เมื่อหลิน วานยี่มองไปยังอาหารข้างหน้าเขาก็ไม่รู้เลยว่าควรเริ่มจากจานไหนก่อนดี
ตอนนี้เขาจึงทำเพียงแค่ดื่มด่ำไปกับไวน์อย่างเงียบๆเท่านั้น
หลังจากจิบมันไปครู่หนึ่งคิ้วของเขาก็เริ่มผ่อนคลาย
เขาวางแก้วลงและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
“ท่านพ่อ ข้าว่าท่านควรจะเก็บเรื่องที่ต้องการจะพูดไว้หลังอาหารจะดีกว่า ส่วนอันนี้คือจานโปรดของข้าเอง” หลิน ฟานตักไข่ที่ไหม้และมะเขือเทศใส่ในจานของหลิน วานยี่
“อาวุโสวูท่านก็เช่นกัน”
หลิน ฟานดูกระตือรือร้นมากที่จะทำให้พวกเขาลืมเรื่องที่เขาไปแบ่งพื้นที่ให้พวกผู้ลี้ภัยในวันนี้
เขาจะไม่เป็นคนเริ่มพูดและจะไม่ปล่อยให้พ่อของเขาพูดถึงมันแน่
เขาต้องการจะใช้อาหารทำเองเหล่านี้โน้มน้าวใจพ่อของเขาและปล่อยให้ท่านเพลินเพลินไปกับความอร่อย
หลิน วานยี่และอาวุโสวูมองหน้ากันและกัน
จากนั้นเขาก็มองไปที่อาหารในจานที่ดูไม่เหมือนอาหารเลยแม้แต่นิดเดียวเดียว ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจตักมันขึ้นมาและลิ้มรสชาติ
ทันทีที่เขานำมันเข้าปาก ลิ้นของเขาก็หดตัวทันที
และเมื่อเขากลืนมันลงไป เขาก็รู้สึกราวกับว่าต่อมรับรสของเขามันจะระเบิด มันเป็นความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวมาก
ดูเหมือนว่าการต่อสู้ระหว่างต่อมรับรสและอาหาร ฝั่งอาหารจะเป็นฝ่ายชนะ
หลิน วานยี่และอาวุโสวูไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาและพยายามกลืนอาหารที่กินลงไป
“ฟาน..”
แม้แต่วิธีการเรียกของเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้เรียกหลิน ฟานว่าเจ้าเด็กไม่เอาไหนเหมือนแต่ก่อน
วิธีที่เขาเรียกลูกชายของเขาก่อนหน้านี้ค่อนข้างแย่ แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความรัก
“ท่านพ่อกินก่อนแล้วค่อยพูด ข้าจะเทไวน์เพิ่มให้ท่าน” หลิน ฟานไม่เปิดโอกาสให้พ่อของเขาพูด เขาเติมไวน์และตักอาหารให้พ่อของเขาอย่างตั้งใจ
หลังจานนั้นไม่นานจานของหลิน วานยี่ก็เต็มไปด้วยอาหาร
“ความโกรธ +11”
หลิน ฟานไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้คะแนนความโกรธเพิ่มมา11คะแนน
เกิดอะไรขึ้นกัน?
มันมาจากไหนกัน?
ใครมันโกรธข้าอีก?
มันไม่มีทางเป็นพ่อของเขาอย่างแน่นอน
เพราะครั้งนี้ข้าทำอาหารด้วยความยากลำบาก ดังนั้นเขาจะโกรธข้าได้ยังไง?
ในขณะเดียวกัน
อาวุโสวูต้องการออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด
ทำไมข้าต้องมาทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดนี้?
อาหารพวกนี้มนุษย์สามารถกินได้จริงๆงั้นหรือ?
พวกมันทั้งเค็มและขมจนเกินทน
ประเด็นสำคัญเลยก็คืออาหารทั้งหมดที่เขากำลังกินมันไหม้
แม้แต่คนที่ไม่รู้อะไรเลยยังรู้ว่ามันน่ากลัว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านายน้อยจะไม่ได้รับรู้ถึงความจริงข้อนั้นและยังคงตักอาหารใส่จานให้พ่อของเขา
และเมื่อเขากวาดสายตาไปเขาก็สังเกตเห็นว่าท่านหัวหน้าตระกูลกำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารอยู่
ทำไมท่านทำราวกับว่าท่านกำลังกินอาหารปกติอยู่?
สำหรับหลิน วานยี่เขาก็รู้สึกว่าอาหารพวกนี้มันกลืนยากจริงๆ แต่เขากลับไม่สนใจเพราะตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในหัวใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกชายทำอาหารให้เขา
แม้ว่ามันจะออกมาดูแย่เขาก็จะไม่ขมวดคิ้วและจะพยายามกินมันให้หมด
และทุกครั้งที่หลิน วานยี่ต้องการจะพูดหลิน ฟานก็บอกให้เขากินให้เสร็จก่อน
ทันใดนั้นหลิน วานยี่ก็ยกถ้วยซุปขึ้นมาและดื่มมันลงไป
อึก อึก!
เมื่อถ้วยว่างเปล่าเขาก็วางมันลงบนโต๊ะ
ลำคอของหลิน วานยี่สั่นเล็กน้อยราวกับว่าเขากลืนสิ่งที่ไม่ควรกินลงไป
“ฟาน”
ตอนนี้มันไม่มีอะไรเหลืออยู่บนโต๊ะอีกแล้ว
หลิน ฟานที่มาสามารถหาเรื่องอื่นได้จึงยกแก้วของเขาขึ้นมาและพูดออกมาว่า “ท่านพ่อ แก้วนี้ข้าของดื่มให้ท่าน”
ตั้งแต่เริ่มมื้ออาหารเขาไม่ได้กินอะไรที่เขาทำขึ้นมาเลยเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าอาหารที่เขาทำมันมีรสชาติยังไง
ท่านพ่อน่าจะรักเขาจริงๆไม่งั้นท่านคงไม่กินอาหารพวกนี้โดยไม่บ่นหรอก
นอกเหนือจากความตกใจที่เขาสัมผัสได้ก็ความรักนี้แหละที่สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าอาหารมันจะรสชาติแย่แค่ไหนท่านก็สามารถกินมันได้ทั้งหมด
เอาล่ะข้าตัดสินใจแล้วว่าจะยอมรับเขาเป็นพ่อและในอนาคตข้าจะไม่ต่อต้านเขาอีก
หลิน ฟานดื่มไวน์ทั้งหมดในรวดเดียวจนใบหน้าที่ขาวสะอาดของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ฟาน” หลิน วานยี่มีบางอย่างที่อยากจะพูด แต่เมื่อเขาคิดดูอีกทีสิ่งต่างๆมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว เช่นนั้นเขาจะทำอะไรได้อีก? เขามีลูกชายเพียงคนเดียวถ้าเขาไม่สนับสนุนลูกชายของเขาแล้วจะให้เขาไปสนับสนุนหมาที่ไหน?
“ท่านพ่อ ข้ารู้สึกเจ็บหัวและไม่สามารถดื่มได้อีกต่อไปแล้ว” เมื่อหลิน ฟานพูดจบเขาก็สลบไปเลย
บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบ
ปากของอาวุโสวูเปิดกว้างเขาไม่คิดเลยว่านายน้อยจะเมาและสลบไปแบบนั้น
หลิน ฟานต้องการจะใช้การเมานี้หลบหนีจากปัญหา
“ความโกรธ +223”
ในตอนนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นว่าคะแนนความโกรธอยู่ๆก็ปรากฏขึ้นในเวลาที่ไม่ถูกต้อง
ตามปกติแล้วเมื่อพ่อเห็นเขาเมาท่านจะต้องพูดว่าเรื่องนี้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้และให้โกวชิพาเขากลับห้องไปนอนไม่ใช่หรือ
แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์มันไม่เป็นไปตามที่เขาคิดและพ่อของเขาก็กำลังโกรธ
ดูเหมือนว่าการแกล้งเมาในครั้งนี้ของเขาจะไปจุดประกายความโกรธของพ่อขึ้นมาอีกครั้ง
แผนการของเขาล้มเหลวและผลลัพธ์ที่เขาต้องเผชิญมันก็คือหายนะ
ในตอนนั้นอยู่อยู่ดีๆหัวของหลิน ฟานก็เด้งขึ้นมาราวกับลูกบอลยาง
เขาพยายามทำตัวเหมือนเพิ่งตื่นและเกาหัวของเขา “ท่านพ่อ ไวน์ขวดนี้มันแรงจริงๆข้าดื่มมันเขาไปรวดเดียวและเกือบจะสลบ แต่ท่านไม่ต้องห่วงเพราะตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาแล้ว”
เขายิ้มหลังจากพูดแบบนั้น
เขาอยากจะสื่อว่า
ท่านพ่อข้าไม่ได้แกล้งเมาแต่ความแรงของไวน์มันเกือบจะฆ่าข้า
“นายท่านไวน์มันค่อนข้างแรงและนายน้อยก็ไม่เคยดื่มมาก่อนดังนั้นมันอาจจะเป็นความจริงดั่งที่เขากล่าวก็ได้” อาวุโสวูพูด
นี่เป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัวเท่านั้น ตราบใดที่เขามีสมองเขาคงจะไม่เชื่อคำแก้ตัวนี้แน่ๆ
แน่นอนถ้าพ่อของเขาต้องการเหตุผลสิ่งที่ถูกพูดก่อนหน้านั่นแหละคือเหตุผล
หลิน วานยี่ทำตาให้แคบลงและจ้องมองไปที่หลิน ฟานมันทำให้เขารู้สึกอึดอัด ทำไมเพียงแค่การมองของเขาถึงทำให้ข้ากลัวได้มากขนาดนี้?
หลังจากที่เขามองไปครู่หนึ่ง
เขาก็เปิดปากแล้วพูดออกมาว่า “ฟาน สิ่งที่เจ้าทำให้ข้าในวันนี้มันทำให้ข้ามีความสุขและประทับใจมาก มันแสดงให้เห็นว่าเจ้าโตขึ้นแล้ว”
แต่ก่อนที่หลิน ฟานจะตอบกลับน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป
“อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจ้าทำในตอนเช้ามันทำให้ข้าโกรธและสิ้นหวังจริงๆ”
อาวุโสวูยืนขึ้นอย่างเงียบๆและเดินไปรอที่ประตู
ต่อไปนี้จะเป็นการสนทนาระหว่างพ่อและลูกชาย
เขาไม่ได้เห็นฉากแบบนี้มานานแล้ว
เพราะการที่นายน้อยสามารถอยู่เงียบๆฟังคำพูดของหัวหน้าตระกูลมันมีน้อยลงเรื่อยๆ
“ท่านพ่อ นี่…” หลิน ฟานต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกพ่อของเขาหยุดเอาไว้
“เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลของเจ้ากับข้า เพราะตราบใดที่เจ้าทำสิ่งที่เจ้าต้องการจะทำ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจเหตุผลของผู้อื่น มันไม่เป็นไรที่ข้าจะไม่เข้าใจเหตุผลของเจ้า แต่ข้าของให้เจ้าจำเอาไว้อย่างหนึ่ง เจ้าห้ามทำอะไรที่เจ้ารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเพียงความคิดที่โง่เขลาเด็ดขาด”
หลิน วานยี่ลุกขึ้นเดินไปที่หลิน ฟานจากนั้นก็ตบไหล่ของเขา
“เจ้าโตแล้ว และตระกูลยังคงต้องการให้เจ้ามาสานต่อ เจ้าเพียงแค่ต้องขยันฝึกฝนเข้าไว้เพื่อที่เจ้าจะได้สามารถทำสิ่งที่เจ้าต้องการได้ในอนาคต”
ทันทีที่พูดจบหลิน วานยี่ก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับอาวุโสวู
หลิน ฟานมองตามเขาไปจนเขาหายไปที่มุม
นั่นทำให้เขานึกย้อนกลับไปถึงงานเขียนของนักเขียนคนหนึ่ง
มันเขียนเอาไว้ดีจนทำให้เขาร้องไห้เมื่อเขาอ่านมัน
“ท่านพ่อไม่ต้องห่วง ข้าจะทำสิ่งต่างๆตามหัวใจของตนเองและจะไม่ให้ใครมาบังคับข้าได้” หลิน ฟานพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในที่สุดมันก็จบ
ท่านพ่อช่างเป็นคนที่มีเหตุผลจริงๆ
มันเยี่ยมมาก
เยี่ยมมากจริงๆ
“นายน้อยทุกอย่างมันจบแล้วงั้นหรือ?” โกวชิถาม
เขาคิดว่านายน้อยของเขาจะต้องถูกลงโทษแน่ๆแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าทุกอย่างมันจะจบมาในรูปแบบนี้
“ใช่มันจบแล้ว เอาล่ะรีบไปทำความสะอาดและไปนอนได้แล้ว” หลิน ฟานพูด
คฤหาสน์ตระกูลหลิน ณ ลานด้านหลัง
“นายท่านดูเหมือนว่านายน้อยจะโตขึ้นจริงๆ” อาวุโสวูพูด
“โตขึ้น?” หลิน วานยี่ยิ้ม
เขาจะไม่รู้ความคิดลูกของเขาได้อย่างไร?
“เอาไว้พูดกันทีหลัง ตอนนี้ข้าอยากจะไปอาเจียนก่อนเพราะข้ารู้สึกอึดอัดที่ท้อง” หลิน วานยี่พูด
“นายท่านข้าก็จะไปกับท่านด้วยเช่น เพราะท้องของข้าก็รู้สึกอึกอัดเช่นกัน”