I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 31 ลูกพี่ลูกน้องข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง

“นายน้อยท่านต้องระวังเอาไว้ หัวหน้าตระกูลหยวนผู้นี้ไม่อ่อนแอ”

 

โกวชิเตือน ครั้งนี้นายน้อยของเขาอาจจะเจอเข้ากับปัญหาจริงๆแล้วก็ได้

 

นอกจากนี้เขายังทำการยั่วยุหัวหน้าตระกูลหยวนอย่างเปิดเผยอีกด้วย

 

หากพวกเขาเริ่มต่อสู้กันจริงๆผลที่ตามมามันจะซับซ้อนเล็กน้อย

 

“โอ้?” หลิน ฟานขมวดคิ้ว จากนั้นก็มองไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนที่กำลังจะระเบิดและถามออกมาเบาๆ “ลูกพี่ลูกน้องของข้าสามารถจัดการกับเขาได้รึไม่?”

 

“ข้าไม่ทราบ” โกวชิตอบ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหัวหน้าตระกูลหยวนแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขารู้เพียงแค่ว่าเขาแข็งแกร่งมากเท่านั้น

 

เมื่อได้ยินดังนั้นหลิน ฟานจึงรีบไปตรวจสอบระบบสนับสนุนขนาดเล็กของเขาทันที

 

คะแนนความโกรธ: 2281

 

อัตราการเพิ่มขึ้นของคะแนนมันค่อนข้างเร็ว

 

เขาลองคาดการณ์จากการใช้สูตรโกงที่ผ่านมาของเขาและการเพิ่มขึ้นของคะแนน เขาน่าจะสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ในไม่ช้า

 

เมื่อรู้แบบนั้นแล้วเขาจึงยังตายไม่ได้

 

แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่กล้าสังหารเขา แต่จะทำยังไงถ้าเขาเสียแขนไปสักข้างหนึ่ง

 

มันจะเป็นการสูญเสียที่มากเกินไป

 

อาวุโสซูมองไปที่หลิน ฟาน และคิดว่าลูกชายของหลิน วานยี่ช่างใจกล้าจริงๆ

 

ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องการจะดูว่าหัวหน้าตระกูลหยวนจะทำยังไงต่อ

 

หลิน ฟานและหัวหน้าตระกูลหยวนมองหน้ากัน

 

โดยเฉพาะหัวหน้าตระกูลหยวนการแสดงออกของเขาน่าเกลียดมาก

 

เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เข้าไปตบหลิน ฟานให้จมดิน

 

“ดี ชายชราคนนี้ก็ต้องการรู้เช่นกันว่าถ้าข้าสั่งสอนเจ้าแล้วมันจะเป็นเช่นไร” หัวหน้าตระกูลหยวนคำรามออกมาด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็กางนิ้วทั้งห้าของเขาและคว้าไปทางหลิน ฟาน

 

ดูเหมือนว่าเขากำลังจะโจมตี

 

นี่คือพลังของผู้เชี่ยวชาญ

 

มือของหัวหน้าตระกูลหยวนดูราวกับกลายเป็นภาพลวงตา เมื่อมองด้วยตาเปล่ามันยากที่จะแยกแยะว่าอันไหนเป็นของจริง

 

หลิน ฟานตกตะลึง

 

เขากล้าทำร้ายข้าจริงๆ

 

นี่มันแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดโดยสิ้นเชิง

 

เขาคิดว่าในฐานะนายน้อยที่ร่ำรวยแห่งเมืองหยูฉางและมีพ่อที่ไม่ได้อ่อนแอ

 

มากที่สุดที่ทั้งสามตระกูลจะทำกันคือการโต้เถียง ความคิดที่ว่าชายชราคนนี้กล้าโจมตีเขามันไม่ได้อยู่ในหัวเลยแม้แต่นิดเดียว

 

ทันใดนั้นก็ได้มีลมกระโชกแรงปรากฏขึ้น

 

“ลูกพี่ลูกน้องไม่ต้องห่วง ข้าอยู่นี่แล้ว!” มันเป็นโจว เชียงเหมาที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับออร่าที่ดุดัน “ถ้าเจ้าต้องการจะแตะลูกพี่ลูกน้องของข้า เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”

 

ปัง!

 

หมัดของโจว เชียงเหมาปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ จากนั้นเขาต่อยสวนกลับไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนโดยตรง

 

มีเสียงต่ำดังออกมา

 

ฝุ่นฟุ้งกระจายออกไปโดยมีทั้งสองคนเป็นจุดศูนย์กลาง

 

โจว เชียงเหมาคำราม เสื้อผ้าของเขาฉีกเป็นชิ้นๆเผยให้เห็นมัดกล้ามที่เต็มไปด้วยพลัง

 

“หมัดปีศาจวานร!” (TL: เปลี่ยนจากกำปั้นเขย่าปีศาจเป็นหมัดปีศาจวานร)

 

ลิงโบราณที่ดุร้ายและดูน่ากลัวปรากฏขึ้นข้างหลังเขา

 

“ตายไปซะ!”

 

ดวงตาของโจว เชียงเหมาเปลี่ยนไปเป็นสีแดงราวกับเลือด เขากำหมัดแน่นขึ้นจากนั้นก็ต่อยลงไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนดั่งภูเขายักษ์ที่กดทับลงมา

 

อาวุโสซูประหลาดใจเขาไม่คิดเลยว่าคนที่ดูโง่เขลาเช่นนี้จะเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้

 

ทักษะหมัดปีศาจวานรที่เขาฝึกมันเป็นทักษะหมัดชั้นยอด

 

หลิน วานยี่ช่างเป็นคนที่รอบคอบจริงๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังฝึกและเลี้ยงดูชายที่โง่เขลาคนนี้อยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาหมดหวังในตัวลูกชายและรู้ว่าลูกชายของเขาจะอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะปั้นผู้เชี่ยวชาญมาปกป้องลูกชายของเขา

 

ปัง!

 

หัวหน้าตระกูลหยวนหลีกเลี่ยงไปได้จึงทำให้หมัดของโจว เชียงเหมาตกลงไปบนพื้น รอยแตกเหมือนใยแมงมุมปรากฏขึ้นและกระจายไปทั่ว

 

“โอ้พระเจ้าลูกพี่ลูกน้องของข้าแข็งแกร่งมาก”

 

หลิน ฟานประหลาดใจ

 

เขาไม่เคยคิดเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้

 

ทันใดนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป

 

หัวหน้าตระกูลหยวนภายนอกของเขาอาจจะดูอ่อนแอ แต่จริงๆแล้วการโจมตีเมื่อสักครู่ไม่ได้ทำให้เขาตื่นตระหนกและได้รับอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว

 

ตอนนั้นเองเขาก็เห็นว่าหัวหน้าตระกูลหยวนเหยียบเท้าข้างหนึ่งลงบนหัวของโจว เชียงเหมาแล้วกระแทกมันลงไป

 

ตูม!

 

ร่างกายของโจว เชียงเหมาครึ่งหนึ่งจมลงไปกับพื้นทันที

 

แต่อย่างไรก็ตามลูกพี่ลูกน้องของเขาก็รีบกระแทกฝ่ามือเข้ากับพื้นดินอย่างรวดเร็วจนพื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือน และเมื่อตัวของเขาขึ้นมาจากพื้นดินได้ทั้งหมดออร่าจากร่างของเขาก็แข็งกร้าวขึ้น เขาคำรามจากนั้นก็กวาดขาข้างหนึ่งออกไป

 

เมื่อเห็นดังนั้นหัวหน้าตระกูลหยวนก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาตบฝ่ามือของเขาออกไปที่ขาของโจว เชียงเหมา จากนั้นร่างกายของเขาก็พุ่งไปข้างหน้าจนเกิดภาพเบลอ ฝ่ามือหนึ่งถูกตบไปที่ท้องของโจว เชียงเหมา

 

ปัง!

 

โจว เชียงเหมาขมวดคิ้ว คอของเขาสั่นและกำลังจะคายเลือดออกมา แต่เขาก็บังคับให้ตัวเองกลืนเลือดกลับลงไป

 

ตอนนี้แหละ

 

หัวหน้าตระกูลหยวนปล่อยฝ่ามือไปที่ร่างกายของโจว เชียงเหมาอย่างต่อเนื่อง

 

ตุบ! ตุบ! ตุบ!

 

ออร่าของโจว เชียงเหมาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างของเขากระเด็นถอยหลังไป

 

เขาพยายามยันพื้นเอาไว้แต่ไม่สำเร็จร่างของเขาถอยหลังไปหลายสิบเมตรก่อนที่เขาจะไม่สามารถกลั้นเลือดเอาไว้ได้อีกต่อไปและกระอักมันออกมา

 

“ลูกพี่ลูกน้องเจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลิน ฟานรีบเดินเข้าไปช่วยพยุงโจว เชียงเหมาขึ้นมา เมื่อเขาเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องของเขากระอักเลือดออกมาเขาก็ปวดใจ เขามองไปที่อีกฝ่าย “เจ้าสารเลว! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องของข้า ข้าจะฆ่าล้างตระกูลเจ้าซะ!”

 

“ลูกพี่ลูกน้อง ข้าสบายดีและข้าก็ยังสามารถสู้ได้อยู่ โกวชิเจ้ารีบพาลูกพี่ลูกน้องของข้ากลับไป ข้าจะเป็นคนหยุดเขาเอาไว้เอง” โจว เชียงเหมาเช็ดเลือดที่มุมปากและมองไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนอย่างดุร้าย

 

ระดับเส้นทางการต่อสู้ของหัวหน้าตระกูลหยวนสูงกว่าของเขา

 

มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหากเขาแพ้

 

แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถแพ้ได้ในตอนนี้เพราะเขาต้องส่งลูกพี่ลูกน้องของเขาให้ออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย

 

“ลูกพี่ลูกน้องไม่ต้องพูดแล้วเดี๋ยวข้าจัดการเอง” หลิน ฟานโกรธมาก แม้ว่าโจว เชียงเหมาจะไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องจริงๆของเขา แต่เขาก็เห็นแล้วว่าลูกพี่ลูกน้องดูแลเขาดีแค่ไหน

 

ถ้าโจว เชียงเหมาไม่ได้เป็นลูกพี่ลูกน้องที่ดีที่สุด แล้วใครล่ะจะเป็นคนนั้น

 

หัวหน้าตระกูลหยวนหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เหอะ ยังเด็กทั้งยังไม่มีการเพาะปลูกแต่ยังกล้าทำตัวหยิ่ง ถ้าเจ้าออกไปภายนอกเจ้าน่าจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายเมื่อไหร่”

 

หยวน เทียนชูซึ่งอยู่ไม่ไกลมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนหน้าของเขา เขากำลังเพลิดเพลินไปกับความโชคร้ายของผู้อื่น

 

“ลูกพี่ลูกน้องท่านกำลังจะไปไหน?” โจว เชียงเหมาตื่นตระหนก

 

หลิน ฟานหันกลับมา “ลูกพี่ลูกน้องข้ากำลังจะไปแก้แค้นให้เจ้า”

 

หลังจากที่เขาพูดแบบนั้นเขาก็เดินตรงไปที่หัวหน้าตระกูลหยวนพร้อมกับสบถไปด้วย

 

“แม่เจ้าเถอะ!”

 

“เข้ามา! ถ้าเจ้ายังมีความกล้าก็เข้ามาสังหารข้าซะ!”

 

ดวงตาของหัวหน้าตระกูลหยวนมีประกายที่เย็นชาออกมา “เจ้าจะได้สิ่งที่เจ้าปรารถนา”

 

หลังจากที่พูดจบเขาก็พุ่งเข้าไปโจมตีหลิน ฟานโดยทันที

 

หลิน ฟานไม่ได้ตกใจและยังคงเดินต่อไป

 

“หืม?” สีหน้าของหัวหน้าตระกูลหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เจ้าเด็กนี่ไม่ได้คิดจะหลบเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขากำลังจะสัมผัสกับหลิน ฟานเขาก็หยุดเสียก่อน

 

มันไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ต้องการจะอัดหลิน ฟานแต่มันเป็นเพราะเขาไม่กล้า

 

หลิน ฟานยืนประจันหน้ากับหัวหน้าตระกูลหยวน “เอาเลยสิ! เจ้าพูดว่าจะสังหารข้าไม่ใช่รึ? แต่ข้าขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่าถ้าข้าเกิดตายขึ้นมาจริงๆ ตระกูลของเจ้าลืมเรื่องการมีชีวิตอยู่ไปได้เลย”

 

“เมื่อรู้ดังนั้นแล้วก็เข้ามา!”

 

ตุบ!

 

หลิน ฟานจับมือของหัวหน้าตระกูลหยวนแล้วนำมันมาตบเข้ากับหน้าอกของเขา “เกิดอะไรขึ้น? สังหารข้าซะสิ! อะไรกันเจ้ากลัวงั้นหรือ? หรือว่าเจ้านั้นไม่มีแม้แต่ความกล้า? เหอะ! เจ้ามันก็แค่คนไร้ประโยชน์ ข้าก็ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วไง ถ้าเจ้ามีความกล้าก็โจมตีข้าซะ!”

 

หัวหน้าตระกูลหยวนตกตะลึงกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของหลิน ฟาน

 

เขาไม่กลัวตายจริงๆงั้นหรือ?

 

“เจ้าเด็กสารเลว เจ้าอย่าบังคับข้า!” หัวหน้าตระกูลหยวนตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง

 

หลิน ฟานก็ตะโกนกลับไปด้วยความโกรธ น้ำลายของเขากระเด็นไปทั่ว “ก็ตอนนี้ข้ากำลังบังคับเจ้า! แล้วเจ้ากำลังรออะไรอยู่อีกรีบเข้ามาโจมตีข้าได้แล้ว อย่าให้ข้าดูถูกเจ้าไปมากกว่านี้”

 

คะแนนความโกรธที่เขาได้รับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ผู้คนที่อยู่รอบๆมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ

 

นายน้อยตระกูลหลินกำลังชี้หน้าด่าหัวหน้าตระกูลหยวนโดยไม่กลัวความตาย

 

หากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเองพวกเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

 

และหัวหน้าตระกูลหยวนก็ไม่กล้าโจมตีดั่งคำที่เขาประกาศเอาไว้ด้วย

 

เมื่อหัวหน้าตระกูลหยวนมองไปที่ระยะไกล เขาก็เห็นว่ามีคนสองคนกำลังยืนสังเกตการณ์อยู่บนอาคารที่ไกลออกไป

 

เหงื่อเย็นปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา

 

ณ บนอาคารที่ไกลออกไป

 

“นายท่าน นายน้อยช่างกล้าหาญจริงๆ” อาวุโสวู่พูด

 

“เจ้าเด็กโง่” หลิน วานยี่ถอนหายใจจากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป “ถ้าเจ้าหยวนกล้าโจมตี ข้าจะเป็นคนสังหารเขาเอง”

 

“นายท่าน ท่านได้คืนสิ่งที่ต้องคืนไปหมดแล้ว ความช่วงเหลือจากตระกูลหยวนและเหลียงท่านก็ได้คืนไปเต็มจำนวน แล้วเหตุใดท่านจะต้องไปแคร์พวกเขาด้วย?” อาวุโสวู่ไม่เข้าใจ

 

“เรื่องนี้เอาไว้พูดทีหลัง ตอนนี้ไปดูเจ้าเด็กคนนี้ก่อน เพราะถ้าสิ่งนี้ยังดำเนินต่อไปตระกูลหยวนคงไม่เหลือหน้าให้ไว้แน่ ๆ เอาล่ะได้เวลาไปทำให้สิ่งต่างๆมันจบลงตรงนี้แล้ว” หลิน วานยี่พูด

 

ในตอนที่หลิน ฟานกำลังตะโกนอย่างดุเดือดใส่หัวหน้าตระกูลหยวน หลิน วานยี่และอาวุโสวู่ก็ได้ปรากฏตัวออกมา

 

“เจ้าสร้างปัญหาพอรึยัง?”

 

บรรยากาศที่เดิมตรึงเครียดได้จางหายไปในทันที

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset