I Found A Planet EP 120 ผู้ช่วยจําเป็น
EP 120 ผู้ช่วยจําเป็น
By loop
นี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วที่เคอร์ซินได้ทํางานอยู่ที่บริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีการทํางานในบริษัทนี้ทําให้เธอรู้สึกว่าวันๆหนึ่งเธอได้รับการเติมเต็มและทําให้เธอมีความสุขมาก เธอดีใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทแห่งนี้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ เธอคิดว่าระบบการจัดการต่างๆของบริษัทดีมากในหลายๆด้าน ตัวอย่างเช่น “นโยบายเรื่องเวลาที่ยืดหยุ่น โดยนโยบายมีอยู่ว่าในช่วงเวลาที่มีการจราจรที่ติดขัดในเมืองฉางไห่ ตามข้อบังคับของ บริษัท พนักงานสามารถเลือกเวลาทํางานได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงหกโมงเย็น สําหรับผู้ที่ทํางานในตําแหน่งทางเทคนิคพวกเขาสามารถเลือกที่จะพัก ผ่อนในตอนเช้าและเข้าทํางานที่สํานักงานได้ในตอนเที่ยงและทํางานจนถึงเก้าโมงเช้า สําหรับงานที่ไม่มีเร่งรีบหรือต้องอยู่ในพื้นที่พวกเขาสามารถทําได้จากที่บ้าน บริษัทอนุญาตให้พนักงานทํางานที่บ้านได้จนเสร็จ
นอกจากทั้งหมดนั้น บริษัทยังจ้างร้านอาหารขนาดใหญ่ภายนอกให้มาบริการพวกพนักงานโดยมีเงินค้าอาหารให้โดยมาตรฐานแล้วราวๆห้าหยวนต่อคนโดยมีพ่อครัวระดับห้าดาวที่ถูกว่าจ้างให้เตรียมอาหารกลางวันและอาหารเย็นให้กับพวกพนักงานสองมื้อต่อวันซึ่งอาหารพวกนั้นจะต้องอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและ อร่อยอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่ามันเป็น บริษัทที่สร้างความสภาพแวดล้อมในการทํางานที่สุดยอดให้กับพนักงานอย่างแท้จริง
นอกจากนี้พนักงานภายใต้การดูแลของแผนของรองผู้จัดการทั่วไปอย่างเหลียงหยิง เธอก็ได้ทําการดูแลพนักงานเหล่านั้นเป็นอย่างดีการดูแลที่เธอจัดให้กับพนักงานนั้นทําให้พนักงานบางคนถึงกับสงสัยว่าเธอไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างหรืออย่างไรที่จะต้องมาดู แลพวกเขาแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่หยุดที่จัดหาสิ่งดีๆให้กับพนักงานของเธอแม้ว่าเคอร์ซินที่พึ่งเข้ามาใหม่จะทําผิดพลาดเล็กน้อยแต่เหลียงหยิงก็มักจะบอกเธอว่าไม่เป็นลองฝึกฝนไป ทําให้เคอซินรู้ สึกว่าเธอได้รับหัวหน้าที่ดีเป็นพิเศษ ดังนั้นเคอร์ซินจึงจริงจังกับการ ทํางานมากจนเธอได้รับคําชื่นชมทุกวันเลย ยิ่งกว่านั้นเงินเดื อนของเธอนั้นสูงถึง 18,000 หยวน เธอหวังว่าเธอจะสามารถอยู่ในบริษัทที่ยอดเยี่ยมนี้ได้ตลอดไป
ในทางกลับกันการทํางานของเคอร์ซินในช่วงเวลานี้มักจะถูกจับ ตามองด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น ที่เดินผ่านห้องทํางานของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจและไปเดินชนกับลิฟต์ บางที่เธอก็รู้สึกว่าหลังจากออกมาจากห้องน้ําแล้วมีคนจับตามองเธออยู่
เนื่องจากเฉินจินมีบทบาทสําคัญต่ําและดูลึกลับและความจริงที่ว่าเขาไม่ค่อยปรากฏในสํานักงานใหญ่เมื่อเทียบกับโรงงานวิจัยและพัฒนา – นอกเหนือจากผู้บริหารไม่กี่คนใน บริษัท พนักงานประจําส่วนใหญ่จําเขาไม่ได้รวมถึงเคอร์ชินด้วย แม้หลังจากพบกันหลายครั้งเธอก็ไม่คิดว่าเฉินจินเป็นเจ้าของ บริษัทแห่งนี้
มีอยู่ครั้งหนึ่งในลิฟต์ที่เฉินจินเข้าลิฟต์ไปและทักทายเธอ “ สวัสดีคุณทํางานที่เซี่ยงไฮเทคโนโลยีหรอ?”
“ใช่แล้วค่ะ แล้วคุณล่ะ? คุณทํางานที่นี่ด้วยหรอ” เคอร์ซินพูดออกมาขณะที่มือกําลังถืออแฟ้มงานอยู่
“ ใช่ผมก็ทํางานบริษัทนี้” เฉินจินพยักหน้า
“ อย่างงั้นเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน ยินดีที่ได้รู้จัก”
“แน่นอน ลิฟต์มาถึงแล้วเชิญคุณก่อน” ประตูลิฟต์เปิดออกเฉินจินทําท่าทางขอให้เธอไปก่อน
“ขอบคุณค่ะ
หลังจากสองวันผู้จัดการทั่วไปเหลียงหยิงก็พาเธอไปที่สํานักงานของหลิวจูดงเพื่อหารือเกี่ยวกับบางสิ่งเคอร์ซินรู้สึกประหลาดใจที่เห็นชายหนุ่มที่เธอเคยพบมาก่อนในลิฟต์นั่งตรงข้ามซีอีโออย่างหลิวจูดงและพูดคุยกับเขาด้วยเสียงดังขณะที่ขาของเขาวางอยู่บนโต๊ะ
หลังจากที่ชายหนุ่มเห็นพวกเขา เข้ามาเขาก็วางขาลงอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นการแสดงออกที่จริงจัง ต่อจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกสั่งให้ออกไปก่อนขณะที่เหลียงหยิงและหลิวจูดงแยกตัวออกไปพูดคุยเรื่องสําคัญที่จะต้องหารือกัน
“ สวัสดีค่ะ ทําไมคุณถึงมาอยู่ที่ออฟฟิศของCEO หลิวได้ค่ะ”เคอร์ชินโยนคําถามที่เขาอยากรู้ให้กับเฉินจิน เธอรู้ตัวและถามว่า “เป็นไปได้ไหมว่าคุณจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของCEO ? แสดงว่าคุณทํางานตําแหน่งเดียวกับฉัน”
เฉินจินถึงกับอึ้งและไม่รู้ว่าจะจะตอบเธอกับไปอย่างไรดีในขณะนั้นทําให้เฉินจินเผลอพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ ถูกต้องแล้ว…ผมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณหลิว” เฉินจินถึงกับทําตัวไม่ถู กตอนนี้เขาให้ความสนใจไปที่หางม้าสีฟ้าของหญิงสาวเท่านั้น
“ แต่ทําไมคุณถึงกับวางเท้าไว้บนโต๊ะเลยล่ะ ในขณะที่คุยกับCEO หลิวมันดูนั่นไม่เหมาะสมเลยนะคะ” เมื่อคิดถึงการกระทําที่ไม่สุภาพของเฉินจินแล้วเคอร์เคอร์ชินก็พยายามตักเตือนเขาเพราะเธอคิดว่ามันหยาบคายเกินไป
“ โอเคผมจะไม่ทํามันอีกแล้ว” เฉินจินแสดงสีหน้าเขินอายออกมาขณะที่เขาก็พยักหน้าไปด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจสิ่งที่เธอพูดมา ดังนั้นในฐานะ ผู้ช่วยส่วนตัว” ของหลิงจูดงทําให้เฉินจินกับเคอร์ซินพบกันบ่อยมากขึ้น
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม บริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีและจงซีอินเทอร์เนชั่นแนล ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการและปฏิบัติตามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ต่างๆรวมถึงการอัดฉีดเงินเม็ดเงินลงทุน 2.5 พันล้านโดยบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีเพื่อเข้าซื้อกิจการ 8% ของส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมดของจงซีอินเท อร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นการยืนยันสําหรับคําสั่งซื้อชิปสองล้านตัวและสร้างความร่วมมือระยะยาวและอื่น ๆ หลังจากที่มีการประกาศทั้งหมดนี้ก็ได้รับความสนใจจากสื่อเป็นอย่างมาก! มีการเขียนบทความวิจารณ์ต่างๆมากมายออกมา
นิตยสารเช่น จับมองเศรษฐกิจได้เขียนบทความไว้ว่า “ การเป็นหุ้นส่วนนี้จะมีผลกระทบอย่างมาก! หุ่นยนต์วาวาที่ออกขายโดยเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีจะมียอดขายไม่ต่ํากว่าหกล้านหน่วยในเวลาไม่ถึงหกเดือนมันไม่ใช่ปัญหาสําหรับการที่จะมียอดขายทะลุเป้า 10 ล้านหน่วยภายในสิ้นปีนี้ด้วยกําไร 750 หยวนต่อตัวในแง่ของรายได้บริษัทเล็ก ๆ นี้ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาไม่เกินหกเดือนคาดว่าจะมีรายได้รวมปีละ 50 พันล้านและแน่นอนที่สุดที่บริษัทนี้จะขยับขึ้นไปสู่ 500 อันดับแรกบริษัทในประเทศ นี่เป็น บริษัท ที่มีอัตราการเติบ โตที่น่าอัศจรรย์!อัตรากําไรสุทธิสําหรับหุ่นยนต์วาวาไม่ต่ําเลยด้วย การขายแบบออนไลน์กําไรสุทธิสําหรับหุ่นยนต์วาวาแต่ละหน่วยนั้นคาดว่าจะอยู่ที่อย่างน้อย 20% ด้วยเงินสดจํานวนมากอยู่ในมือคาดว่าเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีจะลงทุนใน บริษัท อื่นอีก 2 บริษัทเพิ่ม เพิ่มอย่างแน่นอน
นิตยสาร สํานักพิมพ์รายวันเองก็เสนอบทความที่ว่า “ นี่คือการร่วมมือซึ่งกันครั้งสําคัญ ยอดขายหุ่นยนต์วาวาคาดว่าจะเกิน 10 ล้านตัวต่อปีอย่างแน่นอนในการร่วมมือการซื้อขายชิปหลักก็น่าจะ สูงกว่า 10 ล้านชุดนอกจากนี้ข่าวล่าสุดระบุว่าเซี่ยงไฮ้เทคโนโล ยีลงทุน 500 ล้านหยวนในการเป็นหุ้นส่วนกับ โคไฟส์อินซูเมนท์ เพื่อพัฒนาชิป AI ตอนนี้พวกเขาอัดฉีดเงินอีก 2.5 พันล้านเงินลงทุนเข้าไปในจงซีอินเทอร์เนชั่นแนลสิ่งนี้บ่งชี้ว่าเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีมี ความตั้งใจที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมชิปอย่างรวดเร็ว! อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมชิปนั้นค่อนข้างแข่งขั้นกันสูงและเกี่ยวข้องกับการลงทุนข นาดใหญ่ในระยะยาวและมีความเสี่ยงสูงจากความล้มเหลว บริษัท โดยเฉลี่ยจะไม่กล้าก้าวเข้าสู่การวิจัยและพัฒนาชิปอย่างง่ายดาย แต่สําหรับ บริษัท ใหม่แห่งนี้ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาน้อยกว่าหนึ่งปี พวกเขากล้าที่จะลงทุนเต็มๆสามพันล้านหยวนอย่างไม่สนใจเรื่องการขาดทุนเลย,
นิตยาสารเศรษฐกิจภาคใต้: “ ไร้สาระ! บริษัท ที่มีอนาคตที่สดใสในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้ในครัวเรือนไม่ได้มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่พวกเขาเก่งแต่จู่ ๆ ก็ประกาศว่าจะลงทุนในการพัฒนาชิป มันจะไม่เอาเกวียนมาก่อนม้าหรืออย่างไร หากคุณก้าวเท้ากว้างเกินไป คุณอาจล้มได้ฉันอยากจะแนะนําเจ้าขอบริษัทของเซี่ยงไฮ้เทคโนโล ยี: ทําในสิ่งที่คุณควรทําและทิ้งชิปพววนี้ไปส่ะอย่าเอาเกลือไปละลายในแม่น้ําเลย”
อินเทอร์เน็ตรายสัปดาห์: “ สิ่งที่บริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีกําลังทําอยู่นั้นทําให้พวกเรา งงมาก มีข่าวลือว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาใช้เงินหลายแสนต่อเครื่องเพื่อซื้อซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ติดอันดับที่หกในประเทศจากดลาว์เอนเทอรไพร์ พวกเขานําซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงเช่นนี้มาทําอะไรกัน ตอนนี้พวกเขาลงทุนอี กสามพันล้านหยวนในการสร้างชิป พวกเขากําลังทําธุระกิจกันอย่างเงอะงะในทุกทิศทางโดยไม่มีการมองเห็นองค์รวมได้ ทําให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขารวยเกินไปไหมทําให้พวกเราเราอดไม่ได้ที่จะสงสัย: บริษัทนี้สามารถทํางานเริ่มต้นได้และรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้หรือไม่? พวกเขาจะต้องรู้ว่ามีหลาย บริษัท ในประเทศที่ได้เริ่มกา รพัฒนาที่คล้ายกันในการทําความสะอาดหุ่นยนต์”
การเงินสูงสุด: เป้าหมายของเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีควรเป็นบริษัทดาเจียนมากกว่า ซึ่งเป็นอันดับสองของประเทศซี และเป็นผู้นําในวงการหุ่นยนต์ในครัวเรือน แต่แผนการพัฒนาบริษัทของเซี่ยงไฮ้ เทคโนโลยนั้นค่อนข้างน่างง ได้มีการกล่าวว่าโครงการอื่นที่พวกเขากําลังทํางานอยู่นั้นเป็นเครื่องส่งเสริมการเรียนรู้และตอนนี้ก็ เช่นกัน….ข่าวลือบอกว่าผู้นําของเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีมีอายุเพียง 25 ปีและเป็นผู้ประกอบการที่อายุน้อยที่สุดและประสบความสําเร็จมากที่สุดในประเทศซีและเรื่องต่อไปคือเรื่องของ “ฉางจงยง”
ในรายงานของสื่อท้องถิ่นมีผู้ชมบางคนวิจารณ์และบางคนผ่านการตัดสินที่ไม่ดีเกี่ยวกับบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีสําหรับบริษัทจดทะเบียนจงซิอินเตอร์เนชั่นแนลพร้อมกับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของพวกเขาหลังจากที่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ บริษัท กับเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีและชุดของข่าวบวกได้รับการประกาศหุ้นของพวกเขา เพิ่มสูงขึ้น 109% โดยตรงขีด จํากัด รายวัน ในวันที่สองมันเพิ่มขี้นอีก 89%! ในวันที่สามมันเพิ่มขึ้นอีก 6% ดัชนีหุ้นของพวกเขาเพิ่ม ขึ้นเป็นเวลาหลายวันภายในไม่กี่วันมูลค่าตลาดของจงซีอินเท อร์เนชั่นแนลเพิ่มขึ้น 25% ทําลายเกณฑ์มาตรฐาน 40 พันล้านหย วนแล้ว
อาจกล่าวได้ว่าเพราะบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีเพื่อวางเดิมพันเงินที่ต่ําที่สุด บริษัท โรงหล่อชิปแห่งนี้ก็ดูเหมือนจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและทําให้ข่าวที่ดีต่างดึงยอดหุ้นในตลาดของเขาเพิ่มสูงขึ้นมาได้
