I Don’t Want To Defy The Heavens DTH ตอนที่ 70 หากิจกรรมที่สามารถทําคนเดียวได้
อาวุโสบู่เฝ้าดูอยู่ในความมืด เขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็หยุดไม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจต่อการกระทําของนายน้อยแต่ปีศาจหยินตนนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ
เขากลับไปรายงานเรื่องนี้แก่ท่านหัวหน้าตระกูล
ณ ห้องนั่งเล่น
“นายท่าน วันนี้นายน้อยไม่ได้ออกไปไหนแต่กําลังศึกษาปีศาจหยินอยู่ที่ลานด้านหลัง เขาทําการถอนฟันของมันออกมาและต้องการทอดมันด้วยน้ํามันเดือด”
“เฮ้อ ปีศาจหยินตนนี้ช่างโชคร้ายนักที่ต้องมาเจอกับนายน้อย”
อาวุโสบู่ถอนหายใจ การดํารงอยู่ของปีศาจหยินในความมืดนั้นน่าสะพรึงกลัวแต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีบางคนที่รู้สึกหวาดกลัวเพียงเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ของมัน
แต่สําหรับนายน้อยแล้วเขาไม่สนใจเรื่องพวกนั้นเลยสักนิด
เขาทําการศึกษาปีศาจหยินกลางวันแสกๆโดยไม่ได้ให้ความสําคัญกับศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
หลิน วานยี่ไม่เข้าใจเลยว่าปีศาจหยินมันมีอะไรน่าสนุกนัก
ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงละก็ว่าไปอย่าง
หากลูกชายของเขาแต่งงานและรีบให้กําเนิดลูก เขาก็คงไม่จําเป็นต้องฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่หลิน ฟานและปล่อยให้เขาทําตามใจต้องการในขณะที่ส่วนตัวเขานั้นก็จะฝึกหลานชายของเขาต่อไป
อย่างไรก็ตามเจ้าเด็กไม่เอาไหนกลับไม่ได้ให้โอกาสเขาเลย
แล้วแบบนี้เขาจะทําอะไรได้
“เป็นเรื่องดีแล้วที่เขาไม่ได้ออกไปข้างนอก อย่างน้อยเขาก็ไม่ก่อปัญหาให้ข้าตามล้างตามเช็ด” หลินวานยกล่าวจากนั้นก็ถามว่า“เจ้าคิดว่าบุตรสาวของตระกูลใดดี? ข้าต้องการวางแผนสําหรับการแต่งงานของเด็กคนนี้เสียหน่อย”
อาวุโสว่ครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน “นายท่านถ้าเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลหลีที่อยู่ในเมืองหลงละเป็นไง?”
“ข้าได้ยินมาว่าหน้าตาของนางค่อนข้างดูดีส่วนด้านการต่อสู้ก็ค่อนข้างดีเช่นกัน นอกจากนี้เธอก็ยังไม่มีนิสัยเสียแต่อารมณ์ของเธอค่อนข้างก้าวร้าวด้วยเหตุนี้หากนางได้แต่งงานกับนายน้อยนางอาจจะกําราบเขาได้”
เมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอาวุโสบู่จึงสนใจมากเขานั้นเฝ้าดูนายน้อยเติบโตมาตั้งแต่เด็กและปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกชายของเขาเอง
ตัวอาวุโสบู่อายุไม่น้อยแล้วแต่เขาก็ไม่มีคนรักหรือทายาทแม้แต่คนเดียวเขาใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาอุทิศตนเพื่อรับใช้ตระกูลหลินดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการนําปัจจัยภายนอกเข้ามาในชีวิตของเขานอกจากเรื่องในตระกูล
“อืม! บุตรสาวคนโตของตระกูลหลี่ หลี่ จือเซียว” ไม่เลวเด็กน้อยคนนี้ค่อนข้างฉลาด” หลิน วานยี่พอใจมาก เขาค่อนข้างจริงจังกับการเลือกลูกสะใภ้ของเขา
ขณะเดียวกันหลินฟานก็กําลังฝึกปีศาจหยินอยู่ในลานด้านหลัง
มันโกรธมากจนให้คะแนนความโกรธแก่เขามามากมาย
กระทะน้ํามันที่กําลังเดือดเป็นอันตรายอย่างยิ่งสําหรับปีศาจหยิน
หลิน ฟานตบกันของปีศาจหยินด้วยตะหลิวแรงจนทิ้งรอยแดงเอาไว้
ปีศาจหยินมันไม่มีความรู้สึกที่เรียกว่าความอับอาย แต่ชายคนนี้ทําให้มันรู้จักกับความรู้สึกนี้ผ่านการบังคับ
ตลอดทั้งบ่ายปิศาจหยินได้ให้คะแนนความโกรธแก่หลิน ฟานมากกว่า1,000 คะแนน
ทั้งหมดนี้ค่อยๆลดลงอย่างช้าๆเพราะดูเหมือนว่าความโกรธของปีศาจหยินจะมาถึงจุดสูงสุดแล้ว มันกลายเป็นไม่ค่อยเสถียรและถูกจํากัดเอาไว้ด้วยจํานวนที่ต่ํามาก
ตั้งแต่หลายสิบจนถึงร้อยกว่าๆสลับกันไป
หากนับจากเวลาแล้วเขาก็เล่นกับปีศาจหยินมาค่อนข้างนานแต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน
มันเพิ่มน้อยเกินไปไม่พอเลยสักนิด
“เอาเจ้านี่มาด้วยเราจะออกไปข้างนอกกัน”
เขาไม่อยากอยู่บ้านเพราะเขาเชื่อว่าเขาจะได้มากกว่านี้หากออกไปข้างนอก ส่วนปีศาจหยินก็ดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกับการเยาะเย้ยของเขาและไม่ได้ให้คะแนนแก่เขามากนัก
“นายน้อยแล้วเราจะทําอย่างไรกับน้ํามัน?” โกวชิถาม
หลิน ฟานตอบกลับแบบสบายๆ “ปล่อยมันไว้ที่นี่เราจะทอดมันเมื่อเรากลับมา”
ความโกรธ +88
ดูสิ่งที่ได้ในตอนนี้สิแค่88คะแนนมันจะไปพออะไร
มันทําให้เขารู้สึกผิดหวังจริงๆ
เขาดันหลงคิดไปว่าจะสามารถพุ่งทยานขึ้นสวรรค์ได้ในการกระโดดเพียงครั้งเดียว แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เขานํากลับมามันเป็นเพียงแค่ ขยะเท่านั้น
ขณะที่เดินอยู่บนถนนปีศาจหยินที่เขานํามาด้วยได้กระตุ้นความสนใจของชาวเมืองจํานวนมาก เหตุเพราะมันไม่มีใครเคยเห็นสิ่งมีชีวิตนี้มาก่อนมันจึงทําให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็น
ในตอนที่เขากําลังจะเดินผ่านศาลาเสาวธารเมามาย
เขาก็มองออกไปโดยสัญชาตญาณและสังเกตเห็นมีคนคุ้นเคยอยู่ในนั้นเมื่อมองดูดีๆแล้วเขาก็พบว่าชายคนนั้นคือนายน้อยสองของ ตระกูลหยวนหยวนเทียนชูไม่ใช่หรือ?
ทั้งๆที่เขาเป็นมนุษย์แต่กลับดูหมือนสุนัข (ล้อเลียน)
ระหว่างพวกเขามีความเกลียดชังต่อกันเล็กน้อย แต่เขาไม่เคยพบโอกาสที่จะได้รังควานอีกฝ่ายเลย ตอนนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้วและมันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่ปล่อยมันไป
อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องยอมรับว่าพวกชนชั้นสูงนั้นดูดีทุกคน
แต่เมื่อคิดดูแล้วมันก็สมเหตุสมผล
ผู้หญิงที่แต่งงานกับตระกูลชนชั้นสูงจะน่าเกลียดได้อย่างไร? ถ้าพวกเธอน่าเกลียดพวกเธอคงไม่ได้แม้แต่จะก้าวเข้าประตู
“นายน้อยหลิน ท่านมาแล้ว เชิญเข้ามานั่งก่อน” ผู้จัดการให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นปีศาจหยินความหนาวเย็นก็ได้แล่นไปทั่วร่างของเขา
ภายในร้านหยวน เทียนชูกําลังดื่มไวน์และรับประทานอาหารพร้อมกับคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งไปด้วย เมื่อดูจากการแต่งกายของเขาแล้วก็จะพบว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
ทันใดนั้นหลินฟานก็เข้ามาในสายตาสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะแสร้งทําเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนที่นั่งดื่มกับหยวน เทียนชูสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลของนายน้อยหยวนเขาจึงหันหน้าไปถามเบาๆสองสามคําก่อนที่จะได้คําตอบจากหยวนเทียนชู
ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลิน ฟานสองสามครั้ง
นี่คือนายน้อยตระกูลหลินแห่งเมืองหยูฉาง
หลิน ฟานที่รู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาเขาจึงหันกลับไปยิ้มให้อย่างสุภาพ
ราวกับเขาจะสื่อว่าเจ้าดูไม่คุ้นหน้า
เขาเลือกที่นั่งถัดจากหยวน เทียนชูตรงที่โต๊ะของพวกเขาติดกันเขาบอกให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาวางปีศาจหยินเอาไว้ทางซ้ายโดยให้มันมองไปทางโต๊ะของหยวนเทียน
“นายน้อยหลิน ท่านจะรับอะไรดีขอรับ?” ผู้จัดการถามอย่างอบ
อุ่น
“อะไรก็ได้” หลิน ฟานกล่าว
ผู้จัดการยิ้ม “เข้าใจแล้วขอรับ ได้โปรดรอสักครู่”
หลิน ฟานนั่งอยู่เฉยๆโดยไม่ได้พูดอะไรกับหยวน เทียนชู
โจว เชียงเหมาพร้อมที่สู้ ตามนิสัยของลูกพี่ลูกน้องแล้วการต่อสู้อาจจะระเบิดขึ้นเร็วๆนี้
หยวน เทียนชูไม่รู้ว่าชายคนนี้วางแผนจะทําอะไร แต่เมื่อเห็นว่าหลินฟานไม่ได้ยั่วโมโหเขา เขาก็คร้านจะใส่ใจ
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ราวกับมีสายตาคู่หนึ่งคอยจับตาดูเขาอยู่เสมอทําให้เขาอึดอัดเขาจึงชําเลืองมองและไปสบตาเข้ากับปีศาจหยิน
สายตาของปีศาจหยินน่าอึดอัดมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกหลิน ฟานมรมานจนเกือบพังทลายดวงตามันเต็มไปด้วยความโกรธและความเศร้าหมองไม่มี นสุด
หยวน เทียนชูหันหน้ากลับมาและกินอาหารของเขาต่อไป
“ความโกรธ +88
เห็นได้ชัดเลยมามันมาจากหยวน เทียนชู
วิธีที่เขาใช้แย่พอควร
เพราะในขณะที่อีกฝ่ายกําลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเขาก็ทําการวางคนที่ไม่มีแขนขาทั้งสี่ตรงข้ามกับพวกเขา มีเพียงขาที่งที่กําลังห้อยอยู่กลางอากาศเมื่อเห็นแบบนี้แล้วใครมันจะไป กินต่อได้
หยวน เทียนชุยกแก้วขึ้นเพื่อต้องการดื่มกับคนที่เขาพามาด้วยแต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นภาพติดตาบางอย่างเขาจึงหันไปมองอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นขาที่สามของปีศาจหยินที่กําลังตั้งขึ้น
อีก!
หยวน เทียนชูรู้สึกมวนท้องและอยากจะอาเจียนออกมาแต่เขาก็หยุดตัวเองไว้ได้ทัน
“นายน้อยหยวนเจ้ากําลังท้องงั้นหรือ?” หลิน ฟานกล่าวออกมาหลังจากนั้นไม่นาน
พรวด!
ชายที่นั่งตรงข้ามกับหยวน เทียนชูพ่นไวน์ออกมาคําหนึ่ง
เขาไม่คิดเลยว่านายน้อยหลินจะเป็นคนที่มีอารมณ์ขันแบบนี้
“ความโกรธ +111
หยวน เทียนชูทําเป็นไม่สนใจหลิน ฟานเหตุเพราะเขาไม่ต้องการมีเรื่องกับอีกฝ่ายที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกพี่ลูกน้องของหลินฟานที่อยู่ตรงนั้นในความคิดของเขาชายคนนี้ค่อนข้างโง่เขาไม่เคยกลัวและไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
หากข้าถูกทุบตีจริงๆมันคงจะไม่มีช่องว่างเหลือให้เจรจา
เมื่อเห็นว่าหยวน เทียนชูไม่ได้สนใจเขา หลิน ฟานจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเบื่อหน่ายดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ปีศาจหยินมองพวกเขาอย่างดุร้ายต่อไปจนพวกเขาเริ่มหวาดกลัว
เดิมทีแล้วโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าของหยวน เทียนชูนั้นเต็มไปด้วยอาหารอันโอชะแต่สําหรับเขาในเวลานี้กลับพบว่ามันยากที่จะกลืน
“นายน้อยหลิน เจ้าช่วยหยุดให้สิ่งนั้นมองมาทางเราได้ไหมมันทําให้ข้ารู้สึกอึดอัด” หยวนเทียนกล่าว
หลิน ฟานตอบ “เจ้าก็ไม่ต้องมองมันส”
“ความโกรธ +233
หยวน เทียนชูโกรธมาก แต่มันไม่มีอะไรที่เขาสามารถทําได้
เขาไม่สามารถทานอาหารได้อีกต่อไป
แม่ง!
หลิน ฟาน เจ้าช่างน่ารําคาญเสียจริง คอยดูต่อไปเถอะ
“เก็บเงิน!” หยวน เทียนซูลุกขึ้นจ่ายเงินก่อนที่จะจากไป
เขารู้สึกอึดอัดจริงๆที่ถูกมองโดยสิ่งนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าสามารถกินต่อไปได้หรือไม่เพราะขนาดแค่นั่งอยู่เฉยๆเขายังไม่อยากเลยด้วย
เมื่อหยวน เทียนชูจากไปแล้วหลิน ฟานก็จ่ายเงินของตัวเองด้วยเช่นกัน
“เร็วเข้าลูกพี่ลูกน้องรีบแบกเจ้านั้นมาและตามพวกเขาไปเร็ว”หลินฟานกล่าว
ทุกวันนี้เขาก็โคตรว่างอยู่แล้ว นอกจากหาอะไรทําแล้วมันจะมีอะไรที่เขาสามารถทําได้อีก?
หากอยากตําหนิก็จงไปตําหนิโลกที่สงบเกินไปเสียเถอะ