I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 5 ข้าสามารถแยกโต๊ะได้ด้วยมือของข้า

ห้องโถงตระกูลหลิน

 

“นายน้อย เกิดอะไรขึ้น?” อาวุโสวูเห็นว่านายน้อยของเขาอยู่ดีๆก็หยุด เขาจึงถามด้วยความสงสัย

 

หลิน ฟานส่ายหัว “ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังคิดว่าต้องทำยังไงถึงจะสามารถดับความโกรธของเขาได้”

 

ในใจของอาวุโสวูเต็มไปด้วยความเสียใจ

 

เขาไม่สามารถช่วยนายน้อยได้เลย

 

และถ้าหากว่านายน้อยไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียว

 

ด้วยบุคลิกของหัวหน้าตระกูล เขาคงตบนายน้อยจนตายไปแล้ว

 

“นายท่าน นายน้อยอยู่ที่นี่แล้ว” อาวุโสวูพูดก่อนที่จะถอยออกไปด้านข้าง

 

หลิน วานยี่เอามือไพล่หลัง พร้อมกับหันหลังมาทางเขา

 

ห้องโถงมันเงียบ จนเขาได้ยินเสียงหายใจหนัก

 

“เจ้าขบถ คุกเข่าให้ข้า”

 

นี่เป็นวันที่สามนับตั้งแต่ที่เขากล้าเดินออกจากประตู และยอมรับโลกภายนอก

 

ตอนนี้เขาแค่ยังเด็กเกินไป

 

แล้วเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ต้องการให้เขาคุกเข่าลงทันที

 

มันจะต้องมีเหตุผล

 

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่คุกเข่าแน่

 

“ข้าจะไม่ทำ” หลินฟานตอบ

 

อาวุโสวูที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่ประตู เงยหน้าขึ้นเพื่อมองเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นายน้อยไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อน

 

“ความโกรธ +30”

 

หลิน วานยี่ต้องการซ่อนความโกรธเอาไว้เงียบๆ แต่มันกลับถูกดึงออกมา เขามองหาอะไรสักอย่างในห้องโถง ดูเหมือนว่าตอนนี้เขากำลังจะลงมือทำอะไรบางอย่าง

 

นี่มันไม่ดีแน่ ถึงจะทำแบบนี่ต่อไปมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ยังไงเขาก็ยังเป็นลูกอยู่ การที่พ่อตีลูกมันเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป

 

หลิน ฟานพึมพำกับตัวเอง และนึกถึงประโยคที่เขาอ่านจากนิยายก่อนหน้านี้

 

เขาเห็นมันเมื่อเริ่มอ่าน

 

อ้างอิงจากบทนำของหนังสือ มันเขียนไว้ว่า ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนสำคัญหรือว่าเป็นเพียงคนที่เดินผ่าน หนึ่งอย่างที่เหมือนกันเลยก็คือ พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับผลกระทบจากคำพูดเสมอ

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น

 

เขาก้าวไปข้างหน้าและยืดหลังของเขา ลดหัวและจมอยู่ในอารมณ์ของเขา “ในฐานะผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ ข้าจะแบกสวรรค์และเหยียบโลก ในชีวิตนี้ ข้าจะคุกเข่าบนสวรรค์เพื่อพ่อแม่ของข้าเท่านั้น แต่ชีวิตของข้ามันจะไปมีค่าอะไรถ้าข้าคุกเข่าลงง่ายๆ”

 

ดวงตาของอาวุโสวูสว่างขึ้น มันเป็นเพราะเขาไม่คิดว่าหลิน ฟานจะสามารถพูดคำเหล่านั้นออกมาได้

 

หลิน วายยี่ตกตะลึง และรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

 

หลิน ฟานรู้สึกดีและเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลก ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างไร?

 

ผู้เขียนหนังสือล้วนมีความสามารถ

 

ด้วยเบียร์หนึ่งขวด พวกเขาก็สามารถระเบิดโลกได้แล้ว

 

“โกหก!”

 

หลิน วานยี่ตะโกนอย่างดุเดือด “จากเส้นทางการต่อสู้ทั้งสิบสองระดับ เจ้ายังไม่ได้อยู่ระดับหนึ่งเลยด้วยซ้ำ แล้วเจ้าจะใช้อะไรเพื่อลุกขึ้นและแบกสวรรค์?”

 

“เมื่อข้าอายุเท่าท่าน ข้าสามารถพึ่งพาตนเองเพื่อมีชีวิตอยู่ แล้วท่านล่ะ?”

 

เสียงของเขามันดังกังวานเหมือนระฆัง และเพราะมันดังมากผมของเขาจึงลอยขึ้นไปในอากาศ

 

โอ้พระเจ้า

 

หลิน ฟานในตอนนี้รู้สึกอยากตาย

 

มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวย

 

คำพูดที่กล่าวมานั้นก็น่าอายเช่นกัน

 

เขาพึมพำ

 

“จะใช้สิ่งใดเพื่อยืนขึ้นและแบกสวรรค์งั้นรึ”

 

“ข้าจะใช้หัวและขาของข้าเพื่อยืน”

 

แม้ว่าเสียงของเขามันจะเบา แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถได้ยิน

 

“ความโกรธ +100”

 

“เจ้าพึมพำอะไร?” หลิน วานยี่โกรธมาก เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเขาถึงให้กำเนิดบุตรชายที่อวดดีและขี้เกียจแบบนี้

 

“ไม่ ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย” หลิน ฟานปฏิเสธทันที

 

สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ถูกต้อง

 

หากเขายังพยายามที่จะรับคะแนนความโกรธ สิ่งที่เลวร้ายมากๆอาจจะเกิดขึ้นในวันนี้

 

ดังนั้นเขาจึงต้องใจเย็นๆ

 

เขาไม่สามารถตื่นตระหนกได้

 

และห้ามแสดงออกเกินจริง

 

“นายท่าน ที่นายน้อยพูดแบบนั้นนั่นก็หมายความว่าเขามีความทะเยอทะยาน ทำไมท่านไม่ลองให้เวลากับนายน้อย เมื่อนั้นเขาอาจจะเปลี่ยนแปลง” อาวุโสวูพูด

 

เขาเห็นว่าหลิน ฟานโตขึ้น

 

ปกติ เขาจะเพียงแค่ดู และไม่ทำอะไรเลย

 

อาวุโสวูช่วยพูดให้กับหลิน ฟาน เมื่อเห็นแบบนั้นหลิน วานยี่จึงมองมาที่หลิน ฟาน

 

เขาหายใจเข้าลึกๆ

 

และพยายามระงับความโกรธของเขา

 

แต่เขาก็ยังคงพูดด้วยความโกรธ “เฮอะ ข้าจะให้เวลาเจ้าเจ็ดวันในการฝึกวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตจนกว่าจะถึงพื้นฐาน ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลหลิน และได้ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยตนเองตามที่เจ้ากล่าว”

 

“ได้ งั้นข้าขอตัวก่อน”

 

เขายังคงทำสิ่งที่เขาต้องทำ

 

แม้ว่าพ่อของเขาจะยังดูเด็กมาก แต่ปีนี้ท่านก็อายุ60แล้ว เขาคิดว่ามันคงจะไม่เป็นอะไร ถ้าเขาจะทำตัวอ่อนแอและยอมจำนนเป็นบางครั้ง

 

อย่างไรก็ตามนี่เขาไม่สงสัยเลยหรือว่านิสัยของลูกเขาเปลี่ยนไป?

 

หรือว่าเพื่อนคนก่อนหน้าก็มีนิสัยเหมือนกัน ดังเช่นรูปร่างที่ถอดแบบกันมา?

 

“ความโกรธ +60”

 

ก่อนที่เขาจะจากไปเขาก็ได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นอีกหกสิบคะแนน มันให้ความรู้สึกว่าง่าย และไม่ท้าทายเลย

 

ตอนนี้เขากำลังคิดว่าถ้าเขาพยายามรับความโกรธจากคนหนึ่งมากๆเข้า คนๆนั้นจะกลายเป็นอริของเขาเลยรึเปล่า?

 

เป็นไปไม่ได้

 

มันไม่น่าจะเป็นไปได้

 

มันจะไปมีพ่อที่ไหนที่เกลียดลูกชายตัวเองมากจนถึงขั้นอยากจะฆ่ากันล่ะ?

 

ยิ่งเป็นตัวเขาที่เดิมทีก็ไร้ประโยชน์อยู่แล้วด้วย

 

และมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาค่อนข้างนานแล้ว ดังนั้นความกดดันที่เขาได้รับมันจึงอยู่ในระดับสูง

 

“นายท่าน พวกเรารู้ถึงบุคลิกของนายน้อยดีอยู่แล้ว และมันก็เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนทันที ดังนั้นเราจึงต้องให้เวลากับเขา” อาวุโสวูกล่าว

 

เขาเป็นคนที่เกิดในตระกูลหลิน และเป็นหนึ่งในคนที่ให้ความสำคัญกับหลิน ฟานมาก

 

หลิน วานยี่แสดงออกอย่างเคร่งขรึม และถอนหายใจ “เรามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ขีดจำกัด20ปีของชายแดนเมืองหยูฉางกำลังจะสิ้นสุดลง และเราก็อยู่แนวหน้า เขาไม่มีกำลังแม้แต่จะปกป้องตนเอง เจ้าจะไม่ให้ข้าเป็นห่วงได้ยังไง”

 

อาวุโสวูไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

 

ทุกๆยี่สิบปีมันเหมือนกับว่ามีมีดมาจอที่คอของเขา

 

หลิน วานยี่โบกมือ และเดินไปที่ด้านหลังห้องโถง

 

จากท่าทางของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาต้องการอยู่คนเดียว

 

ตระกูลหยวน

 

“ท่านพ่อ วันนี้ท่านดูดีมากหลังจากที่ท่านกลับมาจากตระกูลหลิน มันเกิดอะไรขึ้น?” วัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

หยวน เทียนชู เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลหยวน และเป็นคนที่แก่ที่สุดเป็นอันดับสอง

 

ตระกูลหยวนนั้นมีบุตรอยู่มากมาย

 

แม้แต่หัวหน้าตระกูลก็อาจจะจำไม่ได้ว่ามีเด็กกี่คน

 

“เทียนชู ข้าได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนายน้อยตระกูลหลิน ถ้าตามข่าวลือที่ได้ยินมาตระกูลหลินน่าจะล้มสลายอย่างแน่นอนภายในสามปี”

 

“ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลิน วานยี่นั้นแข็งแกร่ง แต่ลูกชายของเขาช่างอ่อนแอจริงๆ”

 

เขายังถูกเจ้าเด็กเหลือขอนั้นตำหนิที่ตระกูลหลินอีก

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเขากังวลเรื่องหลิน วานนี่ เขาคงให้บทเรียนกับเจ้าเด็กนั้นไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามทุกอย่างมันจะออกมาดี

 

เราแค่ต้องดูว่ามันจะกระโดดออกมาจากที่นั่นเมื่อไหร่

 

หยวน เทียนชูยิ้ม “ท่านพ่อ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหลินฟานชวนขอทานจำนวนมากเข้าไปกินอาหารที่ศาลาเสาวธารเมามาย และได้มีความขัดแย้งกับนายน้อยสามของตระกูลเหลียง เจ้านั่นเป็นแค่ขยะแท้ๆ แต่กลับกล้าไปท้าทายเหลียง หยงฉี”

 

“ตอนนี้ข้ากำลังคิดอยู่ว่าทำไมเขาถึงไม่โจมตีและฆ่ามันซะ”

 

หัวหน้าตระกูลหยวนยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

“ยังไงเขาก็เป็นเพียงแค่คนโง่ที่จะนำตระกูลหลินไปถึงจุดจบ ไม่ต้องกังวล เพียงแค่รออีกไม่กี่ปีเท่านั้น”

 

ลานบ้านตระกูลหลิน

 

หลิน ฟานตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง พลางคิดไปว่าชีวิตของเขานี้ช่างแสนสบายจริงๆ

 

แม้ว่าเขาจะทำแบบนั้นกับพ่ออีกครั้งมันก็คุ้มค่า

 

“ช่างน่าเสียดายเหลือเกินที่ความคาดหวังของเขาต่อข้ามันน้อยเกินไป ถ้าเขาคาดหวังไว้สูงกว่านี้ ข้าก็อาจจะได้คะแนนความโกรธมามากกว่านี้แล้วก็ได้”

 

หลิน ฟานส่ายหัวด้วยความเสียดาย

 

ในขณะที่เขาเพลิดเพลินไปกับชีวิต เขายังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองได้ ทำไมเขาจะไม่ทำแบบนั้นละ

 

ระบบสนับสนุนขนาดเล็กนี้สร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

 

ตอนนี้เขากำลังดูรายละเอียดข้างใน

 

เขาคิดอย่างลึกซึ่ง

 

เขาควรจะเพิ่มสถานะของเขาแบบนี้ต่อไป หรือว่าควรจะแบ่งมันไปเพิ่มวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตดี?

 

“ช่างมันเถอะ ข้าจะเรียนรู้วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต ยังไงมันก็เป็นของข้าอยู่แล้ว”

 

“ข้าเป็นคนที่ต้องรักษาหน้า แต่เนื่องจากท่านพูดแบบนั้นกับข้า มันทำให้ข้าเสียหน้า”

 

“แล้วท่านจะรู้สึกยังไง ถ้าท่านรู้ว่าข้าเรียนรู้มันภายในไม่กี่ลมหายใจ?”

 

เขาใช้คะแนนของเขา

 

วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (พื้นฐาน)

 

ความโกรธที่เดิมมีอยู่200 ถูกเขาใช้จนลดลงเหลืออยู่แค่5

 

ทันใดนั้น ร่างกายของหลิน ฟานก็ส่ายราวกับว่ามีพลังลึกลับทะยานเข้าสู่ร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีความทรงจำบางอย่างถูกประทับเข้าไปในส่วนลึกของสมองของเขา

 

มันให้ความรู้สึกราวกับว่าความทรงจำของวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตอยู่ในร่างกายของเขามาหลายปีแล้ว

 

เขายกมือขึ้น

 

นิ้ว ข้อมือ แขน เขาพบว่ามันคุ้นเคย

 

หลิน ฟานกระโดดขึ้นจากเตียงของเขา

 

และตะโกนออกมา

 

“เขี้ยวพยัคฆ์”

 

เขาฟันลงไปอย่างรุนแรง

 

ความเย็นยะเยือกมันแพร่กระจายออกมา

 

ปัง!

 

โต๊ะไม้ถูกแบ่งออกเป็นหลายชิ้น เศษของมันกระจายไปทั่วพื้น แม้แต่อิฐที่กำลังรองขาโต๊ะทั้งสี่ก็ยุบลงไป

 

“อ๊าก ทำไมมันถึงเจ็บแบบนี้”

 

หลิน ฟานลูบมือขวาของเขา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และเกือบมีน้ำตาไหลออกมา

 

“มันบวม มันบวมแล้ว”

 

หากว่ามีคนผ่านมาเห็น พวกเขาคงจะคิดว่ามันต้องเป็นคนงี่เง่าขนาดไหนกันที่จะทำแบบนี้ได้

 

เขานั้นยังไม่มีเทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ กำลังภายในก็ยังไม่มี

 

ส่วนร่างกายของเขาก็ยังอ่อนแอเช่นกัน

 

แต่มันจะต้องกล้าขนาดไหนกันถึงจะใช้มือเพื่อออกวิชาดาบและนำมันไปตัดโต๊ะ

 

ความกล้าหาญเช่นนี้ไม่มีคนธรรมดาคนไหนกล้าทำแน่

 

“การเพาะปลูกเชี่ยๆ ทำไมไม่เห็นมีใครบอกเลยว่ามันจะเจ็บอย่างนี้ การเพิ่มสถานะด้วยแต้มมันดีกว่าจริงๆ”

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset