I Found A Planet – ตอนที่ 19

EP 19

By loop

หาเงิน. ฉันต้องหาเงิน ฉันต้องบรรลุเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำเงิน 15 ล้านหยวน โดยเร็วที่สุด ไม่มีเวลาแล้ว.

เป็นครั้งแรกหลังจากอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ของเขาเป็นเวลาสองปี เฉินจินรู้สึกถึงความปรารถนาอันแรงกล้าและแรงจูงใจในการทำเงิน ค่าไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในการค้นหาไฮเออร์ฟาทำให้เขารู้ว่าเขาต้องการใช้เงินมากแค่ไหน

มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีค่าใช้จ่ายเสมอไม่ว่าธุรกิจอะไร

เขาพบดาวเคราะห์ใช่ แต่ถ้าเขาต้องการใช้ประโยชน์อย่างมากจากไฮเออร์แอลฟาเขาจะต้องลงทุนก่อน สำหรับแค่ค่าไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวต่อเดือนอยู่ที่  1,500 หยวนถึงแม่มันจะดูแพงแต่อย่าลืมว่าเขาก็มีค่าใช้อื่นๆตามมา ที่เป็นค่าใช้มหาศาลรออยู่อีก …

ด้วยค่าใช้จ่ายก่อนหน้านี้เฉินจินประเมินแม้กระทั่งการลงทุน 15,000 หยวนต่อเดือนก็ไม่เพียงพอที่จะค้นหาดวงดาวไฮเออร์แอลฟาบางส่วน สำหรับรายได้ที่เขาได้รับต่อเดือนเพียง 4,500  หยวนเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้ได้กำไรเฉินจินจึงต้องหาทางแก้ปัญหา ที่ไม่เพียงแค่การลดค่าใช้จ่าย แต่ยังเพิ่มรายได้ของเขาด้วย

“ ฉันใช้ไฟฟ้ามากเกินไป…กำลังขับสูงสุดสำหรับวงจรไฟฟ้าภายในบ้านคือ 30 กิโลวัตต์และฉันใช้มันทั้งหมด นี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ฉันจะต้องจ่ายอย่างน้อย1,500 หยวนต่อเดือน … การใช้ไฟที่เปลืองขนาดนี้ มันจะทำให้กระทรวงพลังงานจะมาตรวจสอบฉัน เสี่ยงเกินไป. นอกจากนี้จำนวนของทีมหุ่นยนต์ของฉันจะยังคงเติบโตและจะมีการซ่อมแซมเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกประเภท – 30 กิโลวัตต์ต่อเดือนแน่นอนว่าจะไม่ลดลง เวลาที่จะสร้างระบบผลิตไฟฟ้าที่เป็นอิสระในโลกอื่น มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถสร้างเครื่องผลิตพลังงานขึ้นมาเองได้”

ตัวอย่างเช่นกังหันลมหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลขนาดเล็ก พวกมันทั้งสองสามารถให้กระแสไฟฟ้ามากขึ้น พลังงานแสงอาทิตย์จะไม่ใช่ความคิดที่ดีเนื่องจากปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จะน้อยมาก นอกจากนี้ท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆทรายตลอดเวลาไม่มีแสงอาทิตย์เพียงพอและแน่นอนว่าเฉินจินจะไม่มีเวลาทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะอยู่แผงโซลาเซลล์ทั้งหมด

เขาสามารถทำให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดได้ แต่จากนั้นพลังงานแสงอาทิตย์ที่เกิดจากแผงควบคุมเหล่านั้นคงไม่เพียงพอที่กับพลังงานที่หุ่นยนต์ใช้ไปกับการปัดฝุ่น เพราะไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะชาร์จแบต และเขาก็ต้องคำนึงถึงที่โลกด้วย สารไวไฟเช่นอย่างเช่นน้ำดีเซลและเบนซินมันไม่ได้หาซื้อกันง่ายๆ

ดูเหมือนว่าการสร้างระบบกังหันลมเป็นทางเลือกเดียวของเขา…. ซึ่งสิ่งที่เขาพอจะทำได้ก็คืออาจะใช้เงินที่ได้รับจากค่าเช่าที่ ราวๆ 1500 หยวนในการสร้างแต่ถึงยังงั้นมันก็ไม่พออยู่ดี“ ดังนั้น… .. คิดได้อย่างเดียวคือฉันต้องทำเงินให้ได้เยอะกว่านี้ ”

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ รถยนต์บลูแองเจิ้ลที่เขาพึงซ่อมเส็จ ถูกชาร์จเต็มแล้วเฉินจินก็ขับรถ ดาหลิน, ดาโท และ ดาเบ่า บนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ มันเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทางที่นั่น ตามการนำทาง 3 มิติที่คาดการณ์จากดาหลินพวกเขาจำเป็นต้องขับรถไปทางตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 100 กิโลเมตรเพื่อไปยังเมืองเทอรรี่

สองชั่วโมงต่อมาจากที่นั่งคนขับเฉินจินจะเห็นจุดสิ้นสุดของถนนร้าง ทันใดนั้นก็มีกลุ่มก้อนนูนที่มีรูปร่างแปลก ๆ ที่ปลายด้านล่างของทุ่งราบที่มีเมฆปกคลุม มีรูปสามเหลี่ยม, รูปทรงของเปลือกหอย, เสา, ฯลฯ ด้วยรูปทรงทั้งหมดที่เรียงกันเป็นราวกับว่าพวกมันเป็นเงาของมนุษย์ที่ยืนอยู่ติดกัน; ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัวสีเหลืองในเมืองที่มีทรายปกคลุมพวกเขาดูเหมือนเกาะกลางมหาสมุทร

ณ เมืองเทอรรี่

พวกเขาจอดรถข้างนอกเมือง มนุษย์หนึ่งคนและหุ่นยนต์สามตัว แต่ละคนถือกระเป๋าเดินไปทางใจกลางเมือง เฉินจินมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก บนถนนสายหลักในเมืองอาคารสำนักงานสูงอย่างน้อย 20 ชั้นดึงดูดความสนใจของเขา

“ ตึกสูงแบบนี้ในเมืองเซี่ยงไฮ้น่าจะมีมูลค่าอย่างน้อย  150 หยวน ล้านใช่ไหม? ตอนนี้มันเป็นของฉันแล้ว และอีกตึกถัดไป และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ทางขวาตรงนั้นเช่นกัน ตึงหนึ่งมูลค่าน่าจะ  150 ล้านไม่ก็มากกว่านั้น”

จากนั้นพวกเขาเดินอีกไม่กี่ร้อยเมตร เขาเห็นเขตที่มีอาคารที่พักอาศัยหรูหรามากกว่า 20 หลัง เฉินจินจ้องที่มันใช้เวลาสักครู่เพื่อคิดอะไรบางอย่างและพูดกับตัวเองว่า“ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 10 ตารางฟุตจะมีราคาอย่างน้อย 7,000 หยวน สำหรับบ้านเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1,000 ตารางฟุตราคาอาจสูงถึง  700,000  หยวน…มีอพาร์ทเมนท์อย่างน้อย 7-800 แห่งในย่านนี้แต่มันอาจไม่ถึง 1,000 แห่ง และจำนวนนั้นเท่ากับ  700,000 หยวนและพื้นที่นี้มีค่า 3 ถึง 4 พันล้านหยวน และฉันจะเป็น ‘ราชาแห่งอสังหาริมทรัพย์’ ด้วยสมบัติที่นับไม่ถ้วน มีเงินมากกว่าจอห์นมาโลนใน เฟรกกิน ฉันสามารถรวยสุด ๆ กับบ้านเหล่านี้ได้”

ถึงแม้เฉินจินจะรู้ว่าเขาไม่สามารถขายพวกมันได้ก็ตาม แต่เขาก็สนุกกับการคิดเรื่อยเปือยของเขา แม้ว่าเขาจะมีเพียง 6,000 หยวนในบัญชีของเขา แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ไม่มีทางที่เขาจะย้ายบ้านพวกนี้กลับไปที่โลกได้ เขาทำได้แค่ฝันกลางวันเกี่ยวกับพวกมันเท่านั้น

ในเมืองนี้มีรถยนต์รถบรรทุกและยานพาหนะหนักที่มีมูลค่าสูงมากถ้าเอาพวกมันไปขายที่โลกได้มันเทียบเท่ากับรถหรูบนโลก ซึ่งในความเป็นจริงเฉินจินก็ไม่สามารถนำพวกมันกลับไปที่โลกได้  แต่เขาสามารถขับพวกมันในดวงดาวไไฮเออร์แอลฟาแห่งนี้ได้

เฉินจินเคยเห็นผลิตภัณฑ์ของไฮเทคมากมาย สิ่งต่าง ๆ เช่นทีวีกับโปรเจคเตอร์เลเซอร์แว่นตาอัจฉริยะที่ฉายภาพเสมือนจริงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่มีซีพียูกราฟีนรุ่นที่ 8 โทรศัพท์ที่สามารถพับเก็บได้พร้อมคุณสมบัติในการรับคลื่นและหุ่นยนต์อัจฉริยะที่หลากหลายสามารถพบได้ง่ายในเมืองเทอรรี่

เขายังพบเครื่องคิดเลขระดับสูงที่จัดการทั้งเมืองในศาลากลางดาหลินบอกเขาว่าความเร็วในการคำนวณของเครื่องคิดเลขซุปเปอร์นี้คือ 100 พันล้านครั้งต่อวินาทีซึ่งเร็วกว่าความเร็วของเครื่องคิดเลขซุปเปอร์ที่เร็วที่สุดห้าเท่าที่เรียกว่า “ซัมมิท” บนโลก

เขาชอบที่จะนำสิ่งของเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้กลับมาสู่โลกจริง ๆ แต่…พวกมันก้าวหน้าเกินไปสำหรับสังคม การนำพวกมันกลับมาเหมือนนำมีดไปยังชนเผ่าดึกดำบรรพ์ที่รู้เพียงเรื่องไม้ฟืน – จะมีผลตามมาคือ การมีอยู่ของโลกใบนี้อาจถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้ ดังนั้นเขาจะพยายามไม่ใช้สิ่งที่มีเทคโนโลยีขัั้นสูงจากดาวไฮเออร์แอลฟาเป็นอันขาด

นอกจากนี้เฉินจินยังพบการประดิษฐ์ตัวอักษรโบราณจำนวนมากในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นซึ่งเขาเชื่อว่ามีคุณค่าทางศิลปะที่ยอดเยี่ยม ในบรรดาภาพเขียนทั้งหมดมีภาพเขียนสีน้ำมันอยู่บ้าง แม้แต่มือสมัครเล่นอย่างเฉินจินก็รู้ว่ามันดีแค่ไหน พวกมันควรขายได้ในราคาที่ดี

แต่ประวัติความเป็นมาของ ไฮเออร์แอลฟานั้นแตกต่างจากของโลกเล็กน้อย ในช่วงราชวงศ์ฮั่นมีชายคนหนึ่งชื่อ“ วังมาง” ที่ชิงบัลลังก์และเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ทั้งหมด จากนั้นเขาก็สร้างราชวงศ์ซินผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่ยาวนานถึง 500 ปีซึ่งต่อมาจะช่วยพัฒนาประวัติศาสตร์ทั้งหมดในที่สุด

ชื่อของนักเขียนและศิลปินวรรณกรรมทั้งหมดใน ไฮเออร์แอลฟานั้นแตกต่างอย่างมากจากบนโลก ไม่ว่าพวกมันจะมีคุณค่าแค่ไหนพวกมันก็ยังคงไม่คุ้มค่ามากนักเพราะพวกมันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ดังนั้นด้วยเหตุผลนี้เฉินจินจึงไม่คิดจะเก็บภาพโบราณเหล่านี้ไว้ เช่นการประดิษฐ์ตัวอักษรโบราณเหล่านี้จากประเทศตะวันตก เขาอาจจะไม่สามารถขายงานศิลปะได้เลยสักกะชิ้น

หลังจากที่เฉินจินคำนวณและใคร่ครวญทุกอย่างแล้วสิ่งที่เหลือไว้เพื่อนำติดตัวเขากลับมายังโลก ได้แก่ ทองคำ เหล็กทับทิมหยกและอาเกต ส่วนอื่น ๆ ทั้งหมดนั้นไร้ค่าหรือไม่สะดวกต่อการพกพา ปัญหาคือคนของเทอรรี่ได้นำของมีค่าทั้งหมดไปกับพวกเขาก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้นมันทำให้เหลือของมีค่าไม่มากนักที่นี้

การสำรวจใช้เวลาเจ็ดวัน เฉินจินส่งทีมหุ่นยนต์ทั้งสองเพื่อค้นหาเมืองทั้งในและนอกอย่างสมบูรณ์และทั่วถึง และนี่คือสิ่งที่เขาค้นพบ:

เครื่องประดับทองคำและทองคำมีน้ำหนักรวม 1,415 กรัมมูลค่าประมาณ  30,000 หยวน; ผลิตภัณฑ์เงินและเงินมีน้ำหนัก 28.6 กิโลกรัมมีมูลค่าประมาณ 7,000 หยวนและเครื่องประดับแพลตตินัม 155 ชิ้นและเครื่องประดับเหล็ก 173 ชิ้นมีมูลค่าอย่างน้อย 70,000 หยวนนอกจากนี้ยังมีทับทิมและหยกทั้งหมด 359 ชิ้น แต่เฉินจินไม่ได้เป็นผู้ประเมินราคาเขาไม่สามารถบอกได้ว่าพวกมันมีค่าเท่าไหร่ นอกจากนี้เขายังพบนาฬิกามากกว่า 1,000 เรือน แต่เขาหยิบนาฬิกาเพียง 50 เรือนที่เต็มไปด้วยทองคำเพชรหรือทับทิม

ในบรรดาพวกมันทั้งหมดมีหนึ่งอันที่ไม่ใช่เพชรเม็ดเล็กๆ แต่ยังเป็นทับทิมสีฟ้าธรรมชาติขนาดใหญ่ ทั้งหมดที่มีขนาดใหญ่เท่ากับไข่นกพิราบ มันงดงามอย่างหรูหราและสามารถขายในราคาที่ดีอย่างแน่นอน

นอกเหนือจากทั้งหมดนั้นเฉินจินยังนำภาพประดิษฐ์ตัวอักษรโบราณจำนวน 53 รายการ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงนำพวกมันมาด้วย อาจเป็นเพราะพวกมันดูดี  นอกจากนี้เขายังพบรองเท้าเสื้อผ้าและกระเป๋ามากกว่า 100 คู่สำหรับทั้งชายและหญิงจากห้องเก็บของในร้านเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์และถุงหลากหลายกว่า 20 ใบ

“ เสื้อผ้าและกระเป๋าเหล่านี้ดีกว่ามาก พวกมันทำให้คุณดูมีสไตล์มากขึ้นเช่นกัน คนใส่ที่นี่เข้าใจแฟชั่นได้ดีกว่าผู้คนบนโลก เสื้อผ้าบางชิ้นดูไม่สำคัญเมื่อคุณใส่ แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าอีกต่อไป! เพราะตอนนี้ฉันมีกระเป๋าและเสื้อผ้ามากมายที่จะนำมาใช้ได้ตลอดชีวิต”

โดยเฉพาะกระเป๋า ย้อนกลับไปตอนที่ฉันอยู่ในวิทยาลัยฉันซื้อกระเป๋าราคาถูกสุดสองใบสำหรับแฟนสาวของฉันในเวลานั้นซึ่งเงินทีฉันเสียไปคือ 600 หยวนเธอไม่มีความสุขกับมันมากและคิดว่าพวกมันน่าขายหน้า เธอโยนพวกมันออกไปหลังจากสองสามวัน…ซึ่งเงินที่ฉันซื้อกระเป๋าให้เธอนั้น คือ เงินที่ฉันเก็บรวบรวมจากเงินค่าเติมเกมออนไลน์ของฉันแต่ละเดือนเเชียวนะ”

จากนั้นพวกเขาก็เลิกกัน อันที่จริงเฉินจินเลิกกับเธอ เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรนอกจากเป็นอิสระและโล่งใจเพราะจะไม่มีคนทำให้แผนการเติมเกมออนไลน์ของเขาต้องล้มอีกแล้ว และเขาไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนอีกต่อไป  เมื่อเขามีทุกสิ่งที่เขาต้องการ เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าเพชร … คุณเชื่อไหม เขายังสามารถสร้างพระราชวังให้กับแฟนสาวทุกคนหากเขาต้องการ อย่างไรก็ตามเฉินจินเบื่อที่จะมีแฟน มันจะดีกว่าที่จะเป็นโสด

“ไปกันเถอะ. เราได้ค้นหาบ้านทั้งหมดที่นี่ ไม่มีอะไรที่คุ้มค่าที่จะนำมันกลับไปสู่โลกอีกครั้ง … คราวนี้ฉันน่าจะสร้างรายได้  150,000 หยวนด้วย”

เมื่อค้นเมืองเสร็จเฉินจินก็กลับไปที่แคมป์ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่

I Found A Planet

I Found A Planet

捡到一个星球
Score 4.4
Status: Ongoing Type: Author: Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Found A Planet“เลนด้านบนต้องการความช่วยเหลือ. รีบมาที่เลนด้านบนและช่วยฉันที!” “ฉันอยู่ในเลนบนสุดกำลังป้องกันศัตรูสี่คน! พวกนายทำอะไรกันอยู่?” “เลิกล้อเล่นกันได้แล้ว! มาที่เลนบนและช่วยฉันที!” “ศัตรูดันฐานแม่ของเราเข้ามาแล้ว พวกนายยังไม่กลับมาเหรอ?” ตู้ม! เนตัสคริสตัลในฐานของเขาระเบิด “พ้ายแพ้” ตัวอักษรขนาดใหญ่ลอยขึ้นหน้าจอคอมพิวเตอร์ “บ้าชิบ! ฉันไม่น่าเล่นกับพวกโง่พวกนี้เลย!” เฉินจินกดแป้นพิมพ์ด้วยความตื่นเต้น เขาเล่นเกมแอลโอแอลมาห้าครั้งติดต่อกันแล้วในวันนี้และทุกครั้งที่เขาจบเกม คำว่าไม่ได้เรื่องร่วมกับทีมโง่ ก็จะดั้งขึ้นมาหลังจากเขาแพ้ทั้งห้าครั้งและตอนนี้เขาขึ้นแบล็คลิสต์มากกว่า 10 คน มันช่างโชคร้ายเสียจริง “ลืมไปเถอะ ฉันจะไม่เล่นอีกต่อไปแล้ว ฉันมักจะเจอกับพวกนักเรียนประถมในช่วงปิดเทอม เด็กพวกนั้นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset