ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
ความโกรธสามารถเพิ่มสถานะได้
มันง่ายและค่อนข้างสะดวก
จากการทดลองก่อนหน้านี้ของเขา มันเห็นได้ชัดว่าพ่อค้าคนนั้นโกรธจริงๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่ให้ค่าความโกรธ
มีความเป็นไปได้ว่าสถานะและความแข็งแกร่งของพ่อค้าคนนั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะสร้างคะแนนความโกรธให้เขา
เพียงแค่คำเดียว
อ่อนแอ
นอกเหนือจากความเป็นไปได้นั้นก็ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้ว
ในตอนนั้นเองที่เสียงของโกวชิดังมาจากภายนอก
“นายน้อย นายท่านได้ส่งวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตมาให้ท่าน”
หลิน ฟานเดินออกมาจากห้องของเขา และหยิบเทคนิคเพาะปลูกขึ้นมา เขายิ้ม ชายชราคนนี้ไม่เคยยอมแพ้ และหวังว่าทายาทเพียงคนเดียวของเขาจะเดินไปในเส้นทางนี้
เขาพลิกเทคนิคลับดู
เขาดูมันคร่าวๆและพบว่ามันค่อนข้างน่าเบื่อ ดังนั้นจึงโยนมันไปทางโกวชิ “ช่วยดูแลมันแทนข้าที ข้าจะดูมันเมื่อมีโอกาส”
โกวชิต้องการพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดตัวเองเอาไว้ก่อน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พูดมันออกมาอยู่ดี
“นายน้อย ข้าคิดว่าท่านควรที่จะฟังนายท่านและฝึกฝน เพราะอย่างน้อยท่านจะได้มีวิชาเอาไว้ป้องกันตัว”
หลิน ฟานมองไปที่โกวชิ “โกวชิ ที่เจ้าพูดมันหมายว่ายังไง? นี่เจ้าจะไม่ปกป้องข้าแล้วงั้นรึ?”
“อ่า?” โกวชิตกตะลึง จากนั้นก็ก้มลงไปมองหนังสือทักษะลับ “นายน้อย ข้า….”
หลิน ฟานตบไหล่ของโกวชิ “ทำงานให้หนักเข้าไว้ ข้าคาดหวังกับเจ้าไว้สูงมาก เพราะตอนนี้ชีวิตของของอยู่ในมือของเจ้าแล้ว”
ดวงตาของโกวชิเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและเปียก จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น “นายน้อย ไม่ต้องกังวล แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็จะไม่ทำให้ความคาดหวังของท่านสูญเปล่า”
ในตอนนั้นเองที่โกวชิพึ่งตระหนักว่าความรับผิดชอบของเขามันช่างมากมายเหลือเกิน
นายน้อยฝากชีวิตของท่านเอาไว้ในกำมือเขา
“ลุกขึ้น” หลิน ฟานกล่าว
โกวชิเช็ดตาของเขาและยืนอยู่ข้างๆด้วยความเคารพ เขาจับเทคนิคลับเอาไว้แน่น และเก็บเอาไว้ให้ใกล้ตัวมากที่สุด
“เอาล่ะไปเดินเล่นกันเถอะ นำข้าไปร้านดีๆหน่อยซิ” หลิน ฟานกล่าว
เรื่องที่หัวหน้าตระกูลกักตัวไม่ให้นายน้อยไปไหนมันไม่ได้เป็นความลับ และก็ไม่มีข้ารับใช้คนไหนกล้าขัดคำสั่งท่าน
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเป็นคนของนายน้อยแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องทำตามคำสั่งของนายน้อยอย่างไม่ลังเล
ออกจากลานบ้าน
คฤหาสน์ของตระกูลหลินมีขนาดใหญ่มาก มีบ้านหลังใหญ่มากมายที่กำลังล้อมรอบคฤหาสน์อยู่ ตระกูลใหญ่มันก็น่าจะประมาณนี้
ในตอนนั้นเองไม่ไกลนักเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมา
หลิน ฟานอยากรู้อยากเห็น เขาจึงมองออกไปและพบว่ามีคนมากมายยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับกำลังออกท่าทางบางอย่างอยู่ และทุกครั้งที่พวกเขาเคลื่อนไหวพื้นมันก็จะสั่นสะเทือน
“แบบนั้นแหละถูกแล้ว” ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นดูแข็งแกร่งมาก ผิวของเขาคล้ำ ส่วนแขนของเขาก็หนาราวกับขาของหลิน ฟาน
“ลูกพี่ลูกน้อง ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”
โจว เชียงเหมามองไปที่หลิน ฟาน เขารู้สึกแปลกใจและทำอะไรไม่ถูก
สถานการณ์ของลูกพี่ลูกน้องของเขามันไม่ใช่ว่าพึ่งเกิด ความจริงแล้วมันเป็นปัญหามาตั้งแต่เขายังเด็ก แม้ว่าลุงของเขาจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เขาก็รู้ว่าท่านเป็นห่วงจริงๆ
ตระกูลหลินยังคงต้องการลูกพี่ลูกน้องของเขาเพื่อขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะไม่มีความสนใจในเส้นทางนั้นเลย
หลิน ฟานมองไปที่ชายที่อยู่ตรงหน้าเขา มันให้รู้สึกราวกับว่าเขากำลังมองไปที่ภูเขาลูกใหญ่อยู่ยังไงยังงั้น
“ไม่มีอะไร ข้าแค่มาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเจ้ากำลังฝึกวิชาอะไรอยู่ มันดูน่าสนใจ” หลินฟานถาม
“มันคือกำปั้นเขย่าปีศาจ ท่านสนใจไหม? ข้าสามารถให้คนส่งมันไปให้ท่านได้” โจว เชียงเหมาตอบ
เขากำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้หลิน ฟานปลูกฝัง
หลิน ฟานโบกมือของเขา “ข้าไม่สนใจ การปลูกฝังมันน่าเบื่อ ข้าว่าข้าออกไปใช้เงินดีกว่า”
“โกวชิ ไปกันเถอะ”
“ขอรับ นายน้อย” โกวชิตอบ
ไม่มีคะแนนความโกรธ
หลิน ฟานคิดกับตัวเอง ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ไม่ได้ใช้ความพยายามมากขนาดนั้น
เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน
เขาหยุด
“ความโกรธ +20”
ใครโกรธเขา
ระบบสนับสนุนมันค่อนข้างแย่ตรงที่ไม่ได้บอกเขาว่าใครเป็นคนโกรธ
ตระกูลหลินมีขนาดใหญ่ แต่คนที่โมโหเขาคงหนีไม่พ้นหลิน วานยี่
เขาได้รับแจ้งจากข้ารับใช้ว่าเด็กคนนั้นกำลังจะออกไปอีกครั้ง
เขาได้บอกให้ใครสักคนส่งวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตไปให้ และหวังว่าเขาจะฝึกมัน แต่ใครมันจะไปคิดว่าเขาจะทำตัวเหมือนเดิม? และถ้าหากว่าเขาไม่ใช่บุตรชายเพียงคนเดียว เขาก็คงจะตีลูกคนนี้จนกว่าจะตาย
หลิน ฟานนำโกวชิมาที่ร้านศาลาเสาวธารเมามาย
มันเป็นภัตตาคารชั้นนำในเมืองหยูฉาง
เมื่อหลิน ฟานปรากฏตัว ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น พร้อมกับพูดว่า “นายน้อยหลิน ได้โปรดเข้ามาก่อนค่ะ”
“อา”
หลิน ฟานเดินเข้าไป ในโลกนี้เขาเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวย เขามีอิสระที่จะสามารถทำอะไรก็ได้ในชีวิตนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะทำตัวดี
ทุกคนหลีกทางให้เขาสามารถนั่งตรงที่ที่สามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองหยูฉางได้อย่างชัดเจน
“เอาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ข้า” หลิน ฟานกล่าวอย่างภูมิใจ
“ขอรับ ช่วยชงชาให้นายน้อยหลินด้วย” คนรับใช้ตะโกนออกไปทางห้องครัวเพื่อบอกให้พวกเขาเตรียมอาหาร
หลิน ฟานดูทิวทัศน์ข้างนอก
ตอนนี้เขาเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลหลินคร่าวๆแล้ว แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าโลกภายนอกมันเป็นยังไงบ้าง
แม้แต่เองโกวชิก็ไม่ทราบ
โลกนี้มันเป็นโลกแบบไหน
โลกที่การต่อสู้อยู่ในระดับต่ำ?
หรือว่าจะเป็นโลกที่การต่อสู้อยู่ในระดับสูง?
ถ้ามันเป็นอย่างแรกชีวิตของเขาหลังจากนี้น่าจะสบาย
แต่ถ้าเป็นอย่างหลังมันน่าจะเป็นปัญหาเล็กน้อย
“ตอนแรกก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็เป็นนายน้อยจากตระกูลหลินนี่เอง ข้าได้ยินมาว่าเจ้าถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้าน แต่ไฉนทำไมเจ้าถึงออกมากันเล่า? เจ้าไม่กลัวท่านอาจารย์หลินจะคว้าตัวเจ้าและไปทุบตีรึไง?” มีเสียงดังขึ้นมา
หลิน ฟานมองไปตามเสียง และสังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยิ้มพร้อมกับโบกพัดในมือ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ารอยยิ้มมันจะเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“เจ้าเป็นใคร?” หลิน ฟานถาม
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายคนนั้นแข็ง และพูดเหน็บแนมอย่างเย็นชา “นายน้อยแห่งตระกูลหลิน ทำไมเจ้าถึงทำตัวราวกับว่าไม่รู้จักข้า”
หลิน ฟานยืดตัวของเขาและพูดกลับไปด้วยความรังเกียจ “เจ้าบุตรชายของข้ารึไง ทำไมข้าต้องจำเจ้าได้?”
“เจ้า….” ชายคนนั้นมองหลินฟานด้วยความโกรธและคิดว่า เจ้ากล้ามากนะที่บังอาจมาทำให้ข้าขายหน้า
“ความโกรธ +50”
หลิน ฟานยิ้ม นี่มันเยี่ยมไปเลย มันมีความโกรธออกมาและดูเหมือนว่าเขาจะเดาถูก
ความโกรธไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนมี
คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถให้ความโกรธกับเขาได้ อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาอ่อนแอเกินไป
“เฮอะ เป็นแค่ขยะที่อ่อนแอแท้ๆ” ชายคนนั้นดูไม่มีความสุข เขาจ้องไปที่หลิน ฟานอย่างดุร้ายก่อนที่จะหาที่นั่ง
คนรับใช้เดินเข้ามา และทำให้เขารู้ว่าชายคนนั้นเป็นนายน้อยของตระกูลเหลียง
“โกวชิ เจ้านั่นคือใคร?” หลิน ฟานถาม
โกวชิตกตะลึง เขาคิดว่านายน้อยแค่แกล้งทำเป็นจำไม่ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาดันจำไม่ได้จริงๆ “นายน้อย เขาคือบุตรชายคนที่สามของตระกูลเหลียง เหลียง หยงฉี”
“โอ้!”
หลิน ฟานมองไปที่เหลียง หยงฉีที่นั่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็คิดว่า การใช้ชายคนนี้เพื่อเพิ่มคะแนนความโกรธมันก็ไม่ใช่ความคิดที่แย่นัก
ทานอาหารพร้อมกับรับความโกรธไปด้วยในเวลาเดียวกัน มันน่าจะเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
เขาโน้มตัวเข้าหาโกวชิ และสั่งให้เขาทำอะไรบางอย่าง
โกวชิมองไปที่เขาด้วยความตกใจ
เขาไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม เขาก็เดินจากไป
ไม่นานหลังจากนั้น
เสียงอึกทึกก็ดังมาจากด้านล่าง
เสียงของโกวชิดังกระจายไปทั่ว
หลังจากนั้นก็มีบางคนเดินออกมา
พวกเขาสวมเสื้อผ้าที่สกปรก ผมของพวกเขายุ่งเหยิงและใบหน้าของพวกเขาก็ปกคลุมไปด้วยดิน ตอนนี้ในอากาศมันเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่ร้อนเช่นนี้ กลิ่นมันยิ่งแรงจนหน้าตกใจ
ปัง!
เหลียง หยงฉีที่กำลังดื่มไวน์ ได้กลิ่นและสังเกตเห็นคนหลายคนเดินเข้ามา เขาจึงตบโต๊ะด้วยความโกรธ “เกิดอะไรขึ้น ใครปล่อยให้พวกมันเข้ามา เถ้าแก่ ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ต้องการที่จะทำธุรกิจอีกต่อไปแล้วใช่รึไม่”
มีขอทานที่เป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่
เมื่อพวกเขามาถึงพื้นที่ที่ดูสวยงาม พวกเขาก็เกิดกลัวขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงคนตวาดดังมาจากข้างใน พวกเขาก็กลัวมากว่าเดิมและต้องการออกไปทันที
เถ้าแก่ของศาลาเสาวธารเมามายพบว่ามันเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างยาก
ด้านหนึ่งเป็นนายน้อยของตระกูลหลิน ส่วนอีกด้านหนึ่งคือนายน้อยคนที่สามของตระกูลเหลียง เขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไปดี
“ข้าต้องการจะทำอะไร? แล้วเจ้าละต้องการอะไร? คนพวกนี้คือเพื่อนของข้า ข้ากำลังจะจองสถานที่นี้ และเชิญพวกเขาให้มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ถ้าเจ้าไม่เต็มใจที่จะอยู่ตรงนี้ งั้นก็เชิญเจ้าออกไปด้วยตัวเอง” หลิน ฟานกล่าว
“เจ้า….” เหลียง หยงฉีมองไปที่หลิน ฟานด้วนความโกรธ ใครมันจะไปคิดว่าล่ะว่าเขาจะเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้
“ความโกรธ +60”
หลิน ฟานมองกลับไป “เจ้ามีปัญหาอะไร? หากเจ้าเต็มใจที่จะอยู่ก็อยู่ แต่ถ้าเจ้าอยากจะออกไปก็ไม่มีใครห้ามเจ้าได้ หากเจ้าไม่มีความสุข เจ้าก็ชนะข้าให้ได้สิ เจ้าเป็นเพียงแค่บุตรชายคนที่สาม ส่วนข้านั้นเป็นถึงนายน้อยของตระกูลหลิน สำหรับข้าแล้วเจ้ามันไม่มีค่าอะไรเลย”
“ความโกรธ +100”
ใบหน้าของเหลียง หยงฉีเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความโกรธ ความโกรธในใจของเขามันกำลังเดือด เขากำหมัดของเขา จากนั้นก็มีแสงสีขาวปรากฏขึ้นบนมัน
นี่มันบ้าไปแล้ว!
ช่างจองหองเหลือเกิน!
แต่เขาก็คลายหมัดของเขาอย่างรวดเร็ว
อย่างที่หลิน ฟานพูด แม้ว่าเขาจะไม่มีความสุข แล้วเขาจะสามารถทำอะไรได้?
ถ้าเขาทำแบบนั้นตระกูลหลินคงไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่
“หลิน ฟานเจ้าทำได้เยี่ยมมาก ข้าจะรอดูก็แล้วกัน” หลียง หยงฉีเตะโต๊ะของเขา อาหารที่อยู่บนโต๊ะมันกระจายไปทั่ว จากนั้นเขาก็เดินออกไปโดยที่ไม่ได้วางเงินเอาไว้
หลิน ฟานยิ้ม “ไม่ต้องกังวลนะเถ้าแก่ เนื่องจากว่าเขาไม่มีเงินดังนั้นข้าจะจ่ายแทนให้เขาเอง ข้ามีความสุขเสมอเวลาที่ได้ช่วยเหลือคนยากจน”
เหลียง หยงฉีที่กำลังจะจากไป โกรธจนร่างของเขาสั่น เขาหยิบเงินออกมาจากถุงแล้วขว้างมันออกไป โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
เงินมันพุ่งเข้าไปในกำแพง แม้ว่าจะมีคนต้องการดึงมันออก แต่ก็ไม่สามารถทำได้
“ความโกรธ +200”
หลิน ฟานยิ้ม
นี่คือวิถีชีวิตของคนรวยอย่างแท้จริง
“เถ้าแก่เอาอาหารที่ดีที่สุดมาให้เพื่อนของข้าด้วย” หลิน ฟานพูด
มีคนบางจำพวกที่เอาแต่กินเนื้อและไวน์ ในขณะที่ผลักความอดอยากไปให้ผู้อื่น
ไม่ว่าจะที่ไหนมันก็เหมือนกันหมด
ผู้คนที่โกวชิพบนั้นต่างผอมแห้งติดกระดูก และดูเหมือนว่ากำลังจะตายในเร็วๆนี้
ส่วนพวกเด็กๆก็ดูน่าสงสารมาก
ในอดีตเขาเป็นคนที่ชอบบริจาคเงินสิบถึงยี่สอบดอลลาร์ตลอด แล้วจะให้เขาปล่อยคนพวกนี้ไปได้ยังไง?
ขอทานเหล่านั้นคิดว่าพวกตนกำลังฝัน
จนกระทั่งได้กลิ่นหอมของอาหาร พวกเขาถึงรู้ว่ามันเป็นความจริง
พวกเขาหมอบลงและแสดงความกตัญญู
หลิน ฟานไม่ค่อยคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “หยุดทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นได้แล้ว แค่กินและดื่ม วันนี้ข้าเลี้ยง”
โกวชิที่ยืนอยู่ข้างๆต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดเอาไว้ก่อน
นายน้อยเราไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น