I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 37 การไม่สามารถทำอะไรได้นั้นช่างน่ากลัวจริงๆ

นอกเมือง

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลิน ฟานไม่ได้ทำอะไรเลยและพบว่ามันน่าเบื่ออย่างมาก

 

ดังนั้นเมื่อมีคนที่มีความสามารถในการสร้างสีสันปรากฏตัวออกมา มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะสนับสนุน

 

“ลูกพี่ลูกน้องท่านต้องระวังไว้ บางทีเหตุผลที่เขาพยายามล่อลวงเราออกมานอกเมืองเพราะต้องการจะทำร้ายเราก็เป็นได้” โจว เชียงเหมากระซิบ

 

สายตาของเขาไม่เคยขยับออกห่างจากร่างกายของเฟิง โพหลิว

 

ตราบใดที่มีการเคลื่อนไหวแปลกๆ เขาจะฆ่าชายคนนี้ทันที

 

เมื่อมาถึงพื้นที่ว่างเฟิง โพหลิวก็ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นเองราวกับว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแม้แต่ออร่าของเขาก็ยังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

“ดูให้ดี นี่คือเหตุผลที่ข้าบอกว่าเทคนิคควบคุมแมลงน่ากลัวอย่างแท้จริง”

 

หลังจากที่เขาพูดจบ

 

หวือ!

 

มีระลอกคลื่อนกระจายออกไปเป็นวงกลมโดยมีเฟิง โพหลิวเป็นศูนย์กลาง คลื่นที่แผ่ออกไปเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสามารถสังเกตได้จากหญ้าที่กำลังสั่นไหวเท่านั้น

 

“เป็นกำลังภายในที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้” การแสดงออกของโจว เชียงเหมากลายเป็นเคร่งขรึม

 

หลิน ฟานโบกพัดในมือของเขาจากนั้นก็พยักหน้า “น่าสนใจ”

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

ชู ชู!

 

แครก แครก!

 

มีเสียงเล็กๆดังกระจายออกมาจากป่าที่อยู่ไกลออกไป

 

พื้นดินสั่นสะเทือน

 

ขณะเดียวกันดินใต้ฝ่าเท้าของหลินแฟนก็เริ่มสั่นไหว

 

“นายน้อยดูตรงนั้น…” โกวชิอุทานขณะที่เขามองไปที่ระยะไกลด้วยความไม่เชื่อ

 

ไม่ไกลจากป่ามีหมอกสีดำขนาดใหญ่ปะทุขึ้นมา

 

ไม่ มันไม่ใช่หมอกแต่เป็นแมลงขนาดเล็กจำนวนมาก

 

เสียงกระพือปีกของพวกมันส่งเสียงกระหึ่มเมื่อพวกมันเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ

 

แมลงหลายชนิดที่อาศัยอยู่ใต้ดินค่อยๆคลานขึ้นมาราวกับถูกบางสิ่งชักนำ พวกมันค่อยๆออกมาเพิ่มมากขึ้นจนพื้นดินทั้งหมดถูกย้อมไปด้วยสีดำ

 

“ลูกพี่ลูกน้องระวังด้วย” โจว เชียงเหมากระซิบ

 

ปริมาณของพวกมันมีเยอะเกินไป

 

หากใครไม่สามารถใช้กำลังภายในเพื่อปกป้องร่างกายของตนเองได้ ทะเลแมลงที่อยู่ตรงหน้าก็เพียงพอที่จะกลืนกินทุกสิ่งไป

 

“ลูกพี่ลูกน้องเกิดอะไรขึ้น? ทำไมแมลงเหล่านี้ถึงเชื่อฟังเขา” หลิน ฟานถาม

 

โจว เชียงเหมาส่ายหัวของเขา “ลูกพี่ลูกน้อง ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน มันควรจะเป็นกำลังภายในที่พิเศษที่ชักนำแมลงเหล่านี้”

 

ในตอนนั้น เฟิง โพหลิวก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ทำได้ยังไงงั้นเหรอ? น่ากลัวงั้นเหรอ? สิ่งที่เจ้าเห็นมันเป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง ความน่ากลัวที่แท้จริงของวิชานี้ข้ายังไม่ได้แสดงออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว”

 

“แต่อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถบอกเจ้าได้เลยว่าถ้าข้าแสดงมันออกมา มันจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอดในระยะหลายไมล์”

 

หลิน ฟานปรบมือของเขา “มีฝีมือ มีฝีมือจริงๆ มันยากมากที่จะหาคนที่สามารถควบคุมแมลงได้ถึงระดับนี้”

 

“ฮาฮาฮา” ตอนนี้เฟิง โพหลิวรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายอย่างแท้จริง “น้องชาย ตอนนี้เจ้าน่าจะเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ว่าเจ้าพลาดของดีขนาดไหนไป และข้าจะบอกเจ้าอีกอย่างหนึ่ง”

 

“หากเจ้าสามารถฝึกเทคนิคควบคุมแมลงได้จนถึงระดับสูงสุดของมันและมีกำลังภายในมากพอ เจ้าจะได้พบเจอกับเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านี้อีก และนี่คือสิ่งที่เจ้าจะไม่รู้เว้นแต่เจ้าจะฝึกฝนเทคนิคควบคุมแมลง”

 

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่ข้าจะจากไปและปล่อยให้เจ้าเสียใจกับสิ่งที่ปล่อยให้หลุดมือต่อไปแล้ว”

 

หลังจากที่พูดจบ ร่างกายของเฟิง โพหลิวก็ดูราวกับประกอบไปด้วยแมลงมากมาย ขณะที่ร่างของเขาค่อยๆกระจัดกระจายหายใป แมลงที่ปกคลุมท้องฟ้าและผืนดินก็กระจายหายไปด้วยเช่นกัน

 

เสียงหัวเราะแผ่กระจายไปทั่ว

 

“ที่ข้าได้เปิดเผยตัวเองต่อหน้าเจ้าไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าข้าแข็งแกร่งเพียงใด แต่เพื่อเตือนว่าเจ้าได้พลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

เสียงของเขาค่อยๆจางหายไป

 

ตอนนี้จึงเหลือเพียงหลิน ฟานและพวกของเขาที่ยังอยู่ตรงนี้

 

“ลูกพี่ลูกน้อง เขา?” โจว เชียงเหมาสับสน ทำไมเขาถึงทิ้งเราไว้แบบนี้?

 

หลิน ฟานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “บางทีเขาอาจจะกลัวว่าเราต้องการหนังสือเล่มนั้นคืน แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องการจะแสดงความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้าเรา และแม้ว่ามันจะดูน่ากลัว แต่มันก็แข็งแกร่งกันเขากทำไมเขาถึงทิ้งเราไว้เ”

 

“ลูกพี่ลูกน้องข้าผิดเอง” โจว เชียงเหมารูสึกเศร้า เขาเสียใจเรื่องที่เขาตาถั่วจนทำให้ลูกพี่ลูกน้องต้องเสียเทคนิคลับที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ไป

 

แม้ว่าชายคนนั้นจะแสดงให้เห็นเพียงส่วนหนึ่งของวิชา แต่มันก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเลยว่ามันทรงพลังมากกว่าวิชาทั่วไปมากนัก

 

“จะไปสนใจทำไม? มันก็แค่วิชาที่สามารถควบคุมแมลงได้ แล้วอีกอย่างมันก็น่าขยะแขยงมากด้วย เอาล่ะตอนนี้เรากลับกันดีกว่า” หลิน ฟานตบไหล่ของลูกพี่ลูกน้องและบอกให้เขาไม่ต้องไปสนใจมันมากนัก

 

เพราะถึงยังไงเขาก็จำวิชานี้เอาไว้แล้ว

 

เขารู้สึกว่าเฟิง โพหลิวค่อนข้างแปลก

 

ชายคนนี้มาหาเขาเพื่อแสดงความสามารถของตนเองแล้วจากไป สงสัยเขาคงแค่อยากจะอวดเท่านั้น

 

เขาจะจำเรื่องนี้เอาไว้ และเมื่อพวกเขาได้เจอกันอีกในอนาคต ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็คงจะแน่นแฟ้นมากขึ้นเป็นแน่

 

ณ ประตูเมือง

 

ขบวนรถม้าที่นำโดยผู้คุมกันตระกูลซูค่อยๆเคลื่อนขบวนออกมา

 

ผู้ลี้ภัยที่อยู่รอบๆรีบย้ายตัวเองไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว

 

“หืม ตระกูลซูกำลงจะจากไปแล้วงั้นหรือ?” หลิน ฟานพึมพำ

 

ขบวนรถม้าเคลื่อนผ่านตัวของเขาไปโดยไม่ได้หยุด  แต่ทันใดนั้นก็ได้มีรถม้าคันหนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา

 

ผ้าม่านที่ถูกเปิดออกแสดงให้เห็นว่ามันเป็นซู หลานที่นั่งอยู่ด้านใน “นายน้อยหลิน ถ้าท่านมีโอกาสได้มาที่เมืองหวู่เฉิง ข้าจะพาท่านไปเดินดูรอบๆเอง”

 

“อา นึกว่าใครที่แท้ก็เป็นคุณหนูซูนี่เอง อาการบาดเจ็บของท่านดีขึ้นแล้วใช่ไหม เพราะตอนนี้ท่านสวยกว่าที่เคย” หลิน ฟานยิ้ม “โอ้จริงด้วย! ท่านพบผู้ที่ทำร้ายท่านหรือยัง? ดูเหมือนว่ามันจะหลบเก่งจริงๆ”

 

“ความโกรธ +123”

 

ช่วงเวลาที่เขาพูดถึงคนร้าย ซู หลานก็รู้สึกได้ถึงความโกรธที่อยู่ในท้องของเธอ

 

ข้ายังหามันไม่พบ

 

“ขอบคุณนายน้อยหลินที่เป็นห่วง ข้าจะต้องหาผู้กระทำผิดให้ได้อย่างแน่นอน”

 

อาวุโสซูที่กำลังดึงบังเหียนมองไปที่หลิน ฟานและพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ “นายน้อยหลินสักวันหนึ่งพ่อของท่านก็ต้องจากไป และมีเพียงคนที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ได้ ดังนั้นได้โปรดดูแลตัวเองด้วย”

 

“คุณหนูได้เวลาเดินทางต่อแล้ว ถ้าเราช้ากว่านี้ เกรงว่าเราจะไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้ก่อนค่ำ”

 

“ไปได้!”

 

อาวุโสซูไม่ได้มีทัศนคติที่ดีต่อหลิน ฟานมากนัก

 

คุณหนูเธอทั้งโง่และไร้เดียงสา เพราะแม้ว่าเรื่องต่างๆมันจะชัดเจนอยู่แล้วแต่เธอกลับไม่สังเกตเห็นมัน

 

ส่วนตัวเขานั้นรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเจ้าหนูจากตระกูลหลินที่ทำร้ายคุณหนู

 

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงแสร้งเป็นคนดีต่อหน้าเธอ

 

หากเขาไม่คำนึงถึงอารมณ์ของคุณหนู และบอกเธอถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ชายตรงหน้าเป็นคนที่ทำร้ายเธอ คุณหนูคงจะมุ่งหน้าไปที่ตระกูลหลินและพยายามทำลายมันเป็นแน่

 

แน่นอนว่าหลิน วานยี่คงจะไม่ยอมทนดูอยู่เฉยๆและปล่อยให้เรื่องมันจบลง

 

สุดท้ายแล้วมันก็จะบานปลายกลายเป็นสงครามระหว่างทั้งสองตระกูล

 

หลิน ฟานไม่ได้ตอบกลับเขาเพียงแค่ยิ้มและโบกมือของเขาเท่านั้น

 

“คุณหนูซูท่านต้องเป็นคนดีและได้โปรดอย่ารังแกคนทั่วไป!” เมื่อมองไปที่ขบวนรถที่ค่อยๆห่างออกไป จู่ๆเขาก็ตะโกนขึ้นมา มันแย่มากที่ผู้หญิงคนนี้รังแกคนธรรมดา

 

“เยี่ยม!”

 

หลิน ฟานยิ้ม

 

“ลูกพี่ลูกน้อง เจ้าคิดว่าตระกูลซูมาที่เมืองหยูฉางทำไม?”

 

โจว เชียงเหมาพูด “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”

 

“งั้นก็ช่างเถอะ กลับบ้านกัน”

 

ในขณะนี้ตระกูลหยวนและเหลียงต่างก็อยู่ที่ประตูเมือง หลังจากที่ส่งคุณหนูตระกูลซูออกไปแล้ว การแสดงออกของพวกเขาก็กลายเป็นจริงจัง

 

ก่อนหน้านี้การดูถูกพวกเขาของคุณหนูซูมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย

 

นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขากลัวความแข็งแกร่งของตระกูลซู

 

พวกเขาก็คงจะตบเธอจนตายไปแล้ว

 

เมื่อสมาชิกตระกูลหยวนและเหลียงเห็นหลิน ฟาน ใบหน้าของพวกเขาก็มืดลงทันที

 

ในช่วงที่ผ่านมาเด็กคนนี้สร้างปัญหาให้พวกเขามากมายนัก

 

ในตอนที่พบศัตรูดวงตาของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

 

“ความโกรธ +223”

 

“ความโกรธ + 177”

 

ฟุบ!

 

หลิน ฟานเปิดพัดของเขาการแสดงออกของเขาดูผ่อนคลาย และเมื่อเขาเดินผ่านตระกูลทั้งสองเขาก็ยิ้มออกมา “เป็นการดีที่ทุกท่านโกรธ แต่ความคับข้องใจที่มีมากเกินไปมันจะกลายเป็นผลเสีย”

 

“ช่างเป็นเด็กที่น่ารำคาญอะไรเช่นนี้” หัวหน้าตระกูลหยวนกำลังจะระเบิด

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้

 

ในที่นี้หัวหน้าตระกูลเหลียงเป็นคนที่โกรธมากที่สุด

 

เพราะหมู่บ้านตระกูลจางของเขาถูกตระกูลหลินกลืนลงไป โดยไม่ถามความเห็นของเขาเลยสักคำ

 

ในฝูงชนมีดวงตาหลายคู่มองไปที่หลิน ฟานด้วยความโกรธ

 

ในกลุ่มคนที่มองพวกนั้นเหลียง หยงฉีเป็นคนที่แค้นเขามากที่สุด

 

การจ้องมองของเขามันให้ความรู้สึกราวกับว่าต้องการจะกลืนหลิน ฟานลงไปทั้งตัว

 

ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยทรมานมากขนาดนี้มาก่อน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธมากขนาดนี้ตลอดช่วงเวลา 20ปีที่ผ่านมา

 

หลิน ฟานยิ้มจากนั้นก็เหลือบมองทุกคน

 

“มันช่างน่ากลัวจริงๆที่ไม่สามารถทำอะไรได้”

 

“ความโกรธ +111”

 

“ความโกรธ +123”

 

“ความโกรธ +88”

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset