“นายน้อยท่านต้องระวังเอาไว้ หัวหน้าตระกูลหยวนผู้นี้ไม่อ่อนแอ”
โกวชิเตือน ครั้งนี้นายน้อยของเขาอาจจะเจอเข้ากับปัญหาจริงๆแล้วก็ได้
นอกจากนี้เขายังทำการยั่วยุหัวหน้าตระกูลหยวนอย่างเปิดเผยอีกด้วย
หากพวกเขาเริ่มต่อสู้กันจริงๆผลที่ตามมามันจะซับซ้อนเล็กน้อย
“โอ้?” หลิน ฟานขมวดคิ้ว จากนั้นก็มองไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนที่กำลังจะระเบิดและถามออกมาเบาๆ “ลูกพี่ลูกน้องของข้าสามารถจัดการกับเขาได้รึไม่?”
“ข้าไม่ทราบ” โกวชิตอบ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหัวหน้าตระกูลหยวนแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขารู้เพียงแค่ว่าเขาแข็งแกร่งมากเท่านั้น
เมื่อได้ยินดังนั้นหลิน ฟานจึงรีบไปตรวจสอบระบบสนับสนุนขนาดเล็กของเขาทันที
คะแนนความโกรธ: 2281
อัตราการเพิ่มขึ้นของคะแนนมันค่อนข้างเร็ว
เขาลองคาดการณ์จากการใช้สูตรโกงที่ผ่านมาของเขาและการเพิ่มขึ้นของคะแนน เขาน่าจะสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ในไม่ช้า
เมื่อรู้แบบนั้นแล้วเขาจึงยังตายไม่ได้
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่กล้าสังหารเขา แต่จะทำยังไงถ้าเขาเสียแขนไปสักข้างหนึ่ง
มันจะเป็นการสูญเสียที่มากเกินไป
อาวุโสซูมองไปที่หลิน ฟาน และคิดว่าลูกชายของหลิน วานยี่ช่างใจกล้าจริงๆ
ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องการจะดูว่าหัวหน้าตระกูลหยวนจะทำยังไงต่อ
หลิน ฟานและหัวหน้าตระกูลหยวนมองหน้ากัน
โดยเฉพาะหัวหน้าตระกูลหยวนการแสดงออกของเขาน่าเกลียดมาก
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เข้าไปตบหลิน ฟานให้จมดิน
“ดี ชายชราคนนี้ก็ต้องการรู้เช่นกันว่าถ้าข้าสั่งสอนเจ้าแล้วมันจะเป็นเช่นไร” หัวหน้าตระกูลหยวนคำรามออกมาด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็กางนิ้วทั้งห้าของเขาและคว้าไปทางหลิน ฟาน
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะโจมตี
นี่คือพลังของผู้เชี่ยวชาญ
มือของหัวหน้าตระกูลหยวนดูราวกับกลายเป็นภาพลวงตา เมื่อมองด้วยตาเปล่ามันยากที่จะแยกแยะว่าอันไหนเป็นของจริง
หลิน ฟานตกตะลึง
เขากล้าทำร้ายข้าจริงๆ
นี่มันแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดโดยสิ้นเชิง
เขาคิดว่าในฐานะนายน้อยที่ร่ำรวยแห่งเมืองหยูฉางและมีพ่อที่ไม่ได้อ่อนแอ
มากที่สุดที่ทั้งสามตระกูลจะทำกันคือการโต้เถียง ความคิดที่ว่าชายชราคนนี้กล้าโจมตีเขามันไม่ได้อยู่ในหัวเลยแม้แต่นิดเดียว
ทันใดนั้นก็ได้มีลมกระโชกแรงปรากฏขึ้น
“ลูกพี่ลูกน้องไม่ต้องห่วง ข้าอยู่นี่แล้ว!” มันเป็นโจว เชียงเหมาที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับออร่าที่ดุดัน “ถ้าเจ้าต้องการจะแตะลูกพี่ลูกน้องของข้า เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”
ปัง!
หมัดของโจว เชียงเหมาปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ จากนั้นเขาต่อยสวนกลับไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนโดยตรง
มีเสียงต่ำดังออกมา
ฝุ่นฟุ้งกระจายออกไปโดยมีทั้งสองคนเป็นจุดศูนย์กลาง
โจว เชียงเหมาคำราม เสื้อผ้าของเขาฉีกเป็นชิ้นๆเผยให้เห็นมัดกล้ามที่เต็มไปด้วยพลัง
“หมัดปีศาจวานร!” (TL: เปลี่ยนจากกำปั้นเขย่าปีศาจเป็นหมัดปีศาจวานร)
ลิงโบราณที่ดุร้ายและดูน่ากลัวปรากฏขึ้นข้างหลังเขา
“ตายไปซะ!”
ดวงตาของโจว เชียงเหมาเปลี่ยนไปเป็นสีแดงราวกับเลือด เขากำหมัดแน่นขึ้นจากนั้นก็ต่อยลงไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนดั่งภูเขายักษ์ที่กดทับลงมา
อาวุโสซูประหลาดใจเขาไม่คิดเลยว่าคนที่ดูโง่เขลาเช่นนี้จะเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้
ทักษะหมัดปีศาจวานรที่เขาฝึกมันเป็นทักษะหมัดชั้นยอด
หลิน วานยี่ช่างเป็นคนที่รอบคอบจริงๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังฝึกและเลี้ยงดูชายที่โง่เขลาคนนี้อยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาหมดหวังในตัวลูกชายและรู้ว่าลูกชายของเขาจะอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะปั้นผู้เชี่ยวชาญมาปกป้องลูกชายของเขา
ปัง!
หัวหน้าตระกูลหยวนหลีกเลี่ยงไปได้จึงทำให้หมัดของโจว เชียงเหมาตกลงไปบนพื้น รอยแตกเหมือนใยแมงมุมปรากฏขึ้นและกระจายไปทั่ว
“โอ้พระเจ้าลูกพี่ลูกน้องของข้าแข็งแกร่งมาก”
หลิน ฟานประหลาดใจ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้
ทันใดนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป
หัวหน้าตระกูลหยวนภายนอกของเขาอาจจะดูอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วการโจมตีเมื่อสักครู่ไม่ได้ทำให้เขาตื่นตระหนกและได้รับอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนนั้นเองเขาก็เห็นว่าหัวหน้าตระกูลหยวนเหยียบเท้าข้างหนึ่งลงบนหัวของโจว เชียงเหมาแล้วกระแทกมันลงไป
ตูม!
ร่างกายของโจว เชียงเหมาครึ่งหนึ่งจมลงไปกับพื้นทันที
แต่อย่างไรก็ตามลูกพี่ลูกน้องของเขาก็รีบกระแทกฝ่ามือเข้ากับพื้นดินอย่างรวดเร็วจนพื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือน และเมื่อตัวของเขาขึ้นมาจากพื้นดินได้ทั้งหมดออร่าจากร่างของเขาก็แข็งกร้าวขึ้น เขาคำรามจากนั้นก็กวาดขาข้างหนึ่งออกไป
เมื่อเห็นดังนั้นหัวหน้าตระกูลหยวนก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาตบฝ่ามือของเขาออกไปที่ขาของโจว เชียงเหมา จากนั้นร่างกายของเขาก็พุ่งไปข้างหน้าจนเกิดภาพเบลอ ฝ่ามือหนึ่งถูกตบไปที่ท้องของโจว เชียงเหมา
ปัง!
โจว เชียงเหมาขมวดคิ้ว คอของเขาสั่นและกำลังจะคายเลือดออกมา แต่เขาก็บังคับให้ตัวเองกลืนเลือดกลับลงไป
ตอนนี้แหละ
หัวหน้าตระกูลหยวนปล่อยฝ่ามือไปที่ร่างกายของโจว เชียงเหมาอย่างต่อเนื่อง
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ออร่าของโจว เชียงเหมาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างของเขากระเด็นถอยหลังไป
เขาพยายามยันพื้นเอาไว้แต่ไม่สำเร็จร่างของเขาถอยหลังไปหลายสิบเมตรก่อนที่เขาจะไม่สามารถกลั้นเลือดเอาไว้ได้อีกต่อไปและกระอักมันออกมา
“ลูกพี่ลูกน้องเจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลิน ฟานรีบเดินเข้าไปช่วยพยุงโจว เชียงเหมาขึ้นมา เมื่อเขาเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องของเขากระอักเลือดออกมาเขาก็ปวดใจ เขามองไปที่อีกฝ่าย “เจ้าสารเลว! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องของข้า ข้าจะฆ่าล้างตระกูลเจ้าซะ!”
“ลูกพี่ลูกน้อง ข้าสบายดีและข้าก็ยังสามารถสู้ได้อยู่ โกวชิเจ้ารีบพาลูกพี่ลูกน้องของข้ากลับไป ข้าจะเป็นคนหยุดเขาเอาไว้เอง” โจว เชียงเหมาเช็ดเลือดที่มุมปากและมองไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนอย่างดุร้าย
ระดับเส้นทางการต่อสู้ของหัวหน้าตระกูลหยวนสูงกว่าของเขา
มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหากเขาแพ้
แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถแพ้ได้ในตอนนี้เพราะเขาต้องส่งลูกพี่ลูกน้องของเขาให้ออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย
“ลูกพี่ลูกน้องไม่ต้องพูดแล้วเดี๋ยวข้าจัดการเอง” หลิน ฟานโกรธมาก แม้ว่าโจว เชียงเหมาจะไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องจริงๆของเขา แต่เขาก็เห็นแล้วว่าลูกพี่ลูกน้องดูแลเขาดีแค่ไหน
ถ้าโจว เชียงเหมาไม่ได้เป็นลูกพี่ลูกน้องที่ดีที่สุด แล้วใครล่ะจะเป็นคนนั้น
หัวหน้าตระกูลหยวนหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เหอะ ยังเด็กทั้งยังไม่มีการเพาะปลูกแต่ยังกล้าทำตัวหยิ่ง ถ้าเจ้าออกไปภายนอกเจ้าน่าจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายเมื่อไหร่”
หยวน เทียนชูซึ่งอยู่ไม่ไกลมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนหน้าของเขา เขากำลังเพลิดเพลินไปกับความโชคร้ายของผู้อื่น
“ลูกพี่ลูกน้องท่านกำลังจะไปไหน?” โจว เชียงเหมาตื่นตระหนก
หลิน ฟานหันกลับมา “ลูกพี่ลูกน้องข้ากำลังจะไปแก้แค้นให้เจ้า”
หลังจากที่เขาพูดแบบนั้นเขาก็เดินตรงไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนพร้อมกับสบถไปด้วย
“แม่เจ้าเถอะ!”
“เข้ามา! ถ้าเจ้ายังมีความกล้าก็เข้ามาสังหารข้าซะ!”
ดวงตาของหัวหน้าตระกูลหยวนมีประกายที่เย็นชาออกมา “เจ้าจะได้สิ่งที่เจ้าปรารถนา”
หลังจากที่พูดจบเขาก็พุ่งเข้าไปโจมตีหลิน ฟานโดยทันที
หลิน ฟานไม่ได้ตกใจและยังคงเดินต่อไป
“หืม?” สีหน้าของหัวหน้าตระกูลหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เจ้าเด็กนี่ไม่ได้คิดจะหลบเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขากำลังจะสัมผัสกับหลิน ฟานเขาก็หยุดเสียก่อน
มันไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ต้องการจะอัดหลิน ฟานแต่มันเป็นเพราะเขาไม่กล้า
หลิน ฟานยืนประจันหน้ากับหัวหน้าตระกูลหยวน “เอาเลยสิ! เจ้าพูดว่าจะสังหารข้าไม่ใช่รึ? แต่ข้าขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่าถ้าข้าเกิดตายขึ้นมาจริงๆ ตระกูลของเจ้าลืมเรื่องการมีชีวิตอยู่ไปได้เลย”
“เมื่อรู้ดังนั้นแล้วก็เข้ามา!”
ตุบ!
หลิน ฟานจับมือของหัวหน้าตระกูลหยวนแล้วนำมันมาตบเข้ากับหน้าอกของเขา “เกิดอะไรขึ้น? สังหารข้าซะสิ! อะไรกันเจ้ากลัวงั้นหรือ? หรือว่าเจ้านั้นไม่มีแม้แต่ความกล้า? เหอะ! เจ้ามันก็แค่คนไร้ประโยชน์ ข้าก็ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วไง ถ้าเจ้ามีความกล้าก็โจมตีข้าซะ!”
หัวหน้าตระกูลหยวนตกตะลึงกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของหลิน ฟาน
เขาไม่กลัวตายจริงๆงั้นหรือ?
“เจ้าเด็กสารเลว เจ้าอย่าบังคับข้า!” หัวหน้าตระกูลหยวนตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง
หลิน ฟานก็ตะโกนกลับไปด้วยความโกรธ น้ำลายของเขากระเด็นไปทั่ว “ก็ตอนนี้ข้ากำลังบังคับเจ้า! แล้วเจ้ากำลังรออะไรอยู่อีกรีบเข้ามาโจมตีข้าได้แล้ว อย่าให้ข้าดูถูกเจ้าไปมากกว่านี้”
คะแนนความโกรธที่เขาได้รับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้คนที่อยู่รอบๆมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ
นายน้อยตระกูลหลินกำลังชี้หน้าด่าหัวหน้าตระกูลหยวนโดยไม่กลัวความตาย
หากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเองพวกเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
และหัวหน้าตระกูลหยวนก็ไม่กล้าโจมตีดั่งคำที่เขาประกาศเอาไว้ด้วย
เมื่อหัวหน้าตระกูลหยวนมองไปที่ระยะไกล เขาก็เห็นว่ามีคนสองคนกำลังยืนสังเกตการณ์อยู่บนอาคารที่ไกลออกไป
เหงื่อเย็นปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา
ณ บนอาคารที่ไกลออกไป
“นายท่าน นายน้อยช่างกล้าหาญจริงๆ” อาวุโสวู่พูด
“เจ้าเด็กโง่” หลิน วานยี่ถอนหายใจจากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป “ถ้าเจ้าหยวนกล้าโจมตี ข้าจะเป็นคนสังหารเขาเอง”
“นายท่าน ท่านได้คืนสิ่งที่ต้องคืนไปหมดแล้ว ความช่วงเหลือจากตระกูลหยวนและเหลียงท่านก็ได้คืนไปเต็มจำนวน แล้วเหตุใดท่านจะต้องไปแคร์พวกเขาด้วย?” อาวุโสวู่ไม่เข้าใจ
“เรื่องนี้เอาไว้พูดทีหลัง ตอนนี้ไปดูเจ้าเด็กคนนี้ก่อน เพราะถ้าสิ่งนี้ยังดำเนินต่อไปตระกูลหยวนคงไม่เหลือหน้าให้ไว้แน่ ๆ เอาล่ะได้เวลาไปทำให้สิ่งต่างๆมันจบลงตรงนี้แล้ว” หลิน วานยี่พูด
ในตอนที่หลิน ฟานกำลังตะโกนอย่างดุเดือดใส่หัวหน้าตระกูลหยวน หลิน วานยี่และอาวุโสวู่ก็ได้ปรากฏตัวออกมา
“เจ้าสร้างปัญหาพอรึยัง?”
บรรยากาศที่เดิมตรึงเครียดได้จางหายไปในทันที