I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 56 สุดท้ายแล้วเจ้าก็เป็นคนแบบนี้

เหลียง หยงฉีไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหัวหน้าตระกูลหยวนจะมาปรากฏตัวที่นี่

 

กลางดึกแบบนี้แทนที่หัวหน้าตระกูลหยวนจะไปสนุกกับสาวใช้ของเขา แต่เขากลับมายืนเฝ้าอยู่ที่ประตูเมือง นั่นทำให้เขาไม่ทันระวังตัว

 

ทำยังไงดี?

 

ข้าควรจะทำยังไงดี?

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ทำแบบนี้ เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าหัวหน้าตระกูลหยวนจะมาดักรอเขาอยู่ที่นี่

 

ไม่ดีแล้ว

 

จู่ๆเขาก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

 

เจ้าคนสกุลหลินจะต้องรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาจึงขุดหลุมเพื่อให้ข้ากระโดดลงไป

 

เพียงไม่นานความคิดของเหลียง หยงฉีก็กลายเป็นยุ่งเหยิง

 

เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่ตนทำลงไป

 

ทำไมข้าต้องโลภและคิดจะเสี่ยงย้ายข้าวออกไปด้วยกัน? มันมีอะไรผิดปกติกับสมองของข้ารึเปล่า?

 

ไม่สิ!

 

เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับข้า แต่เป็นเจ้าทหารยามที่อยู่ข้างข้าต่างหากที่เป็นตัวต้นเหตุ! เขาทำให้ข้าสับสนดังนั้นมันจึงไม่ใช่ความผิดของข้า

 

“หยวน…ท่านหัวหน้าตระกูลหยวน ท่านมาทำอะไรที่นี่?” เหลียง หยงฉีพยายามจะสงบสติอารมณ์แต่ก็ทำไม่ได้ แขนและขาของเขาสั่นไปหมด

 

หัวหน้าตระกูลหยวนหรี่ตาและมองไปทางเหลียง หยงฉี “ยุ้งฉางของตระกูลข้าถูกปล้น มันมีตรงไหนที่ผิดปกติกันหากข้ามาตรวจสอบรถม้าที่เข้าออกที่นี่?”

 

“ไม่มี ไม่มีแน่นอน ท่านหัวหน้าตระกูลหยวนท่านสามารถดำเนินการตรวจสอบของท่านต่อไปได้เลย ส่วนข้าก็ขอลา” เหลียง หยงฉีต้องการจะหนีไปจากที่นี่

 

“ทำไมเจ้าถึงเร่งรีบเช่นนั้นเล่า?” หัวหน้าตระกูลหยวนขวางทางหนีของเขา “ข้ากำลังสงสัยว่าดึกขนาดนี้ทำไมเจ้าไม่นอนอยู่บ้าน แต่กลับมาขนของกับทหารยาม ตอบข้าได้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังขนอะไรอยู่?”

 

เหลียง หยงฉีกลืนน้ำลายและยิ้ม “มะ ไม่มีอะไรที่น่าสงสัยหรอกท่านมันก็แค่ของธรรมดาๆเท่านั้น”

 

ฟุบ!

 

หัวหน้าตระกูลหยวนแทงนิ้วของเขาเข้าไปในกระสอบผ้า ทันใดนั้นเองเหล่าเมล็ดข้าวก็ได้ไหลออกมาจากรูที่แทงเข้าไปทันที

 

“จบสิ้นแล้ว”

 

ร่างของเหลียง หยงฉีสั่นสะท้านราวกับว่าความลับในส่วนที่ลึกที่สุดของเขาถูกผู้อื่นค้นพบ

 

“ฮ่าฮ่า” ใบหน้าของหัวหน้าตระกูลหยวนค่อยๆมืดลง “เจ้าหลานชาย นี่คือของธรรมดาๆที่เจ้ากล่าวถึงรึไม่?”

 

“นี่…” หน้าของเหลียง หยงฉีซีดลงและไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไรออกไปดี

 

หัวหน้าตระกูลหยวนก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้าวขึ้นมาหนึ่งกำมือจากนั้นก็บีบมันแน่น ต่อมาเขาก็คลายมือของเขาทำให้ข้าวที่อยู่ข้างในไหลออกมา “ข้าวพวกนี้มันเป็นของตระกูลหยวนใช่ไหม? ที่เจ้าอยากจะย้ายมันออกไปก็เพราะกลัวว่าข้าพบมันใช่หรือไม่?”

 

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นฝีมือของตระกูลเหลียงจริงๆที่ขโมยข้าวของเขาไป

 

ในตอนกลางวัน เขาจำทุกอย่างที่หลิน ฟานพูดกับเขาได้แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เก็บมันมาคิดให้มากความ

 

เขาคิดว่าถ้าหากตระกูลหลินต้องการจะหว่านความไม่ลงรอยให้กับทั้งสองตระกูลเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ดั่งชาวประมง เขาก็จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น

 

หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้วเขาก็ส่งคนออกไปตรวจสอบทั้งสองตระกูล

 

แต่ใครจะไปคิดละว่าสิ่งที่หลิน ฟานพูดจะเป็นความจริง

 

หากมันเป็นแค่การใส่ร้ายตระกูลเหลียงทั้งหมดมันก็สามารถเปิดโปงได้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ตระกูลเหลียงคงจะเป็นคนขโมยมันไปจริงๆ มิฉะนั้นพวกเขาจะมาขนข้าวในเวลากลางคืนแบบนี้ทำไม

 

“ท่านหัวหน้าตระกูลหยวนมันจะต้องมีใครบางคนพยายามใส่ร้ายข้าแน่ๆ” เหลียง หยงฉีตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนก “มันเป็นเขา! มันต้องเป็นเขาแน่ๆ! ใช่แล้ว! หลิน ฟานมันกำลังใส่ร้ายข้า มันกำลังใส่ร้ายข้า!”

 

หัวหน้าตระกูลหยวนไม่อยากจะพูดเรื่องไร้สาระไปมากกว่านี้ “ไปแจ้งเรื่องนี้ให้หัวหน้าตระกูลเหลียงทราบ และบอกให้เขามาที่ยุ้งฉางเพื่อให้คำอธิบายแก่ตระกูลหยวน”

 

“ขอรับ” ทหารยามตอบ

 

เมื่อเหลียง หยงฉีได้ยินเช่นนั้นเขาก็อยากจะสำลักออกมาทันที เขามองไปทางทหารยามและพบว่าทหารยามอัจฉริยะของเขามีเหงื่อเย็นไหลออกมาราวกำลังคิดว่ามีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้น

 

ดูเหมือนว่าเมืองหยูฉางที่เงียบสงบจะมีรอยร้าวเกิดขึ้นเสียแล้ว

 

รุ่งอรุณได้มาเยือน

 

หลิน ฟานหาวและบิดตัวขณะลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน

 

“โกวชิ เจ้าอยู่ไหน?” หลิน ฟานตะโกนออกไปข้างนอก

 

โกวชิเดินเข้ามาในห้องของเขาพร้อมกับอ่างล้างหน้า

 

หลิน ฟานล้างหน้าและถามออกไปอย่างสบายๆ “เมื่อคืนมีอะไรเกิดขึ้นในเมืองหยูฉางรึเปล่า?”

 

นี่เป็นเวลาที่เราจะได้รู้กันว่าหัวหน้าตระกูลหยวนมีสมองรึไม่

 

ถ้าเขาไม่เข้าใจจริงๆเราก็คงพูดได้แค่ว่าเขาสมควรถูกปล้นแล้ว เพราะข้าอุตส่าห์ทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้ ถ้าเขายังไม่เข้าใจอีกป่านนี้ข้าวพวกนั้นคงจะหายไปแล้วจริงๆแล้วก็เป็นได้

 

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันขอรับนายน้อย” โกวชิส่ายหัว เขาไม่ได้ออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลินดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามีเกิดอะไรขึ้นข้างนอก

 

หลิน ฟานส่ายหัว “ข้าไม่รู้เลยว่าลูกพี่ลูกน้องของข้าจะกลับมาเมื่อไหร่”

 

เขาคิดถึงลูกพี่ลูกน้องของเขามาก

 

เขาหายไปได้สองวันแล้ว

 

“นายน้อยที่ที่อาจารย์ไปมันถูกเรียกว่าแม่น้ำเว่ยเหอ หากดูจากเวลาตอนนี้เขาก็น่าจะเกือบถึงจุดหมายแล้ว ถ้าเราบวกเวลากลับของเขาเข้ากับเวลาในการจัดการกับธุระมันก็น่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ4-5วัน” โกวชิกล่าว

 

ถ้าทุกอย่างราบรื่นเวลา 4-5วันก็น่าจะเพียงพอ

 

“แม่น้ำเว่ยเหอ” หลิน ฟานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกได้เลยว่าแม้ว่าเมืองหยูฉางจะเป็นเพียงสถานที่เล็กๆที่เงียบสงบและเป็นเมืองที่อยู่ชายขอบ แต่มันกลับซ่อนความลับต่างๆเอาไว้มากมาย

 

นี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขาเท่านั้น

 

เมืองหยูฉางมีตระกูลขุนนางทั้งหมดสามตระกูล

 

เหลียง หยวน และหลินทั้งสามต่างก็เป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลหลินของเขา เพราะความแข็งแกร่งของพ่อเขานั้นมันมากเสียจนอีกสองตระกูลต่างก็หวาดกลัว

 

เมื่อดูสถานกาณ์ข้างต้นแล้วมันก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่างไรก็ตามสำหรับหลิน ฟานแล้วที่นี่มันจะต้องซุกซ่อนปัญหาที่ใหญ่มากและมันก็ไม่ง่ายอย่างที่ตาเห็นอย่างแน่นอน

 

แต่อยู่ๆหัวของเขาก็เจ็บบางทีมันคงจะเกิดจากการที่เขาคิดมากเกินไป เขาจึงหยุดคาดเดาต่อไปทันที

 

“นี่มันเชี่ยอะไรวะเนี่ย!!”

 

หลิน ฟานตกตะลึง เขาเพียงแค่หลับไปคืนเดียวแต่คะแนนความโกรธในระบบสนับสนุนขนาดเล็กเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ได้ยังไง?

 

คะแนนความโกรธ : 4,716

 

มันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

หรือมันจะเป็นเหลียง หยงฉีที่ถูกทุบตีอย่างหนัก จากนั้นก็ส่งคะแนนความโกรธมาให้กับเขา?

 

เขาเดินมาที่ห้องโถงแต่กลับไม่พบหลิน วานยี่ เขาจึงถามทหารยามที่อยู่แถวนั้นทันที “พ่อของข้าอยู่ไหน?”

 

“เรียนนายน้อย ท่านหัวหน้าตระกูลออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว ข้าได้ยินมาว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่ตระกูลเหลียง ดังนั้นข้าจึงคิดว่าท่านหัวหน้าตระกูลน่าจะไปที่นั่น” ทหารยามกล่าว

 

ทหารยามอย่างเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

หลิน ฟานรู้สึกมีความสุขมากเพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาคาดหวังไว้มันจะเกิดขึ้นจริงๆ หัวหน้าตระกูลหยวนค่อนข้างฉลาดและไม่ได้มองข้ามการวิเคราะห์ของเขาเมื่อวานนี้

 

“โกวชิเราไปที่ตระกูลเหลียงกันเถอะ”

 

เขาไม่ได้กินข้าวเช้าและรีบตรงไปยังตระกูลเหลียงโดยทันที เหตุการณ์ที่น่าสนใจเช่นนี้มันจะขาดเขาไปได้ยังไง?

 

ณ ห้องโถงตระกูลเหลียง

 

เหลียง หยงฉีกำลังคุกเข่าอยู่ตรงนั้นพร้อมกับใบหน้าที่บาดเจ็บซึ่งเขาได้รับมันมาเมื่อคืน

 

ในขณะนี้เหลียง หยงฉีรู้สึกผิดอย่างมาก มันมีน้ำตาอยู่ที่มุมตาของเขา

 

“ท่านพ่อ ข้าถูกใส่ร้าย! ข้าไม่ได้เป็นคนขโมยข้าวของตระกูลหยวน!” เหลียง หยงฉีคร่ำครวญจากนั้นก็มองไปทางทหารยามทั้งหก “ถ้าท่านไม่เชื่อข้าท่านก็สามารถถามพวกเขาได้! ข้าไม่ได้เป็นคนขโมยข้าวไปจริงๆ!”

 

ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าเขาเป็นสุนัข เขาอึดอัดและไม่สามารถพูดในสิ่งที่เขาต้องการได้

 

ส่วนทหารยามที่เหลียง หยงฉีคิดว่าเป็นอัจฉริยะนั้นตอนนี้เขากลับก้มหน้าลงและไม่พูดอะไรด้วยร่างที่สั่นเทา

 

เขาไม่สามารถพูดได้ว่านายน้อยไม่ได้เป็นคนขโมยข้าวไป นับประสาอะไรกับเรื่องที่เขาบอกให้นายน้อยขนข้าวออกนอกเมืองไป มิฉะนั้นเขาจะกลายเป็นผู้ร้ายหลักที่ทำให้นายน้อยสับสน และเพื่อแก้ปัญหาให้เรื่องนี้จบลงเขาจะต้องกลายเป็นแพะรับบาบอย่างแน่นอน

 

ใครมันจะไม่อยากรอดบ้าง?

 

อย่างน้องก็เขาคนหนึ่งนี่แหละที่อยากจะมีชีวิตรอด

 

“หุบปาก!” หัวหน้าตระกูลเหลียงตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “พี่หยวนเรื่องนี้ข้าไม่ได้รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเจ้าลูกไม่เอาไหนของข้าที่เป็นคนทำทุกอย่างด้วยตนเอง และข้าจะให้คำอธิบายแก่ท่านอย่างแน่นอน”

 

หัวหน้าตระกูลหยวนผิดหวังกับลูกชายคนที่สามของเขามาก

 

เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

 

ถ้าเขาต้องการจะขโมยเขาก็ควรจะทำให้มันเนียนกว่านี้และอย่าให้ถูกจับได้ แต่ดูเขาตอนนี้สิเขาถูกจับได้พร้อมกับหลักฐาน แล้วแบบนี้ข้าจะไปทำอะไรได้อีก?

 

ถ้าเขาถูกจับได้ตอนที่ข้าวมันยังอยู่ในยุ้งฉาง เขาก็ยังสามารถพูดได้ว่ามีคนพยายามใส่ร้ายพวกเขาเพื่อหว่านความไม่ลงรอยให้กับทั้งสองตระกูล

 

แต่อย่างไรก็ตามเขากลับนำทหารยามมาหกคนเพื่อเคลื่อนย้ายข้าวพวกนั้นออกไปด้วยรถม้าหกคัน  แบบนี้แล้วเขายังมีสมองอยู่หรือไม่?

 

“นายน้อยสามข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนแบบนี้”

 

ในตอนนั้นเองหลิน ฟานก็ได้เดินเข้ามา

 

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า

 

การแสดงได้เริ่มขึ้นแล้ว

 

และเขาก็กำลังจะได้รับคะแนนความโกรธจำนวนมาก

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset