกติจะตั้งคำถามกับคำพูดของเขาว่า เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาทำไมถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย?
ที่โกวชิไม่ได้คิดอะไรเพราะเขารู้ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตของเขานั้นเป็นของนายน้อย
ไม่ว่าเจ้านายของเขาจะถามอะไร เขาก็จะตอบให้
หลังจากนั้นครู่หนึ่งหลิน ฟานก็เข้าใจสถานการณ์ของเขา ตามที่เขาคาดไว้มันเป็นโลกของพวกจอมยุทธ์จริงๆด้วย
เมืองนี้ถูกเรียกว่าหยูฉาง
ตระกูลหลินเป็นหนึ่งในตระกูลขุนนางของเมืองหยูฉาง และถ้าหากไม่นับรวมพวกเขาก็ยังมีตระกูลขุนนางอยู่อีกสองตระกูล
ทั้งสามตระกูลที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตลอด ร่วมกันก่อตั้งเมืองหยูฉางขึ้นมา
โกวชิไม่เข้าใจเรื่องราวภายในนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นเพียงแค่ข้ารับใช้คนหนึ่ง และยังพักอยู่ในตระกูลหลินอีก ดังนั้นเขาจะไปรู้ทุกเรื่องได้ยังไง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว มันก็ทำให้หลิน ฟานรู้สถานการณ์คราวๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานะของเขาในครอบครัวมันค่อนข้างหน้าอึดอัด แต่มันก็ไม่ได้มากจนเกินไป
เขานั้นเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลหลิน
เขาไม่มีแม่และถูกเลี้ยงมาโดยพ่อคนเดียว
เขาไม่มีความสนใจที่จะฝึกฝนแม้แต่นิดเดียว
เขาชอบที่จะใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมากกว่า
กิน ดื่ม ผิวกลายเป็นสีแทนภายใต้ด้วยดวงอาทิตย์ ชีวิตของเขานี้ช่างสุขสบายเสียจริง
หลิน ฟานคิดว่าจะทำแบบนี้ต่อไป เพราะไหนๆเขาก็เกิดมาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่แล้ว ทำไมเขาถึงไม่สนุกกับชีวิตสักหน่อยละ แล้วอีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความจำเป็นต้องเอาตัวออกไปเสี่ยงเลย
เขารักชีวิตที่เป็นแบบนั้น
“แต่ดูเหมือนว่าเมืองหยูฉางจะมีปัญหาเล็กน้อย” หลิน ฟานยกเท้าขึ้นและพบว่ามีโคลนติดอยู่ข้างใต้ ถนนของเมืองหยูฉางทำมาจากดิน ดังนั้นมันจึงทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีฝนตก
มีพ่อค้าที่นำสินค้าของพวกเขามาขายที่ด้านข้างของถนน
ร้านค้าที่อยู่สองข้างทางพยายามเรียกลูกค้าของพวกเขา
ทันใดนั้นหลิน ฟานก็นึกถึงระบบที่เขาพึ่งได้มา
เขาเข้าใจมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะแบบนั้นเขาจึงต้องการทดสอบเพิ่มเติม
มีร้านค้าที่กำลังขายของบางอย่างอยู่ข้างหน้า
หลิน ฟานมุ่งหน้าไปที่ร้านและตบเข้าที่แผง แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการตบทำให้ของที่วางอยู่ตกลงบนพื้น
คนขายโกรธมาก แต่เมื่อเขาเห็นว่ามันเป็นหลิน ฟานเขาก็คุกเข้าลงกับพื้นทันที “นายน้อยได้โปรดปล่อยยกโทษให้ข้าด้วย ข้าสำนึกผิดแล้ว”
ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นถึงนายน้อยของตระกูลหลิน ส่วนเขาเป็นแค่พลเรือนที่ไม่มีค่าอะไรเลย
และดูเหมือนว่าเขากำลังจะโกรธ
แต่ทำไมไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย?
“ข้าขอโทษข้าจำคนผิด รับไป” หลิน ฟานกล่าวก่อนที่จะหันหลังกลับ และเดินออกไปด้วยความสงสัย
โกวชิหยิบเงินสองก้อนออกมาแล้วส่งให้เขา ก่อนที่เขาจะเดินตามนายน้อยไป
พ่อค้าคนนั้นมองไปที่พวกเขา ตอนนี้ใบหน้าของเขามันเต็มไปด้วยความตกใจ
เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อมองเงินที่อยู่ในมือ เขาก็ยิ้มออกมา เงินจำนวนเท่านี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตไปได้อีกพักหนึ่ง
หลังจากที่เดินสำรวจไปรอบๆเมืองหยูฉาง เขาก็ไม่พบอะไรที่น่าสนใจ
เฮ้อ!
น่าเสียดาย!
โกวชิเดินตามหลังนายน้อยของเขา และเกาหัวของเขาด้วยความสับสน ทำไมวันนี้ท่านถึงถอนหายใจมากขนาดนี้?
ในอดีต เมื่อเขาตามนายน้อยของเขาออกไปข้างนอก เขาก็จะเห็นว่านายน้อยเล่นแบบไม่สนใจอะไรเลย
กลับไปที่ตระกูลหลิน
“โกวชิอย่ารบกวนข้าหากไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ตอนนี้ข้าอยากอยู่คนเดียว” หลิน ฟานผลักประตูห้องของเขาพร้อมกับกล่าวออกไป
“ขอรับ นายน้อย” โกวชิพูด
หลิน ฟานพยักหน้าจากนั้นก็ปิดประตู ใบหน้าอันเคร่งขรึมของเขาค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆ และมีรอยยิ้มเข้ามาแทนที่
“ไม่เลว ถึงแม้ว่าเมืองนี้มันจะดูเก่าและทรุดโทรม แต่ข้าก็เป็นถึงบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวย”
“ข้าจะต้องเพลิดเพลินกับชีวิตของข้า”
“เทคนิคดาบอะไรนั่น สำหรับข้ามันก็เป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น”
ตอนนี้ความคิดของเขามันไม่ได้มีเรื่องฝึกฝนอยู่เลยสักนิด เขาแค่อยากจะสนุกไปกับชีวิตของเขาเท่านั้น
จุดหมายของการฝึกฝนมันคืออะไร?
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและสถานะใช่ไหม?
แบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากการเรียน
หลิน ฟานรู้ที่ของตัวเองดี เขาเป็นคนที่ทำคะแนนได้น้อยกว่าห้าสิบจากทั้งสามวิชา ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธ์พูดเกี่ยวกับจุดยืนของตัวเอง
เขานอนลงบนเตียง มันช่างนุ่มและสบายจริงๆ
เขาเบื่อและคิดเกี่ยวกับระบบที่เขาเปิดใช้งาน
หลังจากที่ลองศึกษาดูแล้วก็พบว่ามันไม่เลวเลย
“ตัวเลขที่อยู่ข้างหลังร่างกาย คือค่าถานะบอกความแข็งแกร่งปัจจุบันของข้าใช่หรือไม่?”
เขามีคำถามอยู่ในใจสองถามข้อ และนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
เก้าจุดไม่ควรที่จะแย่เกินไปใช่ไหม?
ถ้าร่างกายปัจจุบันของเขาคือร่างที่ถูกชกที่สถานีรถไปใต้ดิน เขาก็น่าจะตอบโต้อะไรกลับไปได้บ้าง
ด้านหลังสถานนะของร่างกายมันมีเครื่องหมายบวกอยู่
“ตรงนี้มันเป็นจุดที่เอาไว้เพิ่มสถานะงั้นเหรอ?”
หลิน ฟานเป็นคนที่ค่อนข้างมีความรู้เพราะเขาเล่นเกมมามากมาย เมื่อเขาจัดการมอนเตอร์เขาก็จะได้ค่าประสบการณ์และคะแนนทักษะมา
ด้วยความคิดนั้นเขาจึงกดไปที่เครื่องหมายบวก
ติ้ง!
มันเพิ่มขึ้น
จำนวนมันเปลี่ยนไป
จาก9กลายเป็น10
135>35
คะแนนความโกรธจากที่มี135แต้มก็ลดลงเหลือ35ทันที
ร่างกาย : 10
หลิน ฟานมองไปที่ร่างกายของเขา แต่ก็ไม่พบความเปลี่ยนแปลงใดๆ
อย่างไรก็ตามเขามีความรู้สึกว่าร่างกายของเขาอบอุ่นก่อนที่ความรู้สึกนั้นมันจะกระจายหายไป
“ความแข็งแกร่งของข้าดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้น”
“มันคือภาพลวงตารึเปล่า?”
“นี่มันน่าสนใจจริงๆ”
หลิน ฟานยิ้ม
“ถ้านี่คือการเพาะปลูก มันก็ง่ายกว่าการเรียนมาก”
“ตั้งแต่ที่ข้าตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะสนุกไปกับชีวิต ดังนั้นหลังจากนี้ข้าจะเพิ่มสถานะเมื่อตอนที่ข้าเบื่อเท่านั้น”
“สำหรับเรื่องการเพาะปลูก อย่าพูดถึงมันกับข้า เพราะมันน่าเบื่อ”